13 | คนที่ไม่ควรยุ่ง

1928 คำ
"ปันกับนิวล่ะ" เมื่อเดินมาถึงโต๊ะแล้วไม่เห็นเพื่อนสนิทอีกสองคน จึงหันไปถามชมพูที่นั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ "นู้นไง กำลังเต้นสนุกกันอยู่หน้าเวที อีกสักหน่อยคงขึ้นไปเต้นกับดีเจบนเวที" เธอพลันสายตาไปมองปันปันและนิวเยียร์ที่กำลังเต้นกันอย่างสนุกสนานอยู่หน้าเวที โดยมีดีเจหนุ่มรูปหล่อประจำไนต์คลับกำลังเปิดเพลงสุดมัน "นี่ชมพู เธอจำเรื่องที่ฉันถามไปก่อนหน้านี้ได้ไหม" ชมพูครุ่นคิดพักหนึ่ง ก่อนจะตอบกลับลูเซียร์ "จำได้ๆ ทำไมเหรอ?" "ก่อนที่ฉันจะเดินกลับมาโต๊ะ ฉันเห็นผู้หญิงที่แอบอ้างว่าเป็นแฟนพี่เดย์" "หือ...จริงเหรอ หน้าตาเป็นยังไง สวยไหม" "สวยนะ สวยมากด้วย แต่เหมือนพี่เดย์จะไม่อะไรด้วย เขาเย็นชากับผู้หญิงคนนั้นมากๆ เลย" "แสดงว่าเขาไม่ได้มีใจให้ผู้หญิงคนนั้น ทีนี้แกก็สบายใจได้แล้วนะ" "แต่ฉันไม่รู้ว่ามีผู้หญิงกี่คนที่อยู่ในสต็อกของเขา คงไม่ได้มีแค่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียวอย่างแน่นอน" "ตราบใดที่แกยังอยู่ในสถานะเป็นคู่หมั้นเขา เท่ากับว่าแกชนะผู้หญิงในสต็อกของเขาทุกคนแล้ว" "...." "ถ้าแต่งงานกันแล้วเขายังไม่รักฉัน ฉันควรทำยังไงดี" "แกจะถามหาอนาคตทำไม อนาคตมันไม่แน่นอนหรอกนะ การที่แกกลัวว่าในอนาคตเขาจะยังไม่รักแก ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่มีวันรักแกเลยนะเว้ย" "...." "อนาคตมันไม่แน่นอนหรอกนะ บางทีตอนจบของเรื่อง แกกับเขาอาจจะสมหวังกันก็ได้" "แกดูซีรีส์เยอะไปรึเปล่า" "จุดเริ่มต้นของพระเอกและนางเอก ไม่ได้เริ่มต้นด้วยคำว่ารักทุกคู่หรอกนะ ตราบใดที่ตอนจบยังมาไม่ถึง แกอย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าเขาจะไม่มีวันรักแกเลย" "ขอบใจนะ" "ดื่มซะจะได้หายเครียด" ชมพูยื่นแก้วน้ำสีเหลืองอำพันให้ลูเซียร์ดื่ม พลางยื่นแก้วในมือตัวเองไปชนกับแก้วของเพื่อนสนิท ทางด้านอังเดร มาเฟียหนุ่มเดินกลับมานั่งลงที่เดิมหลังจากเคลียร์อะไรเสร็จเรียบร้อย เขาหยิบบุหรี่มาคาบไว้แล้วใช้ไฟแช็คลนปลายกระบอกจนควันสีเทาคลุ้งกระจายออกมาในบริเวณนั้น รอยลิปสติกบนริมฝีปากอังเดรกำลังถูกจับจ้องโดยสายตาแม็กซ์เวลล์ ชายหนุ่มยกแก้วน้ำเมาขึ้นดื่มพลางลอบยิ้มมุมปาก ก่อนจะเริ่มพูดขึ้นด้วยใบหน้านิ่งเรียบ "มึงแอบไปทาลิปมาเหรออังเดร" "พูดเรื่องอะไรของมึง" อังเดรหันขวับมองไปยังแม็กซ์เวลล์ ออสตินและมังกรได้พลันสายตามองไปที่ริมฝีปากของเพื่อนสนิท "ปากมึงมีรอยลิปสติกผู้หญิงติดอยู่" ออสตินพูดเพื่อให้อังเดรหายข้องใจในสิ่งที่แม็กซ์เวลล์พูด "เหลวไหล" "ไม่เชื่อมึงก็ลองเอาทิชชูเช็ดดูสิ รอยลิปสติกผู้หญิงชัดขนาดนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าเหลวไหล" มังกรกล่าว จากนั้นยกแก้วน้ำเมาขึ้นดื่ม อังเดรหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดปากตัวเองตามที่มังกรแนะนำ รอยลิปสติกที่ติดบนกระดาษทิชชูทำให้เขาผงะเล็กน้อย ก่อนจะรีบเช็ดออกให้หมด "หึ ทีนี้เชื่อรึยังว่ามีรอยลิปสติกผู้หญิงอยู่บนปากมึงจริงๆ" "แสดงว่าเมื่อกี้มึงไม่ได้ไปคุยงาน แต่ใช้ข้ออ้างนี้เพื่อไปหาผู้หญิงใช่ไหม" "เปล่า" "แล้วลิปสติกผู้หญิงมันมาติดอยู่บนปากมึงได้ยังไง" เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความเหนื่อยหน่าย ไม่น่าพลาดให้พวกมันเห็นรอยลิปสติกนี้เลย ปกติเขาเป็นคนระวังตัวเองพอสมควร มัวแต่ต่อว่ายี่หวาเรื่องเอาเขาไปแอบอ้างเป็นแฟนกับลูเซียร์จนลืมเช็กดูความเรียบร้อย "กูว่าไม่ใช่แค่รอยลิปสติกอย่างเดียว เมื่อกี้เห็นแวบๆ ตรงอกไอ้เดย์เหมือนมีรอยข่วนอยู่ด้วย" เรื่องความไวของสายตาต้องยกให้พวกนี้ ถ้าเขาไม่ปิดรอยเขี้ยวที่ลูเซียร์กัดเมื่อคืน ป่านนี้คงแซวเขาเรื่องนี้ไปด้วยแล้ว ไม่แปลกที่พวกมันจะพูดแบบนี้ ปกติเขาไม่ให้ผู้หญิงที่ขึ้นเตียงด้วยทำรอยอะไรไว้บนร่างกาย เรื่องนี้เพื่อนสนิทเขารู้ดี "ไปโดนแมวน้อยที่ไหนข่วนมาเหรอ" แม็กซ์เวลล์ถามขึ้นด้วยใบหน้านิ่งเรียบ หากแต่ริมฝีปากเหยียดโค้งขึ้นเล็กน้อย "ปกติมึงไม่ให้ผู้หญิงทำรอย แต่ทำไมถึงมีรอยข่วนบนตัวของมึง?" ออสตินถามขึ้นมาอีกคน "พวกมึงจะอยากรู้ไปทำไม ถามเหมือนกูไปทำความผิดอะไรมาอย่างนั้นแหละ" "พวกกูก็แค่อยากรู้ว่าใครเป็นเจ้าของรอยข่วนเพราะปกติมึงไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนทิ้งรอยไว้ตัวมึง" "...." "ให้กูเดาไหม" มังกรที่เงียบไปสองนานเริ่มพูดขึ้น พร้อมยิ้มอย่างมีเลิศนัย สายตาละจากอังเดรมองไปยังคนๆ หนึ่ง ซึ่งกำลังนั่งดื่มกับเพื่อนอยู่อีกมุมของไนต์คลับ คนๆ นั้นที่มังกรมองคือ...ลูเซียร์ "มึงรู้ใช่ไหมว่ากูจะบอกว่าเป็นใคร" "จะถามทำไมในเมื่อรู้คำตอบอยู่แล้ว" "ถ้าเจ้าของรอยข่วนคือลูเซียร์ งั้นเจ้าของรอยลิปสติกบนปากมึงก็คือคนเดียวกันใช่ไหมวะ" ออสตินถามขึ้นมา "พวกมึงสอบสวนคดีกันอยู่รึไง ถามอยู่นั่นแหละ น่าเบื่อ" เขาขยี้บุหรี่ในมือ หยิบขวดน้ำสีเหลืองอำพันเทลงแก้วตรงหน้าแล้วยกขึ้นดื่ม เลี่ยงที่จำตอบคำถามทุกอย่างของเพื่อน สายตาคมเข้มพลันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินไปยังโต๊ะของลูเซียร์เพื่อขอชนแก้วด้วย พูดคุยอะไรกันบางอย่างเนิ่นนานแล้วฝ่ายก็ยื่นโทรศัพท์ให้แต่โดนลูเซียร์ปฏิเสธกลับไป รอยยิ้มบนมุมปากหยักได้รูปปรากฏขึ้นมา สองชั่วโมงต่อมา ลูเซียร์มองเวลาผ่านหน้าจอโทรศัพท์ตัวเอง เหลืออีกสิบนาทีจะห้าทุ่ม ซึ่งก่อนหน้านี้อังเดรได้บอกเธอให้ไปหาที่ลานจอดรถในเวลานี้ เธอเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วหันไปบอกเพื่อนๆ "ฉันกลับก่อนนะ" "อ้าว ทำไมกลับเร็วจัง" "พี่เดย์นัดไว้ห้าทุ่ม" "อ๋อ แบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นก็ไว้เจอกันวันหน้านะ" ปันปันที่เริ่มเมากรึ่มพูดแล้วยกมือโบกลาลูเซียร์พร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ หญิงสาวโบกมือลากลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นเพื่อไปยังลานจอดรถตามคำสั่งของอังเดร ไม่ทันจะก้าวพ้นประตูไนต์คลับก็โดนใครบางคนจับลากมายังมุมหนึ่ง พรึ่บ ปึก! "โอ๊ย!" เธอโดนเหวี่ยงลงพื้นเต็มแรงของอีกฝ่ายจนรู้สึกเจ็บไปทั่วร่างกาย พอเงยหน้าขึ้นมองถึงได้รู้ว่าเป็นฝีมือผู้หญิงที่แอบอ้างว่าเป็นแฟนของอังเดร โดยหล่อนไม่ได้มาคนเดียวแต่ยังพาผู้หญิงอีกสองคนมาด้วย เดาว่าคงเป็นเพื่อน "นี่เหรอคนที่มายุ่งกับผู้ชายที่มึงชอบ" หนึ่งในนั้นพูดขึ้นหลังจากมองลูเซียร์สองนาน "สวยนะ แต่ไม่น่ามายุ่งกับคนของมึงเลย" "พวกเธอต้องอะไร" ลูเซียร์ตัดสินใจเอ่ยถามทั้งสามคนที่ยืนประจันหน้าปิดกั้นทางหนีของเธอเอาไว้จนหมด "เมื่อวานที่รับสายแทนอังเดรแล้วทิ้งท้ายกับกู มึงคิดว่ามึงเก่งนักเหรอห๊ะ" "โอ๊ย!" เธอร้องเสียงหลง เมื่อโดนเจ้าของน้ำเสียงไม่พอใจเข้ามาจิกทึ้งเส้นผมอย่างแรง "แล้วมึงจะได้รู้ว่าคนที่มายุ่งกับคนของกู สุดท้ายแล้วมันจะเจอกับอะไร" ยี่หวาผลักลูเซียร์นอนราบลงกับพื้น ก่อนจะเข้ามาคร่อมร่างที่เล็กกว่าตนเอาไว้ โดยมีเพื่อนสองคนคอยจับข้อเท้าไม่ให้ลูเซียร์ต่อต้านได้ ยี่หวาง้างมือออกแล้วตวัดใส่แก้มนวล เพียะ "โอ๊ย! ปล่อยนะ ใครก็ได้ช่วยด้วย!" "แหกปากแบบนี้แสดงว่าอยากได้เลือดกลบปากใช่ไหม ได้! เดี๋ยวกูจัดให้มึงเอง" ในจังหวะที่ยี่หวากำลังตวัดมือปะทะเข้าแก้มนวล ลูเซียร์ได้คว้าข้อมือนั้นเอาไว้ ก่อนจะใช้มืออีกข้างตวัดใส่แก้มยี่หวาเต็มแรง ทำเอาอีกฝ่ายเริ่มไม่พอใจกับการตอบโต้กลับมาของอีกฝ่าย เพียะ "นี่มึงตบกูเหรอ!" "ก็เธอมาตบฉันก่อน" "ใครก็ได้มาจับแขนอีนี่ไว้สิ" เพื่อนของยี่หวาคนหนึ่งเข้ามาจับแขนลูเซียร์เอาไว้ ทำให้ตอนนี้คนตรงหน้าได้เปรียบ ยี่หวาแสยะยิ้มพร้อมเตรียมง้างมือตวัดใส่แก้มนวลของคนใต้ร่าง แต่ทว่า... หมับ! มือของใครบางคนได้จับข้อมือยี่หวาเอาไว้แน่น ทำให้ลูเซียร์ไม่โดนแรงปะทะจากฝ่ามือนั้น หัวใจดวงน้อยพลันกระตุก น้ำตาที่อัดอั้นเอาไว้เนิ่นนานไหลอาบสองพวงแก้มเมื่อได้สบตากับคนๆ นั้น "พี่เดย์..." นี่หวาหน้าซีดเผือดทันทีที่ลูเซียร์เอ่ยเรียกชื่อนั้น ก่อนจะโดนแรงมหาศาลดึงออกจากร่างคู่หมั้นสาวแล้วเหวี่ยงใส่ผนังหนาเต็มแรงโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเจ็บหรือไม่ ปึก! "โอ๊ย!!!" ยี่หวาร้องออกมาด้วยความเจ็บ เพื่อนอีกสองคนปรี่เข้าไปช่วยประคองด้วยความเป็นห่วง นัยน์ตาดำขลับที่ว่างเปล่ามีเพียงความเย็นชาที่จุดประกายออกมาพานทำให้ยี่หวารู้สึกกลัวไม่น้อย "หึ เธอรู้จักฉันน้อยเกินไปแล้วยี่หวา" มาเฟียหนุ่มแค่นยิ้มเย้นหยันให้กับความโง่เขลาของยี่หวา ความจริงหากหล่อนอยู่นิ่งๆ ทำตัวเชื่องเหมือนสัตว์เลี้ยงที่ถูกฝึกมาอย่างดีก็คงไม่โดนเจ้าของลงโทษอย่างน่าเวทนา "ยะ...ยี่หวาขอโทษนะอังเดร ยี่หวา..." "บอกแล้วไงว่าฉันไม่ฟังคำอธิบายของใคร" น้ำเสียงเย็นเยียบพูดแทรก ไม่เปิดโอกาสให้ยี่หวาได้อธิบายใดๆ "ยี่หวาผิดไปแล้วยะ...อย่าทำอะไรยี่หวาเลยนะ" เพราะเคยเจอผู้ชายคนนี้ลงโทษคนอื่นมามากมาย ถึงขั้นสิ้นลมหายใจก็มี เลยรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไรกับตนต่อไป "สำนึกผิดตอนนี้...ไม่สายไปหน่อยเหรอ?" "ยะ...ยี่หวา.." "โซล ไทจิ" "ครับนาย" "เอาเศษสวะสามตัวนี้ไปลงโทษ ไม่ต้องถึงตาย แต่เอาให้เข็ด" เขาออกคำสั่งกับคนสนิท สายตาจ้องมองสามคนอย่างไร้ซึ่งความสงสาร หากบทลงโทษนี้ยังทำให้ยี่หวาไม่เข็ดหลาบ ครั้งหน้ามันจะไม่ใช่แค่บทลงโทษ... "ได้ครับนาย" คนสนิทสองคนส่งสัญญาณบางอย่างให้ชายฉกรรจ์ที่ยืนข้างหลังเข้าไปลากตัวสามสาวออกไป พวกเธอพยายามร้องขอความเมตตาจากอังเดร ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเย็นชา อังเดรมองลูเซียร์ซึ่งกำลัในั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่มุมหนึ่ง มาเฟียหนุ่มลอบถอนหายใจออกมาก่อนจะเข้าไปช้อนร่างคู่หมั้นในท่าเจ้าสาว "ฮึก...เซียร์สร้างปัญหาให้พี่เดย์อีกแล้ว" น้ำเสียงสั่นเครือเปล่งออกมา "ไม่ใช่เธอแต่เป็นพวกนั้น"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม