รักที่บริสุทธิ์

รักที่บริสุทธิ์

book_age16+
378
ติดตาม
1K
อ่าน
จบสุข
โอกาสครั้งที่สอง
คลุมถุงชน
รักอิสระ
คนใช้แรงงาน
หวาน
ชายจีบหญิง
เมือง
มัธยมปลาย
like
intro-logo
คำนิยม

“เราอย่าเจอกันอีกเลยนะ…อบเชย” “แต่เราเป็นแฟนกันนะ….แล้วเธอจะมาบอกเลิกเราในวันวาเลนไทน์เนี่ยน่ะเหรอ?” ทำไมกันนะ….ทำไมไบรท์ต้องขอเลิกกับฉัน ทั้งๆที่ฉันเพิ่งจะรักเขาจนหมดหัวใจเอง ถ้าฉันเลือกได้…วันนั้นฉันขอไม่เจอเขาดีกว่า(นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักใสๆไม่มีเนื้อหาผู้ใหญ่นะคะ)

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่1(เจอกันครั้งแรก)
ย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน… 19:20น. อบเชย อบมณีรัตน์…. “ค่ะ…ไม่เป็นไหร่คะ….เดี๋ยวหนูกลับเเท็กซี่เองก็ได้ค่ะแค่นี้เอง”ฉันบอกปลายสายไปด้วยน้ำเสียงร่าเริงที่แกล้งทำทั้งที่ในใจกลัวจะแย่ ปัสสาวะแทบจะราดแล้ว ถ้าไม่ติดว่าต้องซ้อมรำในวันเปิดงานของโรงเรียนน่ะ ฉันจะไม่มาเดินคนเดียวในเวลามืดค่ำโพล้เพล้แบบนี้แน่ๆอันตรายทั้งคนทั้งสิ่งที่มองไม่เห็น “สวัสดีค่ะคุณพ่อ”ฉันวางสายของคุณพ่อไปและรีบเก็บโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเองลงไปในกระเป๋ากระโปรงนักเรียนสีแดงทันทีเพื่อความปลอดภัยและเอามือจับไปที่กระเป๋าสตางค์ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายนักเรียนสีชมพูพริ้งของตัวเองอย่างระมัดระวังและสอดส่องสายตามองไปรอบๆพลางกระพริบตาปริบๆถนนใหญ่กับโรงเรียนของฉันอยู่ห่างกันแค่ห้าร้อยเมตร แต่ทำไมวันนี้ดูไกลจัง และเวลาเย็นๆแบบนี้จะไม่มีรถแท็กซี่ผ่านมาสักคันเลยจริงๆเหรอ ปกติคุณพ่อท่านจะมารับมาส่งฉันหรือไม่บางทีก็มีคนขับรถมารับมาส่งฉันแต่ช่วงนี้แกลากลับบ้านที่ต่างจังหวัดเพราะภรรยาของแกคลอดลูก ฉันเลยต้องมาเดินคนเดียวเปล่าเปลี่ยวหัวใจแบบนี้ในเวลานี้ ตอนเช้าผู้คนก็พากันเดินหลีกกันไปมามากมาย ซึ่งผิดกับตอนนี้ที่เงียบสนิทมีเพียงเสียงรองเท้านักเรียนของฉันที่ดังเสียดสีกระทบไปกับพื้นปูนซีเมนต์ของถนน ฉันยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาก็พบกับว่าตอนนี้เวลาหนึ่งทุ่มยี่สิบนาที นี่ฉันซ้อมรำนานขนาดนี้ได้ยังไงกัน ซ้อมจนลืมดูเวลา ส่วนคุณพ่อฉันท่านไม่เคยมีเวลาให้ฉันอยู่แล้ว ท่านเป็นถึงผู้บริหารโรงพยาบาลระดับสูงหนิเนอะ เรามีกันอยู่แค่สองคนพ่อลูกไม่สิมีคุณป้าอรทัยอีกคน ซึ่งท่านเป็นพี่สาวของคุณแม่ฉันแต่แม่ของฉันท่านยังไม่ได้จากไปไหนหรอกนะแต่เพียงแค่ท่านทั้งสองหย่ากันตั้งแต่ฉันยังเล็ก คุณพ่อเป็นคนดูแลฉันส่วนคุณแม่ของฉันแต่งงานมีครอบครัวใหม่ไปเมื่อหลายปีก่อน ตุ๊บ ตั๋บ โพล๊ะ “เห้ยไอ้สวะ!!!” “มึงตายแน่วันนี้!!” “ไอ้เชี้ยไบรท์!!” “แน่จริงอย่ารุมดิว่ะตัวต่อตัวเลย!!” ฉันเบิกตาโตกับเสียงที่ได้ยิน เงาตะคุ่มๆที่อยู่ในซอยเปลี่ยวด้านหลังฉันทำให้ฉันหยุดเดินพร้อมกับขาทั้งสองข้างที่สั่นระริกด้วยความกลัว ปัสสาวะกำลังจะราดจริงๆแล้วนะ “มึงอย่าท้าอยู่นะ!!” “กูท้ามึงอยู่!!” เสียงทุ้มๆของเด็กผู้ชายต่างโรงเรียนกับฉันนั้นคือโรงเรียนชายล้วนฝั่งตรงข้ามกับฉันที่วันๆไม่ทำอะไรนอกจากยกพวกตีกันกับโรงเรียนที่อยู่ถัดไปอีกสองซอย แต่วันนี้เสียงนั้นไม่น่าจะยกพวกมาเป็นสิบคนยี่สิบคนเหมือนเช่นทุกวัน ตุ๊บๆๆๆๆๆๆๆตั่บๆๆๆๆๆ พรึบๆๆๆๆๆๆ “ว๊าย!”ฉันเกือบจะเอามือปิดปากตัวเองแทบไม่ทันเกือบจะร้องเสียงดังให้เด็กนักเลงพวกนั้นได้ยินแล้วไหมล่ะ “มันตายเปล่าว่ะ..ไอ้โชค?”เสียงที่เต็มไปด้วยความกลัวเอ่ยขึ้นหลังจากที่เสียงรองเท้านักเรียนกระทบกับตัวของมนุษย์เสร็จแล้ว “เรื่องของมันดิ!!”เสียงสะใจเอ่ยขึ้น “ถ้ามันตายเราจะไม่ติดคุกเหรอว่ะ?” “ถ้ากูไม่พูด..มึงไม่พูด…และพวกแม่งไม่พูด…คนที่ตายไปแล้วมันก็ไม่มีสิทธิ์พูด..แล้วใครจะรู้ว่ะไอ้พวกโง่!!”ฉันอ้าปากค้างนั่งยองๆตัวสั่นเทาอยู่ข้างถังขยะเน่าเหม็นได้ยินทุกคำพูดของเด็กพวกนั้น โลกมนุษย์น่ากลัวจริงๆอย่างที่คุณพ่อบอกไว้จริงๆด้วย แล้วที่นี้ฉันจะทำยังไงล่ะ เพราะฉันรู้… “แล้วเอาไงต่อกับศพมัน?” “เอาไว้แถวนี้แหละทำทีเป็นมันโดนรุมกระทืบตายเพราะมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของมันอยู่แล้ว” “แล้วเรื่องจะไม่มาตกถึงเราเหรอว่ะ?”เสียงร้อนรนใจเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ฉันกระพริบตาปริบๆพลางชะเง้อคอมองไปที่เงาตะคุ่มๆสี่ถึงห้าเงานั้นด้วยความกลัว นี่ฉันจะมาเป็นพยานปากเอกรู้เห็นการฆาตกรรมกันเหรอเนี่ย นั้นคนทั้งคนเลยนะไม่ใช่มดน่ะ ฉันควรจะทำยังไงดี คิดสิคิดสิ อบเชย!!! “ช่างแม่ง!!” “ไปก่อนที่จะมีคนมาเห็น!!”และพอสิ้นเสียงคนพวกนั้นก็พากันวิ่งหายกลับเข้าไปในซอยเปลี่ยวด้านหลัง ซึ่งทางนั้นเป็นทางเชื่อมไปถึงซอยอื่นๆได้ พรึบบบบๆๆๆ “คนทั้งคนนะอบเธอจะไม่ช่วยเขาจริงๆเหรอ?” “และถ้าเขาเป็นคนไม่ดีฆ่าฉันหมกป่าล่ะจะทำไงดี?”ฉันยืนกระวนกระวายถกเถียงกับจิตใต้สำนึกของตัวเองอย่างขมักเขม่น ฉันเดินวนไปวนมาจะเดินไปหาร่างของคนที่นอนอยู่ข้างถนนก็ไม่กล้าเพราะกลัวว่าเขาจะหาว่าฉันเป็นคนฆ่าเขาและรู้เห็นการตายของเขาแต่ไม่ทำอะไร กลัวเขาตามมาหลอก “โอ้ย!” “อื้ออ” “สะเสียงผี”ฉันเบิกตาโตๆของตัวเองพลางร้องเสียงหลงน้ำตาไหลรินด้วยความกลัว จะวิ่งก็วิ่งไม่ได้เพราะขาเจ้ากรรมไม่ยอมทำตามคำสั่งการของสมอง “ช่ะช่วย” “ด้วย…”เสียงแหบพร่าเอ่ยร้องเสียงแผ่วเบาลอยตามลมมา นั้นยิ่งทำให้ฉันขนลุกซู่ยืนหลับตาปี๋ด้วยความกลัว เพิ่งตายทำไมวิญญาณเฮี้ยนจัง หรือเป็นเพราะว่าเขาตายไม่ดี ตายโดยการไม่ได้รับความยุติธรรม? “อย่ามาหลอกมาหลอนฉันเลยนะคะ…พรุ่งนี้ฉันจะทำบุญอุทิศบุญกุศลไปให้คุณนะคะ”ฉันพนมมือไหว้พูดบอกไปเสียงสั่นๆ “ฉันยังไม่ตาย!!”เสียงทุ้มหนักที่เต็มไปด้วยความแข็งกร้าวเอ่ยดังตวาดกลับมานั้นยิ่งทำให้ฉันสะดุ้งสุดตัวเพราะกลัว “มาช่วยหน่อยดิ!” “แล้วทำไมฉันต้องช่วย?”ฉันถามเขากลับไปอย่างไม่เข้าใจ ใช่ทำไมฉันต้องช่วยไม่ได้รู้จักกันซะหน่อยหนิ “ฉันลุกขึ้นไม่ไหว..ช่วยหน่อยไม่ได้รึไงว่ะ!” “ใจร้ายชะมัด!!”เสียงบ่นงึมงำๆจากในเงามืดทำให้ฉันค่อยๆเดินขาชิดก้าวชิดก้าวอย่างช้าๆไปดูร่างที่นอนหงายแพล่หลาอยู่บนพื้นดิน “แปปนะ”ฉันบอกเขาพลางสอดส่องสายตามองหากิ่งไม้ยาวๆที่พอแข็งแรง “อ่ะเจอแล้ว^_^”ฉันว่าอย่างดีใจและเดินไปหยิบกิ่งไม้ขึ้นมาถือไว้และเดินกลับไปหาผู้ชายเสียงดุคนนั้น พรึบ “อ่ะจับสิ”ฉันว่าพลางยื่นกิ่งไม้ไปตรงหน้าเขา ฉันไม่เห็นหน้าตาเขาหรอกน่ะเพราะว่ามันมืด พรึบ “โอ้ย!” “เป็นอะไรอ่ะ?” “เสี้ยนตำ”เขาว่าเสียงดังและเสียงหลง ฉันก็ยิ้มแหยๆ พรึบ “ไหวไหม?”ฉันเอ่ยถามเขาไปทันทีที่ร่างของเขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงถึงเขาจะงอๆตัวก็เถอะ แต่เขาสูงมากเลยนะ สูงกว่าฉันอีกหัวของฉันแค่ไหล่เขาเอง “ขอบใจ”เขาหันมาขอบคุณ ฉันก็ยิ้มและขยับตัวออกห่างจากเขาหลายเมตร “ไม่เป็นไรเลย^_^” “เหอะ!ถ้าไม่ขอให้ช่วยเธอก็คงไม่ช่วย” “ก็…”ฉันกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่ร่างสูงนั้นก็ไม่สนใจฉัน เดินนำหน้าฉันไปเขาเดินกะเผลกมือก็กุมท้องตัวเองไว้ฉันจึงเดินตามแผ่นหลังของเขาและเว้นระยะห่างมาอย่างเงียบๆจนเราเดินมาถึงหน้าปากซอยมีแสงสว่างจากหลอดไฟตามทาง ฉันจึงเห็นว่าเขาใส่ชุดนักเรียนโรงเรียนมัธยมชายล้วนฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนฉันนั้นเองเพราะฉันจำสีกางเกงได้ สีน้ำเงินเข้มเสื้อนักเรียนสีขาวชายเสื้อหลุดออกจากกางเกงถุงน่องไม่ใส่ผิดกฏโรงเรียนหนิหน่า “กลับไงอ่ะ?”เขาหันมาถามฉันทำให้ฉันมองเห็นใบหน้าของเขา ใบหน้ารูปไข่จมูกโด่งเป็นสันริมฝีปากหยักสีชมพูแต่ตอนนี้มันบวมช้ำและมีเลือดออกหางคิ้วของเขาก็มีเลือดออกเช่นกัน เลือดสีแดงสดไหลเปรอะเปื้อนเสื้อของเขาที่จะเป็นสีขาวก็ไม่ใช่สีครีมก็ไม่เชิงแต่ที่เห็นชัดคือรอยรองเท้านักเรียนที่ประทับเด่นหราอยู่ที่หน้าอกของเสื้อนักเรียนนั้นทำให้ฉันนึกสงสารเขาขึ้นมา เด็กผู้ชายน่ากลัวจังต้องเจ็บตัวทุกวันเลยเหรอ “มองอะไรยัยคุณหนู!!”เสียงตวาดจากเขาทำให้ฉันสะดุ้งเผลอถอยหลังหนีเขาอย่างไวทำให้เขาชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ฉัน “จะกลัวทำไมว่ะคนโว้ย!ไม่ใช่ผี!!”เขาเดินดุ่มๆเข้ามาหาฉันจนร่างของเราทั้งคู่ใกล้กันเขาก้มใบหน้าหล่อมาตรงหน้าฉันฉันกระพริบตาปริบๆมองเขาผิดกับเขาที่มองหน้าฉันนิ่งไม่กระดุกกระดิกเหมือนกับเขาตกใจอะไรสักอย่าง “น่ารัก” “อะอะไรนะ?”ฉันขมวดคิ้วถามเขาไปอย่างสงสัยเพราะฉันได้ยินเขาพึมพำอะไรสักอย่างออกมา คำว่าน่ารักเหรอ? พรึบ “กลับบ้านยังไง!”ฉันงงกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของเขาจริงๆนะเมื่อกี้ก็ดีเดี๋ยวก็ดุอะไรกันแน่งงมาก เขาขยับตัวไปยืนตรงเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงขาสั้นนักเรียนของเขาพลางยกยิ้มที่มุมปากขึ้นและทำท่าเสยผมทรงรองทรงของนักเรียนที่ไม่ค่อยจะถูกระเบียบเท่าไหร่เพราะผมหน้ายาวเกิน “ทะแท็กซี่”ฉันตอบเขาไปเสียงสั่นเครือ “บ้านอยู่ไหน?” “ชื่ออะไร?” “เรียนอยู่ม.ไหน?” “ครูประจำชั้นชื่ออะไร?” “เรียนตึกไหน?” “ชอบผู้ชายแบบไหน?” “มีแฟนยัง?” ฉันอ้าปากค้างกระพริบตาถี่รัวกับคำถามของชายคนนี้ ที่ถามรัวมาเป็นชุดจนฉันแทบจะจำไม่ได้และไม่รู้จะตอบอะไรก่อนดี “เราชื่อไบรท์นะ” “เรียนอยู่ม.สี่ที่จริงอยู่ม.ห้าแหละแต่ครูไม่ชอบขี้หน้าเลยทำให้ซ้ำชั้น” “ห้องครูไพศาล” “ตึกเอ” “ชอบผู้หญิงแบบเธอ..เอ้ย!ผู้หญิงน่ารักอ่ะตาโตๆแก้มป่องๆปากชมพูผิวขาว” “ไม่มีแฟน…โสดสนิท” “อ๋อแล้วก็บ้านอยู่ในตัวตลาดถัดจากซอยนี้ไปสามซอยก็ถึงบ้านเราล่ะ”ฉันกระพริบตาถี่รัวกับคำแนะนำตัวของเขา ไบรท์เหรอ เพื่อนรุ่นพี่สินะ “ทำไมเราไม่เคยเห็นเธอเลยอ่ะ?”เขาถามฉันขึ้นมาคำพูดที่แผ่วเบามือที่ล้วงอยู่ในกระเป๋าของเขาและท่าทางที่ยืนทำท่าเก๊กหล่อแบบนั้นคืออะไร? “เห้ย!จะไปไหนอ่ะ!”ไบรท์เรียกฉันเสียงหลงหลังจากที่ฉันวิ่งหนีเขามาและโบกมือเรียกแท็กซี่คันที่เปิดไฟว่างอยู่ โชคดีจัง “เธอยังไม่ตอบเราเลยนะว่าชื่ออะไรอ่ะ.” “มีแฟนยัง!”เขาตะโกนไล่หลังฉันมา ฉันไม่รอช้ารีบเปิดประตูแท็กซี่และขึ้นมานั่งพร้อมกับกดล็อคประตูทันทีก่อนที่ร่างของไบรท์จะวิ่งมาถึง ตุ๊บๆๆๆ “เปิดประตูลงมาคุยกับเราก่อน!” “เธอ!!” “ไปเลยค่ะคุณลุง”ฉันหันหน้าหนีดวงตาคู่คมกริบของไบรท์หันไปเอ่ยบอกคุณลุงคนขับรถแท็กซี่อย่างร้อนรนใจ เขาก็พยักหน้าและเคลื่อนล้อรถออกมาจากตรงนั้นอย่างช้าๆเพราะกลัวว่าไบรท์จะได้รับอันตรายฉันรีบยกมือขึ้นมาปิดหูตัวเองพร้อมหลับตาปี๋ไม่มองไม่ให้ได้ยินเสียงจากไบรท์ ผู้ชายอะไรน่ากลัวจัง “งอนกันเหรอหนู?” “งอนเหรอคะ?” “ก็เด็กผู้ชายคนนั้นแฟนหนูไม่ใช่เหรอ?” “ไม่ใช่ค่ะคุณลุงเพิ่งเจอกันเมื่อกี้นี่เอง” “ฮ่าๆๆเด็กวัยรุ่นสมัยนี้^_^”คุณลุงหัวเราะชอบใจใหญ่ ฉันจะไม่ซ้อมรำจนกลับมืดแบบนี้อีกเด็ดขาด!

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.9K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
40.1K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.2K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
7.1K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
15.0K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook