"แวะโรงเตี๊ยมกันเถอะเจ้าค่ะท่านพี่ วันนี้มีละครฉากใหญ่ข้าอยากดู"
"ไปสิคอแห้งแล้วเหมือนกัน"
ลู่ซือพูดด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย แต่ก็อารมณ์ดีที่เธอได้พาน้องสาวต่างมารดาไปเดินนตะลอนรอบเมืองจนนางเหนื่อยหอบ จะว่าบังเอิญหรืออะไรลู่ซือก็ไม่แน่ใจเพราะเดินเข้ามาเลือกที่นั่งด้านบนแล้วแท้ๆ แต่ดันมาเจอคนที่ไม่อยากเจอที่นี่เสียได้
"นั่นท่านอ๋องกับฮ่องเต้นิเจ้าคะ ไปทักทายหน่อยนะเจ้าคะท่านที่"
"แล้วจะถามฉันทำไมเนี่ย"
ยังไม่ทันที่ลู่ซือจะได้ตอบอะไรหนิงเซียนก็เดินดุ่มๆ เข้าไปแล้วสิ่งที่ทำให้ลู่ซือแปลกใจคือฮ่องเต้คนนั้นก็อยู่ตรงนี้ด้วย
ตายแล้วฉันไม่ได้เตรียมรับมือมาเลย...
"ฮ่องเต้ ท่านอ๋อง หนิงเซียนคารวะเพค่ะ"
บุรุษทั้งสองหันมาตามเสียงที่เอ่ยทักขึ้นทำให้ลู่ซือได้เห็นใบหน้าของฮ่องเต้ผู้นั้นเต็มตา ในซีรี่ย์ไม่ใช่หน้าตาแบบนี้ฮ่องเต้ในซีรี่ย์คือชายชราที่ไร้ซึ่งอำนาจแต่คนตรงหน้ากลับเป็นบุรุษที่หน้าตาหล่อเหล่าไม่แพ้อ๋องตงหยางเลยสักนิดจนเธอตกตะลึง
"นึกว่าผู้ใดที่แท้ก็คนกันเอง เป็นเช่นไรบ้างหนิงเอ๋อเจ้าหายดีแล้วรึถึงได้ออกมาเที่ยวเล่น"
ฮ่องเต้หลิวหยางหันไปทักทายสตรีที่ยืนจ้องมาที่ตนนิ่งไม่สนใจหนิงเซียนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าสักนิดทำให้นางหน้าเจื่อนจนต้องถอยออกมายืนข้างๆ หนิงเอ๋อที่ตอนแรกยืนอยู่ข้างหลังนาง
เมื่อเห็นว่าไม่มีปฏิกิริยาจากสตรีที่ได้รับความสนใจทำให้อ๋องตงหยางปรายตามองไปยังนางเห็นใบหน้าที่แดงก่ำคงจะเขินอายและท่าทีตกตะลึงคงจะเป็นเรื่องมารยา เหตุใดนางจะไม่เคยพบเจอฮ่องเต้ในเมื่อพวกเขาไปถึงไหนกันแล้ว
พอคิดถึงตรงนี้ความโมโหก็ตีขึ้นหน้าจนร้อนวูบทำให้อ๋องตงหยางมองไปยังสนมหนิงเอ๋อด้วยความไม่พอใจ บังเอิญที่ลู่ซือหันไปมองเขาเช่นกันทำให้เธอนึกแปลกในและสงสัยว่าไม่ใช่ท่านอ๋องจะหึงหวงหนิงเอ๋อหรอกนะถึงทำหน้าตาเช่นนั้น
"ต้องขออภัยฮ่องเต้ นางอาจไม่ได้พกมารยาทที่สตรีควรมีมาทำให้ไม่ได้ตอบท่าน ข้าเป็นสามีของนางรู้สึกละอายใจยิ่งนัก"
แหมเรื่องแดกดันเธอเขานี่เก่งจริงๆ ลู่ซือคิดและดึงสติตัวเองกลับมา
"ข้าไม่ถือสาสตรีที่งดงามเช่นนี้หรอกอย่าว่านางเลย มานั่งด้วยกันสิข้าสองคนนั่งด้วยกันแล้วไม่รู้จะคุยสิใดกำลังเบื่อๆ อยู่เลย"
ฮ่องเต้เอ่ยชวนพร้อมกับดึงเก้าอี้นั่งให้หนิงเอ๋อนั่งข้างตนอย่างลืมตัวหรือจงใจก็ไม่รู้ได้
แต่ลู่ซือไม่ทันคิดเธอเห็นหนิงเซียนกำลังจะไปนั่งข้างท่านอ๋องทำให้เธอรีบพุ่งไปนั่งข้างบุรุษหน้าเป็นตะคิวอยู่ตลอดเวลาทันทีด้วยความสะใจ ทำให้หนิงเซียนเสียหน้าอีกรอบจำใจต้องมานั่งข้างฮ่องเต้
บรรยากาศบนโต๊ะเป็นไปอย่างครื้นเครงส่วนมากจะเป็นฮ่องเต้และหนิงเอ๋อที่พูดตบมุกกันไปมา เธอเพิ่งรู้ว่าเวลาที่เราไม่ต้องมุ่งมั่นหาแต่เงินมาดำรงชีวิตมันมีความสุขขนาดนี้ ปกติเธอเป็นคนดื้อเงียบและพูดเก่งแต่ด้วยความลำบากยากเย็นของชีวิตทำให้ไม่มีเพื่อนไม่มีฝูงที่พูดคุยด้วยได้
"ฮ่าๆ ข้าว่าเจ้าฟื้นคืนสติมาครานี้ดูจะเป็นคนช่างเจรจาและยังดูงดงามสดใสยิ่งกว่าเดิมนะ"
"ขอบพระทัยเจ้าค่ะ ไว้ถ้าท่านไปที่จวนข้า ข้าจะทำอาหารอร่อยๆ ให้ท่านลองเสวยดูนะเพคะ"
"ดีๆ เห็นทีข้าต้องรีบหาเวลาไปสักหน่อยแล้วท่านว่าแบบนั้นดีไหมอ๋องตงหยาง"
"ข้ามีเรื่องต้องไปจัดการทูลลา "
เมื่อเห็นว่ายิ่งอยู่นานก็ยิ่งมองสิ่งใดขัดหูขัดตาไปหมดทำให้อ๋องตงหยางต้องรีบหนีออกจากตรงนี้ เขารู้สึกแปลกใจในตนเองยิ่งนักว่าเหตุใดอยู่ๆ ถึงทำตัวเหมือนกับหึงหวงสตรีเช่นนางได้ ทั้งที่เขานั้นมีสตรีในใจแล้วแท้ๆ
แต่แล้วเมื่อลุกขึ้นจะเดินออกไปแทนที่สนมของตนจะตามมา นางกลับนั่งนิ่งเฉยไม่สนใจเขาเลยแม้เพียงนิด
"เจ้าจะนั่งตรงนี้อีกนานไหม เหตุใดถึงไม่กลับจวนพร้อมข้า"
"อ้าว...ข้าต้องไปด้วยเหรอเจ้าคะ"
"แล้วเหตุใดจะไม่มา! "
พูดจบคนที่โมโหขึงขังจนทุกคนต่างแปลกใจก็เดินดุ่มๆ ออกไปทิ้งให้หนิงเอ๋อมองตามด้วยความมึนงงก่อนจะรีบลุกออกไปตาม
"ฉันทูลลานะเพคะ ถ้ามีโอกาสเชิญท่านไปที่จวนด้วยข้ามีเรื่องจะถามท่านเยอะมากเพค่ะ"
"แน่นอนข้าต้องไปหาเจ้าแน่นอน"
ได้ยินเช่นนั้นลู่ซือในร่างหนิงเอ๋อก็ยิ้มด้วยความพอใจก่อนจะวิ่งตามบุรุษตัวใหญ่บึกบึนแต่ก็เอาแต่ใจจนเธอนึงโมโห
หนิงเซียนมองตามชายอันเป็นที่รักและสตรีที่นางเกลียดชังไปจนสุดลูกตา พวกเขาทั้งสองคงลืมไปแล้วว่านางก็นั่งอยู่ตรงนี้ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจคนที่มันดึงความสนใจของท่านอ๋องไปจากนางตามจริงสมควรต้องตายไปแล้วเวลานี้
"ไม่ตามไปรึ"
