วันต่อมา
@Marvel Club
ลูเซียร์นั่งเหม่อลอยท่ามกลางเสียงเพลงภายในไนต์คลับชื่อดัง น้ำเสียงผู้หญิงที่ดังออกมาจากโทรศัพท์อังเดรเมื่อวานยังคงลอยวนเวียนอยู่ในหัวของเธอไม่หายไปไหน คำถามมากมายถูกตั้งขึ้นมาอัตโนมัติ
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?
เป็นแฟนพี่เดย์จริงอย่างที่หล่อนแอบอ้างไหม
เขากับผู้หญิงคนนั้นแอบซุ่มคบกันโดยไม่บอกใครหรือเปล่า
เธอคิดเรื่องอังเดรจนพลอยส่งผลให้ตัวเองปวดหัว ภาวนาขอให้เรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นพูดไม่ใช่เรื่องจริง เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะยกน้ำสีเหลืองอำพันขึ้นดื่ม
"แกเป็นอะไรยัยเซียร์ เห็นนั่งเหม่อลอยมานานแล้ว" ปันปันเอ่ยถาม หลังจากแอบนั่งสังเกตเพื่อนสนิทมาสองนาน
"นั่นสิ มีอะไรเล่าให้พวกฉันฟังได้นะ" นิวเยียร์เสริมขึ้นอีกคน ตั้งแต่มาถึงไนต์คลับ ลูเซียร์เอาแต่นั่งเหม่อลอยราวกับคนกำลังมีเรื่องอะไรในใจแต่พูดออกมาไม่ได้
"ฉันถามอะไรพวกแกหน่อยสิ" สุดท้ายลูเซียร์ตัดสินใจปรึกษาเพื่อนสนิทของตัวเอง ไม่อยากเก็บไว้ให้คาราคาซังใจตัวเอง
"ถามอะไรเหรอ?" ชมพูพูด
"ถ้ามีผู้หญิงโทรมาหาแฟนพวกแกแล้วอ้างว่าเป็นแฟน พวกแกจะเชื่อในสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดไหม"
"จากประสบการณ์โดยตรงของฉัน เคยมีเคสแบบนี้โทรมาแล้วบอกให้ฉันเลิกกับแฟน อ้างว่าตัวเองคบกับแฟนฉันอยู่แถมบอกด้วยนะว่ากำลังท้องลูกของแฟนฉันด้วย พอสืบไปสืบมาถึงรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นแอบชอบแฟนฉัน แล้วก็ไม่ได้ท้องอย่างที่แอบอ้าง"
"...."
"ถ้ามีผู้หญิงโทรมาหาคู่หมั้นแกแล้วบอกว่าเป็นแฟน แกอย่าไปเชื่อเด็ดขาดเลยนะ ผู้หญิงที่โทรมาอาจเป็นแค่ของเล่นบนเตียงของคู่หมั้นแกก็ได้"
"ของเล่นบนเตียง?" เธอเลิกคิ้วขึ้นสูงหลังจากฟังประโยคนั้นของปันปัน
"ใช่"
"ถ้ามีแบบนี้โทรมาแล้วอ้างตัวเป็นแฟนของแฟนฉัน ฉันดักตบแน่ แต่บังเอิญว่าตัวเองโสด"
"วันก่อนลงรูปที่ไปคาเฟ่ แคปชั่นใต้โพสต์บอกว่า คนหล่อถ่ายให้ นี่เรียกว่าโสดแล้ว?" นิวเยียร์หันไปถามเพื่อนสนิทพร้อมกับยกน้ำเมาขึ้นดื่ม
"เมื่อไหร่จะเปิดตัวเหรอชมพู" ลูเซียร์ถามขึ้นมาอีกคนด้วยรอยยิ้ม
"เปิดตงเปิดตัวอะไรล่ะ แค่ไปซื้อกาแฟแล้วบังเอิญเจอพี่เขา ก็เลยบอกให้ถ่ายรูปให้"
"อ๋อ...บังเอิญ" เพื่อนๆ ล้อเลียนชมพู ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเขินตัวแทบทำอะไรไม่ถูก
"เดี๋ยวฉันมานะ ขอตัวไปรับโทรศัพท์แม่ก่อน"
ลูเซียร์หันไปบอกเพื่อนๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปพร้อมโทรศัพท์ เธอเดินมายังบริเวณหนึ่งที่ไม่ค่อยมีเสียงเพลงเข้าถึงของไนต์คลับ
