1. สาวน้อยขี้เมา
ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
เมื่อเลิกงานเหล่าพนักงานชายหญิงก็มีความต้องการที่จะคลายเครียดหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากงานมาตลอดทั้งวัน ไม่แปลกที่ร้านแห่งนี้ถึงเต็มไปด้วยผู้คนที่มาดื่มกิน บรรยากาศที่มีดนตรีสดเคล้ากับการดื่มเครื่องดื่มมึนเมาช่างเข้ากันดีเหลือเกิน
"เอ้าชนแก้ว!"
เสียงใสที่ดังแทรกเสียงอื่น ๆ เข้ามาในส่วนของการได้ยิน เรียกร้องให้รามิลถึงกับต้องหันไปมอง แล้วเขาก็พบกับสาวน้อยที่ดูจากหน้าแล้วอายุไม่น่าจะเกินยี่สิบปี เธอคนนั้นดื่มอยู่กับเพื่อนอีกสองคนและกำลังส่งเสียงเฮฮาดังกว่าโต๊ะรอบข้าง ในมือของเธอมีแก้วที่บรรจุเครื่องดื่มสีอำพันอยู่ นัยน์ตาหวานที่เยิ้มนั้นแสดงให้เห็นว่าเธอคงดื่มไปไม่น้อยแล้ว
"มองอะไรวะ?" มาวินถามเพื่อนเพราะเห็นว่ามันเอาแต่มองไปที่โต๊ะหนึ่ง ราวกับว่ารู้จักกับใครสักคนตรงนั้น
"สาวน้อยขี้เมาตรงนั้น มึงว่าอายุถึงยี่สิบหรือยังวะ มาเมาแบบนี้ที่บ้านจะว่ายังไงวะเนี่ย ถ้าเป็นน้องนุ่งกูนะ กูจะจับตีให้ก้นลาย" รามิลพยักหน้าไปทิศทางของโต๊ะที่กำลังส่งเสียงครื้นเครง ส่ายหน้าเอือมระอากับพฤติกรรมของสาว ๆ พวกนั้น
"ไม่ใช่น้องก็ตีได้ เห็นมึงชอบลากสาวไปตีออกบ่อย ๆ แล้ววันนี้มึงไม่ควงใครมาเหรอวะ?" ตุลย์ภพพูดแย้งขึ้นเพราะรู้นิสัยของเพื่อนคนนี้ดี รามิลนั้นชอบควงซ้ำไม่หน้าตั้งแต่สมัยที่อยู่เมืองนอกแล้ว พอกลับมารับตำแหน่งประธานแทนพ่อก็ไม่เคยเปลี่ยนนิสัย ไม่รู้ว่ามันสลับรางทันได้อย่างไรที่จะไม่ให้รถไฟชนกัน
"นัดกินเหล้ากับพวกมึงกูขี้เกียจควงมา อีกคนก็กลัวเมีย อีกคนก็หลงรักเขาข้างเดียว แล้วพวกมึงก็สมภารกินไก่วัด เอาเลขาทั้งคู่ เป็นกูนะไม่เอาหรอกคนใกล้ตัว" รามิลพูดพลางส่ายหน้าเอือมระอาให้เพื่อนทั้งสอง
มาวินนั้นได้แต่งงานกับเด็กในความอุปการะของพ่อและตอนนี้ก็มีลูกน้อยน่ารักแล้วหนึ่งคน เห็นว่ากำลังปั๊มอีกหนึ่งคนเพราะมีนาภรรยาสุดที่รักอยากได้ ส่วนตุลย์ภพนั้นก็แอบชอบเด็กฝึกงานที่ชื่อลูกกวาดจนต้องรีบจับเซ็นสัญญาให้เป็นพนักงานประจำหลังจากที่เธอคนนั้นฝึกงานจบ เพราะอยากจะให้เด็กคนนั้นได้อยู่ใกล้ ๆ เพื่อนแต่ละคนทำไมชอบหาเหาใส่หัวกันจัง รามิลผู้ที่ไม่เคยคบใครจริงจังมานานมากแล้วถึงกับเหนื่อยใจแทนเพื่อน ๆ ทั้งสอง
"แหงสิ เลขามึงเป็นผู้ชายก็พูดได้สิ ลองมึงมีเลขาสาว ๆ สวย ๆ มาท่านคะท่านขาสิ ดูสิว่ากะล่อน ๆ อย่างมึงจะอดใจไม่เอาเลขาตัวเองไหวไหม?" มาวินว่าให้เพื่อน หัวก็คิดเลยไปถึงเมียสาวที่มักจะเธอยิ้มหวานต้อนรับเมื่อกลับไปถึงบ้าน คิดแล้วก็อยากกลับบ้านเสียแล้ว
