วันนี้หนิงลู่ซือตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะนางต้องไปจับปลาที่ลำธารก่อน ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วยามนางก็ได้ปลามาถึง 4 ถัง เสร็จจากจับปลาก็มาทำอาหารเช้าต่อ ต้มจืดหมูสับ ไข่เจียวหมูสับของชอบของหนิงลี่อิน ไม่ลืมทำเผื่อเจ้าลูกเสือตัวน้อย 2 ตัวด้วย
ไม่นานหนิงลี่อินก็ตื่น ข้างๆ กันยังมี ต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าที่ส่ายหางดุ๊กดิ๊กตามมาด้วย นางล้างหน้าล้างตาแล้วแยกไปทำหน้าที่ของต้นคือเก็บไข่ไก่และให้อาหารไก่ พร้อมสมุนตัวป่วน 2 ตัว นางเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าเป็นเสือ เป็นหมา หรือเป็นแมวกันแน่ เดินตามน้องสาวนางต้อยๆ และยังเอาหัวน้อยๆ มาถูๆ ไถๆ กับขาของหนิงลี่อินอีกต่างหาก
หนิงลู่ซือทำมื้อเช้าเสร็จแล้ว จากนั้นก็จัดการกับถั่วงอก นางหยิบตะกร้าชั้นบนสุดจัดการตัดรากถั่วงอกที่โผล่ออกมาด้านล่างตะกร้า ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบทั้ง 20 ตะกร้า ได้ถั่วงอกเยอะมากๆ
จัดการถั่วงอกเสร็จนางก็เอาถั่วเขียวที่แช่น้ำทิ้งไว้เมื่อคืนมาจัดการเพาะต่อ อีก 4-5 วันก็ขายได้แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้นางก็จะมีเงินเข้ามาไม่ขาด
สองพี่น้องเดินทางเข้าเมืองหลังจากที่ไม่ได้เข้ามาหลายวัน ทำทุกอย่างเหมือนเดิมเช่นทุกครั้งที่เข้าเมืองมา ต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าจะตามมาด้วยแต่หนิงลู่ซือสั่งให้อยู่เฝ้าบ้าน บอกพวกมันว่านางจะซื้อของอร่อยมาให้กิน และเหมือนพวกมันจะเข้าใจในสิ่งที่นางพูด เพราะหลังจากนั้นพวกมันก็เดินส่ายหางไปนอนบนแคร่ไม่สนใจนางอีก
“คารวะแม่นางหนิงขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์เห็นสองพี่น้องเดินเข้ามาจึงรีบเดินออกไปต้อนรับ
“เจ้าค่ะ วันนี้ท่านลุงเจาอยู่หรือไม่เจ้าคะ”
“เถ้าแก่เจาอยู่ชั้นบนขอรับ แม่นางหนิงเอาสมุนไพรมาขายหรือขอรับ เดี๋ยวข้าไปแจ้งเถ้าแก่ให้ขอรับ”
“วันนี้ข้าไม่ได้เอาสมุนไพรมาขายหรอกเจ้าค่ะ ข้าจะมาขอใช้พื้นที่ขายของจึงอยากจะแจ้งท่านลุงเจาให้ทราบเจ้าค่ะ”
“อ๋อ เถ้าแก่แจ้งไว้แล้วขอรับว่าถ้าแม่นางหนิงมาขอใช้พื้นที่ ให้ท่านใช้พื้นที่ได้เลยขอรับ แล้วยังบอกอีกว่าถ้าท่านมีปลามาขายให้เก็บไว้ให้ 5 ตัวใหญ่ๆ ด้วยขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์บอกคำพูดของเถ้าแก่ให้หญิงสาวตรงหน้าได้ทราบ
“ได้เลยเจ้าค่ะ ขอบคุณเสี่ยวเอ้อร์มากนะเจ้าคะ”
“แม่นางหนิงขอรับ ข้าขอซื้อปลาแม่นางสัก 2 ตัวด้วยนะขอรับ วันก่อนข้าซื้อไปให้ท่านแม่ทำอาหาร ท่านแม่บอกว่าอร่อยมากๆ เลยขอรับ” วันนี้เขาก็เลยจะซื้อไปให้ท่านแม่อีก
“ได้เลยเจ้าค่ะ” เมื่อเด็กในร้านตั้งโต๊ะเสร็จสองพี่น้องตระกูลหนิงก็จัดของขึ้นตั้งบนโต๊ะเพื่อเตรียมขาย นางเก็บปลาไว้ให้ท่านลุงเจา 5 ตัวใหญ่ เสี่ยวเอ้อร์อีก 2 ตัวใหญ่ๆ และแถมถั่วงอกให้ทั้งสองด้วย เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เปิดแผงขายของได้
“วันนี้มีปลาที่ยังมีชีวิตมาขายหรือไม่แม่ค้าตัวน้อย” ท่านป้าที่เดินผ่านมาถามขึ้น
“มีเจ้าค่ะท่านป้า ชั่งละ 15 อีแปะเท่าเดิมเจ้าค่ะ วันนี้ข้ากับพี่ใหญ่มีถั่วงอกต้นอวบๆ มาขายด้วยนะเจ้าคะ ชั่งละ 10 อีแปะเจ้าค่ะ” ชาวบ้านหลายคนที่ได้ยินว่าวันนี้มีปลามาขายก็เริ่มต่อแถวกัน อีกทั้งยังมีถั่วงอกอีกด้วย สองพี่น้องนี้ขายของถูกกว่าในตลาดจริงๆ แถมของทุกอย่างยังคุณภาพดีกว่าในตลาดด้วยซ้ำ
เหลาอาหารเซียงเซียงได้ข่าวว่าแม่ค้าสองพี่น้องมาขายปลา ก็รีบส่งคนมาต่อแถวเช่นกัน หลายคนที่เห็นคนของเหลาอาหารเซียงเซียงต่อแถวก็ไม่มีใครกล้าต่อจากเขา เพราะคิดว่าเมื่อถึงคิวของเขา เขาคงเหมาปลาหมดทุกตัว
“เจ้าปลูกถั่วงอกอย่างไรทำไมมันถึงได้ดูอวบอ้วนเช่นนี้” ท่านป้าคนหนึ่งเอ่ยถาม นางไม่เคยเห็นถั่วงอกที่ต้นอวบอ้วนเช่นนี้มาก่อนเลย ในตลาดแม้จะมีถั่วงอกขายก็เป็นเพียงแค่ต้นเล็กๆ ลีบเท่านั้น
“ความลับเจ้าค่ะท่านป้า” หนิงลู่ซือตอบหยอกล้อท่านป้า
“ไอหยา ข้าก็ถามไปอย่างนั้นแหละ ข้ารู้มันคือความลับถ้าคนอื่นรู้เจ้าจะขายได้อย่างไร” ท่านป้าก็ตอบอย่างหยอกล้อกลับไป “ข้าเอาปลา 2 ตัว ถั่วงอก 4 ชั่ง”
“ได้เลยเจ้าค่ะท่านป้า”
“อ้าว พวกเจ้าขายหมดแล้วรึ” เจาเจ๋อเดินออกมาจากร้าน ปรากฏว่าสองพี่น้องขายของหมดแล้ว
“คารวะท่านลุงเจาเจ้าค่ะ วันนี้ขายหมดแล้วเจ้าค่ะท่านลุง” หนิงลู่ซือทักทายเจาเจ๋อ วันนี้นางขายของได้เงินทั้งหมดประมาณ 5 ตำลึง 200 อีแปะ
“อาอินคารวะท่านลุงเจาเจ้าค่ะ” หนิงลี่อินก็ทักทายเช่นกัน
“อืม ข้าติดลูกค้าก็เลยไม่ได้ออกมาหาพวกเจ้า ออกมาอีกทีพวกเจ้าก็ขายของหมดแล้ว”
“ถึงจะขายหมดแต่ข้าก็เก็บส่วนของท่านลุงไว้ให้แล้วเจ้าค่ะ” หนิงลู่ซือหยิบถุงปลา ถั่วงอก ไข่ไก่ ยื่นให้กับท่านลุงเจา
“ข้าสั่งแต่ปลาทำไมถึงได้อย่างอื่นด้วยเล่า”
“ปลาข้าขายเจ้าค่ะ แต่ถั่วงอกกับไข่ถือว่าเป็นค่าเช่าที่ของวันนี้เจ้าค่ะ ถั่วงอกข้าปลูกเองเลยนะเจ้าคะ ต้นอวบอ้วนน่ากินมากเจ้าค่ะ”
“ไอหยา เจ้าปลูกเองจริงๆ รึ ต้นมันอวบอ้วนจริงๆ ด้วย” เจาเจ๋อมองถั่วงอกต้นขาว อวบอ้วนที่หนิงลู่ซือมอบให้
“จริงสิเจ้าค่ะ วันนี้ถั่วงอกขายดีไม่น้อยเลยเจ้าค่ะ”
“ขายดีก็ดีแล้ว ถั่วงอกของเจ้าต่างจากในตลาดยิ่งนัก วันนี้มีของดีๆ กลับไปให้แม่ครัวทำอีกแล้ว”
“ท่านชอบข้าก็ดีใจแล้วเจ้าค่ะ งั้นข้ากับน้องสาวขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะ”
“เดี๋ยวๆ รอข้าสักครู่” พูดจบก็เดินกลับเข้าไปในห้อง เข้าไปไม่นานก็ออกมาพร้อมกับกล่องขนม “ภรรยาข้าฝากขนมมาให้อาอินด้วยนะ ข้าไปเล่าเรื่องพวกเจ้าให้นางฟังจนนางอยากเจอพวกเจ้าเลยล่ะ โดยเฉพาะอาอิน นางอยากมีบุตรสาวมากแต่กลับได้เจ้าลูกชายหน้าเหม็นมา 2 คน” เจาเจ๋อยื่นกล่องขนมไปทางอาอินน้อย
“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านลุงเจา” หนิงลี่อินยื่นมือไปรับกล่องขนมจากเจาเจ๋อมากอดไว้
“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ และฝากขอบคุณท่านป้าด้วยนะเจ้าคะ” มีคนเอ็นดูน้องสาวนางก็ดีใจแล้ว
“ข้าจะบอกนางให้ พวกเจ้าไปเถอะ ไว้มีโอกาสข้าจะพานางมาพบพวกเจ้า” เจาเจ๋อกล่าว
“เจ้าค่ะ ข้าลาก่อนเจ้าค่ะ”
หนิงลู่ซือไปร้านที่ซื้อตะกร้าเมื่อคราวก่อน เพื่อซื้อตะกร้าแบบเดิมเพิ่มอีก 40 ใบ ต่อด้วยไปร้านผ้าของมีมี่
“อาซือ อาอิน” มีมี่เห็นสองพี่น้อง วันนี้ก็ใส่ชุดสีเดียวกันอีกแล้ว ทั้งคู่เดินเข้ามาในร้าน มีมี่จึงออกไปต้อนรับทันที
“สวัสดีพี่สาวมี่เจ้าค่ะ” หนิงลู่ซือ
“สวัสดีพี่สาวมี่เจ้าค่ะ วันนี้ข้าเอาไข่ไก่กับถั่วงอกมาฝากพี่สาวมี่เจ้าค่ะ” หนิงลี่อินยื่นของที่นำมาฝากไปให้พี่สาวมี่
“พวกเจ้าเอามาให้ข้าหรือ” มีมี่รู้สึกงงเล็กน้อย หันมองหนิงลู่ซือที หนิงลี่อินที
“เจ้าค่ะ เป็นอาอินที่อยากเอามาฝากพี่สาว แล้วท่านไม่ต้องเกรงใจนะเจ้าคะเพราะของพวกนี้เป็นของที่บ้านข้าเอง ไข่ไก่ก็เป็นอาอินที่ตื่นเช้ามาเก็บ ส่วนถั่วงอกข้าก็ปลูกเองเจ้าค่ะ” หนิงลู่ซืออธิบาย
“ขอบใจพวกเจ้ามากนะ ขอบใจมากนะอาอิน” มีมี่รู้สึกตื้นตันใจไม่น้อย ไม่เคยมีใครมอบของให้นางเช่นนี้มาก่อน
“พี่สาวมี่ชอบข้าก็ดีใจแล้วเจ้าค่ะ” เด็กน้อยยิ้มให้พี่สาวมี่อย่างน่ารัก มีมี่รู้สึกว่าเหมือนเด็กน้อยจะมีเริ่มแก้มนิดๆ ด้วย
“พี่สาวมี่เจ้าคะ วันนี้ข้าเอาผ้าฝ้ายเนื้อหยาบแบบบาง 20 พับ แบบหนา 10 พับเจ้าค่ะ”
“ได้ๆ เดี๋ยวข้าไปหยิบมาให้” หายไปไม่นานมีมี่ก็กลับมาพร้อมผ้าที่หนิงลู่ซือต้องการ แต่สายตาหันไปเห็นหนิงลี่อินยืนดูชั้นวางเครื่องประดับ จึงเดินเข้าไปหาเด็กน้อย “อาอินกำลังดูอันใดอยู่หรือ”
“พี่สาวมี่ ข้ากำลังดูปิ่นปักผมเจ้าค่ะ”
“อีกนานกว่าอาอินจะถึงวัยปักปิ่น ทำไมจึงรีบดูนักเล่า”
“ข้าไม่ได้ซื้อให้ตนเองหรอกเจ้าค่ะ ข้าจะซื้อให้พี่ใหญ่เจ้าค่ะ” หนิงลี่อินหันไปมองพี่สาวที่ทำลังเดินดูของในร้าน
“ดูให้พี่ใหญ่หรือ?” มีมี่ถามอย่างสงสัย
“เจ้าค่ะ พี่ใหญ่ซื้อของให้ข้าตั้งหลายอย่าง ข้าก็อยากซื้อของให้พี่ใหญ่บ้างเจ้าค่ะ” มีมี่ที่ได้ยินคำตอบก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดูเด็กน้อยยิ่งนัก
“แล้วอาอินเลือกได้หรือยัง ว่าจะซื้อแบบไหนให้พี่ใหญ่ของเจ้า”
“ยังเลยเจ้าค่ะ ข้ายังเลือกไม่ได้ ข้ากลัวว่าเงินที่มีจะไม่พอซื้อเจ้าค่ะ”
“แล้วอาอินมีเงินเท่าไหร่ เดี๋ยวพี่สาวจะช่วยเลือกให้”
หลังได้ยินคำถาทของมีที่ หนิงลี่อินจึงหยิบพวงเงินในอกเสื้อให้ดู “มี 200 อีแปะ ซื้อได้หรือไม่เจ้าคะ” หนิงลี่อินไม่รู้ว่าปิ่นปักผมหนึ่งอันราคาเท่าไหร่
“ได้สิ” มีมี่หยิบปิ่นไม้ธรรมดาขึ้นมาให้ดู ด้านบนแกะสลักเป็นรูปใบไม้ ถึงแม้จะดูธรรมดาแต่หนิงลี่อินก็ชอบ เพราะมันจะเป็นของชิ้นแรกที่นางซื้อให้พี่ใหญ่
“ปิ่นนี้ราคาเท่าไหร่หรือเจ้าคะ”
“ปิ่นราคา 100 อีแปะ เหรียญอีแปะที่อาอินมีพอจ่ายแน่นอน”
“เอาเจ้าค่ะ ข้าเอาปิ่นอันนี้” หนิงลี่อินหยิบเหรียญอีแปะยื่นให้มีมี่
มีมี่เอาปิ่นไม้ไปใส่กล่องให้หนิงลี่อิน เด็กน้อยหยิบปิ่นไม้มาใส่ไว้ในอกเสื้ออย่างหวงแหน ถึงบ้านแล้วค่อยเอาให้พี่ใหญ่
