พิ้งค์กี้นั่งคุยงานอยู่กับแบล็คลิสต์โดยมีซีเนียร์นั่งเท้าคางมองทั้งสองคนทำงานโดยไม่ก่อกวนแมเแต่น้อย แต่สายตาจ้องทั้งสองคนอยู่อย่างนั้นจนแบล็คลิสต์รู้สึกอึดอัด
"นายจะจ้องเราสองคนอีกนานมั้ย ประธานห้างดังเค้าไม่ทำงานกันเหรอ"
"ทำตอนเช้าแล้วไง บ่ายว่าง"
"ไปตรวจงานหรือไปทำอะไรก็ได้ ไม่ใช่มานั่งกดดันเราสองคนกำลังคุยงานกันอยู่ มันไม่มีสมาธิเว้ย"
แบล็คลิสต์บ่นออกมาทันทีแต่มีหรือที่เขาจะสำนึกในสิ่งที่บ่นออกไป
"นี่ไม่ได้พูดเสียงดังหรือกวนอะไรเลยนะ"
"แต่นายจ้องเราสองคนไม่หยุดเลยนะ"
"แต่ว่า..."
"พอๆทั้งสองคนเลย ซีเนียร์นายทำนี่ให้หน่อยดิ"
เธอส่งไอแพดไปให้เขากดเล่นจะได้มีอะไรทำไม่ต้องมาจ้องหน้ากดดันเราสองคน เขายักไหล่เล็กน้อยก่อนจะหยิบไแอพดีของเธอมากดเล่น สักพักก็มีเสียงจากผู้มาใหม่ ทั้งสามคนหันไปมองทันที
"บังเอิญจังเลยมาดื่มกาแฟกันเหรอ"
ดีสนีย์ถือแฟ้มเอกสารเดินเข้ามาในร้าน ซีเนียร์และพิ้งค์กี้หันมามองหน้ากันอย่างแปลกใจ
"ดีสนีย์มานั่งด้วยกันสิ"
แบล็คลิสต์เอ่ยชักชวนให้เธอมานั่งด้วยกันที่นี่ ซีเนียร์กระซิบหญิงคนรักเสียงไม่ดังมากนัก
"บังเอิญไม่มีจริง"
"แบล็คลิสต์เรียกมาแหละ"
สองคนยิ้มแห้งออกมาก่อนจะหันไปคุยกับทั้งสองคนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สองคนนี้ร้ายพอๆกับพวกเขานั่นแหละ ไม่อย่างนั้นดีสนีย์ไม่มีทางมาที่นี่ได้
"เจอซีเนียร์ดีเลย เราอยากปรึกษาเรื่องงานหน่อยนะ"
"ได้ดิ ว่ามาเลย"
จากนั้นดีสนีย์ก็เบี่ยงเบนความสนใจของซีเนียร์ให้มาสนใจเธอแทน แบล็คลิสต์ส่งข้อความมาบอกเธอว่าเขาอยู่ที่นี่ และเธออยู่แถวนี้พอดีก็เลยเดินทางมาหา ไม่รู้ว่าทั้งสองคนบังเอิญจริงรึเปล่าที่มาเจอกันที่นี่ แต่ของเธอไม่ได้บังเอิญแน่นอน
"มันต้องใส่ตรงนี้ด้วยเหรอ"
"ต้องใส่ไม่งั้นมันจะไม่ให้กดส่ง"
"อ่อ อย่างนี้นี่เอง"
พิ้งค์กี้เหลือบสายตามองคนรักกับผู้หญิงที่เธอไม่ค่อยชอบขี้หน้าเท่าไหร่ เอาจริงป่ะเราสองคนไม่ได้มีปัญหาอะไรกันหรอก แต่ที่เธอไม่ชอบดีสนีย์เพราะคนอื่นเชียร์ให้คบกับซีเนียร์นั่นแหละ ยิ่งเธอทำตัวอยากเข้าหาเขาเท่าไหร่เธอยิ่งไม่ชอบจนมันกลายเป็นเกลียดขี้หน้าไปเลย แต่ถ้าถามโดยส่วนตัวเธอก็ไม่ได้เป็นคนที่แย่อะไรนะ อย่างแบล็คลิสต์นี่คือผู้ชายที่ดีเลยแหละ แต่คนมันไม่ได้รักอ่ะเนาะ...
เวลาผ่านไปตอนนี้เรื่องงานเคลียร์กันลงตัวเรียบร้อยหมดแล้ว พิ้งค์กี้ในตอนนี้เท้าคางมองชายหนุ่มกำลังให้คำปรึกษาดีสนีย์เกี่ยวกับเรื่องงานก็เบะปากอย่างหมั่นไส้ ทำไมต้องมายุ่งกับคนรักของเธอด้วยก็ไม่รู้น่าเบื่อชะมัดเลย
"ซีเนียร์เก่งจัง เราเข้าใจง่ายมาก"
"อืม มีอะไรก็ถามได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ"
เขายิ้มออกมาด้วยความหวังดีไม่ได้คาดคิดอะไร แต่พิ้งค์กี้ที่ได้ยินแบบนั้นก็ใช้เท้าเหยียบไปอย่างแรงใส่เขาจนชายหนุ่มร้องลั่นออกมา
"โอ๊ย"
เขาหันขวับไปมองหญิงสาวอย่างงุนงงก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองพูดอะไรไม่คิดทำให้เธอโกรธ
"เป็นอะไรอ่ะซีเนียร์ มดกัดเหรอ"
เขาหันไปมองสองคนที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาทันดี
"ใช่ๆมดตัวบะเร้อเลย"
"เรามีธุระต่ออ่ะยังไงกลับก่อนดีกว่า"
พิ้งค์กี้เก็บของตรงหน้าใส่กระเป๋าของตัวเอง แบล็คลิสต์สะกิดให้ดีสนีย์ออดอ้อนให้ซีเนียร์ไปส่ง เธอหันไปมองสบตากับเขาก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน
"ซีเนียร์มายังไงอ่ะ เราขอติดรถไปลงที่บริษัทได้มั้ย"
เขาหันไปมองพิ้งค์กี้ทันที เธอยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นแล้วสะกิดซีเนียร์ให้ลุกขึ้นตาม
"ซีเนียร์นายจะเอาของไม่ใช่เหรอ ตามมาดิ"
"หือ"
เอาเงยหน้ามองหญิงสาวอย่างสงสัย เขาบอกว่าจะไปเอาของตอนไหนแล้วของอะไรล่ะ เธอใช้เท้าสะกิดเขาก่อนจะร้องอ่อออกมาทันที
"จริงด้วยลืมไปเลยอ่ะ งั้นเอางี้แบล็คลิสต์นายรบกวนไปส่งดีสนีย์ทีนะ เดี๋ยวฉันต้องไปเอาของที่บริษัทพิ้งค์อ่ะ เดี๋ยวเธอจะไปธุระที่อื่นต่อ"
"ไปเถอะเดี๋ยวฉันไปส่งเอง"
เขายิ้มออกมาก่อนจะมองตามสองคนที่เดินออกไปด้วยท่าทีที่สนิทสนม เขาหันไปมองดีสนีย์ที่ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ
"ถอนหายใจทำไม เธอไม่อยากไปกับฉันเหรอดีสนีย์"
"ไม่มีทางได้ไปไหนกับซีเนียร์หรอกถ้ายังมียัยพิ้งค์อยู่นะ เราสองคนต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว"
"มีแผนร้ายหรือไง"
ดีสนีย์ยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะมองตามทั้งสองคนที่เดินออกจากประตูร้านไป
"มีอยู่แล้วแผนร้ายๆอ่ะ"
ทางด้านของพิ้งค์กี้และซีเนียร์ พ้นออกมานอกร้านเธอก็ลากเขาไปที่รถของเธอทันที
"ตัวเองหึงเค้าเหรอ"
เขาอมยิ้มดึงเธอมาโอบรอบเอวไว้ก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาอย่างหวงแหน หญิงสาวตีไหล่ชายหนุ่มหลายทีก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
