วันรุ่งขึ้น ขวัญนรีก็เดินถือกระเป๋าผ้าซึ่งภายในมีกล่องข้าวสี่กล่องบรรจุอยู่ เธอเลือกจะทำกับข้าวมาสองอย่าง มีรสชาติเผ็ดและรสชาติจืด เพราะไม่รู้ว่าเจ้านายของเธอรับประทานรสชาติใด
"คุณวุฒิสวัสดีค่ะ" เมื่อมาถึงโต๊ะ ก็เห็นว่าเลขาชายรุ่นพี่ได้มาถึงแล้ว ขวัญนรีจึงได้ยกมือไหว้โดยที่ยังถือถุงใส่กล่องข้าว
"สวัสดีครับ นั่นเอาอะไรมาน่ะ?" วุฒินันท์ถามรุ่นน้อง ไม่ใช่ความอยากรู้อยากเห็นแต่เพื่อสร้างความสัมพันธ์
"ข้าวกลางวันค่ะ" ขวัญนรีตอบไปตามความจริงพลางเดินเข้าไปโต๊ะตัวเอง วางถุงใส่ข้าวไว้บนโต๊ะก่อนจะจัดการเก็บกระเป๋าสะพายไหล่ไว้ในลิ้นชัก
"ดีจัง ห่อข้าวมากินด้วย ประหยัดไปเยอะเลย" วุฒินันท์พูดต่อ จากนั้นจึงหันมาเตรียมตารางไว้รอเจ้านายที่ไม่รู้ว่าวันนี้จะเข้าสายแบบทุกวันหรือเปล่า ตั้งแต่มาทำงานที่นี่ นับครั้งได้ที่เจ้านายจะเข้าบริษัทเช้า ส่วนใหญ่จะเข้ามาเฉียดฉิวการประชุมตลอด เลิกงานก็มักจะเลิกงานก่อนพนักงาน แปลกใจอยู่ว่าประธานของบริษัทเกเรแบบนี้เหตุใดบริษัทจึงอยู่รอดมาได้
"ค่ะ ประหยัดดี ว่าแต่ประธานยังไม่มาใช่ไหมคะ?" ขวัญนรีพูดโดยไม่ได้มองหน้ารุ่นพี่เพราะเธอก็ต้องทำการเปิดคอมพิวเตอร์เครื่องของตน ตอนเช้าแบบนี้การเตรียมเข้างานมักจะทำให้ยุ่งอยู่เสมอ
"ถามหาผมทำไม?"
ไม่รู้ว่าเจ้าของบริษัทมายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะตั้งแต่เมื่อไร แต่เสียงทุ้มของเขานั้นทำให้ขวัญนรีตกใจราวกับว่าเธอมีความผิดฐานแอบนินทาเจ้านาย จนถึงกับเผลอทะลึ่งพรวดลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว
"ประธาน ว้าย!"
แต่ด้วยรองเท้าของขวัญนรีเป็นส้นสูงจึงทำให้เธอเสียหลัก เซและจะล้มไปทางด้านหลัง แต่เจ้านายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าที่ประสาทรับรู้เร็ว รีบก้าวเท้าวืดเข้ามาข้างโต๊ะพร้อมกับเอื้อมมือจับท่อนแขนเรียวก่อนจะดึงตัวเลขาสาวกลับอย่างรวดเร็ว แต่เขาคงจะออกแรงมากไปหน่อย จึงทำให้ร่างเล็กเซกลับมาปะทะกับอกแข็งอย่างจัง
'อา.. นิ่มดีชะมัด'
เป็นเสียงความคิดแรกของประธานหนุ่มที่ได้ใช้แผงอกรับก้อนอวบนุ่มหยุ่น เป็นสัมผัสแรกจากตัวเธอ ที่แสนจะประทับใจสุด ๆ ดีที่เขายังไม่ได้ใส่เสื้อสูท การที่มีแต่เสื้อเชิ้ตเลยทำให้รับรู้ความนุ่มของทรวงอกเต็ม ๆ และความนุ่มนั้นก็ได้ไปปลุกลูกชายจอมดื้อกลางหว่างขาให้ตื่นขึ้นมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
