สี่ปีต่อมา
วันนี้ บริษัท พี.เอ. กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดงานปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง ตามความต้องการของ CEO หนุ่มที่กำลังจะเดินทางกลับมานั่งเก้าอี้ท่านประธานบริษัทอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
พยัคฆ์รับตำแหน่งนี้จากพายัพผู้เป็นบิดาโดยผ่านมติเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นทั้งหมดตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ด้วยการเรียนยังติดพัน จึงใช้วิธีบริหารร่วมกับกุนซือของบิดาผ่านระบบทางไกล ส่วนพายัพนั้น เจ้าตัวได้ลดบทบาทและเวลาการทำงานลง โดยอ้างเรื่องสุขภาพ แต่พยัคฆ์รู้ว่ามันเป็นเพียงข้ออ้างที่เร่งรัดให้เขากลับมาเร็วๆ
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ทุกสัปดาห์พยัคฆ์จะพบพนักงานผ่านการประชุมทางไกลออนไลน์ จิตวิทยาผู้บริหารทำให้ลูกน้องรัก ชื่นชม และกระตือรือร้น ผลสะท้อนมันปรากฏออกมาในรูปแบบของผลประกอบการ ปีนี้บริษัททำกำไรได้มากกว่าเดิมหลายเท่า ทำให้พนักงานได้ปรับเงินเดือนขึ้นหลายเปอร์เซ็นต์และยังโบนัสมากถึงสิบสองเดือน
งานปีใหม่จัดขึ้นหลังลองวีคเอนด์ เป็นการเฉลิมฉลองต้อนรับพุทธศักราชใหม่ เงินเดือนอัตราใหม่ บางคนก็ตำแหน่งใหม่ และต้อนรับประธานคนใหม่อย่างเป็นทางการ
หนุ่มหล่อจัด โสดสนิท และประสบความสำเร็จจะมาทั้งที เหยี่ยวข่าวจมูกไวจึงไม่พลาดมารอเก็บภาพไปทำข่าวธุรกิจ
“บอสมาแล้ว”
แล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เสียงกดชัตเตอร์ดังระรัว ขณะที่พยัคฆ์ในชุดสูทตัดเย็บอย่างดีก้าวย่างอย่างมั่นใจ โดยมีบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งเดินตามหลังเข้ามายังห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของบริษัท บรรดาหุ้นส่วนอาวุโสต่างลุกขึ้นให้การต้อนรับ
ม่านฝน เลขาฯ ของท่านประธานคนก่อนทำหน้าที่เชื้อเชิญเขาไปยังโต๊ะหน้าเวที แต่ถูกขัดขวางโดยกองทัพสื่อมวลชนที่ยื่นไมค์รุมจ่อ
“แด๊ดดี้ดูหล่อกว่าในจอเยอะเลย” แป๋วแหววยกสองกำปั้นขึ้นมากัด
พนักงานที่ตื่นเต้นจนออกนอกหน้า ไม่พ้นสาวๆ ที่พากันเรียกเขาว่า ‘แด๊ดดี้’ มาตั้งแต่ประชุมออนไลน์
“รักษากิริยาหน่อย” พิชชากร ผู้จัดการแผนกบัญชีปรามลูกน้อง
“แหมพี่พิช ใครจะเก็บอาการไหว หล่อกร้าวใจ ลุคแบดบอย สงสัยจะเอวเผ็ดด้วย นั่นน่ะ มีคนรอพิสูจน์เพียบ” แป๋วแหววพยักพเยิดไปทางกลุ่มดาราและนางแบบ ซึ่งบริษัทเคยจ้างเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าแต่ละตัว
“โน่นๆ คนที่กำลังเดินมาใช่น้องเฟย่าไหม” วิชชุดาเพื่อนร่วมแผนกชี้ไปยังสาวทรงโตสวมแว่นกรอบสี แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด นุ่งสั้น เปิดอกเปิดเอวที่กำลังก้าวฉับๆ มาในรองเท้าส้นสูงปรี๊ด ในอ้อมแขนมีดอกไม้ช่อโต
“ใช่” แป๋วแหววยืนยัน
“ก็เข้ากับผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เนอะ นมจากเต้า” วิชชุดาวิจารณ์ มองหน้าอกภายใต้เสื้อรัดรูปเด้งขึ้นลงตามจังหวะการก้าว
“ดูแรง ดูเอ็กซ์ ดูอร้าอร่ามเกินเบอร์ แต่บอสระบุเองว่าต้องเป็นคนนี้” พิชชากรกัดฟันพูดกับเพื่อนๆ เพื่อไม่ให้ปากขยับ พลางปั้นหน้ายิ้มรับนางแบบสาวที่ตรงดิ่งมาทางกลุ่มของเธอ
“สวัสดีค่ะ เฟย่ามาแสดงความยินดีกับเสือค่ะ” นางแบบสาวประดิษฐ์ยิ้ม
“เอ่อ ไปนั่งรวมกับพวกนางแบบทางนั้นเลยค่ะ” แป๋วแหววชี้ไปทางเก้าอี้ที่คนในวงการนั่งอยู่
เฟย่าหันไปมอง ยิ้มเหยียดดูแคลนและสะบัดหน้ากลับมา “คนละชั้น!”
นางแบบสาวถ่มคำพูดที่ไม่น่ารักทิ้งไว้ตรงกลุ่มพนักงาน และก้าวฉับๆ ไปด้านหน้า
การ์ดทำท่าจะเดินมาสกัด แต่เห็นสายตาของพยัคฆ์ที่สบมา พวกเขาจึงถอยออก เจ้านายส่งสัญญาณให้ปล่อยเลยตามเลย ไม่อยากให้นางแบบของผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เสียหน้า
สื่อมวลชนรัวชัตเตอร์ชุดใหญ่กว่าเดิม ข่าวที่จะเรียกเรตติ้งได้จริงๆ คือข่าวประเภทนี้ต่างหาก
“เสือจ๋า เฟย่ายินดีด้วยนะ” เฟย่ายื่นช่อดอกไม้ให้ชายหนุ่ม จงใจเบียดตัวเข้าไปให้นักข่าวเก็บภาพคู่
“ได้ข่าวว่าคุณเสือเป็นคนระบุตัวว่าพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์นมจะต้องเป็นน้องเฟย่าเท่านั้น จริงไหมคะ” นักข่าวยิงคำถาม
“จริงครับ” พยัคฆ์หันไปยิ้มให้นางแบบสาว “นมตัวนี้เราจะดึงจุดเด่นเรื่องบำรุงสมองมานำเสนอ เราก็เลยต้องเลือกนางแบบที่สวยด้วย มีภาพลักษณ์ของคนฉลาด เรียนเก่ง ซึ่งคุณเฟย่ามีครบครับ” เสืออธิบายเหตุผลอย่างให้เกียรตินางแบบซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนปริญญาตรีของเขาด้วย
“อื้อหือ ทั้งสวยและฉลาด เหมือนกับคุณเสือไม่มีผิด” นักข่าวเริ่มโยง “แล้วแบบนี้จริงหรือเปล่าคะที่คุณเสือกำลังคบหาอยู่กับน้องเฟย่า”
“ลือกันแบบนั้นเหรอคะ คิกคิก” เฟย่าชิงพูด ทำท่าตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ปฏิเสธ
“เราเรียนปริญญาตรีด้วยกันครับ” พยัคฆ์ไม่อยากหักหน้าเธอต่อหน้าสื่อ แต่คำตอบที่ไม่ชัดเจนก็ทำให้เกิดประเด็นต่อเนื่อง
“ภาพนักธุรกิจหนุ่มที่ยืนอยู่กับน้องเฟย่าที่บาหลีนั่นคือคุณเสื...”
“เฮ้อ เอาอีกแล้ว ขอตัวนะครับ” พยัคฆ์ตัดบท คราวนี้เขายอมให้บอดี้การ์ดเข้ามากันนางแบบสาวไม่ให้ตามไป เฟย่าจึงเสไปให้สัมภาษณ์สื่อ ในขณะที่พยัคฆ์ขึ้นไปกล่าวทักทายผู้ที่มาร่วมแสดงความยินดีบนเวที
“ฉันว่ายายน้องเฟย่านี่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของบอสมากเลยนะ” แป๋วแหววบิดปากใส่กิริยาท่าทางของพรีเซนเตอร์สาว
“เขาสนิทกันนี่ แต่จะมีอะไรในกอไผ่แบบที่เป็นข่าวหรือเปล่าก็ต้องคอยดูกันอีกที” วิชชุดาบอกเพื่อน จากนั้นก็ชักชวนกันเดินไปนั่งยังโต๊ะอาหารที่เพื่อนๆ กวักมือเรียก
แขกที่มาร่วมแสดงความยินดีอยู่แค่ช่วงพิธีการต้อนรับ CEO คนใหม่ และทยอยกันกลับในช่วงที่เป็นการเลี้ยงสังสรรค์ภายใน
พยัคฆ์ปล่อยให้พนักงานกินดื่มตามอัธยาศัย แต่งานเลี้ยงจะดำเนินไปถึงสองทุ่มเท่านั้น เนื่องจากพรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุด
เขาขึ้นมายังห้องทำงานของตนเอง ซึ่งเคยมานั่งในนี้แค่ไม่กี่ครั้งเวลาที่มาประเทศไทย
“พรุ่งนี้ฉันจะไปดูฟาร์มวัวนมที่ปากช่อง เสร็จแล้วไปหาส้มกินที่เชียงใหม่” พยัคฆ์ถอดเสื้อสูทออก ก่อนทิ้งตัวลงกับเก้าอี้
“เอ่อ ถ้าอยากกินส้ม ในงานเลี้ยงเมื่อกี้ก็มีนะครับ เดี๋ยวผมให้เด็กเอาขึ้นมาให้เอาไหมครับ” ยุทธพล เลขาฯ ส่วนตัวเสนอ
“ฉันจะกินส้มที่เชียงใหม่” พยัคฆ์ปฏิเสธ
“แต่ส้มของจังหวัดน่านก็อร่อยนะครับ” โดม คนสนิทอีกคนเสริม ตะกี้เขาชิมมาแล้วจึงสามารถรับรองได้
“นั่นมันนาย แต่สำหรับฉัน ไม่มีส้มที่ไหนจะหวานและอร่อยลิ้นเท่าส้มสองกลีบที่เชียงใหม่ ฉันกินมาแล้ว เข้าใจไหม” พยัคฆ์ลุกขึ้นโน้มตัวมาถามผู้ช่วยทั้งสองใกล้ๆ เป็นอันรู้กันว่าควรหยุดเสนอแนะได้แล้ว
“ครับๆ เข้าใจครับ” โดมเป็นคนตอบ