เธอยืนคุยกับคนเป็นแม่ ส่วนมากปลายสายถามถึงสารทุกข์สุกดิบ ด้วยความที่ต้องมาใช้ชีวิตคนเดียวห่างไกลครอบครัวเป็นครั้งแรก ทางบ้านเลยเป็นห่วงมากพิเศษ
หลังจากคุยกับปลายสายเนิ่นนาน บทสนทนาก็ได้สิ้นสุดลง เธอวางสายจากคนเป็นแม่ ตวัดเท้าเดินกลับไปยังจุดที่ตัวเองเดินมาแต่ทว่าต้องชะงักเมื่อมีมือของใครบางคนจับแขนเอาไว้
หมับ
หญิงสาวหมุนตัวกลับไปมองเจ้าของการกระทำนั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะคลายมือออกจากแขนเธอ ใบหน้าที่คุ้นเคยทำให้เธอจำคนตรงหน้า
"พี่ภูริช..." เธอเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าออกมาด้วยรอยยิ้ม ผ่านไปหลายปีไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้กลับมาเจอเขาอีก
"พี่ไม่คิดว่าจะเจอเซียร์ที่นี่ โตเป็นสาวสวยแล้ว" ภูริชเอ่ยชมคนตรงหน้า พลางเอื้อมมือไปลูบหัวทุยของลูเซียร์เหมือนที่เคยทำเมื่อหลายปีก่อน
"พี่ภูริชก็ยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะคะ"
ภูริชเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนสมัยที่เธอเรียนม.ปลาย ยังประทับใจในตัวผู้ชายคนนี้ไม่ลืม ช่วงหนึ่งเธอโดนผู้หญิงจากอีกห้องมาหาเรื่อง ภูริชได้เข้ามาช่วย เขาไม่เพียงเป็นแค่ประธานนักเรียนแต่ยังเป็นหนุ่มฮอตประจำโรงเรียนอีกด้วย
เรื่องเรียนเก่ง เล่นกีฬาเก่ง เล่นดนตรีเก่ง ต้องยกให้ภูริช
"กลับไทยมานานแล้วเหรอ"
"เพิ่งมาค่ะ ยังไม่ถึงอาทิตย์เลย"
"พี่ไม่คิดว่าเซียร์จะมาเที่ยวในที่แบบนี้เป็นด้วย"
"เซียร์เพิ่งมาเที่ยวในที่แบบนี้สองครั้งเอง"
"จริงเหรอ?"
"ใช่ค่ะ เซียร์ต้องไปแล้ว ป่านนี้เพื่อนคงรอ ไว้เจอกันนะคะ"
"เดี๋ยวสิเซียร์"
ลูเซียร์ที่กำลังก้าวเท้าเดินออกไปชะงัก ดึงสายตากลับไปมองภูริชอีกครั้ง
"คะ?"
"จะเป็นอะไรไหมถ้าพี่...อยากขอไลน์เซียร์เอาไว้"
"ได้สิคะ ทำไมจะไม่ได้"
ลูเซียร์กำลังยื่นมือไปรับโทรศัพท์ของภูริชมากรอกไอดีไลน์ตัวเองแต่กลับโดนมือใครบางคนแย่งโทรศัพท์ภูริชไปก่อน พอพลันสายตาไปมองถึงได้รู้ว่าเป็น...
"พี่เดย์" เธอเอ่ยเรียกชื่อคู่หมั้นหนุ่ม เขายื่นโทรศัพท์คืนเจ้าของ หลังจากแย่งโทรศัพท์ของภูริชไปทำบางอย่าง
"ไลน์กู อยากคุยอะไรกับคู่หมั้นกูก็ทักมาหากู"
ไม่ทันที่ภูริชจะพูดอะไรออกมา อังเดรก็ได้ลากตัวลูเซียร์ออกมาจากตรงนั้นโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว เพราะแรงบีบที่อังเดรกดลงข้อมือ ทำให้หญิงสาวแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมา
"พี่เดย์จะพาเซียร์ไปไหน ปล่อยนะ...อ๊ะ!"
มาเฟียหนุ่มผลักร่างบางใส่ผนังหนาจนเธอรู้สึกเจ็บไปทั่วแผ่นหลัง ลูเซียร์มองคนตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว นัยน์ตาดำขลับที่ทอดมองทำให้เธอไม่กล้าสบสายตาด้วย
"อยากให้ฉันทำให้มันหายไปจากโลกใบนี้ไหม?"