"ขะ..ขอบคุณค่ะ" ขวัญนรีอ้อมแอ้มขอบคุณเจ้านายหนุ่ม รู้สึกเจ็บหน่วงที่เต้าอวบนิด ๆ จากแรงกระแทกเมื่อครู่ ก้มหน้างุดมองแผงอกกว้างตรงหน้าไม่กล้าเงยหน้ามองคนที่ยังไม่ปล่อยแขนเธอเสียที แม้ว่าจะพยายามจะดึงออกแล้วก็ตาม
"อะ..แฮ่ม"
เป็นเสียงกระแอมของวุฒินันท์นั่นเอง ที่เป็นระฆังแยกสองหนุ่มสาวให้ผละออกจากกัน
"คุณขวัญชงกาแฟให้ผมด้วย วันนี้ไม่ได้ซื้อมา กาแฟสองน้ำตาลหนึ่ง" สั่งงานเสร็จประธานหนุ่มก็หันหลังเดินเข้าห้องทำงานไปเพื่อรีบพาเจ้าลูกชายลำอวบไปซ่อนตัว
'แตะสาวนิดหน่อยทำเป็นตื่นนะมึง' เสียงสบถกร่นด่าให้อวัยวะกลางหว่างขาระหว่างที่เดินเข้าห้อง
"วันนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมท่านประธานมาเร็ว แถมยังดื่มกาแฟที่บริษัทอีก" วุฒินันท์ยกมือเกาศีรษะอย่างสงสัยกับพฤติกรรมของเจ้านาย มาเร็วยังเข้าใจได้ว่าอาจจะกลับตัวมาขยันหรือไม่ก็โดนคุณนายราตรีบ่นเลยรีบเข้าบริษัทแต่เช้า แต่เรื่องกาแฟนั้น เจ้านายไม่เคยดื่มของบริษัทเลย เพราะเคยให้เขาชงตอนแรก ๆ ที่เข้ามาทำงานที่นี่ จากนั้นเจ้านายก็ซื้อเข้ามาเองตลอด ฝีมือการชงกาแฟของเขาคงอร่อยเกินไปนั่นเอง
"ทำไมคะ แปลกเหรอคะ?" ขวัญนรีเอ่ยถามพลางมองหน้ารุ่นพี่ด้วยสายตาฉงน
"แปลกสิ แปลกมาก" วุฒินันท์ตอบรุ่นน้อง และที่แปลกยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดคือการถึงเนื้อถึงตัวพนักงานเมื่อครู่ เป็นที่รู้กันว่าประธานรามิลจะถือตัวกับลูกน้องผู้หญิงมาก ไม่เคยคุยกันนอกเหนือจากเรื่องงาน ไม่เคยมาช่วยจับแม้ว่าจะเดินชนแล้วอีกฝ่ายหนึ่งล้มหงายหลังก้นกระแทกพื้นเต็มแรง จนทุกคนกล่าวหาว่าประธานรามิลเป็นคนใจดำ ไม่ดูดำดูดีลูกน้อง
แต่เมื่อครู่ ประธานซึ่งยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานแต่ก็อ้อมโต๊ะจนหน้าขาชนกับเหลี่ยมโต๊ะ เพื่อมาช่วยเลขาคนสวยที่เพียงแค่เซนิด ๆ เท่านั้น มันชักจะแปลก ๆ เสียแล้ว
"ขวัญว่า ขวัญไปชงกาแฟดีกว่าค่ะ เดี๋ยวประธานรอนาน" ขวัญนรีรีบพูดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเจ้านายได้มอบหมายงานมาให้ แล้วรีบเดินเข้าไปยังมุมเครื่องดื่มเพื่อชงกาแฟแก้วแรกตั้งแต่มาทำงานที่นี่
ก๊อก ๆ
ขวัญนรีประคองถาดกาแฟด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างก็ใช้เคาะประตูขออนุญาตเจ้าของห้องตามมารยาทของสังคม
แกรก..
ก่อนที่เลขาสาวจะเปิดเข้าไป มองไปก็เห็นว่าเจ้านายหนุ่มนั่งอยู่ที่ชุดโซฟารับแขก ไม่ได้นั่งที่โต๊ะทำงานอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้
"กาแฟได้แล้วค่ะ" ขวัญนรีบอกกล่าวก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้านายหนุ่ม พลันหัวใจดวงน้อยก็เต้นระรัวเมื่อสังเกตการแต่งตัวของเขาชัด ๆ
เมื่อครู่เขายังแต่งตัวเรียบร้อยอยู่เลย แต่ทำไมตอนนี้ทำเขาอยู่ในสภาพนี้ล่ะ เขาไปทำอะไรมา
ประธานหนุ่มรูปหล่ออยู่ในสภาพชายเสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ยออกจากขอบกางเกงสแลกส์เนื้อดี แขนเสื้อถูกพับอย่างลวก ๆ ทั้งสองข้างขึ้นไปอยู่ที่ใต้ข้อศอกราวกับเขาเกิดความรำคาญความยาวของแขนเสื้อ เนคไทที่ตอนแรกถูกผูกไว้สวยงามตอนนี้ถูกดึงออกจนปมห้อยลงมาอยู่ที่แผงอกแกร่งเปลือย เพราะกระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดออกไปต้องสี่เม็ด สาบเสื้อจึงได้ย่นแยกเปิดออกกว้างในยามเขานั่ง เผยให้เห็นมัดกล้ามอกและลอนกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เรียงตัวสวยงาม
ขวัญนรีไม่อยากมองหุ่นสมบูรณ์แบบที่กำลังเขย่าใจของเธอให้แกว่งจนคุมไม่ได้จึงได้มองขึ้นไปยังใบหน้าหล่อเหลา แล้วเธอก็ยิ่งใจสั่นยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นสายตาคมกริบคู่นั้นที่กำลังมองมายังเธอ ลอบกลืนน้ำลายอย่างลำบากที่คิดว่าสายตาของเขาราวกับสายตาของราชสีห์จ้องตะครุบเหยื่อ หน้าหล่อที่ดูดุ ๆ แต่พอเห็นผมที่เซ็ตมาถูกยีให้ยุ่งนิด ๆ กลับทำให้เขาดูมีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ
"อย่ามองแบบนี้" รามิลเอ่ยเตือนว่าที่เหยื่อสาว สายตาของเธอที่แอบมองหุ่นเขาเมื่อครู่ทำให้เขาอยากกระโจนเข้าขย้ำกินไม่ให้เหลือแม้แต่ซาก
"ขะ..ขอโทษค่ะ" ขวัญนรีระล่ำระลักขอโทษพร้อมใจที่เต้นระรัวที่เผลอแสดงการเสียมารยาท เธอไปจ้องมองมากเกินไปเลยทำให้เขาไม่พอใจ รีบก้าวเข้าไปแล้วก้มลงวางแก้วกาแฟตรงหน้าเจ้านายหนุ่มเพื่อหวังจะช่วยอารมณ์ขุ่นเคืองของเขาลงบ้าง
"รีบออกไปก่อนผมจะทนไม่ได้ แม่งเอ๊ย!"
แต่สิ่งที่เลขาได้รับกลับเป็นน้ำเสียงกดต่ำขุ่นเคือง ตกใจกับคำสบถหลังคำพูดของเจ้านาย ที่พอเขาพูดแล้วก็สะบัดหน้าหนีไปด้านข้างราวกับว่าไม่อยากเห็นหน้าเธอ นี่เธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ
ไม่รอให้เจ้านายต้องเอ่ยปากไล่รอบสอง พอเสิร์ฟกาแฟเรียบร้อยแล้ว เลขาสาวผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ว่าโดนโมโหเรื่องอะไรก็รีบออกไปจากห้องทำงานทันที
"จะทนได้นานสักแค่ไหนวะ โคตรน่าฟัด!" รามิลมองตามหลังเลขาคนสวยจนเธอลับสายตา เธอไม่รู้หรอกว่าตอนเธอก้มลงวางแก้วกาแฟ คอเสื้อของเธอมันหย่อนลงจนทำให้เห็นเนินเต้าขาวน่าดูดคู่นั้น เขาต้องข่มอารมณ์ดิบขนาดหนักที่จะไม่เอื้อมมือไปกระชากเธอลงมานอนใต้ร่าง
'แล้วดูสิ ขนาดเมื่อกี้ไปเอาน้ำหัวมันออกแล้ว พอเจอสิ่งเย้ายวน มันก็ผงาดขึ้นมาอีกแล้ว นี่จะไม่ต้องชักให้มันทั้งวันเลยเหรอวะเนี่ย'
ประธานหนุ่มคิดขณะที่ก้มมองสิ่งที่ตุงนูนอยู่กลางหว่างขาอย่างงุ่นง่านในหัวใจ
...................................
ท่านประธานขี้หื่น จะแข็งจนหัวใจวายก่อนได้กินน้องซะละน้อ 5555