ตอนที่ 5 ชื่อตอน เทศกาลลอยโคม25+

1403 คำ
​ร่างบางตกใจตื่นขึ้นมาในเตียงนอนของตน มองไปรอบเรือนของตนอย่างแตกตื่น นางฝัน!!! ฝันราคะนั้นกระตุ้นกำหนัดของนาง จนเรือนกายฉ่ำชื้น นางมิได้กำลังจะถูกส่งตัวไปเป็นเจ้าสาวของผู้ใด บิดาของนางเป็นขุนนางในราชสำนักผู้หนึ่งในตระกูลสุ่ย มารดาของนางนั้นเพียบพร้อมในทุกสิ่ง นางเป็นดั่งแก้วตาดวงใจและนางเพิ่งตื่นจากฝันราคะแสนวิปริต !!!! นางจะบอกผู้ใดได้กันว่านางฝันน่าอายเช่นนี้ นางฝันถึงปีศาจรูปงาม ฝันถึงแก่นกายของบุรุษเพศ ยิ่งคิดพลันภายในกายยิ่งบีบรัด นางกล้าๆกลัวๆใช้นิ้วส่งผ่านลงไปในเรือนกายชุ่มฉ่ำ ลอกเลียนแบบความฝันนั้น เรือนกายของนางนั้นคับแน่น นิ้วเล็กๆของนางยังส่งผ่านแทบมิได้ ร่างบางบิดเร่าบนเตียงนอนหลายคราจนกระทั่งสุขสมในคราหนึ่ง นางเร่งลุกออกไปชำระกาย ล้างกลิ่นคาวในร่างของเองตน เร่งแต่งกายออกไปหามารดาของตนในยามเช้าและเรียนดีดพิณในยามสาย นางแทบมิมีสมาธิแล้วในวันนี้ "หลิ่งซือเจ้ามัวคิดอันใดอยู่ เหตุใดจึงได้ดีดพิณย่ำแย่นักในวันนี้ " อาจารย์ผู้สั่งสอนนาง ตะคอกใส่นางและบังคับนางดีดพิณสามร้อยรอบ จนนิ้วของนางนั้นถูกสายพิณบาดเป็นริ้ว เล่นพิณไม่ได้ไปสามวัน ร่างบางจึงเบื่อหน่ายตนเองนัก "ท่านแม่ ข้าขอไปเดินชมตลาดได้หรือไม่เจ้าคะ ในราตรีนี้มีงานเทศกาลลอยโคม ข้าอยากชมเทศกาลนี้นัก ยามนี้ท่านพี่มิอยู่ ข้ามิมีเพื่อนชมตลาดเช่นเคย ข้าขอนำผู้ติดตามออกไป แล้วไปเดินชมตลาดได้หรือไม่เล่าเจ้าคะ " หลิ่งซือเอ่ยออดอ้อนขอมารดาของนางออกไปที่นอกจวน นางแต่งกายงดงามเพื่อไปชมเทศกาลลอยโคมที่มิไกลจากจวนนัก แต่อย่างไรแล้วนางยังต้องนั่งรถม้าไป จึงต้องเร่งแต่งกายตั้งแต่ยังมิถึงยามราตรี "คุณหนูท่านงดงามนักนะเจ้าคะ ผู้ใดเห็นคุณหนูต้องมองจนเหลียวหลังเป็นแน่แท้นะเจ้าคะ " "อาไฉเจ้าก็พูดเยินยอข้าเกินไปนัก สตรีทั่วหล้ามีมากมาย ข้าจะเอาอันใดไปแข่งขันกับผู้อื่นกัน" "ยิ้มหวานๆอย่างไรเล่าเจ้าคะ คุณหนูยามที่แย้มยิ้มงดงามนัก บุรุษทุกผู้ย่อมหลงไหลติดตามมาสู่ขอเป็นแน่แท้เจ้าค่ะ" "บ้าอาไฉ ข้าเพิ่งปักปิ่นไปมินานข้ายังมิอยากแต่งเข้าสกุลใดในตอนนี้ ข้าอยากอยู่ปรนนิบัติท่านแม่ให้เนิ่นนานเสียหน่อย " "อย่างใดสตรีก็ต้องออกเรือนนะเจ้าคะ มิอาจอยู่ติดเรือนให้ผู้คนนินทาได้เจ้าค่ะ " "พอเถิดอาไฉ เจ้าอย่าได้เอ่ยอันใดอีก ข้ามิอยากจะถกเถียงกับเจ้านัก " เมื่อแต่งตัวงดงามแล้ว จึงขอมารดาออกไปนอกจวนตนอีกคราหนึ่ง ร่างงามค่อยๆขึ้นรถม้าช้าๆอย่างสง่างามแล้วขยับนั่งคู่ไปกับสาวใช้รถม้าค่อยๆแล่นออกไปจากจวน ทิวทัศน์ข้างทางสายลมโชย รอบทางล้วนมีดอกไม้งดงามผลิช่อ โอ้อวดกันหลากสีสัน นางชี้ชวนสาวใช้ให้ชมดู และส่งเสียงวี้ดว้ายกันขึ้นมาเบาๆ ยามเมื่อรถม้ามาถึงที่ตลาด นางจึงค่อยๆลงจากรถม้าอย่างเชื่องช้าสง่างาม สมกับเป็นบุตรีของสกุลสุ่ย ผู้คนมองนางอย่างมิวางตา แต่มิมีผู้ใดกล้ามาเกาะแกะนาง "ว้ายอาไฉ นั่นถังหูลู่ มีแป้งหวาน และขนมดอกท้อเสียด้วย ขนมหน้าตาสวยงามเช่นนั้น น่ากินจังเลยอาไฉ " สองร่างชี้ชวนกันดู นางเดินดูแผงค้าขายที่ริมทาง พบหน้ากากกระต่าย นางจึงหยิบเหรียญเงินส่งให้พ่อค้าไป เดินผ่านร้านรวงมากมายมีเครื่องประดับสวยงาม นางจึงหยุดชี้ชวนสาวใช้ให้ช่วยกันเลือกหา "ปิ่นไข่มุกงามล้ำค่า ว้ายอาไฉ อันนี้ก็งดงาม ข้าจะเลือกอันใดดีนะ งดงามไปทั้งหมดเลย" นางเดินชมงานเทศกาลไปเรื่อยๆ โดยมีสายตาหนึ่งเพ่งมองนางมาตลอดทาง ร่างบางที่มิรู้ตนเดินไปช้าๆหยุดตามทางตลอดเวลา เพื่อจับจ่ายสิ่งของตามใจตน "คุณหนูขา นั่นมีขนมสายไหมหิมะด้วยเจ้าค่ะ " "อ่า...น่ากินจังเลยอาไฉ เราไปซื้อกันเถิด ท่านแม่ให้เบี้ยมาเยอะนัก ข้าจะซื้อให้หนำใจเลยคอยดูเถิดอาไฉ " ร่างบางเดินผ่านบุรุษมากมาย ทุกผู้ล้วนมองนางจนเหลียวหลัง หลิ่งซือแสร้งนำพัดปิดใบหน้าช้าๆ แล้วทำทีเร่งเดินหนีบุรุษแต่ที่แท้ยั่วยวน บุรุษจึงมองตามด้วยใจสั่นไหว นึกจะไปส่งแม่สื่อนำเทียบสู่ขอนางในเร็ววัน กันอย่างถ้วนทั่ว "คุณหนูเจ้าขา อาไฉบอกแล้วว่าท่านงดงาม ท่านก็มิเชื่อข้านะเจ้าคะ " "จุ๊ๆอาไฉ ผู้ใดมาได้ยินเข้าจะมิงามเลย จงหุบปากเจ้าซะเดี๋ยวนี้เลย ไปดูนั่นกัน มีปลาสีทองด้วยข้าชอบนัก " ร่างบางเดินไปดูปลาที่พ่อค้านำมาขาย บนตัวปลามีอักษรร่ำรวย นางจึงส่งเบี้ยหวัดออกไปโดยไว นึกจะนำมันไปให้บิดาของนางที่ชื่นชมสิ่งของที่แปลกตา "ท่านพ่อต้องชื่นชอบแน่ๆเลยอาไฉ ข้าจะนำไปให้ท่านพ่อ ปลาแปลกตามีอักษรเช่นนี้ช่างประหลาดนัก ท่านพ่อต้องให้รางวัลข้าเป็นแน่แท้เลยอาไฉ " "ดียิ่งเจ้าค่ะคุณหนู นายท่านต้องยินดีเป็นแน่แท้เจ้าค่ะ ข้าน้อยก็คิดเดียวกันเช่นคุณหนู นายท่านยามได้ของกำนัลถูกใจนั้นย่อมยินดีและตบรางวัลให้อย่างงามแน่ๆเลยเจ้าค่ะคุณหนู " ร่างบางเดินชมงานเทศกาลจนถึงยามตะวันลับฟ้า มินานก็มีเสียงพลุไฟดังขึ้นไปทั่วทั้งงาน "กรี้ด สวยงามนักเจ้าค่ะคุณหนู" ร่างสาวใช้กระโดดโลดเต้นไปมาจนทั่วงาน เดินนำนายของตนไปก่อนโดยมิรู้กายตน "สวยงามยิ่งนักเจ้าค่ะคุณหนู " อาไฉพร่ำเพ้อความงามของพลุไฟโดยมิได้เหลียวหลังไปมองนายของตนเอง นางเดินเงยหน้าไปเรื่อยๆจนผู้คนหนาแน่น จึงเริ่มหันมองหาคุณหนูตน เสียงพลุดังขึ้นทั่วงานกลบเสียงของผู้คนไปหมด อาไฉตัวสั่นึ้นมาวิ่งหานายตนไปจนทั่วอย่างตื่นตระหนกตกใจในที่สุด "คุณหนู แย่แล้ว คุณหนูของข้าล่ะ คุณหนู " อาไฉวิ่งไปมาจนไปชนถูกกับผู้คน จนเกิดเสียงก่นด่าไปทั่วงาน นางวิ่งพล่านตื่นตระหนกจนเหงื่อซึมตามไรผมไปทั่ว นางหวีดร้องเรียกหานายของตนอย่างตกใจกลัวขึ้นมา "คุณหนูอยู่ที่ใด คุณหนูเจ้าขา " ด้านหลิ่งซือนั้น นางก็เผลอไผลมองท้องฟ้าไปเรื่อยๆ จนมาหลงในสถานที่ ที่มีผู้คนพลุกพล่าน นางโดนเบียดจึงทนเดินต่อไปมิไหว หันหลังไปมองที่ร้านโคมลอยแล้วมองดูผู้คนลอยโคม นางใส่หน้ากากกระต่ายแล้วไปยืนที่ริมร้านโคมลอย "พ่อค้าขายโคมลอยให้ข้าหนึ่งอัน ได้หรือไม่ " "ย่อมได้แน่นอนขอรับคุณหนู ท่านเชิญเลือกเถิด มีโคมมากมายในร้านของข้า ท่านจงเลือกหาเอาที่ท่านพอใจเถิดคุณหนู " หลิ่งซือค่อยๆมองและเลือกโคมไฟที่ตนพอใจช้าๆ ได้โคมสีสวยมีมุกระย้าอยู่หนึ่งอันช่างสว่างไสว นางชื่นชอบมันมากถึงขนาดที่นางนั้นมิกล้าจุดไฟ นางอยากนำกลับบ้านไปด้วยจึงตัดใจซื้อโคมลอยอีกหนึ่งอัน "โคมงดงามนักจนข้านั้นมิกล้าจุดไฟ ข้าเอาอีกหนึ่งใบ กลับไปแขวนที่บ้านนะพ่อค้า ท่านขายโคมงดงามมาก ทุกอันล้วนงดงามจนข้ามิอยากเผามันเสียเลยล่ะ " "ขอบคุณคุณหนูยิ่งนัก ข้ายินดีนักที่ท่านชอบโคมของข้า ปีหน้าข้าก็จะมาขายอีก ทุกปีข้าทำโคมที่มิซ้ำกันเลยขอรับคุณหนู ข้าคิดให้หญิงสาวจดจำเทศกาลนี้อย่างมีความสุขกับคู่รักตลอดไป "
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม