สกายฟันฉับ เขาฉะแบบไม่ไว้หน้า
“ไม่จริงค่ะ ไม่จริง!!”
ใบบัวรีบปฏิเสธ เธอกำลังจะบีบน้ำตาแต่...
“อย่ามาตอแหลแกล้งร้องไห้นะ น้ำตาหล่อนไม่ทำให้ฉันรู้สึกหรอกยะ...อยากไปอยู่กับมัน...เชิญ แล้วเรื่องไปปารีส ไม่ต้องมาหวังด้วย ฉันส่งหนูเมไปแล้ว”
สกายตวาด เขาไม่ได้บอกเรื่องลึกๆ แอบสะใจเล็กๆ ที่ใบบัวแทบจะคลานเข่ากลับมาอ้อนอวน
“เจ้...”
“ทำไม?”
“เจ้...จะเสียใจ ที่ทำกับบัววันนี้”
หญิงสาวกัดฟัน เชิดหน้าขึ้นสูง แววตาจัดจ้า เมื่ออีกฝ่ายทำท่าทางแข็งกร้าวใส่
“ฉันเสียใจ...แต่เสียใจที่เก็บเธอขึ้นมาจากข้างทาง...เสียใจที่วันนั้นมองเธอว่าเป็นคนดี”
สกายพูดไล่หลัง...เพราะทันทีที่พูดจบ ใบบัวก็สะบัดหน้าเดินหนี
ปัง!!
เมวิกามองสกายพร้อมกับยิ้มแหยๆ
“ไม่ต้องไปสนใจมันหรอกหนูเม...คนเนรคุณไม่มีวันเจริญหรอก”
สกายกล่าวเสียงอ่อน เขาเหนื่อยใจกับเล่ห์ลวงของคน ทั้งที่แน่ใจว่าใบบัวเป็นเด็กดี ไม่คิดว่าคนดีๆ ที่เขามอง กลับเปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม...หรือมันอาจจะเป็นเพราะ...สันดาน...
“วี๊ดๆ” ใบบัวร้องวี๊ดๆ สันมือกระแทกพวงมาลัยรถยนต์แรงๆ หลังจากรีบเดินออกมาจากสกายโมเดลลิ่ง พร้อมกับความผิดหวัง
“ขอให้มันไม่ผ่าน...บัวจะคอยให้เจ้คลานมาขอร้องบัว”
หญิงสาวกล่าวอาฆาต ดวงตาแข็งกร้าวมองประตูหน้าของสกายโมเดลลิ่งด้วยความคั่งแค้น...
บทที่4.แคสติ้ง!!
หากไม่ติดว่าอยากเจอใครคนนั้น? คีรินจะไม่มีวันรีบแหกตามานั่งหน้ามุ่ยอยู่ตรงนี้แน่
ใช่เขาไม่เคยพลาดงานสำคัญ แต่มันจำเป็นด้วยเหรอที่จะต้องมาก่อนคนอื่น
“รับกาแฟสักแก้วมั้ยคะบอส?”
พริสซิร่าถามเสียงอ่อยๆ เมื่อเจ้านายหนุ่มมาเร็วก่อนเวลา แถมยังนั่งหน้าตูมบอกบุญไม่รับแบบนี้
“เอามาสิ...ง่วงฉิบ!!” ชายหนุ่มบ่น เขายกปลายนิ้วขึ้นกดเหนือหว่างคิ้ว
เมื่อตนเองรีบแหกตาตื่น...เพื่อที่จะมารอ...
“เมื่อคืนมีปาร์ตี้...ทำไมบอสถึงตื่นเร็วจังคะ?”
พริสซิร่ารับรู้ความเคลื่อนไหวของคีรินดี ก็เหมือนกับคนอื่นๆ หากอยากรู้เรื่องของชายหนุ่มผู้นี้ ก็แค่ควานหาตามสื่อ เมื่อช่วงนี้คีรินฮอตเป็นพิเศษ แค่ขยับตัว ก็แทบจะรู้กันทั้งประเทศ
“ยังไม่นอน...” ชายหนุ่มตอบห้วนๆ เขาเพิ่งกระโจนลงจากเตียงคู่ขาคนหนึ่ง ตอนที่เหลือบเห็นเวลาบนนาฬิกา
“คะ!!”
“ช่างๆ ไปไหนก็ไป ขอพักตาหน่อย”
ชายหนุ่มโบกมือไล่...เขาจิบกาแฟขมๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลย เขาง่วงจนเปลือกตาแทบปิด...
แต่หลับไม่ลง...
ช่วงเวลาที่รอคอย ยาวนานจนน่ารำคาญ...คีรินหงุดหงิด แต่เขาก็ต้องรอ...
