วันต่อมา...
พิ้งค์กี้เดินทางมาที่บริษัทของตัวเองในเช้าวันต่อมา เธอมานั่งที่ห้องทำงานตรวจตารางงานในเดือนนี้ว่ามีอะไรที่ต้องจัดการอีกรึเปล่า เธอให้พนักงานรับงานน้อยลงจะได้มีเวลาไปจัดอีเว้นท์ของห้างสรรพสินค้าในเดือนถัดไป
"เดือนนี้มีงานอีกห้าที่ค่ะ แต่ว่าคุณพิ้งค์ไม่ต้องลงมือทำเองนะคะ คนของเราจัดการได้ค่ะ"
"โอเค แล้วทีมงานเราตอนนี้มีว่างบ้างมั้ย"
"มีงานทุกคนค่ะ แต่ว่าทีมตัดต่อเพิ่งส่งตัวอย่างโฆษณาที่แก้ไขครั้งล่าสุดมาให้ตรวจ หลังจากนี้ก็ว่างค่ะ"
เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะหันไปมองโทรศัพท์ที่มีเสียงเรียกเข้าโทรเข้ามา เธอกดรับสายก่อนจะเอ่ยทักทายปลายสาย
"สวัสดีค่ะ พิ้งค์กี้ PPR GROUPค่ะ"
(พิ้งค์กี้เราเองนะแบล็คลิสต์)
"นายเองเหรองว่ายังไงเอ่ย เมื่อคืนเราสองคนไม่ได้คุยกันเลยตอนนี้ว่างค่ะคุยได้"
พิ้งค์กี้ยิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ ลูกค้ารายใหม่มาแล้ว เธอจะต้องพูดจาอ่อนหวานให้เขาพอใจจะได้ว่าจ้างเธอเยอะๆ
(ก็คุยเรื่องโฆษณานั้นแหละ พอดีว่าเรามีแพลนจะโปรโมทขนส่งพร้อมกับเปิดตัวธุรกิจใหม่)
"ได้สิจะคุยผ่านทางโทรศัพท์เลยหรือว่าจะให้เราไปหาที่บริษัทดีล่ะ"
(เจอกันร้านกาแฟก็ได้นะหรือเอาที่พิ้งค์สะดวก)
"โอเคงั้นเจอกันร้านกาแฟเดี๋ยวเราส่งโลเคชั่นไปให้ เจอกันตอนบ่ายแล้วกันนะ"
(ได้เลย งั้นส่งมาทางข้อความนะ)
"อื้ม โอเคเจอกันนะ"
(โอเคเจอกัน)
แบล็คลิสต์กดวางสายก่อนจะมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วยิ้มออกมาบางๆ เขาชอบพิ้งค์กี้ตั้งแต่เรียนมัธยมแล้ว พยายามที่จะไปคบหากับใครอื่นหลายคนแต่ว่ามันไม่ใช่ เขาชอบผู้หญิงทำงานเก่ง มีความมั่นใจในตัวเองสูงและที่สำคัญที่สุดนิสัยลุยๆถึงไหนถึงกันเหมือนเธอ
ทางด้านของพิ้งค์กี้เธอวางโทรศัพท์ลงก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีที่ได้ลูกค้ารายใหม่
"ช่วยเตรียมใบเสนอราคาเกี่ยวกับการจัดงานเปิดตัวสาขา บริษัท แล้วก็รายละเอียดค่าใช้จ่ายการจ้างทำโฆษณาด้วย"
"ได้ค่ะคุณพิ้งค์ ไปเองเหรอคะ"
"ไปเอง คนนี้เพื่อนสมัยเรียนเดี๋ยวจัดการเอง"
"รับทราบค่ะ"
ผู้ช่วยของเธอเดินออกไปเตรียมเอกสารให้เจ้านาย ส่วนพิ้งค์กี้เธอกดส่งข้อความไปหาชายคนรัก แจ้งข่าวให้เขาทราบว่าเธอกำลังจะไปทำอะไรกับใครที่ไหน และเขาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
เมื่อถึงเวลาเธอก็เดินเข้าไปนั่งรอเขาในร้าน ไม่นานแบล็คลิสต์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มหวาน
"รอนานมั้ย"
"ไม่เลยสักนิด เราเพิ่งมาถึงเองนั่งสิ สั่งอะไรก่อนมั้ยเดินทางมาเหนื่อยๆ"
"เอาสิ"
เขาหันไปสั่งเมนูสองสามอย่างก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเธอแล้วชวนคุยเรื่องงานก่อน ถ้าจะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันก็คงจะเข้าหาในเรื่องที่เธอให้ความสนใจ
"คุยเรื่องงานกันมั้ย"
"อ่อ ดีเลย นี่เป็นรายละเอียดสำหรับการบรีฟงานเบื้องต้นและราคาคร่าวๆ แบล็คลิสต์ลองอ่านดูก่อนแล้วจะเอายังไงก็ว่ากัน ลดเพิ่มได้ไม่ว่ากันตามตกลง"
"งั้นขออ่านแป๊บหนึ่ง"
