“สู่รู้น่า” เมฆาว่าหน้าขรึมใส่ลูกน้อง ก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เป้าหมายคือกระท่อมหลังสวยที่กักขังเชลยสาวเอาไว้
“หิวหรือยัง” พอมาถึงในห้องพัก เมฆาก็เปิดประตูห้องเข้าไปทันที เห็นคนขี้งอนนอนป่วยอยู่บนเตียง นอนร้องไห้สะอื้นน้อยๆ จนเขาใจโหวง
“หิวแล้วจะให้กินเหรอ” เธอเอ่ยถาม เพราะหิวจนไส้จะขาดแล้ว ทำไมเขาไม่มาถามตอนเธอกำลังจะสิ้นใจตายล่ะ
“กินสิ แต่ต้อง...” เขาจิ้มแก้มตัวเองทำตาพราวเหมือนจะกลืนกินเธอ หยาดทิพย์ถอยหนีไปชิดกับหัวเตียง หน้าแดงแก้มแดงลามไปถึงใบหู ไม่กล้าสู้ตาเขา
“เมียจ๋า... หอมแก้มผัวหน่อยสิ” เขาจิ้มแก้มตัวเองอีกข้าง คนที่ได้ฟังถึงกับหน้าร้อนผ่าว เกิดมาไม่เคยรู้สึกวูบวาบแบบนี้มาก่อน ที่สำคัญคือไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาใช้ประโยคนี้กับเธอ
หยาดทิพย์หยุดร้องไห้ทันที มองคนหน้ารกตรงๆ แบบไม่หลบอีก ถ้าเขาโกนหนวดเคราออกจะเป็นยังไงนะ พออยากรู้เลยจ้อง คนถูกจ้องคราแรกก็จ้องกลับ อารมณ์อยากชวนไปทานข้าวแปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์อื่นทันทีที่โดนจ้อง เขาเขยิบเข้าหา สบตาเธอ ริมฝีปากร้อนทำท่าจะประทับลงไปหา
“อุ๊ย! อย่านะ” หยาดทิพย์ได้สติ เธอรีบเบี่ยงหลบ ผลักใบหน้าของเขาออกห่าง
“ผัวจะหอมแก้มเมียทำไมไม่ให้หอม” เขาทำหน้าตูม กักกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน
“ก็ไม่ให้หอม” เธอทวนคำอย่างเด็กดื้อ
“คนขี้หวง ฟอด...” เขาพูดแล้วหอมแก้มเธอทั้งซ้ายและขวา หยาดทิพย์ตาโตเมื่อโดนริมฝีปากร้อนๆ ประทับลงมาอย่างรวดเร็ว
เมฆาจิ้มแก้มตัวเอง จิ้มปากตัวเอง เสนอให้เธอ แต่คนขี้อายหลับตาปี๋ ไม่กล้าทำอะไรตามคำขอของเขาสักอย่าง เลยโดนจูบปากแทบช้ำเสียให้ได้
“หนูเล็กเดินเองได้” เธอจำต้องกอดคอเขาเอาไว้เพราะกลัวตก รีบบอกเขาเมื่อโดนอุ้ม
“กลัวเมียเหนื่อย”
“แต่หนูเล็กหนักเหมือนช้างน้ำ”
“หนักก็ช่างหัวช้างน้ำปะไร ก็ผัวอยากอุ้ม” เขาพูดโต้งๆ ทำเอาเธออาย
เมฆาวางร่างอวบลงข้างโต๊ะอาหารที่มีอาหารมากมายวางเรียงรายอยู่ตรงนั้น คนหิวเพราะขาดอาหารมาหลายวันถึงกับตาวาว กลืนน้ำลายลงคอติดกันหลายครั้ง
“หิวก็กินสิ” เขาชี้ชวน
“ไม่ต้องเอาของกินมาล่อหนูเล็กนะคะ” คนหิววางฟอร์ม ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ อมยิ้มแล้วนั่งลงเหมือนไม่ค่อยเต็มใจ
“มานั่งนี่” เขาทำเสียงดุ ตบบนหน้าขาตัวเอง หยาดทิพย์ตาโต
“หนูเล็กตัวหนักนะคะ”
“ไม่หนัก มานั่งนี่ ไม่งั้นไม่ให้กิน”
“ใจร้าย” เธอโอดครวญก่อนที่ท้องจะร้องประจานออกมาดังๆ ให้อับอายกว่าเดิม เลยต้องก้มหน้างุด
“เห็นไหม ท้องร้องใหญ่แล้ว มานั่งแล้วก็กินซะ รับรองไม่ทำอะไร” เขาตบที่หน้าขาของตัวเองอีกครั้ง
“ก็ได้” คนหิวจัดเดินไปนั่งบนตักของเขา แต่ไม่ลงน้ำหนักมากนัก คนที่คอยท่าอยู่ตอนแรกกอดรัดเอวเธอเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
“อุ๊ย!”