ปลายนิ้วชี้เคาะผิวโต๊ะดังกึกๆ คีรินนั่งเอียงข้างให้ เขาเป็นหนึ่งในผู้คัดกรองว่าที่นางแบบที่จะเข้ามาอยู่ในสังกัด ‘เดอออง’ เป็นความหงุดหงิดที่บอกใครไม่ได้ ไอ้ความรู้สึกบอกไม่ถูกนี่คืออะไร? เมื่อเจ้าตัวไม่กล้าค้นลึก เพราะ ‘กลัว’ ที่จะต้องรู้ความหมายของมัน
สาวๆ เกือบ50ชีวิต จากทุกมุมโลก นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทีมงานจัดหามาให้ บนหน้าอกของเธอมีหมายเลขประจำตัว เป็นหมายเลขที่ทีมงานกำหนดขึ้นเอง ไม่มีตัวเต็ง ไม่มีเด็กฝาก เมื่อเจ้าของแบรนด์สุดหล่อ ไม่นิยมวิธีเช่นนั้น เขาตัดสินจากความรู้สึกเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับทีมงานอีกหลายคนที่เป็นมืออาชีพ แต่นี่...เป็นครั้งแรกที่เบลิสต้าเปิดรับคนของตัวเอง เมื่อครั้งก่อนๆ เขาใช้บริการนางแบบที่มีอยู่ทั่วไป ปัญหาที่เกิดขึ้นหลายอย่าง ทำให้คีรินคิดจะมีคนในสังกัดตัวเอง ไม่ต้องคอยวุ่นวายเวลาที่นางแบบดังๆ เหล่านั้น มีเวลาฝึกซ้อมไม่เพียงพอ งานสะดุดขลุกขลักหลายครั้งจนชายหนุ่มรำคาญ
มันจึงเกิดโปรเจคนี้ขึ้นมา...
“อีก10นาทีค่ะ” พริสซิร่าเดินเข้ามาป้องปากกระซิบ
คีรินเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง “ขอกาแฟแก้วสิ!!” เขาตอบไม่ตรงคำถาม แต่เป็นการเรียกร้องสิ่งที่ลูกน้องสาวเองยังมึน
“ค่ะๆ” หล่อนรับคำ รีบเดินฉับๆ ไปจัดการสิ่งที่เจ้านายต้องการ เมื่อไม่ได้รู้สึกไปเอง เธอคิดว่า เจ้านายดูแปลกๆ
10 นาทีนานเหลือเกินสำหรับคีริน เขาแทบจะกลั้นลมหายใจทีเดียว เมื่อทีมงานคนหนึ่งประกาศเรียกหมายเลขแรกให้เดินออกมาจากกลุ่ม
ชายหนุ่มผินหน้ามามอง เขากดมุมปากจนโค้ง สูดลมหายใจลึกๆ มองผ่านหล่อนไปโดยไม่ได้ให้ความสนใจ ทั้งที่ผู้หญิงตรงหน้า งดงามพอๆ กับมิสยูนิเวิร์ด แต่ไม่มีแรงดึงดูดมากพอให้เจ้าของแบรนด์สุดหล่อสนใจได้
คนข้างตัวเอ่ยถาม คีรินยกแก้วกาแฟควันกรุ่นขึ้นจิบ เขากากบาทลงบนหัวกระดาษของสาวนางนั้น พร้อมกับเหวี่ยงทิ้งลงข้างตัว
สาวโสภาหน้าเสีย แต่ก็จำต้องฝืนใจตอบ แม้คีรินจะเป็นหนึ่งคนที่ไม่ชอบเธอ แต่อีกหลายๆ คนอาจจะสนใจเธอก็ได้
ผ่านไปเกือบครึ่ง...มีหลายคนเข้าตา แต่ก็ยังไม่มีใครโดนใจเต็มๆ สักที แถม... ‘หล่อน’ ยังไม่ปรากฏตัว ชายหนุ่มเริ่มกระสับกระส่าย เขาเพ่งสายตาควานหาหล่อนจากในกลุ่ม แต่ก็ไม่เห็นวี่แวว...นิ้วของชายหนุ่มเริ่มเคาะแรงขึ้น อารมณ์ของเขาตอนนี้ บอกไม่ถูก ที่รับรู้อยู่เต็มหัวใจ คือความผิดหวัง...ผิดหวังที่ไม่เห็นหล่อน ผิดหวังที่จะไม่ได้พบหน้าค่าตา...คนที่ตั้งใจมารอ
1-100 ชายหนุ่มเริ่มนับ ความอดทนของเขาใกล้จะหมดลงกับการคัดเลือกผู้หญิงน่าเบื่อพวกนี้ สายตาของหล่อนชำเลืองมาทางเขาบ่อยครั้ง เหมือนกับว่าการที่หล่อนมาเดินอวดโฉมครั้งนี้ เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การเป็นนางแบบ แต่อยู่ที่เขานั่นเอง
“พริส...ขอตัวนะ!!”
ชายหนุ่มยันกายขึ้นยืน เขาโยนกระดาษปึกใหญ่ทิ้งไว้บนโต๊ะ พร้อมกับเอื้อมมือจับกระดุมสูท เตรียมจะติดกระดุม แต่...
ปัง!!
เสียงประตูที่ปิดสนิทเปิดดังปังใหญ่ มีใครบางคนวิ่งหน้าตั้งเข้ามา... สายตาทุกคู่เพ่งมองไปยังคนไร้มารยาทคนนั้น รวมทั้งคนตัวใหญ่ที่หากมีใครสังเกต จะเห็นว่าคีรินชะงัก เขาเกิดอาการจังงังไปชั่วขณะ
“ขอโทษค่ะ” ภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นดังออกมาจากปากจิ้มลิ้ม เธอกำลังหอบเพราะความเหนื่อย เมื่อวิ่งขึ้นมาสุดฝีเท้า เพราะกลัวไม่ทันการแคสติ้งครั้งนี้
และเธอคือ...เมวิกา เทพกะรัต
พริสซิร่ากรากเข้าไปหา “คุณมาช้า... และเราปิดจบไปแล้วค่ะ ขอโทษเชิญออกไปก่อน”
มันเป็นกติกาทางสังคมที่ใครๆ ต้องเคารพ การมาสายหมายถึงโอกาสของตนเองหมดลงด้วย
เมวิกาหน้าม่อยลงไปถนัดใจ เธอก้มหน้าลง กำมือกับชายเสื้อจนแน่น เมื่อพลาดโอกาสสำคัญในชีวิต ทั้งที่ดั้นด้นข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
น้ำตาหยดเล็กๆ ไหลกลิ้งออกมาจากขอบตาด้านล่าง เธอสูดลมหายใจลึกๆ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ข้างแก้ม พร้อมกับเงยหน้าขึ้นยิ้มเซียวๆ ให้พริสซิร่า
“ขอโทษค่ะ ฉันรู้ แต่...ขอโอกาสให้ฉันได้มั้ยคะ?”
หญิงสาวรู้ดี เธอทำผิดกติกา...แต่เพราะเหตุจำเป็นจริงๆ สกายเกิดหน้ามืด ไม่รู้เพราะอะไร? เธอจึงต้องส่งสกายให้ถึงมือแพทย์เสียก่อน กว่าจะจัดการเรื่องสกายเสร็จ เวลาก็เดินผ่านไปโข แต่เพราะนี่เป็นความฝัน เธอจึงด้านหน้ามา...แม้จะไม่เหลือความหวังใดใดเลยก็ตาม
คีรินเขี่ยกระดาษปึกนั้นเร็วๆ เขาไล่ดูหมายเลขที่หัวกระดาษและรูปถ่ายที่ติดไว้มุมๆ ...ไม่มีหล่อนจริงๆ ทำไมเขาถึงชะล่าใจไม่ตรวจดูให้ดีก่อน
“เดี๋ยว!!”
เสียงของคีรินทำให้ทุกคนพากันเงียบ เขากวักมือเรียกพริสซิร่า เจ้าหล่อนจึงเดินผละมาจากเมวิกา...
“มีอะไรคะเจ้านาย?”
ชายหนุ่มไม่ตอบ เขาส่งกระดาษปึกนั้นให้พริสซิร่าแทนคำตอบ
หญิงสาวยังจับจุดไม่ได้ เรียวคิ้วสีทองขมวดเป็นปม “แหะๆ บอส คืออะไรคะ พริสงง?”
หล่อนยิ้มแหยๆ เงยหน้ามองเจ้านายหนุ่มแบบหวาดๆ
มุมปากได้รูปกดลงจนเห็นรอยย่น พร้อมกับเสียงถอนใจดังเฮือก
“เธอคนนั้น ไม่มีอยู่ในนี้ หมายความว่าไงพริส?”
คีรินเอ่ยถาม เขาทิ้งตัวลงนั่งเหมือนเดิม ตวัดเรียวขาขึ้นไขว้กัน มองผ่านพริสซิร่าไปยัง ‘หล่อน’ ด้วยแววตาที่นิ่งเรียบ...
“เธอมาไม่ทันลงทะเบียนค่ะ ชื่ออะไรนะเธอ?”