คำว่าสูญเสีย

1131 คำ
เขาเป็นทนาย บางครั้งความทุกข์ที่ฉาบอยู่บนใบหน้าของคนที่มารับคำปรึกษา พอทุกคนได้พรั่งพรูออกมาทั้งหมด สถานการณ์ต่าง ๆ ที่กดดันรายรอบตัวของคนคนนั้นก็ดีขึ้น แค่เพียงประโยคนั้น ก็เรียกให้ใจของคนสิ้นหวังหันมามองและฝืนยิ้มตอบกลับ “ขอบคุณค่ะพี่วิท พี่ดีกับขวัญเหลือเกิน ขวัญซึ้งใจ แต่ทำไม หากว่าเป็น… อึก…” เธอสะอื้นไห้ทั้งที่พูดยังไม่ทันจบ แต่วิทวัสรู้ดีว่าใครคือคนที่อยู่ในใจน้องสาวคนนี้ “พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างขวัญกับเขา แล้วทำไมถึงได้ปล่อยให้เรื่องมันร้ายแรงขนาดนี้” ร้ายแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ซึ่งเขาไม่เคยได้ข่าวเช่นนี้กับขวัญดาวมาก่อน เพราะตั้งแต่ขวัญดาวแต่งงานอยู่กินกับคณิตศรก็ดูรักใคร่กันดีจนน่าอิจฉาด้วยซ้ำ “ดาวก็ไม่รู้ ตอนนี้ดาวมืดแปดด้านไปหมดแล้ว เขาพาแม่นั่นเข้าบ้าน แล้ว...” เธอกลืนคำลงคอ ส่งเสียงสะอื้นฮัก ๆ จนตัวโยน ด้วยความเป็นห่วง วิทวัสจึงเดินไปโอบกอดไหล่มน แล้วตบเบา ๆ เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจ “เอาเถอะ ให้เวลาเป็นเครื่องช่วยให้เรื่องนี้ดีขึ้น พี่สัญญาว่าพี่จะอยู่ข้าง ๆ ขวัญนะ ขวัญมีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกเลย น้องรักของพี่” “ฮือ...” ขวัญดาวก็กอดเขาแน่น ก๊อก ก๊อก ก๊อก แก้วตาเปิดประตูและก้าวเข้ามาในห้อง ทำให้หนุ่มสาวขยับถอยเพื่อเว้นระยะห่างต่อกัน “คือป้าแกลืมถึงเสื้อผ้านะคะ ไม่ได้ให้คุณทนาย จึงใช้ให้แก้วตาเอามาให้นะคะ เตรียมไว้เผื่อได้ออกจากโรงบาลพรุ่งนี้ และยังกำชับให้อยู่เป็นเพื่อนของคุณขวัญด้วยนะคะ” แก้วตาก้มตัวโค้งต่ำ เดินไปยังตู้เสื้อผ้าจัดการแขวนไว้ให้เรียบร้อย แล้วก้มหน้าเดินเลี่ยงออกไปด้วยท่าทางแปลก ๆ แก้วตาเป็นคนเดียวในบ้านที่ชอบเมาท์ และเก็บความลับไม่อยู่ ท่าทางที่ลุกลี้ลุกลน หลบหน้าหลบตาไม่กล้าสบตาผิดสังเกต “แล้วนั่นแก้วตาจะไปไหน” แก้วตาสะดุ้ง หันกลับ “ก็จะออกไปรอข้างนอกค่ะ คือ คุณทนายกับคุณขวัญอาจจะอยากอยู่ด้วยกันสองคน” “ไม่ต้องออกไปหรอก เพราะฉันจะกลับแล้ว” วิทวัสเอ่ย “แก้วตามาหาขวัญหน่อย” ประโยคของขวัญดาวทำให้วิทวัสขยับเดินออกไป เพื่อให้ผู้หญิงได้คุยกันสะดวก ส่วนคนถูกเรียกก้มหน้างุดลังเลว่าจะเอาอย่างไรดี แก้วตาเดินตัวโค้งงุ้มไปหา “ที่บ้านเป็นยังไงบ้าง แล้วคุณศรเขาว่ายังไง เขาถามถึงฉันไหม แล้วเอ่อ... แม่นั่น ผู้หญิงคนนั้น บอกได้ไหมว่ามันเป็นยังไง” แก้วตาถึงกับกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ “เอ๊ะ! นั่นหน้าของแก้วตาไปโดนอะไรมา” ขวัญดาวจับใบหน้าของแก้วตามองพิศ ใช้นิ้วแตะไปที่แก้มซีกซ้าย “คะ คือ โดนตบค่ะ” หนุ่มสาวที่ได้ยินชัดเจนตะลึงค้าง “หา! ใครตบ?” “คุณวดีค่ะ” “แม่คนนั้นอีกแล้วเหรอ นี่แสดงว่าหล่อนยังไม่ไป” เอ่ยอย่างสิ้นหวัง “แล้วคุณคณิตศรไม่ว่าอะไรเลยเหรอที่เที่ยวไปทำร้ายใครต่อใคร” นัยน์ตาสิ้นหวัง เหตุใดจึงปล่อยให้คนนอกรังแกคนในบ้านได้ “ไม่เลยค่ะ” แก้วตาทำหน้าเศร้า คำตอบช่างชัดเจน ขวัญดาวได้แต่ทำท่าสิ้นหวัง วิทวัสอดไม่ได้ “คุณวดีที่ว่านั่น ท่าจะย้ายไปอยู่บ้านนั้นแบบถาวรแล้วใช่ไหม” “ก็น่าจะใช่ค่ะ ยังไม่ไปไหนเลย ตั้งแต่คุณขวัญเข้ามาอยู่โรง’บาลแล้วค่ะ เอ่อ... และยังมีอีกเรื่องค่ะ” “อะไรหรือ” “คือว่า ข้าวของของคุณขวัญก็ถูกขนออกมาจากห้องนอนใหญ่ เอามากองทิ้งเอาไว้ด้านนอกห้องหมดแล้ว พอป้ากับแก้วตาเข้าไปถามว่า ทำแบบนี้ทำไม ก็โดนตบเลยค่ะ ป้าดาก็โดนด้วยนะคะ โดนเหมือนกับแก้วตานี่แหละ” น้ำเสียงสั่นเครือเล่าทุกอย่างด้วยความเสียอกเสียใจ “โธ่!” ขวัญดาวถึงกับหลั่งน้ำตา คณิตศรเปลี่ยนไปมากทั้งคนเก่าแก่ข้าเก่าที่รับใช้ด้วยความรักและภักดีมาโดยตลอด โดนคนนอกกระทำ ส่วนเจ้านายก็ไม่คิดปกป้อง ทนยืนมองให้คนอื่นทำร้ายคนในบ้านตัวเองได้ลงคอ วิทวัสถึงกับเวทนา ได้แต่มองสบตากับขวัญดาว “เห็นทีจะพูดดีด้วยไม่ได้แล้วล่ะ” เธอเอ่ยด้วยความโกรธแค้น และพยุงตัวเพื่อลุกจากเตียง “โอ๊ะ!” “ขวัญ” “คุณขวัญคะ เป็นอะไรคะ” แก้วตารีบเข้าไปประคอง “หน้ามืดน่ะ” ด้วยความเสียเลือดและร่างกายยังปรับตัวไม่ดี “ขวัญอย่าเพิ่งคิดมากเลยนะ นอนพักเถอะ” “ใช่ค่ะ เรื่องที่นั่นกลับไปสะสางเมื่อไรก็ได้ค่ะ วันนี้รักษาตัวก่อน” ขวัญดาวจึงพยักหน้า แล้วกลับมานอน วิทวัสเดินเข้ามา “ดูแลตัวเองให้แข็งแรง แล้วค่อยไปสู้รบกับเขา” เสียงทุ้มเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วง ขวัญดาวช้อนตามองหน้าหงอย “ก็คนมันของขึ้นนี่คะ” “นั่นแหละ หากไปทั้งร่างกายแบบนี้ มีหวังแทนที่จะได้เอาคืน ก็โดนฝ่ายนั้นบีบบี้อย่างสบายเฉิบ… เอาเป็นว่าขวัญต้องดูแลตัวเองให้แข็งแรงแล้วค่อยไปลุยกัน” แก้วตาเงยหน้าขึ้นมองวิทวัส “คุณทนายคะ แทนที่จะห้ามกันเนอะ กลับแนะนำให้เตรียมพร้อม” “เอ้า... ก็ฉันรักน้อง ฉันเป็นคนที่ตามใจน้องไง ว่าแต่ออกจากโรง’บาลเมื่อไหร่ เราไปลุยพร้อมกัน” เขากำหมัดแล้วชูขึ้น ทั้งสองสาวจึงได้พากันหัวเราะ “ต้องร้องเพลงนี้ด้วยนะคะ” “เพลงอะไร” “มาด้วยกัน ไปด้วยกัน เลือดสุพรรณเอ๊ย” “โอ้ย! แก้วตาเพลงนี้มันเก่ามากเลยนะ ไปขุดมาจากไหนเนี่ย” “เพิ่งนึกออกเมื่อกี้เลยค่ะ” แล้วหัวเราะคิก ๆ วิทวัสเห็นทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของขวัญดาว เขาก็เบาใจ “พี่จะไปทำงานก่อนนะ” “ค่ะ” “อย่าอยู่ห่างโทรศัพท์ล่ะ แล้วพี่จะส่งกำลังใจมาให้” เจ้าของดวงตากลมโตค้อนให้ “ถ้าเราจะไปสู้รบตบมือกับใคร โดยเฉพาะคนพาล เราจะไม่สู้ด้วยกำลัง แต่เราจะต้องใช้สมองสู้ อย่าไปแลก เพราะสุดท้ายเราจะแพ้คนพาลอยู่ดี” ก็จริงอย่างวิทวัสพูด การใช้กำลังกับคนพาล ทำให้ขวัญดาวสูญเสียลูก “อีกอย่างนะขวัญ สิ่งไหนที่ไม่ใช่ของเรา สู้ไปก็เหนื่อยเปล่า อย่างดีก็กลับมาอยู่ด้วยตนเอง เหมือนตอนที่เราไม่มีใคร ซึ่งตอนนั้นเราก็อยู่ได้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม