บทที่10
คนโบ้หรือเปล่า
บ้านหมอศิลา
ผมขับรถเข้ามาในบ้านโดยมีคุณอานทีนั่งมาด้วย หัดขับรถไม่ยากเลยวันเดียวผมก็เริ่มชินแล้ว ก่อนหน้านี้คุณพ่อสอนให้ขับถอยหลังเดินหน้าอยู่ที่บ้านประจำ ที่ผมต้องหัดขับก็เพื่อความสะดวกของตัวเองพ่อผมเป็นอาจารย์สอนทั้งในโรงพยาบาลและมหาวิทยาลัยพ่อผมอยู่ในบอร์ดบริหารของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังด้วย ไหนจะหุ้นส่วนร้านอาหารและโรงแรมกว่าสิบสาขาที่คุณอานทีดูแลอยู่
"อาได้ข่าวว่าเปลี่ยนแฟนบ่อยเหรอเรา" นทีหันไปถามหลานชายที่เดินเข้ามาในบ้านด้วยกัน
"ผมแค่คุยไม่ได้จริงจัง ผมไม่ชอบคนจู้จี่จุกจิกมันน่ารำคาญ"
"นิสัยเหมือนพ่อแกเลย พ่อแกเคยมีแฟนเป็นนางแบบสวยมาก แต่งานบ้านไม่เอา วันๆเอาแต่เที่ยวพอมาเจอแม่แกพ่อแกหยุดแรดเลย"
"ผมก็คงเหมือนพ่อมั้งครับแต่ที่ไม่เหมือนคงเป็นนิสัยขี้เบื่อ"
สองหนุ่มเข้ามานั่งด้านในจนเจ้านางเดินถือไอแพดออกมา เธอเปิดไลฟ์ของมิเกลจนเจ้าขุนเหล่ตามองวันนี้เธอไลฟ์ร้องเพลงกับซอลโดยมีโก๋เป็นมือกีตาร์ สุดท้ายสิ่งที่นทีพูดมาไม่ได้เข้าหูเจ้าขุนเลยสักนิดเพราะเขาเอาแต่ฟังมิเกลร้องเพลงจนจบเพลง หันมาอีกทีคุณอานทีก็ไม่อยู่แล้ว เมื่อเจ้านางเดินหายเข้าไปในครัวเขาก็รีบเดินขึ้นห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าเปิดดูไลฟ์ของมิเกล
เขาเองก็ไม่รู้ทำไมถึงได้อยากดูอยากรู้ว่าเธอเป็นยังไง เขาไม่ได้รักอาจจะเป็นเพราะเธอหายไปจากชีวิตเขาหลายเดือนก็ได้
เธอสวย
น่ารัก
แต่พอคำพูดของพี่ชายเธอเด้งเข้ามาในหัวผมก็ต้องหุบยิ้มลง พี่ชายเธอสั่งห้ามไม่ให้ผมเข้าไปยุ่งกับมิเกลผมเลยต้องอยู่เงียบๆแบบนี้ต่อไป
วันต่อมา
ผมตื่นมาตอนเช้าเพื่อลงมาคุยกับพ่อเรื่องรถ ถึงพ่อจะขี้บ่นเวลาผมทำอะไรไม่ถูกใจแต่ท่านก็ตามใจผมมาก ผมอยากได้อะไรถึงจะบ่นแต่พอตกเย็นกลับมาก็จะมีของที่ผมอยากได้ติดมือมาประจำ สาเหตุที่ผมกับพ่อไม่ค่อยสามัคคีกันก็คงเป็นเพราะตอนเด็กๆผมหวงแม่มาก ผมไม่ชอบให้พ่อกอดแม่และห้ามขึ้นมานอนกับแม่เด็ดขาด พ่อผมเลยจัดการแยกห้องนอนให้ผมตั้งแต่5ขวบ
"อยากได้รุ่นไหนก็เลือกมา ถามอาแกก็ได้สมัยก่อนพ่อแกขโมยรถพ่อไปล่อหญิงประจำ"
"ผมมีรถในใจอยู่แล้วครับ ผมอยากได้รถสปอร์ตที่ส่งรูปให้พ่อนั่นแหละ"
"7ล้าน! แกสัญญาได้ไหมว่าจะเรียนหมอให้จบ" กาแฟในปากแทบพุ่งไอ้เด็กเอาแต่ใจขอของแต่ละอย่างเล่นเอาพ่อแม่แทบเป็นลม
"เรียนจบอยู่แล้วล่ะ เงินแค่7ล้านทำงกไปได้ทีเลี้ยงต้อยเด็กยังเลี้ยงได้"
"ไอ้แสบ! พูดอะไรของแกอย่ามาโยนงานให้ฉันนะโว้ยย!" หมอศิลามองตามหลังลูกชายด้วยความหมั่นไส้ พอได้ของที่ต้องการก็กวนบาทาเขาทันที
อีกด้าน
มิเกลออกมาซื้อของที่ห้างกับพี่ชาย เธอบังเอิญเจอฮาร์ทเพื่อนใหม่ที่หน้าตาดีสุดๆ เธอจึงแนะนำให้พี่ชายได้รู้จัก มาร์ชจึงพาทั้งสองคนมานั่งทานข้าวด้วยกัน ฮาร์ทเป็นสุภาพบุรุษที่สำคัญมาร์ชรู้จักกับครอบครัวของฮาร์ทเป็นอย่างดีเพราะบ้านนี้นำเข้าเครื่องมือแพทย์
"มิเกลเธอกับไอ้เจ้าขุนไม่สนิทกันเหรอแปลกจัง"
"คือเราไม่ค่อยได้คุยกันน่ะ ต่างคนต่างอยู่"
"อ๋อ งั้นเราขอถ่ายรูปกับมิเกลหน่อยได้ไหม"
"ได้สิ"
ทั้งสองถ่ายรูปคู่กันไปหลายรูป ฮาร์ทจึงอัปรูปลงเฟซบุ๊กพร้อมแท็กมิเกล ใครเห็นก็คงคิดว่าทั้งสองเป็นแฟนกันเพราะเธอกับฮาร์ทเคมีเข้ากันสุดๆ แต่อีกคนของมุมโลกนี้เหมือนถูกจับโยนลงหีบแล้วตอกตะปูซ้ำ เขารู้สึกใจหวิวๆที่ได้เห็นรูปคู่ของมิเกลกับฮาร์ท เขาอยากจะโทรไปหาเพื่อนของเขาแล้วด่าให้ชื่นใจแต่พอคิดๆอีกทีหากเขาทำแบบนั้นคงดูเหมือนคนบ้าที่พาลใส่คนอื่นโดยไม่มีสาเหตุ
วันต่อมา
ผมเดินลงมาทานข้าวกับทุกคนด้วยอารมณ์หงุดหงิด ผมไม่รู้ว่าผมเป็นอะไรทานอะไรก็ไม่อร่อยเลย สีหน้าผมคงดูหงุดหงิดมากแม่ผมเลยถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
"ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าเจ้าขุน บอกแม่ได้นะครับลูก"
"ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ"
"ทุกคนคะเห็นแฟนพี่มิเกลหรือยังคะ หล่อมากกกก"
"แฟนอะไร ไร้สาระ!" เจ้าขุนหันไปถามน้องสาวแต่เธอทำหน้าล้อเลียนใส่เขา
"ก็ผู้ชายที่ลงรูปคู่กับพี่มิเกลไงคะ หล่อมาก เคมีเข้ากันสุดๆ"
"หืมมม จริงเหรอลูก ก็ดีนะมิเกลมีแฟนคงน่ารัก ดูแลกันได้ดีเลย" หมอศิลายกยิ้มเบาๆสายตาก็มองไปที่ลูกชายของตัวเอง
เคว้ง!!
ผมวางช้อนลงเพราะความหงุดหงิดทำไมผมได้ยินชื่อเธอแล้วมันหน่วงๆ พ่อผมมองหน้าผมทันทีเพราะสิ่งที่ผมทำเมื่อกี้มันไร้มารยาทมาก
"ผมขอโทษครับ"
"อิ่มแล้วเหรอพี่เจ้าขุน"
"อืม"
"กับข้าวไม่อร่อยเหรอ แกงเขียวหวานไก่พี่มิเกลหัดทำเลยเอามาฝาก หนูว่าอร่อยดีนะ"
เจ้าขุนหยิบช้อนในชามแกงเขียวหวานตักราดข้าวใหม่อีกรอบรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่แม่บ้านเติมข้าวให้อีกจาน เจ้านางแอบส่งสายตาให้พ่อของเธอได้รับรู้ว่าพี่ชายไม่ทานกับข้าวฝีมือคุณแม่เลยเอาแต่ทานแกงเขียวหวานของมิเกลจนเกลี้ยงชาม
"มองอะไรเจ้านาง" เจ้าขุนเงยหน้ามองน้องสาวจอมวุ่นวาย
"พบคนโบ้หนึ่งอัตราค่ะ"
---------------------------------------
เจ้านางก็ปั่นเก่งฮ่าๆๆ