หลายวันต่อมาลู่ซือก็ยังนอนเบื่อๆ อยู่ในจวนไม่ได้ออกไปที่ใดเนื่องด้วยเธอยังคิดไม่ตกเรื่องที่เธอมีอะไรกับฮ่องเต้แล้ว ไม่สิต้องบอกว่าเป็นหนิงเอ๋อไม่ใช่เธอ เธอเพิ่งเข้ามาอยู่ในร่างนี้ต้องไม่นับรวมกันสิ
"ฮือๆ มันใช้ตรรกะนี้ได้ที่ไหนกันเล่า"
"คุณหนูท่านไม่ออกไปไหนหลายวันแล้วนะเจ้าคะ"
หลินถามด้วยความเป็นห่วง หลังจากฟื้นขึ้นมาและจำอะไรไม่ได้ดูเหมือนคุณหนูของนางจะไม่ค่อยอารมณ์เสียบ่อยและใจดีกับนางกว่าแต่ก่อนมาก แต่นางก็อดเป็นห่วงไม่ได้เมื่อเห็นหลายวันมานี้คุณหนูดูจะครุ่นคิดเรื่องอะไรบางอย่าง
"หลินฉันไม่รู้เลยว่าชีวิตนี้ฉันจะสดใสได้อีกไหม อุตส่าห์ข้ามมิติมาอยู่ในร่างที่สมบูรณ์แบบแต่ดันไปแอบเล่นชู้ฉันเหนื่อยใจมากตอนนี้"
"คุณหนูพูดเรื่องอะไร ข้าไม่เห็นเข้าใจเลยเจ้าค่ะ"
"เฮ้อ...ชั่งเถอะ วันนี้เราออกไปเดินเล่นข้างนอกกันฉันจะให้ชีวิตให้คุ้มค่า ไม่ต้องทำงานงกๆ เลี้ยงตัวเองอีกแล้ว ใช่! ฉันต้องใช้โอกาสนี้ให้คุ้ม"
พูดจบลู่ซือก็ลุกขึ้นไปแต่งตัวอย่างกระฉับกระเฉงผิดกับท่าทางเหี่ยวเฉาเมื่อครู่ทำเอาหลินมองด้วยความประหลาดใจ แต่เห็นคุณหนูของเธอสดชื่นขึ้นก็ดีแล้วจึงไม่อยากถามมากความ
"อะไรนะ! ท่านอ๋องมาพบนางทำไมเจ้าไม่รายงานข้าว่าท่านอ๋องเสด็จมา"
"ข้ามัวแต่ไปตามหาที่ฟองหน้าให้ท่านเลยลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลยเจ้าค่ะ"
เพี๊ยะ!!
"ไม่ได้เรื่องข้าจะให้ท่านพ่อตัดหัวเจ้าเสียดีไหม"
"ไม่นะเจ้าคะคุณหนู! ข้าผิดไปแล้วจริงๆ เจ้าค่ะ"
"ไม่ได้ดั่งใจข้าสักเรื่อง ไปสิข้าจะไปหาพี่หญิงข้าเสียหน่อยดูว่านางเป็นเช่นไรแล้วหลังรอดตายมา"
ที่นางยังลังเลไม่ไปหาหนิงเอ๋อเพราะเกรงว่านางจะจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ แต่พอผ่านไปหลายวันเรื่องก็ยังเงียบจนน่าแปลกใจเลยต้องร้อนรนไปหานางเองถึงที่
"ไปกันเถอะหลินเอาเหรียญไปหลายๆ อีแปะนะฉันจะซื้อทุกอย่างที่อยากได้ เอาให้ตาอ๋องนั่นล้มละลายไปเลย"
หลินได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มด้วยความเอ็นดูคุณหนูของเธอที่ไม่เห็นมุมที่น่ารักสดใสแบบนี้มานานมากแล้ว พอได้เห็นก็คิดถึงสมัยที่ยังไม่แต่งเข้าจวนอ๋องตงหยางคุณหนูของนางสดใสและสง่างามราวเทพธิดาบนสรวงสวรรค์แต่หลังจากแต่งเข้าจวนท่านอ๋องมานางก็เปลี่ยนไป
"จะไปไหนเจ้าคะท่านพี่"
"หนิงเซียน..."