“ขออภัยที่ต้องให้เจ้ารอนาน”
“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะพี่สาวมี่”
“เจ้าจะตรวจดูผ้าก่อนหรือไม่”
“ไม่เจ้าค่ะ ท่านคิดเงินได้เลย”
“ผ้าฝ้ายเนื้อหยาบแบบบาง 20 พับ ราคาพับละ 40 อีแปะ แบบหนา 10 พับ พับละ 80 อีแปะ ทั้งหมด 1 ตำลึง 600 อีแปะเจ้าค่ะ” หนิงลู่ซือยื่นเงินให้แล้วขอตัวกลับ
“อาอิน หิวหรือไม่ เดี๋ยวพี่ใหญ่ทำมื้อเที่ยงให้กิน ระหว่างนี้เจ้าก็เอาถั่วเขียวในกระสอบมาแช่น้ำก่อน”
“เจ้าค่ะพี่ใหญ่ข้าจะไปทำเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ ต้าเป่า เสี่ยวเป่า ตามพี่สาวมาเร็ว” หนิงลี่อินตักถั่วงอกในกระสอบมาแช่น้ำตามที่พี่ใหญ่สั่ง มีลูกสมุน 2 ตัวตามไปป่วนด้วย
ด้านหนิงลู่ซือกำลังยุ่งจนมือเป็นระวิง นางหุงข้าวก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนกับข้าววันนี้นางจะทำเผื่อตอนเย็นด้วยเลย เมื่อครู่ตอนไปซื้อถั่วเขียวมาเพิ่มนางได้ซื้อผักกะหล่ำปลีจากร้านข้างๆ มาด้วย เช่นนั้นก็ผัดกะหล่ำปลีใส่หมูกับไข่น้ำแล้วกัน
หนิงลู่ซือไม่รอช้ารีบลงมือทำอาหาร หนิงลี่อินที่แช่ถั่วเขียวเสร็จแล้วเดินกลับเข้ามาในครัว เห็นพี่ใหญ่กำลังยุ่ง นางจึงเดินไปนั่งเล่นบนแคร่กับเจ้าตัวเล็ก ไม่ได้เข้าไปเกะกะพี่สาว
ใช้เวลาไม่นานอาหารมื้อเที่ยงก็เป็นอันเสร็จ หนิงลู่ซือยกข้าวสวยร้อนๆ และกับข้าวมาวาง ส่วนหนิงลี่อินก็ช่วยยกจาน ช้อน ตะเกียบ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ลงมือกินข้าว ส่วนอาหารของตัวป่วน 2 ตัว ก็คือข้าวสวยคลุกเนื้อ พวกมันกินอยู่ข้างๆ แคร่นี่เอง
หนิงลู่ซือนั่งกินข้าวไป มองน้องสาวไป อืม เหมือนน้องสาวนางจะมีแก้มนิดๆ ด้วย เห็นแค่นี้นางก็มีความสุขแล้ว การที่ได้กินอิ่ม นอนหลับ ไม่ต้องเครียดเรื่องเงินทอง ที่แม้จะมีไม่มากแต่ก็ไม่ขัดสน แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว
“อะไรหรือ” หลังกินมื้อเที่ยงกันเสร็จ สองพี่น้องก็มานั่งย่อยอยู่ตรงแคร่หน้าบ้าน อยู่ๆ หนิงลี่อินก็ยื่นกล่องไม้มาให้หนิงลู่ซือ
ถึงแม้จะงงว่ามันคือกล่องอะไร แต่นางก็ยื่นมือไปรับแล้วเปิดออก สิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือปิ่นไม้ธรรมดา สลักรูปใบไม้
“อาอินให้พี่ใหญ่เจ้าค่ะ” เด็กน้อยเขินอายจนหน้าแดง หูแดงไปหมดแล้ว