"ตัวเองว่ายัยดีสนีย์เป็นยังไง"
เขามองเธออย่างแปลกใจแต่ก็นึกไปถึงผู้หญิงอีกคน เขารู้จักเธอตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมแล้ว ถึงจะไม่สนิทมากเท่าพิ้งค์กี้แต่ก็ได้คุยกันบ่อย
"เอาจริงก็นิสัยดีนะ ไม่ได้เป็นคนเลวร้ายอะไร เค้ายังงงเลยว่าตัวเองไปเกลียดไปโกรธดีสนีย์ทำไม ทะเลาะอะไรกันเหรอ"
เขายังคาใจอยากจะถามหลายครั้งแล้วแต่เธอไม่ยอมตอบคำถาม พิ้งค์กี้ถอนหายใจออกมาก่อนจะเริ่มอธิบายให้เขาฟัง
"ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันหรอก ก็แค่หมั่นไส้อ่ะทำเหมือนสวยแต่ก็สวยแหละ แล้วก็หมั่นไส้เวลาไปที่ไหนพวกเพื่อนๆก็บอกว่าตัวเองเหมาะสมกับมันอ่ะ ไม่เห็นจะเหมาะสมตรงไหนเลยสักนิด ได้ยินบ่อยจนรำคาญแล้วก็กลายเป็นไม่ชอบเกลียดไปเลย"
ซีเนียร์ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาทันที อาการแบบนี้มันหึงหวงเขาชัดๆเลย แสดงว่าคงรู้สึกมาตั้งนานแล้วแหละแต่ว่าไม่รู้ใจตัวเองก็เท่านั้น
"ตัวเองหัวเราะทำไม"
หญิงสาวตีแขนชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ เธอกำลังจริงจังอยู่มาหัวเราะทำไมล่ะ
"ตัวเองรู้มั้ยว่าเป็นคนขี้อิจฉามากเลยอ่ะ"
"คนบ้าขี้อิจฉาตรงไหน เค้าหวงตัวเองหรอกไม่คุยด้วยแล้วชิ"
เธอเอ่ยออกมาเสียงเบา เขายิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะดึงเธอมาสวมกอดไว้หลวมๆ
"ว่าแต่ตัวเองถามทำไม"
"อ่อ เค้าถามเพราะกำลังคิดว่าถ้าเราจะทำให้สองคนนั้นไม่มาสนใจเราอีก ก็ต้องทำให้ทั้งสองคนหันมาสนใจกันเอง"
ซีเนียร์มองหน้าคนรักอย่างสงสัย หมายความว่ายังไงให้หันมาสนใจกันเอง อย่าบอกนะว่า....
"ตัวเองจะจับคู่ให้สองคนนั้นเหรอ"
"แบล็คลิสต์ก็ดีออก นิสัยดี หน้าตาก็ดี รวยด้วย ยัยดีสนีย์ได้ไปเป็นสามีกลายเป็นตกถังข้าวสารเลยนะดีจะตาย ถึงแม้ว่าจะสู้ตัวเองของเค้าไม่ได้ก็เถอะ"
เธอหันไปอ้อนชายคนรักตรงหน้า ซีเนียร์ได้ยินแบบนั้นก็แทบจะตัวลอยเมื่อคนรักเอ่ยเยินยอเขา
"ปากหวานเอารางวัลมั้ย"
"จุ๊บ เอาสิงั้นคืนนี้ตัวเองนอนกับเค้านะ"
เธอเอ่ยออกมาเสียงออดอ้อน ชายหนุ่มส่ายหน้ายิ้มๆขำกับความหื่นของคนรักก่อนจะโอบเอวกันเข้าไปในรถแล้วขับออกไปยังจุดหมาย ส่วนรถของเขาเดี๋ยวให้คนขับรถมาเอาแล้วกัน
"รักตัวเองจัง"
หญิงสาวเอ่ยเสียงหวานมือเล็กลูบไล้ตามตัวเขาอย่างซุกซน ค่อยๆเลื่อนลงมาจนถึงเอวก่อนจะเริ่มต่ำลงไปอีกเขาจึงรีบจับไว้เสียก่อน
"อย่าซน"
"รีบกลับบ้านสิ เค้าอยากได้รางวัลแล้วอ่ะ"
"ยัยหื่นเอ้ย สุดยอดจริงๆให้ตายสิ"