ลู่ซือจำได้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นตัวร้ายอีกคนที่เกลียดหนิงเอ๋อมาก มากจนอยากฆ่าเพื่อแย่งชิงความรักจากบิดาและต้องการอยากจะได้อ๋องตงหยางไว้ครอบครองเพียงผู้เดียว
ฝันไปเถอะ เธอทำร้ายหนิงเอ๋อไว้เยอะนางก็ยังเห็นเจ้าเป็นน้องสาวไม่ทำอะไรรุนแรงมากนักแต่ลู่ซือไม่ใช่พี่สาวเธอ ถึงจะอยู่ในร่างนี้ก็เถอะ เธอต้องแสดงบทร้ายให้สมกับมาอยู่ในร่างสนมร้ายกาจเสียแล้ววันนี้
"ท่านพี่ออกมาเดินได้แบบนี้ข้าดีใจนะเจ้าคะ ดีกว่านอนเป็นผักเหี่ยวๆ แบบนั้นข้าใจคอไม่ดี"
"สบายใจได้จ้ะน้องรัก พี่หญิงคนนี้ไม่ตายง่ายๆ หรอกนะ"
"ฮ่าๆ ท่านนี่ช่างพูด ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แล้วนี่ท่านจะไปไหนเจ้าคะ" หนิงเซียนถามด้วยความอยากรู้
"ไปตลาด"
"ข้าไปด้วยได้ไหมเจ้าคะ พอดีสั่งตัดชุดไว้หลายชุดตอนที่ท่านไม่ได้สติอยู่ จะให้ท่านพี่ไปช่วยดูด้วย"
"ได้สิ เชิญ..."
เมื่อเห็นว่าวันนี้หนิงเอ๋อดูจะอารมณ์ดีนางเลยกะว่าจะตามไปเพื่อขัดแข้งขัดขาเสียหน่อย โดยไม่รู้เลยว่าลู่ซือเองก็กำลังคิดแผ่นการแกล้งน้องสาวต่างแม่คนนี้อยู่เหมือนกัน
"เหตุใดวันนี้ท่านถึงได้ชวนข้าออกมาเดินชมตลาด"อ๋องตงหยางเอ่ยถามปกติแล้วฮ่องเต้ไม่ค่อยออกมาแบบนี้นานๆ ทีจะเสด็จออกมาทำให้อดแปลกใจไม่ได้
"เจ้าไม่รู้ข้าแอบออกมาเที่ยวเล่นประจำ"
"คงไม่ได้ไปเที่ยวเล่นแถวจวนข้าหรอกนะ" อ๋องตงหยางรู้ทัน
"ทำไมข้าจะไม่ไป ข้าแอบไปจับผิดเจ้าประจำเผื่อซ่องสุมกำลังคนเพื่อชิงบัลลังก์ข้า ฮ่าๆ"
ฮ่องเต่หลิวหยางพูดติดตลกแต่อ๋องตงหยางรู้ดีว่ามันคือเรื่องจริง แม้จะไม่พูดออกมาตรงๆ แต่เขาก็พอรู้มาบ้างว่าฮ่องเต้กำลังคิดจะทำสิ่งใดอยู่
"ถ้าข้าจะชิงบัลลังก์ท่านจริงคงไม่รอจนถึงวันนี้"
"ฮ่าๆ เจ้านี่ไม่รู้จักปล่อยวางหาความสำราญเลยนะ "
เห็นว่าอ๋องตงหยางไม่มีท่าทีจะเล่นด้วยแถมยังมองมาที่เขาด้วยสายตาเย็นชามากกว่าเดิมอีกจนต้องเปลี่ยนเรื่องมันยังไม่ถึงเวลาพูดเรื่องนี้
"เชิญท่านนำทางไปเถอะจะไปที่ใด ข้าเองก็ไม่ค่อยออกมาหาความสำราญสักเท่าไหร่"
ได้ยินเช่นนั้นฮ่องเต้หลิวหยางก็ยิ้มที่มุมปากเข้าใจดีว่ากำลังโดนพูดแดกดันทางอ้อมแต่ก็ไม่ได้ถือสาแต่รอเวลาเอาคืนแน่นอน
โรงเตี้ยมขนาดใหญ่ใจกลางเมืองที่มีการแสดงงิ้วและมีนักเล่านิทานสัญจรผ่านมาด้วยเป็นครั้งคราวคือสถานที่ที่ทั้งสองมานั่งหาความสำราญกัน
ผู้คนมากมายที่มาดื่มสังสรรค์สุราเคล้านารีคลายความเหงา เหล่าสตรีแสนสวยต่างเข้ามาเอาใจบุรุษสูงศักดิ์เหล่าคุณชายทั้งหลายต่างมารวมตัวกันที่แห่งนี้
"ข้ามาที่นี่บ่อย มันเป็นแหล่งหาข่าวซุบซิบและเหตุการณ์ต่างๆ ในเมืองนี้เป็นอย่างดี" ฮ่องเต้เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบบนโต๊ะ
"ข้าเองก็เคยมาที่นี่ ถึงไม่บ่อยนักแต่ก็ชอบมานั่งดูอะไรที่นี่เช่นกัน " อ๋องตงหยางเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก
"เหล้าต้มที่นี่รสชาติดียิ่งนัก เห็นทีข้าต้องมาบ่อยกว่าเดิม"
"ไม่ใช่ท่านมานัดเจอสตรีนางใดที่นี่หรอกนะฝ่าบาท"
อ๋องตงหยางจ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างรู้ทัน เขามีหูตาอยู่ทุกที่ไม่แปลกที่จะรู้ทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องสำคัญเรื่องนี้
"งั้นเจ้าก็คงรู้ว่าข้ากับหนิงเอ๋อมีใจต้องกัน"
ฮ่องเต้หลิวหยางไม่คิดจะปิดบังหรือพูดลองเชิงอะไรกันอีกในเมื่อไม่มีสิ่งใดรอดพ้นหูตาของอ๋องตงหยางไปได้อยู่แล้ว
"งั้นท่านต้องทราบดีว่านางเป็นสนมเอกของข้า หากท่านทำอะไรผลีผลามมากเกินไปเกรงว่าจะเป็นที่ครหาเอาได้ และข้าจะไม่ยอมเสียชื่อเพราะเรื่องนี้เป็นแน่" เมื่อเปิดมาเช่นนี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่อ๋องตงหยางจะพูดอ้อมค้อมอีก
"ข้าต้องสนใจด้วยงั้นรึ ในเมื่อข้าเป็นฮ่องเต้ทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้ถ้าข้าอยากได้ผู้ใดมันก็ห้ามไม่ได้จริงไหม"
ในยามนี้แววตาของบุรุษทั้งสองต่างจ้องมองกันไม่มีผู้ใดยอมกัน ฮ่องเต้เองก็คิดว่าดีที่ตนได้เปิดเผยเรื่องที่เก็บเอาไว้มานานได้เสียที ยังไงอ๋องตงหยางก็ไม่สนใจไยดีนางอยู่แล้วเหตุใดต้องรั้งนางไว้กับตนด้วย ตัวเขาเองไม่สนใจกฎมณเฑียรบาลอะไรทั้งสิ้นถ้านางตกลงก็พร้อมยกนางขึ้นเป็นฮองเฮาทันที
"ทุกสิ่งเป็นของพระองค์หมดฝ่าบาท ยกเว้นของสิ่งนั้นมันเป็นของข้า ถึงแม้ของชิ้นนั้นข้าจะทิ้งขว้างมันเพียงใด แต่ผู้ใดก็ไม่อาจหยิบฉวยของสิ่งนั้นไปจากข้าได้หากข้ายังมีชีวิตอยู่"
บัดนี้บุรุษที่ทรงอำนาจทั้งสองต่างจ้องมองกันด้วยสายตาฟาดฟัน โดยมีคนของแต่ละฝั่งยืนคุมเชิงกันอยู่ไม่ไกลนัก
"ฮ่องเต้ ท่านอ๋อง หนิงเซียนขอคารวะเพค่ะ"