แก้วตาพยักหน้าเห็นด้วย
“สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคืออะไร” วิทวัสหันไปถามแก้วตา
“อะไรหรือคะ”
“ก็อาการที่เราหายใจไง ใครไม่หายใจก็ตายใช่ไหม”
“ค่ะ” แก้วตาพยักหน้างึก ๆ
“ฉะนั้นเพียงแค่เรามีอากาศเอาไว้หายใจก็พอแล้ว”
“มันเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงคะ” แก้วตาสงสัย
“ก็รอให้ผู้ชายคนนั้น เขาเป็นอากาศดี ๆ เมื่อไหร่ เราค่อยขอร้อง และอ้อนวอนให้เขาอยู่กับเรา”
แก้วตาพยักหน้าเข้าใจ
แต่คำพูดของวิทวัสทำให้ขวัญดาวฉุกคิด เขากำลังจะบอกให้เธอไปจากสามีชั่ว ๆ คนนี้
“พี่ไปนะ”
“ขับรถดี ๆ นะคะพี่วิท”
“อื้อ”
“หวัดดีค่ะคุณทนาย” แก้วตาโบกมือให้ แล้วหันมาคุยกับขวัญดาว
“พี่ชายคุณขวัญหล่อ ๆ ค่ะ”
“หล่อแต่ดุนะ”
“เออ... จริงด้วยค่ะ แถวบ้านของแก้วตาเขาเคยพูดกันว่า เจองูกับเจอพวกทนาย ให้ตีทนายก่อน”
“มีด้วยเหรอ”
“มีค่ะ” แล้วแก้วตาก็พูดเจื้อยแจ้ว ทำให้ขวัญดาวไม่มีเวลาคิดถึงลูก และเรื่องที่เกิดขึ้น ป้าวิยะดาส่งคนมาถูกต้องแล้ว
ที่บ้านของคณิตศร
“จะไปไหนคะ” ยศวดีถามเมื่อเห็นว่าคณิตศรแต่งตัวเตรียมออกจากบ้าน ทั้งที่วันนี้เป็นวันหยุด
“ผมจะไปเยี่ยมขวัญที่โรง’บาลหน่อย” เขาไม่เคยยิ้มออกมาได้เลยตั้งแต่วันนั้น
“ทำไมต้องไปด้วยคะ ป่านนี้คงมีคนดูแลดีอยู่แล้วค่ะ เห็นมีคนขับรถหรูป้ายแดงเทียวเข้าเทียวออกบ้านนี้เหมือนเป็นบ้านของตัวเอง ตอนที่คุณนอนซมอยู่ข้างใน”
“ใครล่ะ”
“ฉันไม่รู้จักหรอกค่ะ คุณต้องถามเอากับคุณป้าดา หัวหน้าคนรับใช้ของคุณโน่นน่ะ”
“ป้าดาอนุญาตให้ใครเข้า ๆ ออก ๆ แบบนั้นด้วยหรือ”
“ก็แหงสิคะ วดีเห็นเต็มสองตา ชิ...” ทำเสียงออกจมูก
“พอวดีถามก็พูดจาตอบไม่ดีเลยค่ะ”
คณิตศรถึงกับถอนหายใจ ตอนนี้ในบ้านของเขาระส่ำระสายกันหมดแล้ว
“ช่างเถอะ คุณก็อย่าไปตอแยกับพวกคนใช้ก็แล้วกัน” เขาเตือน
“แต่พวกนั้น”
“เอาละ ๆ ช่างเถอะ หลายวันแล้ว ผมคิดว่า ผมควรจะไปหาขวัญ”
ยศวดีทำหน้าเซ็ง “ในเวลาอย่างนี้นะเหรอคะ นี่ศรขา พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว คุณจะไปทำไม รถราก็เยอะแยะบนถนน ถ้าคุณไปตอนนี้ แล้วคุณจะกลับมาตอนไหน คุณจะปล่อยให้วดีอยู่คนเดียวหรือคะ”
“ให้ผมไปเถอะ มัน...”
“เห็นว่าป้าดาส่งคนไปดูแลเมียคุณแล้วนี่คะ”
“ใครจะไปดูแลก็ช่าง แต่กับผม มันคนละคนกันนะ ขวัญอาจจะ...”
