บทที่7
พังทลาย
แม่!!
จากที่มึนเมาทั้งสองตาสว่างโล่ง เจ้าขารีบโทรหาหมอศิลาเพื่อกลับมาคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ด้านล่างเด็กๆ ยังสนุกสนานกันแต่เจ้าขุนและมิเกลนั่งก้มหน้าอยู่ในห้องทำงานของหมอศิลาแล้ว
“ลูกคบกับมิเกลเหรอเจ้าขุน”
“เปล่าครับ”
“แล้วทำแบบนี้ทำไม การที่ลูกทำแบบนี้เท่ากับว่าไม่ให้เกียรติหนูมิเกลและครอบครัวเธอนะ”
“ผมเมา ผมขอโทษครับ”
มิเกลนั่งมือไม้สั่นเธอไม่ได้กลัวถูกดุแต่เธอเจ็บกับคำพูดของเจ้าขุน เขาไม่ได้แคร์และไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิด
“หนูขอโทษค่ะ”
“ถ้าพ่อมาลูกจะทำยังไงเจ้าขุน มิเกลหนูไม่ต้องกลัวนะลูก”
“ผมเมาจริงๆ ครับแม่ อีกอย่างตอนนี้ผมกำลังคุยกับลิลลี่อยู่”
คุยกับลิลลี่อยู่!!
ฉันหันไปมองเจ้าขุนจนน้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว เจ้าขุนกำลังคุยกับลิลลี่อยู่งั้นเหรอ ฉันจึงขอตัวกลับเลย ไม่สนใจเสียงเรียกของใครทั้งนั้น สุดท้ายสิ่งที่ฉันทุ่มเทมามันก็ไม่มีความหมายเลยสักนิด
กลับมาถึงบ้านฉันก็วิ่งขึ้นห้องจนซอลรีบตามขึ้นมาป่านนี้พ่อของฉันคงไปส่งลุงหมอศิลาที่บ้านแล้วใครจะเป็นยังไงก็ช่างเพราะฉันจะไม่ทนเจ็บเพราะรักข้างเดียวอีกต่อไป
“มึงเกิดอะไรขึ้นวะ” ซอลเข้ามาหาเพื่อนพร้อมดึงเพื่อนมากอด
“มึงกูบอกชอบเจ้าขุนไปแล้ว กูจูบกันแล้วป้าเจ้าขามาเห็น”
“เชี่ย! เขาด่ามึงเหรอ”
“เปล่าป้าเจ้าขาไม่ได้ว่าอะไรกูแค่ตำหนิเจ้าขุน มึงรู้ไหมเจ้าขุนบอกว่าไม่ได้คิดอะไรกับกูแต่ที่ทำไปก็เพราะเมา ที่สำคัญตอนนี้เจ้าขุนคุยกับลิลลี่อยู่ มึงกูไม่เคยรู้สึกไร้ค่าขนาดนี้มาก่อนเลย ฮือออ”
“ใจเย็นๆ มึง ไม่เอาไม่ร้องนะ”
“กูอยากซิ่วไปเรียนที่อื่นแต่พ่อกูคงไม่ยอม มึงกูไม่รู้จะมองหน้ากันยังไงฮือออ”
“ก็ไม่ต้องมองต่างคนต่างอยู่ ถึงกูจะอยู่คนละคณะกับมึงแต่กูก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างมึงนะ”
“มึงย้ายมาเรียนหมอกับกูไม่ได้เหรอซอลกูไม่อยากมีเพื่อนใหม่ ฮึก!”
“มึงพูดง่ายสมองแบบกูได้เรียนห้องเดียวกับมึงพ่อกูก็แก้บนไปสามวันแล้ว ถ้ากูสอบติดหมอพ่อกูไม่สร้างโบสถ์ให้วัดเลยเหรอ”
“อีบ้า ฮือออ”
วันต่อมา
วันนี้ซอลต้องรีบกลับบ้านแต่เช้าเพราะแม่มันต้องไปทำงานฉันเลยแบกสังขารลงมาข้างล่าง ไม่ทันที่เหยียบพื้นเสียงครอบครัวฉันก็คุยกันถึงเรื่องเมื่อคืน เมื่อคืนพี่มาร์ชไม่ได้เข้าเวรพอได้ยินเสียงฉันร้องไห้จึงรีบมาดูแต่ไม่ทันที่จะเปิดประตูก็ได้ยินสิ่งที่ฉันคุยกับซอลหมดทุกอย่าง
“แล้วแบบนี้จะทำยังไงดีมาร์ช น้องคงเสียใจแย่เลยแม่รู้นะว่าน้องชอบเจ้าขุนมานานแม่แอบขึ้นไปดูในห้องน้อง น้องซ่อนรูปเจ้าขุนไว้ใต้หมอนมาตั้งนานแล้ว”
“เดี๋ยวก็คงผ่านไปได้แต่อาจจะต้องใช้เวลา”
“หรือจะให้น้องซิ่วไปเรียนที่อื่นดี เจ้าขุนก็นะไม่นึกถึงจิตใจน้องบ้างเลย”
ฉันรีบกลับขึ้นมาบนห้องด้วยความตกใจทุกคนรู้มาตลอดว่าฉันชอบเจ้าขุนแต่ที่ฉันอับอายก็เพราะว่าฉันชอบเขาอยู่ฝ่ายเดียว ขนาดยอมหน้าด้านจูบกับเขาจนเกือบลึกซึ้งเขายังไม่แคร์ฉันสักนิด
“หลังจากนี้ฉันจะไม่วิ่งตามนายอีกแล้วเจ้าขุน ฉันจะเลิกชอบนาย” พูดจบฉันก็เก็บรูปที่ซ่อนเอาไว้รวมถึงของขวัญหลายๆ อย่างที่เจ้าขุนเคยให้ทิ้งลงถังขยะ
“พอกันทีกับความรักที่แสนเจ็บปวดในวัยเรียน”
บ้านหมอศิลา
ผมตื่นลงมาพ่อผมก็นั่งกอดอกมองผมด้านข้างก็เป็นยัยวุ่นวายเมื่อคืนพ่อผมไม่ได้คุยอะไรกับผมเพราะเพื่อนๆ ผมอยู่พอทุกคนกลับไปผมก็ขึ้นห้องนอนด้วยความเมา
“ไปจูบลูกสาวเค้าแล้วบอกไม่ได้คิดอะไรทำได้ยังไงพี่เจ้าขุน พี่ยังมีความเป็นคนอยู่ไหม”
“น้องพูดถูกแกไม่คิดรักษาน้ำใจมิเกลเลยพูดมาได้ยังไงว่าเมา”
“ก็ผมเมาจริงๆ”
“แต่จูบขนาดนั้นนี่ถ้าแม่ไม่ออกมาแกไม่ลากมิเกลไปกินในห้องเลยเหรอ” หมอศิลาเริ่มไม่สบายใจเมื่อคืนเจ้าขาโทรไปเขาอยู่กับหมอก้องพ่อของมิเกลพอดี
“ไปขอโทษมิเกลซะ แล้วก็ขอโทษพ่อแม่มิเกลด้วย” เจ้าขาเดินเข้ามาร่วมวงอีกคน
ผมโดนด่าอยู่ประมาณ 1ชั่วโมง 37นาที สุดท้ายผมก็ต้องมาบ้านมิเกลเพื่อขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปิดเทอมแล้วเธอคงไม่ได้ไปไหนส่วนใหญ่เธอจะอยู่แต่บ้านอ่านหนังสือ
“พี่มาร์ชผมมาหามิเกล มิเกลอยู่ไหมครับ”
“มิเกลออกไปกับโก๋แล้วนะ เห็นว่าจะไปบ้านซอลกัน”
“อ๋อ ครับ”
มาร์ชมองน้องข้างบ้านด้วยสายตาเรียบเฉย เขาก็อยากจะรู้ว่าคนอย่างเจ้าขุนจะมีความรับผิดชอบยังไง ถึงเขาจะโตพอและเข้าใจวัยว้าวุ่นแต่เรื่องนี้น้องสาวของเขาเสียใจจนเป็นบ้าเป็นหลัง ตัวต้นเหตุจะแก้ปัญหานี้ยังไง
“พี่มาร์ชครับ ผมขอโทษเรื่องเมื่อคืนด้วยนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“จริงๆ พี่ก็ไม่อยากเก็บเรื่องพวกนี้มาคิดหรอกนะแต่มิเกลก็เป็นน้องสาวพี่แล้วพี่ก็ไม่อยากเห็นมิเกลเสียใจด้วย”
“พี่จะให้ผมทำยังไงครับ”
“ไปให้พ้นๆ และอย่ามายุ่งกับมิเกลอีก” มาร์ชดันแว่นขึ้นสายตาก็มองหน้าน้องข้างบ้านเขาคิดว่านี่คงดีที่สุดแล้ว ยิ่งใกล้กันน้องสาวเขาก็ไม่มีวันตัดใจผู้ใหญ่ฝ่ายนั้นก็จะมองน้องสาวเขาไม่ดี สู้ให้เลิกยุ่งเกี่ยวกันไปเลยดีกว่า
------------------------------
พี่มาร์ชมานิ่งๆแต่ตัดบทได้โหดมากเลยค่ะ ไรท์กลัว