"พี่เดย์จะทำอะไรพี่ภูริช"
"เสกให้มันหายไปแบบไร้ร่องรอยเลยดีไหม?" เขาแสยะยิ้มน่ากลัวออกมา ก่อนหน้านั้นลูเซียร์บอกว่าเขามีคู่หมั้นแล้วแต่ยังเที่ยวไปหาผู้หญิงคนอื่น แต่ทำไมวันนี้เจ้าของคำพูดถึงเป็นฝ่ายทำเองแบบนั้นเสียเอง
"พี่ภูริชเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนม.ปลาย เราสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบที่พี่เดย์เข้าใจ"
"ฉันบอกแล้วไง วันไหนที่เธอทำตัวไม่น่ารัก รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรกับคลิปที่ฉันถ่ายเอาไว้"
"ระ...รู้ค่ะ" น้ำเสียงสั่นเทาตอบกลับไป ไม่เข้าใจเขาเหมือนกัน ทั้งที่เขาเที่ยวคุยกับผู้หญิงคนอื่นได้แต่ทำไมเธอถึงทำแบบนั้นไม่ได้ เธอไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เลยจริงๆ
"ครั้งนี้จะถือว่าเตือน ถ้ามีอีก เธอเจอของจริงแน่"
"ทีพี่เดย์ยังคุยกับผู้หญิงคนอื่นได้ แล้วทำไมเซียร์ถึงทำแบบนั้นบ้างไม่ได้" โพล่งถามออกไปด้วยความอยากรู้
"ตราบใดที่เธอยังยืนยันจะแต่งงานกับฉัน ฉันก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอเดินออกไปจากชีวิตของฉัน"
"พี่เดย์กำลังจะบอกว่า ที่ทำแบบนี้เพราะอยากให้เซียร์ทนไม่ได้แล้วกลับนิวยอร์กไป เพื่อขอให้คุณพ่อคุณแม่ยกเลิกงานแต่งงานของเราใช่ไหมคะ"
"ใช่"
"ขอโทษนะคะถ้าจะต้องบอกว่าเซียร์ทำให้ฝันของพี่เดย์เป็นจริงไม่ได้"
ประโยคนั้นของลูเซียร์ทำให้นัยน์ตาดำขลับเริ่มจุดประกายความไม่พอใจ เธอกำลังยิ้มเยาะเย้ยเขา ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงใสซื่อและไร้เดียงสาอย่างลูเซียร์ จะร้ายกาจได้มากถึงเพียงนี้...
"อังเดร..."
เสียงผู้หญิงที่เอ่ยเรียกอังเดร ทำให้ลูเซียร์จำได้ว่าเคยได้ยินมาจากที่ไหน เป็นเสียงเดียวกันที่โทรมาหาคู่หมั้นเธอเมื่อวาน
หญิงสาววางสองมือไว้บนไหล่กว้างของอังเดร จากนั้นเขย่งปลายเท้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อจูบคู่หมั้นหนุ่มต่อหน้าเจ้าของเสียงเรียกเมื่อครู่ ซึ่งมาเฟียหนุ่มก็ไม่ได้ปฏิเสธจูบของลูเซียร์ ซ้ำยังจูบอีกฝ่ายตอบอย่างดูดดื่ม รุกหนักจนหญิงสาวคิดจะถอนจูบออก แต่กลับถูกอังเดรใช้แขนรั้งเอวบางเข้ามาหาจนร่างกายแทบบดเบียดกัน
มาเฟียหนุ่มบดคลึงจูบลงมาโดยไม่เว้นช่องว่างให้ลูเซียร์ได้หายใจหายคอ ลิ้นสากสอดแทรกเข้ามาภายในโพรงปาก แรงดูดเบาๆ ผ่านลิ้นเล็กพลอยทำให้หัวใจของหญิงไหววูบ แข้งขาเริ่มอ่อนเปลี้ยลง
เขามองลูเซียร์ที่กำลังหายใจหอบถี่ พลางส่งเสียงเบาๆ ออกมาในลำคอ ตัวเองเป็นฝ่ายท้าทายก่อนแท้ๆ แต่ดันอ่อนหัดซะเอง
"ผู้หญิงคนนี้เป็นใครเหรออังเดร"
"คู่หมั้นฉัน"
"คะ...คู่หมั้นนายอย่างนั้นเหรอ?"
"ใช่ คนที่รับสายเธอเมื่อวานไง"
ผู้หญิงคนนั้นปรายสายตามามองลูเซียร์ด้วยความไม่พอใจ เรื่องที่เอาอังเดรมาแอบอ้างเป็นแฟนตัวเองคงถึงหูเขาแล้วอย่างแน่นอน
"ต่อไปนี้ถ้าเธอเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าฉันเป็นแฟนเธออีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน"
"ขอโทษ ฉันนึก..."
"ฉันไม่ต้องการฟังคำอธิบาย" อังเดรแทรกขึ้นเสียงเรียบ
"เซียร์ขอตัวไปหาเพื่อนก่อนนะคะ" เธอตัดสินใจปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นเพื่อให้ทั้งสองคนเคลียร์กันเอง
"ห้าทุ่มมาหาฉันที่ลานจอดรถ"
"ค่ะ" เธอตอบรับอย่างง่ายดาย ก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะของกลุ่มเพื่อน ป่านนี้เพื่อนเธอคงพูดกันแล้วว่าเธอหายไปไหนนานขนาดนี้