“ฉันไม่หนักหรอก จะให้นั่งตลอดชีวิตยังได้เลย” พูดออกไปแล้วก็อยากจะกัดลิ้นตัวเอง เมฆางุนงงกับประโยคของตนมากมายนัก เกิดมาไม่เคยพูดกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
คนฟังก้มหน้านิ่งเมื่อได้ยินแบบนั้น เมฆารู้สึกร้อนรุ่มใจในทันที เขาไม่แน่ใจว่าพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมเธอถึงหน้าหมองขนาดนี้
“เป็นอะไร”
“เดี๋ยวพี่เมฆก็ต้องปล่อยหนูเล็กไปใช่ไหมคะ เพราะจับมาผิดตัว” เดี๋ยวก็จะปล่อยไปแล้ว มาทำให้เธอหวั่นไหวทำไม มาพูดเรื่องจะอยู่แบบนี้ไปตลอดชีวิตได้ยังไง
“ที่ทำหน้าอย่างนี้อยากจะไปจากฉันมากนักสิ” เขาเสียงแข็ง
“แล้วจะให้อยู่ในฐานะอะไรคะ ป่านนี้พ่อกับแม่คงตามหาหนูเล็ก และพวกท่านคงจะร้อนใจ”
เธออยากพูดปัญหาเรื่องหนี้สินด้วย แต่ปากก็หนัก เพราะคิดว่าพูดไปก็ไร้ประโยชน์ เขาจะช่วยอะไรเธอได้ เงินตั้งมากมายขนาดนั้น ที่สำคัญเขาจะช่วยเธอไปทำไมกัน ในเมื่อเขาไม่ชอบพี่สาวของเธอ แถมยังแค้นอีกด้วย
“ก็อยู่ในฐานะเมียไง อยู่กันไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละ”
“ไม่ได้หรอก หนูเล็กต้องกลับบ้าน” เขาพูดง่าย แต่เธอทำไม่ได้หรอก เธอมีพ่อมีแม่ จะให้มาอยู่กับผู้ชายง่ายๆ แถมยังไม่รู้อีกว่าเขาเป็นใคร มันเป็นไปไม่ได้และยิ่งเป็นไปไม่ได้คือ บิดามารดาต้องไม่ยอมแน่ๆ
“อยากกลับไปแต่งงานกับเสี่ยนั่นหรือไง” เขากอดเอวคนตัวอวบอย่างหวงๆ
“ก็ต้องเป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรก”
“กล้ามากนะ กล้าพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไงกัน”
“คนป่าเถื่อน หนูเล็กเจ็บนะ” หยาดทิพย์ดิ้นหนีลงจากตักเมื่อโดนคนร่างสูงใหญ่กอดรัดจนกระดูกแทบหัก
“ทำไมล่ะ มีผัวอยู่แล้วจะอยากไปมีผัวใหม่อีกหรือไง”
“ฮึกๆๆ ฮือๆๆ คนบ้า ป่าเถื่อน เค้าเจ็บนะ” พอได้ยินเสียงร้องไห้โฮของคนที่เขากอดรัดรุนแรง เมฆาก็ชะงัก ใจแกว่งอีกแล้ว
“โอ๋ๆๆๆ กินข้าวไหม” เขาถึงกับไปไม่เป็น ไม่รู้จะทำยังไงดี เกิดมาก็ไม่เคยมีเมียเด็ก ขี้แงแบบนี้มาก่อน
“ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังหนูเล็กเลยนะ” เธอร้องไห้ดิ้นอึกๆ อักๆ แต่หนีจากตักของเขาไม่ได้ มือนิ่มก็กำหมัดทุบอกเขาอั๊กๆ เมฆาไม่รู้จะทำยังไงก็เลยกอดรัดเอาไว้เสียเลย เธอซบกับอกร้องไห้สะอื้นแล้วสูดน้ำมูกอยู่กับปกเสื้อของเขา เมฆาก้มมองก็อ่อนใจ ไอ้กริชมันบอกว่าผู้หญิงเหมือนเด็ก งั้นก็ต้องเอาใจให้เหมือนเด็กสินะ
“กินอะไรซะหน่อยสิ เพิ่งหายป่วย” เขาตักอาหารมาป้อนให้ถึงปาก เธอเมินไม่ยอมอ้าปากรับ เขาอยากจะขยี้หัวตัวเอง แต่ก็อดทนเอาไว้