ฮ่องเต้มองดูหนิงเซียนด้วยสายตาที่รู้ถึงแก่นในจิตใจว่านางคิดสิ่งใดอยู่
"งั้นข้าเองก็ทูลลานะเพคะ "
"ถ้าไม่มีธุระต้องไปอยู่คุยกับข้าก่อนสิ ข้าอยากถามอะไรเจ้าหน่อย"
ได้ยินเช่นนั้นหนิงเซียนก็นั่งลงเช่นเดิม นางนึกแปลกใจที่อยู่ๆ องค์ฮ่องเต้ก็นึกอยากสนทนากับนางทั้งที่แต่ก่อนแทบไม่ปรายตามองนางเลยสักนิด
"ฝ่าบาทมีสิ่งใดจะถามหม่อมฉันหรือเพคะ"
"ข้าชอบในความกล้าพูดของเจ้านะ ผู้อื่นต่างเกรงกลัวข้าเวลาอยู่ต่อหน้าแต่เจ้ากลับสบตาข้าเวลาสนทนาด้วยได้"
"หม่อมฉันขออภัยเพคะ"
นางรีบก้มหน้าทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้นเกรงว่าจะทำให้ฮ่องเต้ไม่พอพระทัย
"ไม่เป็นไรข้าชอบเจ้านะ เอาแบบนี้ไหมข้าจะช่วยเจ้าดึงหนิงเอ๋อออกมาจากอ๋องตงหยางเอง เพียงแต่เจ้าต้องช่วยข้าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บ้างในบางครา"
"ข้าต้องทำเช่นไรเจ้าคะ"
ฮ่องเต้หลิวหยางยกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ นางแทบไม่เสียเวลาคิดเลยสักนิด เพียงแค่เขาจะทำให้นางสมหวังนางก็ยินยอมพร้อมใจทันที
"นี่! ท่านอ๋อง ท่านจะเดินเร็วไปไหนเจ้าคะ ควายหายรึไง"
หนิงเอ๋อวิ่งตามเขาออกมาแต่เขาก็เดินเร็วเหลือเกิน เธอวิ่งก็แล้วร้องเรียกก็แล้วเขาก็ยังไม่หยุดจนเธอโมโห
ปึก!!
"โอ๊ย! ท่านหยุดทำไมเนี่ย"
แต่แล้วอยู่ๆ ชายเย็นชายผู้นั้นก็หยุดลงกระทันหันทำให้หนิงเอ๋อหน้ากระแทกอกแข็งแกร่งนั้นทันทีจนเกือบล้มดีที่มีมือแข็งๆ จับเอาไว้ก่อน
"เจ้านี่มันวุ่นวาย ขาสั้นนิดเดียวยังมาโทษข้า พอข้าหยุดเจ้าก็มาทำร้ายร่างกายอันมีค่าของข้าอีก แบบนี้ข้าควรจัดการเช่นไรกับเจ้าดี"
"ฮะ! ฉันผิดเหรอ"
"ยังไม่นับรวมที่เจ้าทำกิริยาน่าอายตอนอยู่ในโรงเตี๊ยมนั่นอีก เหตุใดสตรีที่แต่งงานออกเรือนแล้วถึงได้สนทนากับบุรุษอื่นแล้วหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างกับสามีเจ้าไม่อยู่ตรงนั้นอีก! "
ถามว่างงไหม หนิงเอ๋อตอบทันทีว่า มาก เธอมองดูบุรุษที่บอกว่าตัวเองเป็นสามีของเธอที่ยืนทำหน้าทะมึนตึงอยู่ท่ามกลางตลาดที่ผู้คนสัญจรผ่านไปมาด้วยความฉงนใจ
"ท่าน...เป็นอะไรไป ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันเป็นสนมที่ท่านไม่เหลียวแล"
"นี่เจ้าเรียกร้องความสนใจจากข้างั้นรึ"
"ฮะ!! ข้าอีแล้วงั้นเหรอ "