ผี

1714 คำ
“ป้าดามีอะไรหรือเปล่า” ณลินเอ่ยทักทายผู้สูงวัยอย่างสุดาที่กำลังเดินเข้ามาภายในบ้านพักหลังเล็กของเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและเป็นมิตร เพราะสุดาเป็นคนที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เธอยังแบเบาะ ทำให้เธอรักและเชื่อใจสุดามากกว่าใครๆในบริเวณรั้วบ้านใหญ่นี้ “คุณหญิงให้มาเชิญคุณหนูไปทานข้าวเย็นค่ะ” สุดาเดินเข้ามานั่งตรงริมระเบียงบ้านเพื่อพักเหนื่อยที่ต้องเดินมาไกลๆ พร้อมกับเอ่ยบอกสาเหตุที่ทำให้เธอต้องลากสังขารที่กำลังร่วงโรยมาถึงที่นี้ให้เจ้าของบ้านหลังน้อยอย่างณลินได้ฟัง “คุณยายท่านมีแขกมาทานข้าวด้วยแล้วจะเชิญณิไปทำไม” ร่างบางในชุดคลุมตัวยาวเพื่อเตรียมตัวจะไปอาบน้ำเดินมาหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามกับแม่นมของเธอ สายตาหวานที่ยังมีเครื่องสำอางแต่งแต้มอยู่อย่างหนาแน่นเพราะเพิ่งจะเลิกงานมามองไปยังสุดาแม่นมของเธอด้วยความสงสัย คุณหญิงยายของเธอจะมาเชิญเธอไปทำให้ท่านขายหน้าต่อแขกทำไมกัน “ป้าก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ” สุดาส่ายหน้าเบาๆอย่างคนไม่รู้ เธอมาที่นี้ก็เพราะคำสั่งของเจ้านาย ไม่ได้กล้าถามอะไรมากมายนัก นอกจากขานรับคำสั่งแล้วรีบทำตามเท่านั้น “ณิไม่ไปดีกว่าค่ะ วันนี้ทำงานมาเหนื่อยมากพอแล้ว อยากจะพักผ่อน” ร่างบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวโปรดที่มักจะออกมานั่งรับลมในตอนเช้าตรงนี้บ่อยๆ แล้วเดินออกไปจากตรงนั้นเพื่อเตรียมตัวจะเข้าบ้านไปอาบน้ำพักผ่อนให้หายเหนื่อย วันนี้เธอมีถ่ายแบบตั้งแต่เช้าและตามด้วยงานเดินแบบอีกงาน ทำเอาเธอไม่อยากคิดจะทำอะไรนอกจากอยากนอนพัก ทั้งที่ถ้าในเวลาปกติถ้าคุณหญิงยายของเธอมาเชิญเธอแบบนี้ เธอไปลุยถึงบ้านท่านอย่างไม่รีรอแน่นอน “คุณหนู” สุดาเรียกหญิงสาวเบาๆเพื่อเป็นการขอร้องให้หญิงสาวคิดดูเสียใหม่ เพราะการขัดคำสั่งของคุณหญิงไขศรีไม่ใช่เรื่องดีอะไรนัก มีแต่จะพาลให้ผู้ใหญ่ไม่พอใจ “บอกคุณยายท่านว่าวันนี้ณิไม่พร้อมสู้รบปรบมือด้วยนะคะ ขอเป็นวันอื่น” ณลินโบกมือบ๊ายบายป้าสุดาของเธอแล้วก็เดินกลับเข้าบ้านไป ไม่ได้หันมาสนใจอะไรอีกเพราะวันนี้เธอเหนื่อยจริง สุดาเดินกลับไปบ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง เธอไม่สามารถพาหญิงสาวกลับไปด้วยได้ และเธอก็ไม่กล้าที่จะไปบังคับให้หญิงสาวยอมมากับเธอได้ เพราะตั้งแต่หญิงสาวโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ก็ไม่เคยเชื่อฟังคำพูดของคนแก่อย่างเธออีกเลย “ไปตามมาให้ได้” คุณหญิงไขศรีหันไปตวาดสุดาแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของเธอเบาๆต่อหน้าแขกที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารอยู่กับเธอ พร้อมส่งสายตาพิฆาตมองออกไปเพราะเธอต้องการตัวผู้เป็นหลานสาวเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่คำพูดบอกปฏิเสธว่าไม่อยากมา “เดี๋ยวอิ้งไปตามให้นะคะ” วาสิตาที่คอยนั่งดูแลคุณยายอยู่ใกล้ๆขานอาสาเบาๆเพื่อจะไปตามพี่สาวผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องด้วยตัวเอง เพราะให้คนแก่เดินไปเดินมาอีกเธอเกรงว่าก่อนที่จะตามตัวพี่สาวของเธอได้ คงมีคนเป็นลมก่อนแน่ๆ “ยายฝากด้วยนะ” พอหลานสาวขันอาสาไขศรีก็พอยิ้มออกมารับแขกได้บ้าง เพราะเริ่มเห็นเค้าลางเห็นความสำเร็จ ด้วยวาสิตาหลานคนนี้ของเธอเป็นเด็กดีมีความเพียรพยายามทำอะไรก็สำเร็จทุกครั้งไป ต่างจากสุดาที่ตามใจเข้าข้างหลานสาวเหลือขอของเธอทุกเรื่อง จนแค่ให้ไปตามตัวมายังทำไม่ได้ “เดี๋ยวผมไปตามเอง” พายัพที่ได้ฟังเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นขันอาสาขึ้นเพื่อตัดรำคาญเพราะเขาอยากจะให้เรื่องทุกอย่างมันเสร็จสิ้นสักที เขาจะได้กลับออกไปจากบ้านที่แสนน่าอึดอัดนี้ อาทิตย์กับศจีที่นั่งอยู่ตรงข้ามผู้เป็นลูกชายส่ายหน้าห้ามปราบเบาๆ เพราะไม่อยากให้ลูกชายเข้าไปยุ่งเรื่องของยายหลานเขา เพราะแค่มาคุยตามนัดก็ถือว่าดีมากพอแล้ว ดีเสียอีกที่เด็กคนนั้นไม่มาเรื่องทุกอย่างจะได้เป็นโมฆะ “พี่หมอนั่งรอตรงนี้ดีกว่าค่ะ” วาสิตาพยายามห้ามปราบชายหนุ่มที่เป็นแขกของบ้านเอาไว้ เพราะคงไม่เหมาะถ้าจะให้แขกไปตามคนในบ้านมาพบ “ไม่เป็นไรครับ” พายัพรีบเดินออกมาจากโต๊ะอาหารทันทีแล้วตรงไปตามทางที่แม่บ้านของบ้านหลังนี้เดินกลับมา ใบหน้าของเขาดูค่อนข้างหงุดหงิดพอสมควรเพราะไม่เคยต้องมารอพบใครนานขนาดนี้มาก่อน ทุกคนที่นั่งอยู่ที่ตรงอาหารเงียบกริบกันหมด ไม่มีแม้แต่จะขยับตัวเพราะต่างฝ่ายก็ต่างไม่พอใจคนของตัวเอง คุณหญิงไขศรีกำลังโมโหหลานสาวของตัวเองที่เล่นตัวราวกับรู้เรื่องว่าจะเกิดอะไรขึ้นจนไม่ยอมมา อาทิตย์กับศจีก็กำลังไม่พอใจที่ลูกเลี้ยงอย่างพายัพไปให้ความสนใจกับหลานสาวของคุณหญิงไขศรีจนออกนอกหน้าแบบนั้น เพราะตามที่ตกลงกันจนพากันมาถึงที่นี้คือจะแค่มาดูลาดเลากันก่อนว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดีกับคนอย่างคุณหญิงไขศรีที่ดูมีพิษสงรอบตัว “รอแป๊บนะคะ” เสียงหวานของณลินตะโกนออกมาจากภายในบ้านพักเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น คงเป็นป้าสุดากลับมาตามเธออีกรอบแน่ๆเพราะคุณหญิงยายของเธอคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ “เร็วหน่อยก็ดี” เสียงของชายหนุ่มที่ไม่ชอบการรอคอยตะโกนตอบกลับเข้าไปภายในบ้าน พร้อมกับถอยหายใจยาวออกมาอย่างดังเพราะไม่พอใจที่นอกจากจะต้องเดินมาตามเองแล้วยังจะต้องมารออีก “คุณเป็นใคร” ณลินรีบหยิบชุดคลุมอาบน้ำที่ถอดออกไปแล้วขึ้นมาใส่อีกครั้งแล้วรีบออกมาเปิดประตูเพื่อมาดูว่าใครมาหาเธอถึงหน้าบ้าน เพราะน้ำเสียงที่ตอบโต้เข้าไปนั้นไม่คุ้นหูมาก่อนเลย และไม่เคยได้ยินที่ไหนมาด้วย “ว่าที่สามีของเธอในอนาคต” คำทักทายแรกหลุดออกจากปากของชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่มีแต่ความไม่พอใจจนเกือบจะกลายเป็นตะคอกใส่หน้าหญิงสาว “เป็นผีน่ะเหรอ” เสียงหวานตอบกลับทันควัน เพราะคนอย่างเธอไม่เคยคิดจะมีสามีอยู่แล้ว ด้วยต้องการจะอยู่ที่นี้ให้นานที่สุด เธอไม่คิดจะไปไหน ไม่คิดจะมีครอบครัวอะไรทั้งนั้น เพื่อให้คนในบ้านนี้อกแตกตายไปตามๆกัน “เธอ” พายัพถึงกับโมโหจนฟิวส์ขาดตะคอกกลับหญิงสาวที่เพิ่งเคยเจอหน้ากันครั้งแรกอย่างดัง ไม่เคยมีใครหน้าไหนมาเรียกเขาแบบนี้มาก่อน ถึงแม้เขาจะเป็นหมอเจอผู้คนมามากมายแต่ก็ไม่เคยเจอคนไร้มารยาทอย่างเธอ “ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว” หญิงสาวยื่นมือไปดึงประตูบ้านเพื่อหวังจะปิดบ้านหนีคนเสียงดัง ที่เจอหน้ากันครั้งแรกก็ตะคอกเธอไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ด้วยเธอคงแรงสู้ผู้ชายหน้าฝรั่งที่หล่อแต่ดุอย่างกับหมาคนนี้ไม่ไหวแน่ๆ “เชิญ” มือหนายื่นเข้าไปกระชากแขนเล็กของหญิงสาวจนตัวเธอปลิ้วออกมาจากภายในบ้าน แล้วเขาก็ฉุดกระชากลากถูกเธอให้เดินกลับไปที่บ้านหลังใหญ่พร้อมกับเขา “นี่ปล่อยฉันนะ คุณเป็นใครเนี้ยมาจับตัวฉันทำไม” หญิงสาวโวยวายเสียงดังที่ถูกจับตัวออกมาจากในบ้านพักของตัวเอง เธอทั้งดิ้นทั้งร้องมาตลอดทางอย่างไม่กลัวว่าชุดที่ใส่อยู่จะหลุดออก “ยายณิเงียบ” ไขศรีส่งเสียงดุหลานสาวของเธอดังพอสมควรเมื่อได้เห็นทั้งเสียงและท่าทางเกินงามของหลานสาวที่ถูกชายหนุ่มลากตัวมา พร้อมกับหยิบยาดมขึ้นมาดมฟืดใหญ่เพื่อดักอาการจะเป็นลมที่ตีตื้นขึ้นมาอยู่บริเวณอกแล้ว “นี่ถึงขั้นจ้างให้คนไปจับตัวหลานสุดที่รักให้มาหาเลยเหรอคะ” ณลินสะบัดแขนของเธออย่างแรงจนหลุดออกจากการจับกุมของชายหนุ่มได้ เธอก็รีบเข้าไปต่อว่าผู้เป็นยายที่วันนี้เล่นใหญ่กับเธอมากราวกับเธอเป็นผู้ร้ายต้องจับตัวมาส่งตำรวจเลยก็ว่าได้ “นั่งลง” ไขศรีพยายามห้ามปราบหลานสาวไม่ให้ออกฤทธิ์ออกเดชมากนักต่อหน้าแขก “เชิญหรือว่าไล่กันคะ” ณลินไม่ได้สนใจคนอื่นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร เธอหันไปตอบกลับผู้เป็นยายอย่างไม่มียอมแพ้ “นั่งลง แล้วนี่แต่งตัวบ้าอะไรของแก” ไขศรีพยุงร่างกายที่ค่อนข้างแก่ชรามากแล้วลุกขึ้นยืนแล้วเข้าไปจับตัวหลานสาวกดให้นั่งลงกับเก้าอี้ พร้อมกับต่อว่าอย่างเหลืออดที่หลานสาวแทบจะแก้ผ้ามารับแขกแบบนั้น “ก็ชุดอยู่บ้านแบบสบายๆไงคะ” หญิงสาวไม่พูดเปล่า ทำท่ายกไม้ยกมือขึ้นไปมัดชุดให้แน่นหน้าเสียใหม่ต่อหน้าผู้เป็นยายอีกด้วย “หยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาทำอะไรอุบาทในบ้านฉัน” คุณหญิงผู้ดีเก่าแก่อย่างไขศรีถึงกับลืมตัวตวาดหลานสาวลั่นบ้านเมื่อทนไม่ได้กับพฤติกรรมต่ำๆของหลานสาวตัวดี “ชู่ว์อย่าเสียงดังสิคะบ้านเรากำลังมีแขกนะคะ” ณลินยกนิ้วขึ้นปิดปากบางของเธอที่ทาด้วยลิปสติกสีแดงสดเอาไว้ เป็นท่าทางบอกให้ผู้เป็นยายเงียบเสียงลง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม