“ไข่ไก่เจ้าค่ะท่านลุงเจา อาอินเก็บเองเลยนะเจ้าคะ” หนิงลี่อินยื่นไข่ไก่ให้กับเจาเจ๋อ
“พวกเจ้าไม่เห็นต้องลำบากเอามาให้ข้าเลย”
“ถือว่าเป็นค่าเช่าที่ก็ได้เจ้าค่ะ อาอินตื่นเช้ามาเก็บทุกวันเลยนะเจ้าคะ” หนิงลี่อินได้ยินพี่สาวชมก็ยิ้มให้เจาเจ๋อจนปากจะถึงหูแล้ว
“อาอินเก่งจังเลย” อดไม่ได้ต้องยกมือขึ้นลูบศีรษะเด็กน้อย อุ้มกลับบ้านไปเลยดีหรือไม่ ภรรยาของเขาจะต้องชอบเด็กคนนี้แน่ๆ
3 วันที่ผ่านมาสองพี่น้องตระตูลหนิงไม่ได้เข้าเมืองไปขายของที่ตลาด เพราะมีงานที่บ้านให้ทำเยอะแยะเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเพาะถั่วงอก ผสมมูลสัตว์กับดินเพื่อเตรียมปลูกผักที่ซื้อมา หลังผสมแล้วก็ต้องตากแดดเพิ่มอีก 7 วัน จึงจะทำการปลูกผักได้
ตอนนี้รอบๆ บ้านนางมีแปลงผักที่รอปลูกหลายแปลงเลยทีเดียว มีแปลงสำหรับปลูกสมุนไพรด้วยนะ แต่นางคิดว่าจะสร้างที่ปลูกสมุนไพรโดยเฉพาะตอนนี้จึงต้องรอไปก่อน
“พรุ่งนี้ก็น่าจะเอาถั่วงอกไปขายที่ตลาดได้แล้ว” หนิงลู่ซือพูดกับตัวเอง
“พรุ่งนี้เราจะไปขายถั่วงอกกันหรือเจ้าคะพี่ใหญ่” หนิงลี่อินได้ยินพี่สาวพูดก็ถามเพื่อความแน่ใจ
“ใช่แล้วถั่วงอกโตจนเอาไปขายได้แล้ว ดูสิต้นมันอวบอ้วนยิ่งนัก” สำหรับการเพาะถั่วงอกครั้งแรกถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี นางเพาะทั้งหมด 20 ตะกร้าได้ถั่วงอกเยอะเลยทีเดียว ถ้าพรุ่งนี้ถั่วงอกขายดีนางคงต้องซื้อตะกร้าและผ้าเพิ่ม จะได้เพาะทุกวัน มีขายทุกวัน
“งั้นข้าขอเอาไข่ไปให้ท่านลุงเจากับพี่สาวมี่ได้หรือไม่เจ้าคะ” ครั้งแรกที่ซื้อชุดพี่สาวมี่แถมผ้าผูกผมให้นางตั้ง 10 เส้น นางอยากเอาไข่ไปฝากเพื่อแสดงน้ำใจ ตอนนี้ไข่ไก่ที่บ้านนางมีมากจนกินไม่ไหวแล้ว เอาไปฝากท่านลุงกับพี่สาวมี่คนละ 10 ฟอง ก็ยังเหลือไข่อีกหลายฟอง
“ได้สิ อืม เราไม่ได้ขึ้นเขาหลายวันแล้ว วันนี้เราขึ้นเขากันดีกว่า” เผื่อโชคดีเจอสมุนไพรจะได้นำไปขายท่านลุงเจา หาเงินไปฝากที่โรงรับฝากเงินเพิ่ม
“เย้! งั้นข้าไปเปลี่ยนชุดก่อนนะเจ้าคะ” แค่ขึ้นเขาเสี่ยวอินถึงกับดีใจขนาดนี้เลยเหรอ?
สองพี่น้องเดินขึ้นเขาไปทางที่ไปประจำ เป้าหมายแรกที่ไปคือต้นซานจากับต้นผิงกั่ว อืม อีกไม่กี่วันคงสุก ไว้ค่อยมาเก็บวันหลัง แต่ก็มีบางลูกที่เหมือนจะเพิ่งหล่นลงพื้นแต่ไม่มากนัก จึงเก็บไปไว้กินเองและเอาไปฝากท่านลุงเจากับพี่สาวมี่
เดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็ยังไม่ได้อะไรเลยนอกกว่าผิงกั่วกับซานจา แต่อยู่ๆ สายตาของหนิงลู่ซือก็เห็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่คุ้นเคย ไม่รอช้านางรีบพุ่งเข้าใส่ทันที ชวนซินเลี่ยน (ฟ้าทะลายโจร) หนิงลี่อินที่เห็นว่าพี่สาววิ่งไปยังด้านหลังตน ก็วิ่งตามพี่สาวไป
“ชวนซินเลี่ยนเต็มไปหมดเลย!” มันไม่ได้มีแค่ต้น สองต้น แต่มันมีเยอะมาก “อาอินมาจัดการเจ้านี้กันเถอะ”
“พี่ใหญ่ต้นพวกนี้คือสมุนไพรหรือเจ้าคะ”
“ใช่แล้วต้นพวกนี้เรียกว่า ชวนซินเลี่ยน มีรสขม ใช้แก้อาการไข้หวัด เจ็บคอ คอบวม ร้อนใน ไอหอบ ท้องเสีย บิด ปัสสาวะขัดแสบร้อน แผลฝีหนอง แมลงกัดต่อย” ปากก็อธิบายมือก็จัดการถอนต้นชวนซินเลี่ยนไปด้วย “แต่วันพรุ่งคงไม่ได้ไปขาย เราต้องตากให้มันแห้งก่อนจึงจะนำไปขายได้”
“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะพี่ใหญ่” สองพี่น้องช่วยกันคนละไม้คนละมือเก็บชวนซินเลี่ยนใส่ตะกร้าที่เตรียมมา
หนิงลี่อินที่กำลังเก็บชวนซินเลี่ยนอยู่นั้นหางตาได้หันไปเห็นต้นไม้สั่นไหว ด้วยความสงสัยจึงเดินเข้าไปดู สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือสิ่งมีชีวิตตัวเล็ก สีส้มมีลายทางสีดำ กำลังพยายามลุกขึ้นเดินอย่างสะเปะสะปะ หนิงลี่อินไม่รอช้ารีบเข้าไปอุ้มเจ้าสัตว์น่ารัก 2 ตัวขึ้นมาทันที
“พี่ใหญ่เจ้าคะ”
“ว่าอย่างไรอาอิน” หนิงลู่ซือตอบรับน้องสาวแต่ไม่ได้หันไปมอง จึงไม่เห็นว่าในอ้อมแขนของน้องสาวมีสิ่งใด
“ข้าเลี้ยงแมวได้หรือไม่เจ้าคะ” หนิงลี่อินถามต่อ
“ได้สิ”
“ถ้าเช่นนั้นเลี้ยง 2 ตัวได้หรือไม่เจ้าคะ” ก็ในอ้อมแขนนางมี 2 ตัว นางต้องขอพี่สาวเลี้ยงทั้ง 2 ตัวสิ
“ได้สิ เดี๋ยวเข้าเมืองรอบนี้พี่สาวจะพาเจ้าไปหาซื้อแมวมาเลี้ยง”
“ไม่ต้องซื้อหรอกเจ้าค่ะพี่ใหญ่ ข้าเจอลูกแมวน่ารักๆ ตั้ง 2 ตัวเจ้าค่ะ” เมื่อได้ยินน้องสาวบอกเช่นนั้น หนิงลู่ซือจึงละมือจากการเก็บสมุนไพรตรงหน้าหันมามองน้องสาว แต่นางก็ต้องตกใจจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าน้องสาวตนกำลังอุ้มสิ่งใดอยู่
“เสือ!!” นี่น้องสาวนางต้องใจกล้าเพียงใดจึงไปอุ้มเสือแบบนั้น “อาอินเจ้าวางมันลงเดี๋ยวนี้เลยนะ เจ้าไปเอามันมันจากตรงไหน”
“ข้าเห็นมันอยู่ตรงใต้ต้นไม้เจ้าค่ะ ดูสิพี่ใหญ่มันน่ารักมากเลย” หนิงลี่อินยื่นสัตว์ตัวน้อยไปตรงหน้าพี่สาว
“อาอินนี่มันเสือ ไม่ใช่แมว เจ้าเอามันไปไว้ที่เดิมเลยนะ” ถ้าแม่มันหาแล้วเห็นว่าน้องสาวนางอุ้มลูกของมันอยู่ เราได้ตกเป็นอาหารมันแน่
“มันไม่ใช่แมวหรือเจ้าคะ” แต่มันอยู่เหมือนแมวนี่นา ดูสิมันเอาหัวเล็กๆ ของมันถูแขนนางด้วย
“ไม่ใช่ เอามานี่เดี๋ยวพี่ใหญ่เอาไปไว้เอง” หนิงลู่ซือยื่นมืออันสั่นเทาไปรับลูกเสือในอ้อมกอดน้องสาว
“แต่พี่ใหญ่ถ้ามันไม่มีพ่อมีแม่ มันจะทำยังไงเจ้าคะ” หนิงลี่อินยังไม่ยอมแพ้ที่จะเอาสัตว์ทั้ง 2 ตัวไปเลี้ยง นางคิดชื่อจะตั้งให้พวกมันแล้วด้วยนะ
“งั้นเจ้าพาพี่ไปดูที่ที่เจ้าเจอพวกมัน” หนิงลี่อินเดินนำพี่สาวมายังต้นไม้ต้นหนึ่งที่เจอกับเจ้าสัตว์สี่ขา เมื่อมาถึงหนิงลู่ซือจึงเดินสำรวจรอบๆ เพื่อดูร่องรอยของสัตว์ป่า มีรอยเท้าสัตว์คาดว่าน่าจะเป็นรอยเท้าของแม่เสือ นอกจากนี้ยังมีรอยเลือดด้วย เมื่อไม่พบความผิดอะไรอื่นอีก หนิงลู่ซือก็เดินกลับมาที่เดิม
“เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะพี่ใหญ่”
“ไม่รู้ว่าแม่ของเจ้า 2 ตัวนี้อยู่ใด งั้นเราจะเอามันไปเลี้ยงก่อน แต่เจ้าอย่าได้เข้าใกล้มันเกินไป มันคือเสือเป็นสัตว์นักล่า เข้าใจหรือไม่”
“เจ้าค่ะ” เมื่อได้ข้อสรุปแล้วสองพี่น้องก็ช่วยกันขนตะกร้าที่อัดแน่นไปด้วยชวนซินเลี่ยนลงเขา กว่าจะหมดก็ต้องขึ้นลงเขาถึง 3 รอบเลยทีเดียว
เมื่อลงจากเขาแล้วหนิงลู่ซือก็เอาลูกเสือทั้ง 2 ตัวไปขังไว้ในห้องที่ยังว่างอยู่ มอบหน้าที่ล้างชวนซินเลี่ยนให้กับหนิงลี่อิน ส่วนตัวเองขึ้นเขาไปตัดไม้ไผ่เพื่อมาทำคอกให้เจ้าลูกเสือ กว่าจะทำคอกเสร็จก็ยามเซินแล้ว
แต่ในตอนที่นางจะเอาสัตว์ทั้ง 2 ตัวเข้าคอกพวกมันกลับต่อต้านไม่ยอมเข้าเสียอย่างนั้น สุดท้ายก็ต้องยอมให้มานอนอยู่ข้างๆ หนิงลี่อินที่กำลังช่วยงานพี่สาว
หั่นชวนซินเลี่ยนเป็นท่อน แยกใบกับก้านออกจากกัน ใส่กระด้งรอตากพรุ่งนี้ ส่วนเมล็ดหนิงลู่ซือจะเก็บไว้ปลูกในแปลงสมุนไพรของนาง หนิงลี่อินตั้งชื่อให้ลูกเสือด้วยตัวแรกชื่อ ต้าเป่า ตัวที่สองชื่อ เสี่ยวเป่า
เสร็จจากงานล้างและหั่นสมุนไพร หนิงลู่ซือก็เข้าครัวทำอาหารเมนูวันนี้คือปลาราดพริก และหมูแดดเดียวทอด ทำของคนเสร็จก็ต้องทำให้เจ้าต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าด้วย ดูจากขนาดตัวแล้วน่าจะเกิดได้ไม่กี่วัน ไม่รู้ว่าพวกมันกินเนื้อได้หรือยัง วันนี้ก็เอาข้าวคลุกเนื้อแดดเดียวไปก่อนนะ