“ให้พี่ใหญ่หรือ”
“เจ้าค่ะ พี่ใหญ่ซื้อของให้ข้าเยอะแล้ว ข้าก็อยากจะซื้อของให้พี่บ้าง แต่วันนี้ได้ค่าทำงานจากพี่ใหญ่ 200 อีแปะ ข้าเลยซื้อได้แค่ปิ่นไม้ แต่ถ้าวันไหนข้ามีเงินเยอะๆ ข้าจะซื้อปิ่นสวยๆ ให้พี่ใหญ่เจ้าค่ะ” เด็กน้อยอธิบายเสียงใส ส่วนพี่ใหญ่อย่างหนิงลู่ซือตอนนี้น้ำตาไหลเป็นสายแล้ว
“ขอบใจมากนะอาอิน” หนิงลู่ซือดึงน้องสาวเข้ามากอด น้ำตาก็ไหลเป็นสายไม่ยอมหยุด
กว่าหนิงลู่ซือจะหยุดร้องก็เกือบจะตาบวมแล้ว นางไม่รอช้ารีบเอาปิ่นปักผมที่น้องสาวให้มาปักทันที ถึงแม้จะเป็นเพียงปิ่นไม้ธรรมดา แต่นางจะใช้มันและรักษามันอย่างดี
ปลื้มปริ่มกับปิ่นเสร็จแล้วก็ต้องทำงานกันต่อ หนิงลู่ซือนำผ้าที่ซื้อมาวันนี้มาตัดเพื่อใช้ในการเพาะปลูกถั่วงอก ส่วนหนิงลี่อินถูกนางไล่ให้ไปนอนกลางวันแล้ว เจ้าตัวป่วน 2 ตัวก็ไม่พลาดที่จะตามเจ้านายตัวน้อยไปนอนกลางวันด้วยเช่นกัน หนิงลู่ซือไม่แน่ใจว่าพวกมันลืมไปแล้วหรือเปล่าว่าพวกมันคือเสือที่เป็นสัตว์นักล่าไม่ใช่หมาหรือแมว
หนิงลู่ซือตั้งใจว่าจะพยายามเพาะถั่วงอกไปขายให้ได้ทุกวัน วันละ 20 ตะกร้าเท่ากับวันนี้ แต่มาคิดดูอีกที มันอาจจะไม่ได้ขายดีทุกวัน นางจึงจะขายวันเว้นวัน หรือขายวันเว้นสองวัน
ระหว่างที่รอถั่วงอกไปขายนางคงไม่ได้เข้าเมือง แต่จะอยู่บ้านปลูกผัก ปลูกสมุนไพร และขึ้นเขาเก็บผิงกั่ว ซานจา มาทำถังหูลู่ โดยจะแบ่งบางส่วนเพื่อขายเป็นผลสด แต่นางตั้งใจว่าขึ้นเขาคราวหน้านางต้องหาสมุนไพรล้ำค่าให้เจอไม่ว่าจะเป็นโสมคน เห็ดหลินจือแดง ถ้านางได้เจอสมุนไพรล้ำค่าแบบนี้ นางจะได้มีต้นทุนในการสร้างบ้านเสียที ทั้งบ้านอยู่กันแค่สองพี่น้องและยังเป็นสตรีย่อมอันตรายอยู่แล้ว อย่างน้อยถ้าได้สร้างบ้านใหม่ รั้วใหม่นางจะได้อุ่นใจขึ้นสักหน่อย แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่านางจะหาเจอหรือไม่
เป็นเวลา 2 วันแล้วที่สองพี่น้องตระกูลหนิงไม่ได้เข้าเมือง พวกนางใช้เวลา 2 วันนี้ ในการปลูกเมล็ดผักที่ซื้อมา หนิงลู่ซือขุดหลุม เป็นหลุมเล็กๆ ให้น้องสาวหยอดเมล็ดลงไป และกลบด้วยดินอีกครั้ง แล้วไหนจะต้องตากต้นชวนซินเลี่ยนอีก ตอนนี้มันเริ่มแห้งแล้ว คิดไว้ว่าถ้าวันนี้ลงจากเขาเร็วจะนำไปขายที่ร้านของเจาเจ๋อ