“อาจจะอะไรคะ”
“น้อยใจ”
ยศวดีหน้ามู่ทู่ลงไปอีก
“ระวังเถอะค่ะ จะไปเจอของดีเข้า”
“ของดีอะไรอีกล่ะ”
“ก็คนเฝ้าไข้ตัวจริงของเมียคุณยังไงล่ะคะ ได้ข่าวว่า... หล่อล้ำกล้ามใหญ่ นี่... คุณศร คุณรู้หรือว่าแกล้งไม่รู้ว่าวดีกำลังเอ่ยถึงใคร”
“ทนายวิทวัสนะหรือ”
“ก็ใช่นะสิคะ คนรักกันชอบกันเข้าโรง’บาลอย่างนั้น เขาก็คงแล่นไปทำคะแนนแล้วมั้ง คุณน่ะอย่าไปโง่ค่ะ ฉันว่า เมียคุณก็แค่ออเซาะไป เมียคุณเก่งเรื่องออเซาะเหมือนกันนะคะ ยายแก้วตามาเล่าอยู่ค่ะ หน้าระรื่นทีเดียว เวลาที่เมียคุณอยู่กับทนายนั่น” ยศวดีหลอกถามแก้วตาทุกครั้งที่นางกลับมาจากโรงพยาบาล
คณิตศรฉุกคิด เริ่มมีสีหน้าตึง สายตาแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว กำลังคิดไตร่ตรองตามคำพูดของยศวดี เสียงขบฟันแสดงถึงความรู้สึกเคืองที่ดังเล็ดลอดออกมาข้างในกาย
ยศวดีพอใจถึงกับยิ้มออกมาจากมุมปาก เมื่อเห็นอาการของคณิตศร ผู้ชายที่เธอหวังครอบครอง
“ว่าไงล่ะ จะไปให้เห็นภาพปาดตาบาดใจอีกไหมล่ะคะ” เธอพยายามย้ำเตือน พลางสวมกอดเอวสอบของเขาไว้
“อย่าไปเลยนะคะ อยู่กับวดีเถอะ” หล่อนกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงกระสัน
“ศรขา วดีจะทำให้คุณลืมทุกอย่างนะคะ อยากระบายอะไรให้มาลงกับวดี” เธอก็สอดนิ้วไปใต้เข็มขัดหนัง ล้วงลึกลงไปด้วยความช่ำชองและชำนาญ และใช้นิ้วนั้นงัดเอาเจ้าโลกของเขาขึ้น ลูบไล้อย่างหวงแหน
“วดี ไม่น่า” คณิตศรทำท่าจะปฏิเสธ
“หลายวันแล้วนะคะที่คุณปล่อยให้วดีเหงา วดีทำได้แค่เพียงกอดคุณ ปลอบคุณ มาเถอะค่ะ” ยศวดีดึงมือออก แล้วลากจับแขนของคณิตศรให้ไปที่เตียง
พลั่ก... เธอผลักร่างหนาของคณิตศรลงไปนั่ง จากนั้นด้วยความไว้ยิ่งกว่าแสง สองมือของยศวดีก็จัดการถอดกางเกงที่เขาเพิ่งใส่จนพ้นออกไปจากปลายขา ใบหน้าของเขาแดงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ลมหายใจเริ่มกระเส่า ความมักมากจนเห็นผิดเป็นชอบ ยศวดีซาบซ่าแสบสันในเรื่องบนเตียง
“อย่าวดี” เขาร้องห้ามปรามอีกครั้ง
ทว่าเธอก็ไม่เคยฟัง สองมือน้อย ๆ ของยศวดีจับหมับที่ท่อนเนื้อแล้วก็ลากเข้าปากของตัวเองในทันที ความเ****นความอยากจนลืมเรื่องผิดชอบชั่วดี เมียถูกผลักตกบันไดจนเลือดตกยางออก และที่แน่ ๆ การกระทำนั้นทำให้เด็กที่ไร้เดียงสาและยังไม่ได้ลืมตาดูโลกหมดโอกาสอีกต่อไป
สองมือของเธอที่กำท่อนแข็งแทบไม่รอบ กับการยกหน้าอ้าปากให้แท่งกลมใหญ่ไสเสือกเข้าไปในโพรงปาก ทั้งดูดทั้งดุนจนเจ้าของแกนหรรษาอ้าปากพ่นลมเป่าความเสียวสยิวออกมาแบบไม่เว้นจังหวะ
คณิตศรจำต้องเอนตัวลงไปนอนแล้วเด้งเอวสอบสวนรับริมฝีปากร้อนเร่า ๆ ของยศวดี เธอหวังที่ครอบครองและกำหัวใจของคณิตศร แม้ว่าจะต้องถูกตราหน้าว่าแย่งผัวเขา
“เสียว ซี้ด... โอ้...” คณิตศรเหมือนจะแตก รีบยกหน้าขึ้นมา และใช้มือจับใบหน้าของยศวดีที่กระทำอย่างตั้งใจ เธอผละคาย เงยหน้าจ้องสบตากับเขาที่ลุกขึ้นนั่ง