เขานั่งอ่านรายละเอียดเบื้องต้นก็เป็นราคาทั่วไปตามที่บริษัทอื่นรับทำ แต่บางอย่างที่บริษัทอื่นไม่สามารถทำได้แต่บริษัทของเธอสามารถทำได้ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจมาก
"น่าสนใจมาก อันนี้ที่เราคิดมาว่าจะทำโฆษณาแนวนี้"
พิ้งค์กี้รับมาดูก่อนจะหันไปจดรายละเอียดที่เขาต้องเตรียม หรือจะให้ทางบริษัทของเธอเตรียมให้ก็ได้ไม่ว่ากัน
"ทางบริษัทของแบล็คลิสต์มีเลือกพรีเซนเตอร์ไว้รึเปล่า ถ้าเอาตามนี้ต้องใช้ตัวหลักสองคน แล้วสถานที่จะใช้บริษัทของแบล็คลิสต์หรือว่าจะให้เราทำใหม่"
"พิ้งค์ว่ายังไงล่ะ เราว่าตามพิ้งค์เลย"
เขายิ้มออกมาก่อนจะส่งใบรายละเอียดคืนเธอไป อะไรที่เธอว่าดีเขาก็สนับสนุนด้วยทุกอย่าง
"เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวเราไปจัดการตามที่นายเขียนมา แล้วจะส่งไปให้ดู"
"โอเคตามนั้น"
เขามองเธอที่ดูตั้งใจทำงานเป็นอย่างมากก็รู้สึกอยากสนิทสนมกับเธอมากกว่านี้ พิ้งค์กี้เธอสนิทกับแก๊งของซีเนียร์ ทั้งสองคนรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กสนิทกันมากจนใครก็อิจฉา ตลอดเวลาผู้ชายที่เข้าใกล้เธอได้มีแต่ซีเนียร์และแก๊งเพื่อนอีกสองคน ซึ่งคนที่สามารถถึงเนื้อถึงตัวเธอได้มีแค่คนเดียวเท่านั้น เขาเห็นยังอิจฉาเลย
"มองอะไรเนี่ย จ้องหน้านานไปนะ"
"กำลังดูคนตั้งใจทำงานอยู่ พิ้งค์เก่งมากเลยนะดูแลบริหารบริษัทคนเดียวกับลูกน้องอีกหลายชีวิต"
"ไม่ต้องมาชม นายเก่งกว่าเราเยอะเลย สาขาทั่วประเทศรวยกว่าเราไม่รู้เท่าไหร่ ถามว่าใครเก่งก็คงไม่พ้นนายแหละ"
เธอเอ่ยออกมาตามตรง พวกเขามีธุรกิจที่มีสาขาทั่วประเทศไทยบริหารดูแลทรัพยากรบุคคลหลายหมื่นชีวิต ถ้าจะบอกว่าเป็นธุรกิจของครอบครัวแต่ว่าถ้าพวกเขาดูแลไม่ดีพอยังไงก็ไปไม่รอด เพราะความสามารถที่มีจึงพาบริษัทเติบโตขึ้นไปได้
"ก็ที่รวยได้เพราะใครล่ะ พิ้งค์สิก่อตั้งตั้งแต่บริษัทยังเล็กๆจนมีทุกวันนี้"
"รู้ดีนะติดตามชีวิตเราเหรอไง"
หญิงสาวหัวเราะออกมาก่อนจะเงยหน้าสบตากับเขา แบล็คลิสต์เท้าคางมองหน้าเธอก่อนจะเอ่ยเสียงจริงจัง
"เราดูโซเชียลพิ้งค์ตลอดแหละ แต่ว่าตั้งแต่ที่เรียนจบเราก็ไม่กล้าทักเท่าไหร่ แต่ว่ารู้นะว่ากว่าพิ้งค์จะมาถึงจุดนี้ได้มันเหนื่อยมาก"
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงใจ เธอยิ้มออกมาก่อนจะชะงักไปเมื่อมาเสียงที่สามโผล่มาจากทางด้านหลัง
"บังเอิญจังเลยนะเนี่ย มาทำอะไรกันที่นี่สองคนนี้"
สองคนหันไปมองผู้มาใหม่ ซีเนียร์อมยิ้มเดินมานั่งลงข้างพิ้งค์กี้ก่อนจะหันไปทักทายแบล็คลิสต์
"ไงCEOแบล็ค"
"นายนี่เหมือนมีGPSตามตัวพิ้งค์ไว้นะ เจอพิ้งค์ที่ไหนต้องเจอนายที่นั่น"
เขามองซีเนียร์อย่างสงสัย นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่บังเอิญแบบนี้ต้องเจอสองคนนี้อยู่สถานที่เดียวกันตลอด เหมือนว่าทั้งสองคนจะติดต่อกันตลอดเวลา
"นายไม่รู้อะไร นี้ร้านประจำของกลุ่มเพื่อนพวกเรา พิ้งค์ชอบดื่มกาแฟที่นี่ ฉันก็ชอบเหมือนกันไม่เห็นแปลกอะไรเลย"
"งั้นเหรอ"
เขาทำหน้าเหมือนไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่ ตอนนี้ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนคืบหน้าไปถึงไหน แต่จากที่คุยเมื่อคืนยังคงความเป็นเพื่อนกันอยู่ไม่คืบหน้าไปไหน
'แต่ท่าทางที่เขาแสดงออกเมื่อคืนมันไม่ใช่เพื่อนกันเลย เพราะฉะนั้นเขาต้องรู้ให้ได้'