เขาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อออกจากกายอย่างอ้อยอิ่ง สายตามองหญิงสาวเหมือนราชสีห์มองเหยื่อแสนหวาน หยาดทิพย์กำลังดื่มด่ำกับทัศนียภาพรอบกาย เธอหันมาเห็นเข้าพอดี ถึงกับหน้าแดงเมื่อเห็นเขาปลดกระดุมเสื้อเป็นเม็ดสุดท้าย แผงอกแกร่งท้าทายต่อสายตา จนคนมองต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความรู้สึกประหลาดล้ำ
“จะ... จะทำอะไรคะ” เธอรีบลุกมองเขาอย่างระแวดระวัง
“หายแล้วไม่ใช่เหรอ” เขาถอดเสื้อโยนไปบนโขดหิน
“ยะ... ยังไม่หายสักหน่อย” เธอส่ายหน้าไปมาจนผมยุ่ง แต่อาการหน้าแดงและแววตาหวาดหวั่นนั้นทำให้เขาปรารถนาเธออย่างรุนแรง
“โกหกหรือเปล่า”
“ว้าย!” หยาดทิพย์ร้องเสียงหลง เมื่อทำท่าจะหนีเขาก็ดึงแขนเข้าไปหา ก่อนจะใช้หลังมือวางไว้ที่หน้าผากนูนเกลี้ยงเพื่อสำรวจอาการของเธออย่างห่วงใย หญิงสาวมองอย่างไม่เข้าใจนัก แต่รับรู้ได้ว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เพราะหลายวันมานี้ เขาดูแลเธออย่างดีในขณะที่ป่วย หลังจากรู้ว่าเธอไม่ใช่พี่สาว เขาก็มีท่าทีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่เห็นตัวร้อนแล้วนี่นา”
“ตะ... ตัวยังร้อนอยู่เลย อื้อ...” คนพูดปดแค่เผยอปากก็โดนบดจูบลงมาอย่างหนักหน่วง หญิงสาวสมองเบลอไปชั่วขณะเมื่อทั้งโดนกอด ลูบไล้และจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม
เมฆาตวัดอุ้มร่างอวบไปที่ริมลำธาร ครั้นแผ่นหลังของเธอสัมผัสกับพื้นจึงทำให้เธอรู้สึกตัว รีบดันใบหน้าเขาออกห่าง เมื่อเขาก้มลงมาทาบทับเธอเอาไว้ทั้งตัว
“กลัวเหรอ”
เธอรีบพยักหน้า ยังจำได้ดีถึงความเจ็บคราวนั้น เริ่มหวาดหวั่นหวาดกลัวไปหมด “มันจะไม่เจ็บอีก มันจะมีความสุขต่างหากเล่า”
เขาเหมือนพวกชอบโฆษณาชวนเชื่อดีๆ นี่เอง เธอแอบว่าเขาในใจ แต่เขาจูบลงมาทีไร เธอก็อ่อนระทวยอยู่เรื่อย เมฆาล้วงมือเข้าขยำทรวงอกอวบของคนใต้ร่าง ก่อนจะสอดมืออีกข้างลงในกางเกงผ้าเนื้อนิ่มแล้วใช้นิ้วสัมผัสกับกลีบกายสาวที่ฉ่ำเยิ้มด้วยหยาดน้ำหวาน
“ฉ่ำเยิ้มเชียว แบบนี้ยังจะปฏิเสธอีกเหรอว่าไม่ต้องการ” เขากระซิบที่ริมหู เธอร้อนซู่แก้มเนียนแดงก่ำ ตะครุบมือของเขาเอาไว้ แต่คนแรงเยอะกว่าก็ทะลวงเข้าไปสัมผัสกับกลีบเนื้อสาวของเธอได้สำเร็จ
“อื้อ...” หยาดทิพย์ร้องครางเสียงสะท้าน เมื่อเขาเริ่มขยับมือไปมาจนเธอเสียวซ่านไปทั้งร่าง
“จูบก็หวาน อวบเต็มไม้เต็มมือดีเหลือเกิน” เขาพร่ำเพ้อหลงใหลเธอ
“หนูเล็กไม่ได้อ้วนไปเหรอคะ” คนที่คิดว่าตัวเองมักจะอ้วนอยู่เสมอ ยังมีแก่ใจเอ่ยถามอย่างอยากรู้ เธอภูมิใจนิดๆ ที่เขาไม่ถือเรื่องความอ้วนความผอมของเธอแบบนี้
“อ้วน” เขาตอบหน้าตาย คนใต้ร่างหน้าหมองลงทันที ถึงกับผลักมือเขาออกเป็นพัลวัน ไม่โอนอ่อนผ่อนตามเหมือนเคย
“ฉันเป็นคนพูดตรงๆ จะให้โกหกหรือไงว่าหุ่นดีเหมือนนางแบบ อ้วนก็อ้วน แต่อ้วนก็เร้าใจ อ้วนยังไงพี่เมฆคนนี้ก็ชอบ”
พอได้ฟังก็หน้าแดง เธอรู้สึกเหมือนตัวเองใจง่ายชะมัด แต่ก็ยังทำเป็นงอนใส่เขาอยู่ดี เมฆาหยิกแก้มนวลแล้วหัวเราะร่วน เขาจำไม่ได้ว่าเคยหัวเราะครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ แต่พอเห็นเธอทำแก้มป่องใส่ มันก็ทำให้เขาอารมณ์ดีอย่างประหลาด
“ไม่ต้องมาพูดเอาใจหนูเล็กนะ หนูเล็กไม่หลงคารมหรอก”
“ไม่หลงแต่ยิ้มจนหน้าบานขนาดนี้หมายความว่ายังไง” เขาจับแก้มเธอโยกเล่นเหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก
“ใครยิ้มกันเล่า ถอยไปนะ หนูเล็กจะกลับกระท่อมแล้ว”
“ไม่ให้กลับ ยังไม่ได้ปล้ำเลย” คนชอบพูดตรงๆ ใช้แขนค้ำเอาไว้รอบกายเธอ กักเธอเอาไว้ แต่หยาดทิพย์ก็มุดแขนหนีเขามาได้ เมฆาตามมาดึงแขนเธอเข้าไปปะทะอก ก่อนจะบดจูบอย่างดูดดื่มแล้วอุ้มเธอไปยังร่มไม้ข้างลำธารอีกด้าน
“หนูเล็กจะกลับ”
“ไม่ให้กลับ ยังไม่ได้เมคเลิฟเลย”
“ไม่เอา เดี๋ยวเจ็บ”
“บอกว่าไม่เจ็บไงเล่า ยัยเด็กขี้กลัว” เขาปล้ำถอดเสื้อผ้าของเธอออกจนล่อนจ้อน
“อื้อ...” หยาดทิพย์ครางอื้ออึงอยู่ในลำคอเมื่อเขาบดจูบลงมาอีกครั้ง คราวนี้เนิ่นนานจนเธอสมองพร่าไปหมด รู้ตัวอีกทีเขาก็แนบชิดลงมาหา ร่างเปลือยเปล่าเหมือนเธอเสียแล้ว
“ไม่นะคะ มันไม่เข้าหรอก มันใหญ่ออกอย่างนี้” เธอเผลอมองมือของเขาที่ประคองแก่นกายถูไถอยู่กับกลีบกายสาว เมฆาอยากจะหัวเราะให้ลั่น แต่เขาก็มีอารมณ์อื่นมากกว่าขำ
“วันก่อนยังเข้าเลย เข้าทั้งวันทั้งคืน”
“บ้า อ๊าส์...” เธอร้องเสียงหลงเมื่อเขามุดแก่นกายเข้ามาในถ้ำสวรรค์ของเธอ
“เห็นไหมว่าเข้าแล้ว อย่างเกร็งสิ เกร็งแบบนั้นจะมุดเข้าไปสุดได้ยังไงกัน” เขายังมีแก่ใจแกล้งพูดให้เธออาย
“คนบ้า”
“เมียจ๋า อย่าหุบขาสิ เห็นไหมว่าทรมานจะขาดใจอยู่แล้ว จะดันก็ไม่เข้า จะถอนก็ไม่ออก” เขาโอดครวญใบหน้าเหยเก คนขี้อายเอาแต่ทุบอกเขาอั๊กๆ แต่เขาก็รวบมือไปบดจูบเอาไว้แทน ก่อนจะเริ่มขยับเชื่องช้าแต่หนักหน่วง
“ยะ... หยุดทำไมคะ” หยาดทิพย์หน้าเหวอ เผลอถามก่อนจะทำเสียงขัดใจเมื่อเห็นว่าจู่ๆ เขาก็หยุดขยับ เธอไม่ได้เจ็บเหมือนวันนั้น แต่รู้สึกเสียวๆ แปลกๆ และมันก็เมามันอย่างประหลาด แค่คิดก็หน้าแดง เพราะรู้สึกชอบสัมผัสของเขาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ก็เมียทำหน้าเหมือนไม่อยากให้เมคเลิฟนี่นา” เขาแกล้งว่า ยึดเอวคอดของเธอเอาไว้กันหนี รับรู้ถึงแรงตอดรัดที่เธอทำกับเขา
“มะ...ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย”
“แล้วอย่างไหนล่ะ” เขาถามง่ายๆ แต่ทำให้เธอแทบเต้น จะบอกไปได้อย่างไรว่าอยากให้ทำ... อายตายเลย
“ว้าย!” เธอร้องเสียงหลงเมื่อเขาทิ้งตัวลงนอนและดึงเธอขึ้นทาบทับ มือหนาจับสะโพกเอาไว้
“เอาสิ อยากทำอะไรกับผัวก็ทำเลย เมียจ๋า อย่าปากแข็งไปเลย อยากควบผัวก็เอาสิ อ๊าส์...”
เขาดันสะโพกขึ้นไปกระแทกเธอกึกๆ พร้อมกับร้องคราง หยาดทิพย์เองก็ใบหน้าเหยเกด้วยความเสียว พอลองขยับดูก็ยิ่งเสียว จะผละออกห่างก็เสียดายอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นต่อเนื่อง
“แบบนั้นล่ะ อ๊าส์...” เมฆาซี้ดปากเมื่อร่างอวบอัดเต็มไม้เต็มมือเริ่มขยับแล้วซู้ดปากตาม มือนุ่มวางที่หน้าท้องแกร่ง เธอขยับได้ไม่กี่ครั้งก็ถึงจุดหมาย ทิ้งกายลงบนตัวเขา
“อะไรกัน เหนื่อยแล้วเหรอ ทิ้งพี่เอาไว้ให้ค้างคนเดียวได้ยังไง” เขาเย้าก่อนจะพลิกร่างเธอให้คุกเข่า
“จะ... จะทำอะไร อ๊ะ!” หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อเขาเสียบกายเข้ามาทาบเบื้องหลัง มือบางกำจิกกับพื้นดิน ดีที่เขาล็อกเอวเอาไว้ หัวเธอเลยไม่คะมำไปด้านหน้า
“จะเมคเลิฟกับเมียไม่ชอบหรือไง แบบนี้ แบบนี้ไง...” เขาพูดไปกระแทกไป คนหัวหมุนที่อารมณ์ยังต่อเนื่องร้องครางออกมาไม่เป็นส่ำ ทำให้เมฆายิ่งเสียบสอดกายเข้าไปอย่างมิดเม้น เขาคำรามค้างใบหน้าเหยเกเมื่อโดนบีบรัดแน่นขนัดเมื่อเธอมีความสุขไปก่อนล่วงหน้า
เมฆาพลิกร่างสาวให้นอนหงาย ก่อนจะทาบทับควบขี่เธออีกครั้ง ดวงตาล้ำลึกด้วยอารมณ์ดำฤษณามองดวงตาหยาดเยิ้มด้วยความสุขอย่างลุ่มหลง เขากระแทกกายถี่ๆ ก่อนจะตามติดเธอไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับหยาดน้ำรักที่ฝังเข้าไปในร่างเธอให้ดูดกลืนจนหมดสิ้น
“อ๊าส์...” สองเสียงร้องประสานกัน เขาฟุบหน้าลงกับทรวงอกอวบของเธอ หายใจหอบถี่ๆ กระชั้นประสานกับคนใต้ร่าง
“ลุกไปได้แล้วค่ะ” หยาดทิพย์หน้าแดงจัด อับอายที่ให้ความร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดี
“ตอบมาก่อนว่ามีความสุขไหม” เขาซุกดูดยอดอกของเธอ ขบเม้มหัวนมสีชมพูจัดอย่างหลงใหล
“ไม่รู้ไม่ชี้ค่ะ”
“ไม่ตอบจะนอนคาเอาไว้แบบนี้นะ” เขาแกล้งโยกกายไปมา หยาดน้ำฉ่ำแฉะจากร่างกายของกันและกันทำให้เกิดเสียงแฉะฉ่ำจนหญิงสาวหน้าร้อนซู่
“ว่าไงครับเมียจ๋า มีความสุขไหม ห้ามโกหก ถ้าโกหกจะจูบให้ขาดใจเลย”
“คนเผด็จการ มีความสุขค่ะ” หยาดทิพย์อุบอิบตอบ แต่เขาก็ได้ยินชัดเจน
“แล้วชอบไหม” เขากระซิบถามที่ริมหู ขบเม้มจนเธอเสียวซ่านต้องเบี่ยงหลบ
“ชอบค่ะ”