"กูจะมีได้ไงวะ เลขากูคนนี้ทำงานกับกูมาเป็นสิบปีแล้ว รู้ใจกูทุกอย่าง กูคงไม่เปลี่ยนเลขาให้เหนื่อยใจหรอก" พูดจบรามิลก็หันมาหยิบแก้วตรงหน้ากระดกเครื่องดื่มลงคอ เสียงเฮฮาที่ดังมาจากโต๊ะของสาวน้อยขี้เมาตรงนั้นทำให้เขาต้องหันมองไปเป็นระยะ ๆ สวยก็สวยอยู่หรอก แต่ขี้เมาแบบนี้เขาคงไม่เอามาควงให้เสียอารมณ์
"เขาทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไงวะแก รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าพอทดลองงานครบสามเดือนแล้วจะรับฉันเป็นพนักงานประจำ แล้วทำไมถึงมาจ้างออกแถมรับยัยดาวเข้าไปแทน ทั้งที่ตอนฝึกงานยัยดาวทำผิดพลาดก็บ่อย มีอย่างเดียวคืออ้อนเก่ง ฉันเสียใจว่ะแก้ว" สาวขี้เมานามว่าขวัญนรีระบายมาด้วยเสียงอ้อแอ้ยาวเหยียด ที่เธอเพิ่งโดนจ้างออกมาด้วยเหตุผลว่าพนักงานเยอะเกินไป แต่ดันรับดาวจรัสที่เป็นคู่อริตั้งแต่สมัยมัธยม แถมยังเรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกัน คณะเดียวกัน เข้าไปเป็นพนักงานประจำได้ จะไม่ให้ขวัญนรีโมโหอย่างไรไหว
"ก็เพราะข้อดีอันนั้นแหละที่ทำให้มันได้งาน แกไม่เห็นสายตาคุณมนัสมองยัยนั่นเหรอ แทบจะกลืนลงไปทั้งตัว ดีแล้วที่แกไม่ได้ทำงานที่นั่น ฉันล่ะกลัวว่าเธอจะเสร็จเขาสักวัน รูปหล่อพ่อรวยขนาดนั้น แกไม่หลงคารมยังไงไหว" ก้านแก้วพูดปลอบใจเพื่อน เธอเคยเห็นอดีตเจ้านายเพื่อนตอนไปรอขวัญนรีเพื่อที่จะกลับหอพร้อมกัน ทำให้ได้เห็นสายตาหลุกหลิกของมนัสและรู้ได้ทันทีว่าคนนี้เป็นเสือผู้หญิงแน่นอน
"เขาเคยมาจีบฉันอยู่แต่ฉันไม่เล่นด้วย เลยหันไปหายัยดาวแทน" ขวัญนรีรับสารภาพกับเพื่อน ตอนที่เข้าไปทำงานใหม่ ๆ มนัสก็เข้ามาคั่วเธออยู่ แต่เธอไม่เล่นด้วยเลยเบนไปหาดาวจรัส แล้วผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นอย่างนี้ ไม่ต้องเดาให้ปวดสมองว่ายัยดาวจรัสใช้เต้าไต่ตำแหน่งเลขาแน่นอน
"นั่นแหละสาเหตุที่ทำให้แกตกงาน" นีรณาที่นั่งตรงกันข้ามกับผู้ปรับทุกข์พูดขึ้น
"เซ็งชะมัด" ขวัญนรีหน้างอพูดเสียงยานคาง เอื้อมมือไปคว้าขวดไวน์สีแดงมาเทน้ำสีแดงเข้มลงแก้ว เพื่ออยากจะดื่มดับความโมโห
"ไม่เอาน่า แกเก่งจะตายเดี๋ยวก็หางานใหม่ได้ ไม่เอา ๆ อย่าคิดมาก คืนนี้มาดื่มให้เมาดีกว่า มาชนแก้วอีก!" ก้านแก้วปลอบใจเพื่อนก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย หันมาคว้าแก้วเครื่องดื่มแล้วชูขึ้นเพื่อเรียกความฮึกเหิมให้เพื่อน จากนั้นทั้งสามสาวก็ดื่มกันโดยไม่ได้พูดถึงเรื่องน่าโมโหนั้นอีก
...................................
แรกเจอพี่ท่านก็ไม่ประทับใจว่าที่เมียซะละ5555