"ตกลงว่ายังไง เป็นป่ะ"
เขากอดเอวหญิงสาวไว้หลวมๆก่อนจะใช้คางเกยไว้บนไหล่ของเธอ พิ้งค์กี้ทำท่าทางคิดหนักไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไงดีกับสิ่งที่เขากำลังขอคำตอบ ถ้าเราสองคนเป็นแฟนกันนั่นเท่ากับว่าจะไม่มีสถานะเพื่อนอีกต่อไปแล้ว ไหนจะไอ้พวกเพื่อนรุ่นเดียวกันที่ต้องล้อเราสองคนอีก ตายแน่เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
"ทำไมเครียดขนาดนั้น ไม่อยากคบกันเหรอ"
"ไม่ใช่อย่างนั้น คือว่า..."
เขายิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยถามเหตุผลของเธอ ตอบมาแบบนี้แสดงว่าอยากคบกับเขาแหละแต่ว่าคงมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ต้องลังเลใจ
"ว่า..."
"แกก็คิดดูดิ ไอ้พวกสามคนนั้นมันจะต้องล้อเราสองคนแน่เลย เราสองคนปฏิเสธมาตลอดว่าไม่มีทางคบกันแต่สุดท้ายก็มาลงเอยกัน แล้วถ้าสมมติว่าเราสองคบกันไปแล้วไม่รอดขึ้นมา มันเสียเพื่อนเลยนะเว้ย"
เขาคิดตามคำพูดของเธอ มันก็จริงที่ว่าเราสองคนอาจจะต้องเสียเพื่อนแต่เขาเชื่อว่าเราสองคนไม่มีทางเลิกกันแน่นอน ข้อแรกเลยคือเขารักเธอมากพอที่จะไม่มองคนอื่นและถ้าเธอคิดจะมีใครคงมีไปนานแล้ว ข้อสองเราสองคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตัวติดกันเหมือนเป็นคนรักกันอยู่แล้ว ถ้าจะคบกันแต่ก็วางตัวเหมือนเดิมทำไมจะคบกันไม่ได้
"แล้วมีเหตุผลอะไรที่เราสองคนจะเลิกกันล่ะ"
"มันไม่ใช่อย่างนั้น เข้าใจป่ะว่าสมมติอ่ะ"
พิ้งค์กี้ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะหันไปโอบรอบคอเขาไว้แน่น
"ถ้าวันหนึ่งเราสองคนไปกันไม่ได้จะทำยังไง"
"ไม่มีทางและมันจะไม่มีวันนั้น เราสองคนก็ใช้ชีวิตแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ อยู่กันเหมือนเพื่อนสนิทแบบนี้ก็มีความสุขกันดีอยู่แล้ว ถ้าจะเลิกกันเพราะคนอื่นเราสองคนคงต่างมีกันไปนานแล้ว"
"ก็จริง แล้วถ้าเราคบกันคนอื่นต้องล้อแน่เลยอ่ะ แกก็รู้ว่าไอ้พวกนั้นมันปากไม่ดี"
หญิงสาวซบหน้าลงกับไหล่กว้าง ถ้าต้องเดินไปบอกพวกมันว่าคบกันก็เหมือนกลืนน้ำลายตัวเอง สองคนนิ่งไปอย่างใช้ความคิดพิ้งค์กี้เงยหน้ามองสบตากับเขาก่อนจะยิ้มออกมา
"งั้นเอางี้ป่ะเรายังไม่ต้องบอกใคร เอาไว้ถ้าคิดถึงขั้นแต่งงานค่อยบอกคนอื่น"
"แบบนั้นก็ได้นะ ว่าแต่ถ้าไม่มีใครรู้ว่าเราคบกันแล้วมีผู้หญิงมาจีบฉันอ่ะ แกจะไม่หวงใช่มั้ย"
"มันก็อยู่ที่ว่าแกทำให้ไว้ใจมากขนาดไหน"
เธอเอ่ยออกมาเสียงเรียบ เอาจริงก็หวงแหละแต่ถ้าเขาเป็นแบบที่เคยเป็นไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับใครเธอก็โอเคมากแล้ว
"โอเค ไว้ใจได้เลยจะไม่ยุ่งกับใครให้แกไม่สบายใจ ตกลงว่าเราสองคนคบกันนะ"
เขาเอ่ยถามคำตอบยืนยันจากหญิงสาว พิ้งค์กี้พยักหน้ายิ้มๆก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน
"อื้มคบก็ได้"
ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะดึงหญิงสาวเข้ามาสวมกอดแน่นอย่างดีใจ ในที่สุดความพยายามของเขาก็สำเร็จผล สามารถเอาชนะกำแพงที่เธอตั้งไว้ได้
"ขอบคุณนะพิ้งค์"
"อื้ม ขอบคุณเหมือนกันที่ตลอดเวลานายดีกับฉันตลอดเลย"
"ไม่ให้ดีกับแกแล้วจะให้ดีกับใครล่ะ"
เขายิ้มออกมาก่อนจะโน้มใบหน้าหญิงสาวเข้ามาใกล้ก่อนจะจุ๊บแก้มหนึ่งที เธอเอามือปิดแก้มตัวเองไว้ก่อนจะมองเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
"หอมแก้มอีกแล้วนะ"
"ก็เป็นแฟนกันป่ะ จะทำมากกว่านี้ก็ได้อย่างเช่น..."
เขาใช้มือที่โอบเอวเธอไว้สอดเข้าไปในเสื้อของเธอ พิ้งค์กี้ตาโตก่อนจะเอามือทุบหน้าอกเขาหลายมีอย่างเขินอาย
"ไอ้บ้าซีเนียร์ ฉันยังไม่พร้อมหรอกนะ"
"อะไรอ่ะ เป็นแฟนกันก็ต้องนอนด้วยกันดิ"
"ก็ยังไม่พร้อมไงขอเวลาทำใจก่อน กลับบ้านไปได้แล้ว"
เธอไล่เขาให้กลับบ้านไปไม่อย่างนั้นเธอได้ถูกเขาปล้ำในห้องนอนนี้แน่ เขาทำหน้าออดอ้อนแต่ว่ามีหรือที่เธอจะยอมเขา คนมันไม่เคยนี่และไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมามีความสัมพันธ์กับคนที่เธอเรียกว่าเพื่อนสนิทมาตลอดด้วย มันก็เลยรู้สึกแปลกๆ
"ไม่เอาไม่กลับ ขอนอนด้วยนะ"
"บ้า มานอนทำไมที่นี่เดี๋ยวพ่อกับแม่รู้ก็โดนจับแต่งงานหรอก"
"แต่งดิไม่เห็นจะกลัวเลย สินสอดพร้อมแล้วรอแค่ฝ่ายหญิงตกลงแค่นั้น"
เขาอมยิ้มจุ๊บแก้มจุ๊บมือเธอเล่นอย่างแกล้งหยอก พิ้งค์กี้ตีหน้าอกเขาอย่างรู้สึกอาย ทำไมเขาถึงเป็นผู้ชายมือไวแบบนี้ก็ไม่รู้
"ห้ามบอกใครนะว่าคบกันอยู่อ่ะ"
"ไม่บอกหรอก เอางี้เรามาตกลงกันก่อน"
"ตกลงอะไรอ่ะ"
เธอหันไปมองเขาอย่างสงสัย ซีเนียร์ยิ้มออกมาก่อนจะทำข้อตกลงระหว่างเราสองคนเพื่อให้เข้าใจตรงกัน
"ถ้าเราอยู่กันสองคนอ่ะให้เรียกว่าเค้ากับตัวเองนะ"
"อี้ เค้ากับตัวเองงั้นเหรอ"
พิ้งค์กี้รู้สึกแปลกกับคำเรียกของเธอกับเขา ถึงจะพูดบ่อยแต่นั่นมันไม่เหมือนกับตอนนี้อ่ะ สถานะมันเปลี่ยนไปแล้ว
"ใช่ต้องเรียกและห้ามพูดฉันเธอแกอะไรไม่เอาแล้ว แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็อนุโลมกันไป แล้วก็ถ้าไม่อยากให้ใครรู้ก็ต้องแสดงออกเหมือนที่เคยทำ และถ้าอยู่ด้วยกันสองต่อสองแล้วไม่พูดเค้ากับตัวเอง คนนั้นจะต้องโดนลงโทษ"
เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจ เอาจริงทั้งสองคนก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปมากหรอกยังปฏิบัติต่อกันเหมือนเดิมเพียงแค่สถานะมันชัดเจนขึ้นก็เท่านั้น
"ก็ได้แล้วแก... อ๊ะ"
หญิงสาวเอามือปิดปากตัวเอง ซีเนียร์ยิ้มมุมปากก่อนจะเอามือออกจากปากของเธอแล้วยื่นหน้าไปจุ๊บริมฝีปากของเธอ
"จูบทำไมเล่า"
"บทลงโทษของคนที่ทำผิดไง ถ้าพูดอีกก็จะโดนจูบ จะจูบจนช้ำเลยคอยดู"
เขาใช้มือเกลี่ยแก้มนวลอย่างหลงไหล เธอสะบัดหน้าใส่เขาอย่างงอนๆก่อนจะหันมามองหน้าเขาอีกครั้ง
"แล้วถ้าตัวเองทำผิดจะให้เค้าลงโทษยังไง"
"จูบกลับไง"
"โหยโกงอ่ะ เสียเปรียบเห็นๆเลย ชิ"
หญิงสาวทำหน้าเซ็งๆก่อนจะมองหน้าเขาที่เอาแต่ยิ้มแก้มปริอย่างกับคนบ้า
"ยิ้มอะไรนักหนา"
"ก็คนมันมีความสุขอ่ะ ว่าแต่เป็นแฟนกันคบกันแล้วต้องยอมเป็นเมียนะ"
พิ้งค์กี้ตาโตก่อนจะส่ายหน้าทันที เรื่องนั้นมันจะยังไม่เหิดขึ้นตอนนี้เด็ดขาด เธอยังไม่พร้อมบอกแล้วไงว่าขอเวลาทำใจก่อน
"ไม่เอายังทำใจไม่ได้ ขอเวลาหน่อย"
"งั้นเอางี้มั้ยเราก็อยู่กันแบบที่เคย ส่วนเรื่องนั้นถ้ามันถึงเวลาก็ปล่อยมันไปตามธรรมชาติดีมั้ย"
เธอมองเขาอย่างคิดสักพักก่อนจะพยักหน้ายอมตกลง เอาวะอย่างน้อยก็ยังพอมีเวลาทำใจอยู่ ไม่ใช่ว่าเธอจะใจร้ายไม่ยอมเขาเสียหน่อยแต่ว่ายังไม่ใช่วันนี้แน่นอน
"ก็ได้"
"โอเคเราสองคนเข้าใจกันแล้วนะ"
"อื้ม ว่าแต่ตอนนี้เค้าหิวมากเลย ไปกินข้าวกันมั้ย"
"ได้สิจ้ะที่รัก กินอะไรดีอาหารญี่ปุ่นมั้ย"
เขาเอ่ยถามเสียงหวาน พิ้งค์กี้หน้าตึงลุกขึ้นส่ายหน้าทันที
"ไม่กิน งดกินอาหารญี่ปุ่นไปเลย ไม่อยากกินเหมือนมัน"
เธอสะบัดหน้าใส่เขาอย่างงอนๆ ยัยดีสนีย์มันไปอ้อนซีเนียร์ให้พาไปกิน เพราะฉะนั้นถึงจะเป็นของชอบแต่ว่าเธอจะไม่ไปกินตามที่มันอยากกินแน่นอน เขาอ้าปากค้างมองเธออย่างทึ่ง นี่ขนาดไม่ค่อยหวงเขาเท่าไหร่นะยังขนาดนี้เลย ถ้าหวงมากๆจะขนาดไหนวะเนี่ย
"โอเค... ไม่กินก็ไม่กิน แล้วจะกินอะไรดีคะ"
"ส้มตำ ไก่ย่าง หมูน้ำตก คอหมูย่าง แซ่บ!"
"จ้ะ ตามนั้นเลย"
"น่ารักที่สุดเลย ไปค่ะ"