“อ้าปากสิ ไม่กินจะจูบให้ปากช้ำเลย”
“ฮึกๆๆๆ ฮือๆๆ คนร้ายกาจ”
“อื้อ...” พอเธออ้าปากร้อง หูตาแดง เขาก็จูบม๊วฟเข้าให้ คนโดนจูบตาโตหน้าแดง คราวนี้เลิกงอแงยอมอ้าปากรับอาหารที่เขาป้อนให้ คนที่ไม่ชอบให้ใครขัดใจแอบมีสีหน้าพึงพอใจ แต่พอเธอหันมา เขาก็ทำหน้าดุใส่จนเธอหงอ ได้แต่นั่งตัวลีบอ้าปากรับแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ ไม่ปริปากบ่นอีก เพราะอาหารอร่อยมากทีเดียว
พอกินเสร็จเขาก็อยากเอาใจภรรยาตามพฤตินัยโดยการชวนเธอไปเที่ยวเสียหน่อย ดูเธอจะอ่อนลงมากเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรรุนแรง ไอ้กริชบอกว่าให้เอาใจ ถ้าชวนไปเที่ยวอาจจะอารมณ์ดีขึ้นก็ได้ เขาไม่อยากให้เธอหน้าเศร้า หน้างอ บูดบึ้ง เวลาเห็นเธอเผลอยิ้ม มันทำให้โลกทั้งโลกของเขาดูสดใสขึ้น
“ไปเที่ยวกันไหม”
“เที่ยวไหน” เธอแอบดีใจก่อนจะเก็บอาการเอาไว้เต็มที่ แต่คนแอบมองสังเกตอยู่ตลอด
“เที่ยวน้ำตก”
“ที่นี่มีน้ำตกด้วยเหรอ” เธอถามตาวาว ก่อนจะรีบเก็บอาการดีใจเอาไว้อีกรอบ แต่ไม่รอดพ้นคนที่มองอยู่ก่อนหน้า
“อยากไปก็ตามมา” เขาบอกแต่จับมือเธอดึงให้เดินตามเขาไป คนอยากออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ด้านนอกไม่ขัดขืน เพราะคิดว่าอาจจะมีทางหนีทีไล่ให้เธอบ้างก็ได้
เมฆามองสาวน้อยร่างอวบที่มองน้ำตกอย่างตื่นเต้น เธอตาวาวทุกครั้งที่เห็นธรรมชาติแปลกตาสวยงาม เขากอดอกมองเพลินแทบไม่ละห่างไปไหน คนอยากเล่นน้ำแต่เกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่ชอบใจได้แต่ไปนั่งแช่เท้าในน้ำแทน ก่อนจะกวักมือเอาน้ำลูบหน้าตัวเองแล้วสูดอากาศแสนบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด
คนแอบมองตาพร่าไปชั่วขณะ เมียแสนอวบของเขายิ้มทีทำให้โลกทั้งโลกสว่างไสว เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนน่ารักเท่าเธอมาก่อน เรื่องรูปร่างถึงแม้ไม่เพรียวสวยเหมือนผู้หญิงที่เขาเคยมีอะไรด้วย แต่รูปร่างหยาดทิพย์ก็เต็มไม้เต็มมือน่ากอด ถ้าเธอมีลูกน้อยให้เขา ลูกคงแข็งแรงและสดใสเหมือนแม่
แค่คิดถึงเรื่องการมีลูก ชายหนุ่มก็สะบัดศีรษะไปมา เขาเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้ว นี่คือน้องสาวของคนที่ทำให้น้องชายของเขาเสียใจนะ ถึงเขาจะบอกตัวเองว่าคนละคนกัน อย่าตัดสินแค่ความเป็นพี่น้อง ให้ตัดสินถึงความผิดเป็นรายบุคคล แต่เมื่อคิดถึงน้องชายคนเดียวที่จากไป เขาก็เคร่งเครียดขึ้นมาทันที