10. จองแล้ว

1394 คำ
พักเที่ยง "คุณขวัญ ผมไปกินข้าวก่อนนะ จะได้รีบมาเตรียมเอกสารประชุมตอนบ่าย" วุฒินันท์พูดขึ้นพลางเก็บโต๊ะทำงานพอลวก ๆ เพราะเดี๋ยวตอนบ่ายเขาก็กลับมาทำต่อ ที่ไม่ชวนรุ่นน้องไปด้วยเพราะเห็นว่าเธอห่อข้าวมานั่นเอง "ค่ะ" "อ้อ เข้าไปกินข้าวในห้องครัวได้เลยนะ กลางวันจะว่าง ไม่มีใครใช้หรอก เขาลงข้างล่างกันหมด" เลขาหนุ่มนึกขึ้นได้ว่าเดี๋ยวรุ่นน้องจะไม่รู้จะไปนั่งรับประทานข้าวกลางวันที่ไหนจึงได้แนะนำไป ห้องครัวของบริษัทที่มีแต่กระติกน้ำร้อนกับตู้เย็น และมีโต๊ะกลมไว้ให้พนักงานนั่งจิบกาแฟรอเวลาเข้างาน เวลากลางวันแบบนี้ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาแย่งใช้เพราะทุกคนลงไปรับประทานอาหารร้านข้างนอกกันหมด แกรก.. "คุณขวัญ เอาข้าวเข้ามาได้แล้ว ผมหิวแล้ว" ในตอนนั้นเองที่ประตูห้องทำงานของประธานรามิลก็เปิดออก พร้อมกับร่างสูงของประธานหนุ่มที่ปรากฏออกมาครึ่งตัวแล้วพูดกับเลขาคนสวย ปรายตามองหน้าเลขาชายอย่างไม่ยี่หระที่การกระทำของตนมีคนรับรู้ รู้ก็ดี จะได้รู้ว่าพนักงานใหม่คนนี้เขาจองแล้ว ประธานหนุ่มคิดก่อนจะกลับเข้าห้องทำงานไป "นี่..นี่คุณขวัญห่อข้าวมากินกับท่านประธานเหรอ!" หลังจากที่ประตูบานโตปิดสนิท วุฒินันท์ก็หันมาถามขวัญนรีเสียงดัง ก่อนจะได้สติรีบตะครุบปากตัวเองว่าเผลอพูดสิ่งที่ไม่ควรให้ใครรู้ออกไป มองไปรอบ ๆ ก็ถอนลมหายใจโล่งอกที่ไม่เห็นพนักคนอื่นอยู่แถวนี้ ถ้าคนอื่นรู้คงได้เอาไปพูดกันให้แซ่ด เจ้านายก็เหลือเกิน ไม่กลัวคนอื่นจะรู้แล้วจะเสียการปกครองหรืออย่างไรถึงได้ทำโจ่งแจ้งขนาดนี้ จะไม่ให้เขาตกใจได้อย่างไร ก็ประธานรามิลน่ะเคยคลุกคลีกับพนักงานเสียที่ไหน แม้แต่เขาที่ทำงานใกล้ชิดที่สุดยังไม่เคยรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับเจ้านายเลยสักครั้ง แต่นี่จะมานั่งรับประทานอาหารกลางวันกับพนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสองวันเนี่ยนะ ไม่ตกใจก็แปลกแล้ว เลขารุ่นน้องเป็นใครกันแน่ท่านประธานถึงได้สนิทด้วย "ค่ะ ขวัญทำเสื้อสูทของประธานเลอะ เขาเลยให้จ่ายค่าเสียหายเป็นทำอาหารกลางวันหนึ่งเดือน เขาบอกว่าขี้เกียจออกไปกินข้างนอกค่ะ" ขวัญนรีบอกเหตุผลที่ประธานรามิลบอกแก่เธอให้รุ่นพี่หนุ่มฟัง "ฮะ! ให้ห่อข้าวมานี่นะ!" และวุฒินันท์ก็ยิ่งเสียงดังกว่าเดิม ไม่เคยเห็นประธานในลุคนี้มาก่อน แค่ทำเสื้อเลอะถึงกับต้องให้ทำอาหารมากินกันเลยเหรอ เจ้านายของเขาต้องกำลังคิดอะไรอยู่แน่ ๆ อย่าบอกนะว่า.. 'คุณขวัญผมหิว' ขณะที่วุฒินันท์กำลังหาเหตุผลอยู่นั้น เสียงดุก็ดังขึ้นจากเครื่องติดต่อของห้องประธานหนุ่ม ทำให้คนที่โดนเอ่ยชื่อถึงกับต้องรีบหันไปคว้าถุงกล่องข้าวขึ้นมาถือ "ขวัญไปแล้วนะคะ" ขวัญนรียิ้มแห้งให้เลขารุ่นพี่เมื่อคิดถึงความบกพร่องของตัวเอง เจ้านายออกมาตามตั้งนานแล้วแต่เธอมัวแต่คุยเลยโดนตามอีกรอบ สมควรแล้วที่โดนดุ พอบอกรุ่นพี่แล้วขวัญนรีก็เดินไปหยุดที่หน้าประตูห้องท่านประธาน ยกมือเคาะขออนุญาตก่อนจะเปิดประตูเข้าไป แกรก.. "ทำอะไรอยู่ ช้า" เห็นหน้าเลขาสวย รามิลก็ต่อว่าทันที ไม่ให้เขาหงุดหงิดได้อย่างไร ออกไปตามตั้งสองนาทีแล้วแต่คนหน้าหวานก็ไม่ยอมเข้ามาเสียที คงเพราะคุยกับวุฒินันท์อยู่แน่ ๆ เขาคงไม่มีความสำคัญสินะ "ขอโทษค่ะ จะกินตรงนี้เลยเหรอคะ?" ขวัญนรีเอ่ยขอโทษแล้วถามถึงสถานที่รับประทานอาหารกับเจ้าของห้องเพราะเธอคิดว่าถ้านั่งรับประทานตรงนี้ กลิ่นอาหารจะต้องคลุ้งไปทั่วห้องแน่ ๆ "เปล่า มีห้องอยู่ข้างหลัง ตามมาสิ" รามิลพูดแล้วลุกขึ้นยืน เดินนำไปยังประตูที่อยู่หลังห้องแล้วเปิดออกกว้างค้างเอาไว้ให้เลขาสาวได้เดินเข้าไปก่อนแล้วจึงตามเข้าไป "มีห้องอยู่ข้างหลังด้วย.." ขวัญนรีพูดเสียงเบา สายตามองสำรวจรอบ ๆ ห้องอย่างสนใจ ห้องนี้คล้ายห้องพักในโรงแรมที่มีระเบียง แต่ขนาดของห้องเล็กกว่าเพราะมีพื้นที่จำกัดเนื่องจากต้องแบ่งกับห้องทำงาน มีเตียงนอนขนาดหกฟุตตั้งอยู่ติดกับผนังด้านใน ระเบียงเปิดโลงเห็นวิวด้านนอกแต่มีผ้าม่านผืนใหญ่ปิดกันแสงไว้ และปิดกันลมอีกชั้นด้วยประตูเลื่อนกระจกบานกว้าง ที่กั้นระหว่างพื้นที่ห้องกับระเบียง และห้องนี้มีห้องน้ำอยู่ในตัวด้วยคงเพื่อความสะดวกเวลาที่เขาอยากทำธุระ ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมห้องทำงานของท่านประธานถึงกินเนื้อที่ของชั้นนี้เกือบครึ่ง ที่แท้แบ่งมาทำห้องพักด้านหลังนี่เอง ขวัญนรีมองตามร่างสูงที่เดินไปเปิดผ้าม่านออกกว้างแต่ไม่ได้เปิดประตูเลื่อนเพราะเวลาเที่ยงแบบนี้ไม่สมควรจะรับลมแดด แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนคงจะลมเย็นสบายดีไม่น้อย เลขาสาวเดินตามเจ้านายหนุ่มไปเมื่อเห็นว่าเขานั่งลงยังชุดโซฟายาวใกล้ระเบียง ตรงหน้าเป็นโต๊ะเตี้ยพอที่จะวางกล่องอาหารได้ เธอค่อย ๆ หย่อนสะโพกลงนั่งห่างจากเขาประมาณหนึ่ง ไม่ให้ดูใกล้หรือห่างเกินไปจนน่าเกลียด "ผมทำห้องไว้นอนงีบกลางวันน่ะ" รามิลบอกแก่เลขาโดยที่เธอยังไม่ได้เอ่ยปากถาม ก่อนที่เขาจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่มีน้ำดื่ม เขาจึงลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบน้ำเปล่าจากตู้เย็นมุมห้องมาสองขวดแล้วกลับมานั่งที่เดิม รามิลไม่บอกทั้งหมดหรอกว่าทำไมถึงต้องนอนงีบกลางวัน จะให้บอกได้อย่างไรว่าถ้าวันไหนเที่ยวกลางคืนหนักจนนอนไม่อิ่ม ก็ต้องหาเวลางีบกลางวันให้สมองปลอดโปร่งถึงจะทำงานต่อได้ แล้วเขาก็ใช้งานห้องนี้บ่อยเสียด้วยเพราะที่ผ่านมาเที่ยวหนักแทบทุกคืน บอกไปแบบนั้นเดี๋ยวในสายตาของเธอเขาจะดูไม่ดีน่ะสิ "อ้อ ค่ะ" ขวัญนรีพยักหน้าเข้าใจ เอื้อมมือไปหยิบกล่องข้าวออกจากถุงผ้าทั้งหมดแล้วเปิดออกทีละกล่อง เลื่อนกล่องข้าวที่เยอะกว่าไปตรงหน้าเจ้านาย เมื่อเธอเปิดกล่องที่บรรจุกับข้าว กลิ่นอาหารก็หอมฟุ้งขึ้นมากแม้ว่ามันจะเย็นซีดไปแล้ว "ผัดเผ็ดถั่วกับไข่เจียวหมูสับ" รามิลมองกับข้าวตรงหน้าแล้วพูดขึ้น กลิ่นของผัดเผ็ดทำเอาคนที่กำลังหิวถึงกับน้ำลายสอออกมาเสียอย่างนั้น ไข่เจียวมีใบหอมซ่อนอยู่ในเนื้อไข่เหลืองพอดี หน้าตาดูน่ากินทั้งสองเมนูแม้ว่าจะเป็นอาหารธรรมดา เลขาของเขานี่เก่งไม่ใช่น้อย ทำอาหารให้ดูน่ากินเหมือนกับตัวเธอเองเลย "ค่ะ กินได้ไหมคะ พอดีเมื่อวานไม่ได้แวะตลาดเลยไม่ได้ซื้ออาหารสดไปทำ ขวัญเลยทำจากของที่มีอยู่ในตู้" ขวัญนรีหน้าเสียที่เห็นเจ้านายทักเมนูอาหารที่ทำมา คนรวยอย่างเขาคงจะรับประทานอาหารที่หรูสินะ "ได้สิ ผมชอบกินผัดเผ็ดถั่วที่สุด กินกันเถอะ" รามิลชวนเลขาสาวก่อนจะยื่นช้อนไปตักเมนูโปรดเข้าปาก 'อืม ทำอร่อยด้วย ทำอาหารอร่อยแบบนี้ คนทำก็ต้องอร่อยแน่นอน' ประธานรามิลคิดในใจพลางยิ้มชื่นชมคนข้าง ๆ พยายามจะไม่จินตนาการถึงรสชาติเนื้อนุ่มของคนทำ ไม่เช่นนั้นลูกชายมันจะตื่นมาร่วมวงกินข้าวด้วยแน่ ๆ .............................. คนกินพร้อม ห้องพร้อม อาหารคาวก็มีแล้ว ขาดแต่ของหวานที่ยังไม่มี ?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม