บุรุษต้องสาป(1)

2038 คำ
“ท่านพี่ลั่วจินเป็นคนแคว้นหนานอย่างนั้นหรือขอรับ แล้วทำไมถึงได้เข้ามาอยู่ในป่าลึกเช่นนี้เล่า” ซุนหวางเอ่ยถามหลังจากที่พวกเขาทำความรู้จักกันมามากพอแล้ว เหมือนโชคชะตาที่พาให้เขาทั้งสองได้มาพบเจอ ซุนหวางคิดอย่างนั้นจริง ๆ ก็ไหนเขาว่าบุรุษต้องสาปในรอบร้อยปีหรือพันปีจะมีแค่หนึ่งคนอย่างไรล่ะ แต่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่ามีถึงสองคน “เรียกพี่จินกับพี่ตงก็พอแล้ว พวกเรามาจากแคว้นหนานจริง หุบเขาเจียงซานและหนานซานก็คือหุบเขาเดียวกันเจ้าไม่รู้หรือ ตัวข้าก็เป็นอย่างที่เจ้าเห็น การที่จะใช้ชีวิตปกติมันค่อนข้างจะลำบากเพราะต้องคอยปกปิดความผิดปกติของตัวเองตลอดทุก ๆ เดือน มีแค่สามีและก็บุตรชายของข้าเท่านั้นที่รู้ ข้ารู้สึกแปลกใจที่เจ้าสามารถปรุงยาแก้ปวดรอบเดือนได้ เจ้าเก่งมากรู้ไหม ข้าน่ะเป็นแบบนี้มานับสิบปีแล้ว จะสบายหน่อยก็ตอนที่ท้องเสี่ยวจุ้น เพราะไม่ต้องทนปวดรอบเดือนถึงสิบเดือนเชียวนะ” “ทะ..ท้องหรือขอรับ เสี่ยวจุ้นคือลูกของพี่จินหรือขอรับ” ซุนหวางตกใจเป็นอย่างมากเมื่อได้ยินสิ่งที่ลั่วจินกล่าวมา เป็นไปได้อย่างไรหากพี่จินท้องได้แล้วตัวเขาล่ะจะท้องได้หรือไม่ ซุนหวาง เริ่มคิดถึงตัวเองขึ้นมาบ้างหากว่าเขาท้องได้จริง ๆ เขาก็ไม่ควรที่จะยุ่งเกี่ยวกับบุรุษและก็ไม่ควรที่จะรักกับบุรุษ หรือแม้แต่กับสตรีก็คงไม่ได้เช่นกัน บุรุษต้องสาปคือสิ่งนี้เองนะหรือ..คือบุรุษที่ท้องได้อย่างนั้นหรือ “เอ๋..ข้านึกว่าเจ้ารู้แล้วเสียอีก” “ข้านึกว่าพวกท่านรับเสี่ยวจุ้นมาเลี้ยง” “แต่ก่อนข้าไม่รู้ว่าตัวเองท้องได้ เราก็ยังใช้ชีวิตเป็นปกติอยู่ที่แคว้นหนาน จนวันหนึ่งอาการของข้ามันแสดงออกมาเหมือนคนท้องไม่มีผิด พี่ตงจึงได้ตรวจสอบดูจนมั่นใจว่าข้าท้องจริง ๆ พวกเราก็เลยย้ายเข้ามาอยู่ในหุบเขานี่ หลบลี้หนีภัยจากเมืองหลวงออกมาให้ห่างไกลจากผู้คนที่อาจจะเป็นอันตรายต่อเรา ไม่รู้ว่าพวกเขาจะคิดเช่นไรหากรู้ว่ามีบุรุษท้องได้จริง ๆ ข้ากลัวมากรู้ไหม ยังดีที่มีพี่ตงคอยอยู่เคียงข้าง เขาดีใจด้วยซ้ำที่เรามีบุตรด้วยกันได้ เสี่ยวจุ้นก็เป็นพี่ตงที่ทำคลอดด้วยมือของเขาเอง” “อย่างไรขอรับ” “ผ่าคลอด เขาเป็นหมอที่เก่งมากเลยเจ้าว่าไหม กว่าจะทำได้ขนาดนี้เราสูญเสียกระต่ายไปไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัวเพียงเพราะหาวิธีผ่าคลอดให้ข้า เจ้ายังสงสัยอะไรอีกหรือไม่” “ไม่แล้วขอรับพี่จิน ท่านโชคดีที่พี่หนานตงรักท่านขนาดนี้” ซุนหวางกล่าว..แต่ในขณะเดียวกันใบหน้าของแม่ทัพชิวหานก็ลอยเข้ามาในห้วงของความคิด หากคนผู้นั้นรับรู้ในสิ่งที่เขาเป็นผลจะออกมาเป็นเช่นไรนะ เขาจะดีใจหรือรังเกียจกันแน่แล้วเขาจะเป็นอย่างพี่หนานตงหรือไม่ “ซุนหวางคิดสิ่งใดอยู่หรือ ข้าเห็นเจ้าเงียบไป” “พี่จิน ท่านคิดเห็นสิ่งใดเกี่ยวกับบุรุษต้องสาปหรือขอรับ” “หากเป็นดังเช่นที่ผู้คนเล่าลือ มันก็คือตัวข้านี่แหละที่เป็นบุรุษต้องสาป แต่ตอนนี้ข้าไม่ได้สนใจหรือเป็นทุกข์กับมันเท่าใดนัก เพราะข้ามีทั้งสามีและลูกที่ทั้งรักและคอยเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา มันไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวอีกแล้ว” “ข้าดีใจที่ท่านไม่เป็นทุกข์กับมัน” ก็คงมีแต่เขาเท่านั้นที่ไม่อาจจะรู้ได้ว่าวันข้างหน้าจะต้องเจอกับสิ่งใดบ้าง ตั้งแต่รู้จักกับท่านแม่ทัพมา เขาก็กลัวเหลือเกินกลัวว่าความประหลาดผิดแปลกไปจากผู้คนจะถูกจับได้สักวัน และโดนคนผู้นั้นรังเกียจ “ขอบใจนะซุนหวาง..ข้าว่าพวกเขาทำกับข้าวนานเกินไปหรือไม่ หรือว่าเพิ่งจะออกไปล่าสัตว์กัน” ลั่วจินสังเกตเห็นแววตาที่เป็นทุกข์ของซุนหวางทั้งอยากจะถามถึงสาเหตุแต่ก็ไม่กล้า เขาจึงได้เปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อจะทำให้ซุนหวางได้ยิ้มบ้าง ตั้งแต่นั่งสนทนากันมาเขายังไม่เห็นรอยยิ้มของหนุ่มน้อยคนนี้เลย เป็นทุกข์กับสิ่งใดอยู่นะทำไมถึงไม่ยอมเล่าให้ฟังบ้าง “คิก ๆ นั่นน่ะสิขอรับหายไปทั้งสามคนเลย” คำพูดของลั่วจิน ได้ดึงให้ซุนหวางออกมาจากความคิดที่มัวหมองได้ไม่น้อย แม้จะไม่ทั้งหมดแต่บรรยากาศรอบตัวก็เริ่มจะดีขึ้นมาบ้าง “รอนานหรือไม่ ข้าหวังว่าพวกเจ้าคงจะไม่หิวจนเกินไป” หนานตงถามภรรยาและซุนหวาง ดูเหมือนทั้งสองคนจะสนทนากันถูกคอทีเดียว นานจนลืมไปแล้วที่เขาไม่เห็นภรรยากล้าที่จะคุยกับผู้อื่นเช่นนี้ “ท่านแม่พี่เสี่ยวฟงทำอาหารได้อร่อยมากเลยขอรับ” “อร่อยกว่าแม่ทำอีกหรือ เจ้าตะกละน้อย” “โอ้ว..ท่านแม่ก็ทำอร่อยขอรับ เพียงแต่พี่เสี่ยวฟงทำอร่อยยิ่งกว่า.. พี่ซุนหวางกับพี่เสี่ยวฟงมาหาข้าบ่อย ๆ ได้ไหมขอรับ” “เสี่ยวจุ้น พี่ชายทั้งสองคงไม่ว่างเช่นเจ้าจะให้มาบ่อย ๆ ได้อย่างไรกัน” หนานตงปรามบุตรชาย เขารู้ว่าบุตรชายคงจะเหงาที่ไม่มีเพื่อนเล่น แต่พวกเขายังไม่พร้อมที่จะพาเสี่ยวจุ้นออกไปจากหุบเขาแห่งนี้ “ไม่เป็นไรขอรับ พวกเรามาได้บ่อย ๆ แน่นอน อีกอย่างข้าเห็นสมุนไพรของพี่หนานตงเยอะแยะไปหมด ข้าอยากจะซื้อทุกชนิดที่ท่านมี ขายให้ข้าได้หรือไม่ขอรับ” “ซุนหวางเจ้าพูดจริง ๆ หรือ เราปลูกสมุนไพรเพื่อขายอยู่แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ แล้วเจ้าต้องการสมุนไพรไปทำไมเยอะแยะ” ลั่วจินเป็นคนตอบและถามแทนสามี “ข้าแค่นำไปทดลองปรุงยาขอรับ” “เชื่อข้าหรือไม่ ต่อไปในภายภาคหน้าเจ้าจะต้องเป็นนักปรุงยาที่เก่งกาจอย่างแน่นอน ดูจากยาที่เจ้าปรุงให้อาจินนั่นสิ ข้าก็เพียรทดลองมานับสิบปีก็ล้มเหลวตลอดเลย ข้ายินดีจะขายสมุนไพรให้ เจ้ายังไม่เห็นห้องเก็บสมุนไพรของข้าสินะไปดูก่อนไหม อยากได้มากน้อยเพียงใดก็ค่อยมาบอก” หนานตงพูดคุยกับซุนหวางอย่างออกรสเมื่อได้ยินหนุ่มหน้อยพูดถึงเรื่องสมุนไพร “เอาเป็นวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ตอนนี้สมควรแก่เวลากินข้าวและพักผ่อนแล้ว” ลั่วจินบอกกับสามีและซุนหวาง “ขอบคุณพี่ชายทั้งสองมาก ๆ ขอรับ ที่เอื้อเฟื้อที่หลับที่นอนให้กับเราสองคน” “พวกเจ้าอย่าได้เกรงอกเกรงใจไปเลย ข้ารู้สึกถูกชะตากับพวกเจ้าสองคนเหลือเกิน ตอนนี้ข้าอยากนับพวกเจ้าเป็นน้องชายของข้าด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะคิดเห็นเช่นไรหากว่ามีพี่ชายเป็นตัวประหลาดเช่นข้า” ซุนหวางและเสี่ยวฟงมองหน้ากันอย่างไม่เชื่อว่าจะมีคนอยากได้พวกเขาเข้าร่วมเป็นพี่เป็นน้อง “เราสองคนยินดีที่จะเป็นน้องของพี่จินขอรับ” ซุนหวางเป็นคนตอบ หากขอความคิดเห็นจากเสี่ยวฟงรายนั้นก็คงจะปฏิเสธเช่นเคย ไม่ใช่ว่าซุนหวางจะไม่เคยขอร้องให้เสี่ยวฟงเป็นน้องชาย แต่เสี่ยวฟงต่างหากที่ไม่ยินยอม คราวนี้เขาจะไม่ให้เสี่ยวฟงปฏิเสธได้เป็นอันขาด “พี่ตงข้าขอน้ำชา ข้าจะรับทั้งสองเป็นน้องของข้า ต่อไปพวกเจ้าต้องเรียกข้าว่าพี่ใหญ่ แล้วเสี่ยวฟงกับซุนหวางใครควรจะเป็นพี่รองดีล่ะ” “ข้าขอรับ ข้าอายุมากกว่าเสี่ยวฟงสองเดือนขอรับ คิก ๆ เสี่ยวฟงต่อไปเจ้าจะต้องเรียกข้าว่าพี่รองแล้วเข้าใจไหม ไม่มีบ่าวไม่มีนายอีกต่อไป เจ้าคงจะไม่ปฏิเสธความเป็นพี่น้องกับข้าและพี่จินใช่หรือไม่” “คุณชาย..จะดีหรือขอรับ คือข้า...” “ทำไมจะไม่ดี เจ้าจะขัดพี่กับพี่ใหญ่หรือเสี่ยวฟง” ซุนหวางได้ทีก็ไล่ต้อนจนเสี่ยวฟงคิดหาคำปฏิเสธไม่ได้เลย “อ่าา..ขัดไม่ได้สินะขอรับ” “ไม่ใช่ขัดไม่ได้ แต่ไม่ควรขัดต่างหาก ในเมื่อพวกเจ้าก็ไม่ได้มีพี่น้องที่ใดอีก ก็เหมือนกับข้าที่ไม่มีพี่น้องเช่นกัน พวกเจ้าอยากเปลี่ยนมาใช้แซ่ลั่วกับข้าหรือไม่ ข้าจะไม่บังคับแต่ข้ายินดียิ่งที่จะมีเจ้าสองคนมาใช้แซ่เดียวกัน” “ข้า..ใช้แซ่ลั่วได้หรือขอรับ” ซุนหวางถาม เพราะไม่เชื่อว่าจะมีคนให้ผู้อื่นใช้ชื่อแซ่ของตนเองง่ายดายเพียงนี้ “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ซุนหวางก็เป็นลั่วซุนหวางก็แล้วกันนะ เสี่ยวเสี่ยวฟงก็เป็น ลั่วฟง พวกเจ้าชอบหรือไม่ ส่วนเรื่องเพิ่มเจ้าสองคนเข้ามาเป็นคนสกุลลั่ว พี่ตงจะเป็นคนจัดการให้ทั้งหมด พวกเจ้าสองคนเห็นว่าอย่างไร ไม่ต้องเป็นกังวลตอนนี้สกุลลั่วก็เหลือแค่ข้าเพียงคนเดียว เป็นสกุลของฝั่งท่านตาน่ะแต่ตอนนี้จะมีเราสามพี่น้องลั่วแล้ว จำเอาไว้หากพวกเจ้ามีปัญหาอะไรต้องคิดถึงพี่ใหญ่เป็นคนแรกแล้วก็พี่ตงด้วย เข้าใจหรือไม่ซุนหวาง เสี่ยวฟง” “ขอรับพี่ใหญ่” ซุนหวาง/เสี่ยวฟง ตอบรับพร้อมกัน “แล้วข้าล่ะขอรับท่านแม่ ข้าจะมีพี่ชายหรือไม่ขอรับ” “เสี่ยวจุ้นก็มีท่านน้าถึงสองคนไม่ดีหรือ เดี๋ยวพ่อจะขอให้แม่มีน้องให้เจ้าแทนพี่ชายดีไหม” “โอ้..ข้าอยากมีน้อง ท่านแม่มีน้องให้ข้าด้วยนะขอรับ” “หึ ๆ แน่นอนเสี่ยวจุ้นต้องมีน้องในเร็ววันนี้แน่นอน พ่อจะช่วยแม่ของเจ้าทำน้องให้อีกแรงดีหรือไม่เสี่ยวจุ้น วันนี้เจ้าจะได้นอนบนบ้านต้นไม้สมใจแล้ว พาท่านน้าทั้งสองไปนอนด้วยพ่ออนุญาต” “ท่านพ่อพูดจริงนะขอรับ ข้าจะได้นอนบนบ้านต้นไม้แล้ว ท่านน้าไปกันเถอะขอรับ” เสี่ยวจุ้นกระตือรือร้นเป็นอย่างมากที่จะพาท่านน้าทั้งสองไปนอนบนบ้านต้นไม้ เพาะแต่ก่อนมารดาของเขาไม่เคยอนุญาตให้ไปนอนที่นั่นคนเดียวเลย คงจะเป็นห่วงที่เขานั้นยังเด็กเกินไป แต่วันนี้ท่านพ่ออนุญาตแล้วเสี่ยวจุ้นจึงไม่รอช้า เพราะกลัวว่าบิดาจะเปลี่ยนใจ “หลับฝันดีนะขอรับท่านพี่ทั้งสอง คืนนี้ข้าจะดูแลเสี่ยวจุ้นให้เอง” ซุนหวางกล่าวลาและพาน้องชายกับหลานชายหมาด ๆ ไปยังบ้านต้นไม้อย่างรู้งาน “อาจินพวกเขาไปแล้ว เจ้าคงจะไม่มีข้ออ้างอีกแล้วนะ ข้าอยากได้ลูกสาว มีให้ข้าอีกสักคนเถิดนะ จินจิน” “ท่านพี่จะรีบร้อนไปไยขอรับ เสี่ยวจุ้นก็ยังเด็กอยู่เลยและอีกอย่างท่านลืมแล้วหรือว่าข้ามีรอบเดือนอยู่” “อ้อ..พี่ลืมไปจริง ๆ นั่นแหละ เห็นว่าเจ้าไม่มีอาการปวดท้องก็เลยหลงลืมไป”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม