บทที่12
ค่อยๆรู้สึก
วันต่อมา
มิเกลเดินเข้ามานั่งในคลาสเรียนสองหนุ่มจึงรีบเดินเข้ามานั่งประกบซ้ายขวาจนเธอหันไปมองทั้งคู่สลับกัน การเรียนในวันนี้ไม่ได้หนักหนาเพราะเป็นความรู้พื้นฐานที่เธอเคยเรียนมา มิเกลนั่งจดงานเสร็จสองหนุ่มก็ปิดหนังสือพร้อมกันจนเธอสะดุ้ง
"มิเกล...."
"มิเกล...."
"ว่าไง" เธอตอบด้วยน้ำเสียงอ่อยๆแต่สายตายังมองไปด้านหน้าดูเพื่อนๆแนะนำตัวกับอาจารย์
"วันนี้ไปดูหนังกันอีกไหม"
เจ้าขุนกระตุกยิ้มทันทีเมื่อได้ยินเพื่อนเอ่ยปากชวนมิเกล เขารู้ดีว่ามิเกลไม่ไปแน่นอนวันนี้มีแต่หนังผีซึ่งมิเกลไม่ชอบเอาซะเลย เธอชอบดูหนังรักมากกว่า
"วันนี้เรานัดเพื่อนไว้น่ะ"
"ใช่ๆไอ้โก๋มันมาเรียนวันนี้ตอนแรกบอกจะไปเรียนวิศวะกลายเป็นกระแดะมาเรียนกับซอลเฉยเลย"
"นั่นสิ แต่ก็ดีซอลจะได้มีเพื่อน"
เธอตอบผม
เธอคุยกับผม
แค่นี้ผมก็หัวใจฟูแล้ว
"ฮาร์ทเดี๋ยวเราแนะนำเพื่อนให้นายรู้จักนะ^^"
"โอเคครับ"
ผมหันไปมองไอ้ฮาร์ทด้วยหางตา มึงทำเป็นถือไพ่เหนือกว่าไปเถอะกูจูบกันแล้วโว้ยยย ความหงุดหงิดของผมเริ่มทำให้ผมหมดอารมณ์เรียนแล้วแต่ถ้าผมไม่เข้าเรียนพ่อผมได้ด่าไป7วัน7คืนแน่
ถึงเวลาพักซอลกับโก๋รีบเดินมายังร้านคาเฟ่ในมหาวิทยาลัยมาถึงก็รีบเข้ามาสวมกอดมิเกลด้วยความคิดถึง มิเกลดีใจที่ได้เจอเพื่อนรักตั้งแต่มาเรียนเธอก็อยู่กับสองหนุ่มตลอดเวลาเพราะเธอไม่มีเพื่อนผู้หญิงเลย
"มึงนี่ฮาร์ทเพื่อนใหม่กู ฮาร์ทนี่ซอลกับโก๋เพื่อนเราเอง"
"ดีครับ^^"
"ได้เจอตัวจริงสักทีหล่อมากเลยค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"
"ครับ"
โก๋เดินไปนั่งข้างเจ้าขุนเขามองสายตาเพื่อนที่มองมิเกลมันแปลกไปจากเดิมแถมยังคอยมองเวลามิเกลคุยกับฮาร์ทด้วย ถึงจะสงสัยหรือจับผิดได้ เขาเองก็ไม่อยากยุ่งเพราะเขาก็ถูกพี่ชายของมิเกลกำชับไว้ว่าอย่าปล่อยให้เจ้าขุนมายุ่งกับมิเกลอีก
"มึงนึกยังไงมาเรียนบริหารวะไอ้โก๋"
"ไม่รู้ดิ" โก๋มองซอลหัวเราะร่าเริงเขาก็แอบยิ้มตามไปด้วยถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันแต่หัวใจของเขามันข้ามขั้นไปนานแล้ว "แล้วมึงกับมิเกลนี่ยังไงกัน"
พอถูกถามกลับบ้างก็ไปไม่เป็นเลยเขาเลิ่กลั่กจนโก๋อยากจะขำ ถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านมิเกลก็เดินหน้าจ๋อยกลับมานั่งที่ตึก ตอนนี้ซอลกับโก๋กลับตึกคณะไปแล้วพี่ชายของเธอก็ติดเคสด่วนคุณพ่อของเธอติดประชุมกับพ่อเจ้าขุน แม่ของเธอก็ติดธุระเธอจึงเดินกลับมานั่งพักให้หายเซ็งเสียก่อนค่อยนั่งรถกลับบ้าน
ด้านเจ้าขุนเขาขับรถวนมาหาเธอเพราะเห็นมิเกลนั่งอยู่คนเดียวใจอยากจะเปิดกระจกเรียกแต่เธอคงไม่ยอมขึ้นรถเขาง่ายๆ เขาจึงดับเครื่องเพื่อลงไปคุยกับเธอ
"ทำไมยังไม่กลับบ้านอีกมิเกล"
"รอพี่มาร์ช ตอนนี้ติดเคสเสร็จแล้วคงมา"
"เมื่อกี้พ่อเราบอกว่ามีเคสฉุกเฉินรถโดยสารประสานงานกับรถบรรทุก หมอทุกแผนกต้องลงมาห้องฉุกเฉินอีกนานกว่าจะกลับ เอางี้ไหม กลับพร้อมกันเลยก็ได้เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง"
"ไม่เป็นไร...."
"ฝนจะตกแล้วกว่าพี่มาร์ชจะออกจากโรงพยาบาลมารับเธอคงใช้เวลาไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง"
"เราเกรงใจนาย"
"ทำไมต้องเกรงใจ? มิเกลฉันไม่ได้อยากอยู่ห่างจากเธอเลยนะ ฉันพยายามแล้วแต่พี่มาร์ชไม่อยากให้เราอยู่ใกล้กัน ฉันทำผิดร้ายแรงมาก ทำให้เธอเสียใจ"
"ช่างเถอะเรื่องมันผ่านมาแล้ว"
"ไม่ได้! ฉันต้องอธิบายให้เข้าใจ วันนั้น เวลานั้น ฉันคุยกับลิลลี่จริงแต่มันเป็นการคุยที่ฉันเออออตามน้ำไป ฉันไม่ได้คบกันแค่ลองคุยกันแต่พอหลังจากวันนั้นฉันก็บอกกับลิลลี่ว่าฉันพยายามแล้วแต่ฉันกับลิลลี่คงไปต่อด้วยกันไม่ได้ ขอหยุดความสัมพันธ์เอาไว้แค่เพื่อนดีกว่า"
"แล้วนายมาบอกฉันทำไม"
"อยากให้รู้ว่าฉันไม่เคยคิดอะไรกับลิลลี่เลย ที่ฉันพูดไปเพราะฉันคุยกับลิลลี่จริงๆแต่ฉันไม่คิดว่ามันจะทำให้เราสองคนต้องเป็นแบบนี้"
มิเกลนั่งนิ่งพูดอะไรไม่ออก เจ้าขุนจึงเอื้อมมือมาจับมือเธอเพื่อพาเธอขึ้นรถยนต์ของเขา ขับรถออกมาไม่นานฝนก็เทลงมาอย่างหนักจนแทบมองทางไม่เห็น เจ้าขุนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กสภาพอากาศตอนนี้พายุเข้าเต็มๆแถมรถเขายังต่ำด้วยหากน้ำท่วมขังคงไม่ดี
"ไปคอนโดก่อนนะฝนหยุดค่อยกลับ"
"ฮะ!"
"ไปคอนโดของพ่อฉันท่านซื้อไว้นานแล้ว อีกหน่อยฉันก็ต้องมาอยู่คอนโดมันอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย"
มิเกลยังนั่งหน้าเหวอเพราะเจ้าขุนตบไฟเลี้ยวเขายูเทิร์นกลับไปอีกฝั่งเพื่อตรงไปยังคอนโดของเขาที่อยู่ไม่ไกลมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ มาถึงมิเกลก็ยืนตัวแข็งทื่อเพราะที่นี่ก็เป็นคอนโดของพี่ชายเธอเหมือนกัน ตอนเรียนพี่ชายเธอก็พักอยู่ที่นี่และอีกไม่นานเธอก็จะได้มาอยู่ที่นี่เพราะมันสะดวกเวลาไปเรียน
---------------------------
เอ๊ะ! เจ้าขุนนี่ยังไงจะพาลูกสาวฉันเข้าคอนโดไม่ได้นะ