ตอนที่ 10 ลิขิตสวรรค์ชักนำ 3

3007 คำ
แคว้นหลงอัน ภายในท้องพระโรง บัดนี้พระราชสาสน์ลับจากแคว้นจ้าวนำส่งถึงพระหัตถ์พระเจ้าผิงอานฮ่องเต้แห่งแคว้นหลงอัน ภายในระยะเวลาอันรวดเร็วไม่ถึงห้าวันพระราชสาสน์ดังกล่าวได้มาปรากฏอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งประสบการณ์ในพระชนมายุห้าสิบเก้าพรรษา ซึ่งบ่งบอกถึงความอ่อนล้าและใช้ชีวิตมาอย่างโชกโชนตลอดพระชนม์ชีพที่ผ่านมา พระเนตรหรี่ลงกำลังอ่านพระราชสาสน์ซึ่งราชทูตจากแคว้นจ้าวเป็นผู้นำส่งมาให้นั้น มีแววเคร่งเครียดก่อนจะจบลงด้วยรอยแย้มพระโอษฐ์ที่แฝงเร้นความยินดี เป็นเหตุให้องค์รัชทายาทซึ่งมีพระนามว่าเวยอัน อดไม่ได้ที่จะรับสั่งถามด้วยความใคร่รู้ข้อความในพระราชสาสน์ดังกล่าว “พระบิดาแคว้นจ้าวส่งพระราชสาสน์มาถึงแคว้นหลงอัน ด้วยเหตุผลกลใดอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าต้องการให้หลงอันยอมสยบก้มหัวให้ดั่งที่เคยทำกับแคว้นอื่นๆ มาแล้ว” ไร้สิ้นรับสั่งจากผิงอานฮ่องเต้ หากแต่พระหัตถ์กลับยื่นพระราชสาสน์ส่งให้องค์รัชทายาทของพระองค์ “เจ้าเอาไปอ่านแล้วบอกข้ามาว่ามีความคิดเห็นเช่นไรกับสิ่งที่แคว้นจ้าวยื่นข้อเสนอนี้มาให้” องค์ไทจื่อเวยอันทรงยืนนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะพระดำเนินไปรับพระราชสาสน์จากพระหัตถ์ของพระราชบิดาพร้อมก้มลงอ่านข้อความที่อยู่ในสาสน์ลับดังกล่าวทันที พระขนงขมวดมุ่นเข้าหากันทันใดครั้นทรงอ่านข้อความในพระราชสาสน์นั้นจบลง “นี่... หมายความว่ากระไรพ่ะย่ะค่ะพระบิดา ลูกไม่เข้าใจในท่าทีอันเป็นมิตรของแคว้นจ้าวแม้แต่น้อย แต่ไหนแต่ไรมาแคว้นจ้าวแผ่ขยายอำนาจยึดครองแคว้นน้อยใหญ่ไปทั่ว แม้แต่แคว้นเจียงซึ่งเป็นแคว้นพี่น้องของหลงอันก็ถูกยึดครองไปแล้ว หากแม้นมิใช่เพราะเทือกเขาหัวซานขวางกั้นแคว้นหลงอันเอาไว้ ป่านนี้ก็คงมีสภาพไม่แตกต่างจากแคว้นอื่นๆ เป็นแน่แท้” รับสั่งแสดงความคิดเห็นออกไปและแฝงเร้นความสงสัยไปพร้อมกัน ถ้อยรับสั่งขององค์รัชทายาททำให้ผิงอานฮ่องเต้ทรงพยักพระพักตร์ขึ้นลงติดๆ กัน พร้อมทรงมีรับสั่งขึ้นมาทันที “หากไม่มีฎีกาใดจะมารายงานข้าแล้วก็ให้ปิดประชุม ข้าจะหารือกับองค์ไทจื่อเป็นการส่วนตัว” “พ่ะย่ะค่ะ!!!” เหล่าขุนนางน้อยใหญ่น้อมรับพระบัญชาก่อนจะพากันล่าถอยออกจากท้องพระโรงจนเหลือเพียงผิงอานฮ่องเต้และองค์ไทจื่อเวยอันเท่านั้น ครั้นอยู่เพียงตามลำพังสุรเสียงขององค์รัชทายาทรับสั่งทำลายความเงียบขึ้นมาทันที “พระบิดามิต้องการให้ขุนนางน้อยใหญ่ล่วงรู้คงจะต้องมีเหตุผลเป็นแน่ ทรงมีความคิดเห็นเป็นเช่นไรหรือพ่ะย่ะค่ะ” รับสั่งถามตามความคาดเดาของพระองค์ ผิงอานฮ่องเต้แย้มพระโอษฐ์ออกมาบางๆ เมื่อทรงได้ยินเช่นนั้น “เรื่องนี้หากตัดสินใจผิดพลาดอาจจะทำให้แคว้นหลงอันถึงคราวล่มสลายก็อาจเป็นได้ ดังนั้นรู้ให้น้อยที่สุดจะเป็นการดีต่อทุกฝ่าย เพราะข้าเองตัดสินใจแล้วว่าจะให้ความร่วมมือตามที่แคว้นจ้าวเจริญสัมพันธ์ไมตรีขอเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้นโดยการแต่งงาน ข้อเสนอเช่นนี้ที่แคว้นจ้าวเป็นฝ่ายหยิบยื่นมาให้ไยจึงไม่รีบคว้าเอาไว้เพื่อความสงบสุขในภายภาคหน้า” ทันทีที่ผิงอานฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งเช่นนั้นออกมาเป็นเหตุให้องค์ไทจื่อรับสั่งถามกลับไปทันที “พระบิดา! ทรงคิดถี่ถ้วนดีแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะที่จะทรงทำเช่นนั้น การแต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแคว้น จริงอยู่ที่ว่าทำให้หลงอันปลอดภัยจากการถูกรุกรานจากแคว้นใหญ่ๆ ที่กำลังแผ่ขยายอำนาจอยู่ในขณะนี้ แต่แคว้นจ้าวจะเห็นแคว้นหลงอันเป็นมิตรไปตลอดกระนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” “สิ่งที่เจ้ากล่าวมาก็ถูก ดังนั้นข้าจึงต้องวางแผนอย่างแยบยล นอกจากจะใช้วิธีแต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นแล้ว จะต้องพยายามให้คนของแคว้นหลงอันก้าวขึ้นครองตำแหน่งฮองเฮาของแคว้นจ้าวให้ได้ ในขณะ เดียวกันแผนการก้าวขึ้นกุมอำนาจของฝ่ายในกำลังดำเนินอยู่ต่อไป ก็ให้จัดการฮ่องเต้แคว้นจ้าวและองค์ชายทั้งเก้าพระองค์มิให้เหลือผู้ใดสืบทอดราชบัลลังก์นั้นได้แม้แต่พระองค์เดียว” รับสั่งของพระราชบิดาถึงแผนการอันแยบยลทำให้องค์ไทจื่อตามแผนการดังกล่าวได้ทันท่วงที “เมื่อฮ่องเต้และเหล่าบรรดาองค์ชายทั้งเก้าสิ้นพระชนม์ลงจนหมดก็เป็นโอกาสที่แคว้นหลงอันจะเข้ายึดครองในฐานะแคว้นพี่น้องด้วยตำแหน่งฮองเฮาดังกล่าวที่สามารถกุมอำนาจฝ่ายในเอาไว้ทั้งหมดก็จะทำให้แคว้นจ้าวกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นหลงอันใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” “ถูกต้อง!” ผิงอานฮ่องเต้รับสั่งพร้อมเปล่งเสียงพระสรวลออกมาทันทีอย่างพึงพอพระทัย “เมื่อกุมอำนาจของฝ่ายในได้แล้วเช่นนี้การครอบครองแคว้นจ้าวโดยมิต้องสูญเสียกองกำลังทหารแม้แต่น้อย ย่อมเป็นวิธีที่ดีกว่าแคว้นเว่ยนำกองทหารบุกเข้ายึดครองแคว้นที่กำลังกระทำอยู่ในขณะนี้หลายร้อยเท่าพันทวีเป็นยิ่งนัก หากแต่ผู้ที่ข้าจะเลือกไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างแคว้นนั้น นอกจากจะมีความงดงามเหนือผู้ใดแล้วไซร้ จะต้องเก่งกาจรอบด้านอีกด้วย เพราะฉะนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่...” “ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะพระบิดา! จะส่งอิ้งเยว่ไปทำงานนี้ไม่ได้เด็ดขาด! ลูกหายอมไม่!” องค์รัชทายาทรับสั่งคัดค้านหัวชนฝาเมื่อล่วงรู้ความคิดเท่าทันพระราชบิดาว่าคิดจะส่งผู้ใดไปทำงานสำคัญในครั้งนี้ องค์ฮ่องเต้รับสั่งได้เพียงเท่านั้นพลันต้องเงียบงันลงทันใด พระเนตรจ้องพระพักตร์คมคายของพระโอรสเขม็ง “บังอาจคัดค้านความคิดของข้าเพราะห่วงแหนญาติผู้น้องของเจ้าอย่างนั้นหรอกรึ! อย่าลืมสิว่าตลอดระยะเวลาสิบเจ็ดปีที่ผ่านมา ข้าและแม่ของเจ้าช่วยกันเลี้ยงดูนางแทนเจียงเหว่ยฮ่องเต้และกั๋วฮองเฮาแห่งแคว้นเจียงที่ล่มสลายไปแล้ว และนี่คือโอกาสของนางที่จะแทนคุณข้าและแม่ของเจ้า รวมไปถึงแทนคุณให้แก่แคว้นหลงอันที่มีบุญคุณต่อนางมาโดยตลอด!!!” องค์รัชทายาทก้มพระพักตร์มองพื้นท้องพระโรงนิ่งฟังพระราชบิดาที่ทรงมีรับสั่งอย่างพิโรธเมื่อถูกพระองค์คัดค้านแผนการ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะมิยอมให้ญาติผู้น้องโฉมสะคราญเจ้าของหัวใจของพระองค์ต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือฮ่องเต้ของแคว้นจ้าวเป็นอันขาด “พระบิดาอย่าเพิ่งเข้าใจลูกผิดไป เหตุที่ต้องคัดค้านด้วยเพราะอิ้งเยว่มีนิสัยหุนหันพลันแล่น อีกทั้งยังไร้เดียงสาไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงผู้ที่เจริญไวกว่า ถึงแม้ว่านางจะมีวิทยายุทธ์ล้ำเลิศผิดแปลกไปกว่าสตรีอื่นที่ควรจะเป็นก็ตามที แต่ด้วยวัยดรุณีแรกรุ่นเพียงสิบเจ็ดปีของนางอาจตกอยู่ในภวังค์แห่งความลุ่มหลงได้ง่าย ทางที่ดีลูกคิดว่าควรแยกหน้าที่ให้อิ้งเยว่รับสนองเพื่อแทนคุณพระบิดาและพระมารดาเป็นอย่างอื่นจะดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ” รับสั่งของพระโอรสทำให้ผิงอานฮ่องเต้หรี่พระเนตรลงพลางจ้องพระพักตร์เขม็ง “เจ้ากำลังหาทางกีดกันมิให้อิ้งเยว่เข้าไปถวายตัวเป็นพระสนมของฮ่องเต้แคว้นจ้าวล่ะสิ ข้าไม่โง่หรอกนะที่จะมองไม่ออกว่าเจ้าคิดอย่างไรกับญาติผู้น้องคนนี้ นั่นเป็นเพราะว่าตัวเจ้าเองหมายใจจะยกย่องนางให้ขึ้นเป็นฮองเฮาของแคว้นหลงอันภายหลังที่ได้ขึ้นปกครองแคว้น หาไม่แล้วเจ้าจะเว้นว่างตำแหน่งพระชายาอันดับหนึ่งโดยการอภิเษกเอาไว้ให้เพื่อใคร หากมิใช่เพื่อเจียงอิ้งเยว่!!!” รับสั่งประโยคสุดท้ายดังกระหึ่ม วรองค์สูงสง่าทรุดพระวรกายลงกับพื้นทันใดเมื่อทรงได้ยินรับสั่งของพระบิดาเช่นนั้น “เป็นความผิดของลูกพ่ะย่ะค่ะที่หลงรักนาง สิ่งที่พระบิดารับสั่งมาทั้งหมดลูกไม่ปฏิเสธแต่อย่างใด ขอพระบิดาได้โปรดละเว้นอิ้งเยว่ไว้ด้วยเถิด อย่าส่งนางให้ไปเป็นของชายอื่นเลยพ่ะย่ะค่ะ หากแม้นจะให้นางแทนคุณต่อแผ่นดินและต่อพระบิดาและพระมารดาที่ชุบเลี้ยงนางมาขอได้โปรดใช้ความเก่งกาจ สติปัญญาและไหวพริบของอิ้งเยว่ไปในทิศทางอื่นด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” องค์รัชทายาทรับสั่งอ้อนวอน ผิงอานฮ่องเต้ทอดพระเนตรองค์รัชทายาทเขม็ง ก่อนจะทอดถอนพระทัยออกมา “เฮ้อ! ขึ้นชื่อว่าความรักสามารถทำได้ทุกสิ่ง และทนไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียไป เอาเถอะ! ข้าจะพยายามเข้าใจเจ้าจะเลือกเฟ้นสาวงามอื่นที่คู่ควรส่งไปเป็นพระสนมของฮ่องเต้แคว้นจ้าว” องค์ไทจื่อพระพักตร์แปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อได้ยินผิงอานฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งเช่นนั้น “ลูกขอขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ” รับสั่งพร้อมก้มพระเศียรลงโขกกับพื้นท้องพระโรงอย่างซาบซึ้งพระทัย “เจ้าอย่าเพิ่งดีใจไป เพราะถึงอย่างไรอิ้งเยว่ก็จะต้องถูกส่งไปแคว้นจ้าวเพื่อทำหน้าที่แทนคุณให้แก่ข้าและแคว้นหลงอันอยู่ดี” รับสั่งแทรกขึ้นมาเป็นเหตุให้องค์ไทจื่อชะงักงัน “ตะ... แต่” พระองค์รับสั่งได้เพียงเท่านั้น องค์ฮ่องเต้ยกพระหัตถ์เป็นสัญญาณห้ามขึ้นมาทันที “ไม่ต้องขอร้องสิ่งใดอีก เพราะข้าตัดสินใจไปแล้ว ส่งพระราชสาสน์ไปที่แคว้นเหย้าที่อยู่ภายใต้การปกครองของหลงอัน ให้ส่งองค์หญิงเข่อซิงแห่งแคว้นเหย้าเตรียมตัวเดินทางไปถวายตัวเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างแคว้นหลงอันและแคว้นจ้าว ส่วนอิ้งเยว่ให้นางแทนคุณโดยการเข้าไปในวังหลวงของแคว้นจ้าวและมีหน้าที่สังหารฮ่องเต้แคว้นจ้าวและบรรดาองค์ชายทั้งเก้าพระองค์ เช่นนี้ข้าคิดว่ายุติธรรมดีทั้งสองฝ่ายแล้ว” รับสั่งของพระราชบิดาทำให้องค์ไทจื่อคลี่พระโอษฐ์ออกมาบางๆ เมื่อทรงได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะได้ยินสุรเสียงของผิงอานฮ่องเต้มีรับสั่งตบท้าย “แต่ถ้าหากนางกระทำการไม่สำเร็จแล้วไซร้ และเพื่อความปลอดภัยมิให้ล่วงรู้ว่าเป็นแผนการของแคว้นหลงอัน สิ่งที่เจียงอิ้งเยว่จะต้องได้รับนั่นก็คือความตาย ที่นางจะต้องรับผิดชอบสำหรับหน้าที่ในการแทนคุณครั้งนี้” รับสั่งพร้อมลุกจากตั่งที่ประทับเสด็จออกจากท้องพระโรงไปทันที ท่ามกลางสุรเสียงขององค์ไทจื่อ “พระบิดา! จะมิทรงพระทัยร้ายกับอิ้งเยว่ไปหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ พระบิดา!!!” สุรเสียงตะโกนก้องดังไปทั่วท้องพระโรง องค์ไทจื่อทรุดพระวรกายฮวบลงกับพื้นทันใด ไม่ว่าอย่างไรพระองค์ก็ต้องสูญเสียนางในดวงใจไปอยู่ดี เหตุใดหนอไยเรื่องจึงแปรเปลี่ยนพลิกผันไปเช่นนี้ พระเนตรเหม่อมองผ่านประตูท้องพระโรงไปยังแผ่นฟ้าเบื้องบน “เหตุใดสวรรค์จึงพระทัยร้ายยิ่งนัก! ไยจึงทรงลิขิตข้ากับอิ้งเยว่ให้ออกมาเป็นเช่นนี้! รักของข้าที่มีต่อนางมิอาจได้ครองคู่ในภพชาตินี้หรืออย่างไร เพราะเหตุใดสวรรค์... เพราะเหตุใด!!!” สุรเสียงตัดพ้อสวรรค์เบื้องบนดังกึกก้อง ในขณะเดียวกัน ท่ามกลางม่านอาคมที่กำลังแสดงเหตุการณ์ในโลกมนุษย์ต่อหน้าพระพักตร์ของเทพจันทราและเทพศาสตราอยู่ในขณะนี้ เสียงร่ำร้องตัดพ้อของมนุษย์เบื้องล่างจากบุรุษผู้สูงศักดิ์ ทำให้พระโอษฐ์ของเทพจันทราคลี่ออกมาบางๆ เมื่อลิขิตสวรรค์เริ่มกำหนดชะตาชีวิตที่พระองค์ทรงล่วงรู้แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น “ยิ้มอะไรท่านผู้เฒ่า! รอยยิ้มของท่านเช่นนี้หาเป็นเรื่องดีแม้แต่น้อย” เทพศาสตรารับสั่งถามพลางหันกลับไปทอดพระเนตรพระสหายต่างวัย ทว่ากลับหล่อเหลารัญจวนจิตเป็นที่เสน่หาชวนลุ่มหลงให้แนบชิดแก่เหล่าเทพสตรีและปีศาจเป็นยิ่งนัก “นั่นมันเรื่องของข้า... ยิ้มแล้วเป็นอย่างไร! เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วยรึ” รับสั่งตอบกลับไปสุรเสียงราบเรียบ “เชอะ! ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก ข้าก็ใช่ว่าอยากจะรู้เรื่องของท่านเสียที่ไหนกันเล่า แต่จะว่าไปเหตุใดม่านอาคมจึงแสดงชะตามนุษย์ผู้นี้เข้ามาด้วยเล่า เกี่ยวข้องอะไรกับเหวินฉางอย่างนั้นหรอกรึท่านผู้เฒ่า” เทพศาสตรารับสั่งถามกลับไปด้วยความสงสัย เทพจันทราคลี่พระโอษฐ์ออกมาบางๆ เมื่อทรงได้ยินพระสหายสนิทรับสั่งถามเช่นนั้นออกมา “เจ้าไม่โง่แล้ว! ฉลาดขึ้นเสียด้วย” รับสั่งชมออกไป เทพศาสตรายืดพระอุระอย่างภาคภูมิใจเมื่อพระสหายของพระองค์กล่าวชมเช่นนั้น ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าถ้อยรับสั่งเช่นนี้เทพจันทรารับสั่งประชดเสียมากกว่าชม “ท่านพูดแบบนี้ประชดข้าชัดๆ คิดว่าข้าโง่ใช่ไหมถึงตามความคิดของท่านไม่ทัน จะบอกให้นะไม่ว่าอย่างไรข้าก็ตามท่านทันเสมอ แต่อาจจะช้าไปหน่อยเท่านั้นเอง” พระพักตร์หล่อเหลาของเทพจันทราส่ายไปมาติดๆ กันเมื่อทรงได้ยินเช่นนั้น “สุดท้ายเจ้าก็ยังไม่ฉลาดเหมือนเดิม” รับสั่งพร้อมเปล่งเสียงพระสรวลออกมาทันที “นี่ท่าน!!” หากแต่เทพศาสตรามีรับสั่งได้เพียงเท่านั้นก็จำต้องหยุดลงเมื่อได้ยินรับสั่งของเทพจันทราดังแทรกขึ้น “เอาละ! อย่าเสียเวลาอยู่เลย เตรียมตัวให้พร้อม ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องลงไปโลกมนุษย์ได้แล้ว ม่านอาคมแสดงเหตุการณ์ผู้เกี่ยวข้องกับเหวินฉางเข้ามาแล้ว ลงไปตอนนี้จะเข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที” รับสั่งพร้อมร่ายเวทปิดผนึกวิชาเทพเซียนของเทพศาสตราทันที โดยที่อีกฝ่ายมิทันได้ตั้งตัว “เฮ้ย! ท่านผู้เฒ่า เหตุใดท่านปิดผนึกพลังเวทของข้า แบบนี้ ลงไปโลกมนุษย์ข้าก็เป็นแค่คนธรรมดาไม่สามารถใช้วิชาเวทช่วยเหลือตัวเองได้ในยามคับขันใดๆ ได้เลยน่ะสิ จะมิตายไปก่อนหรอกรึ!” เทพศาสตรารับสั่งโวยวาย “แล้วเจ้าคิดว่าถ้าไม่มีวิชาเวทคู่กายจะต้องดับขันธ์ในโลกมนุษย์หรือไม่เล่าเฟิ่งเหมี่ยน อยากลงไปโลกมนุษย์ก็ต้องเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะฉะนั้นวิชาเทพเซียนอะไรก็แล้วแต่จงอย่านำไปใช้ในเมืองมนุษย์ ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถไม่เป็นสองรองผู้ใดแม้แต่น้อย เอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน” รับสั่งพร้อมใช้พระหัตถ์เบิกม่านอาคมออกเป็นวงกว้างคล้ายประตูเพื่อนำส่งเทพศาสตราลงจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้า “แล้วนี่ข้าต้องลงไปจุติใหม่กว่าจะโตเป็นหนุ่ม ต้องใช้เวลาอีกตั้งหลายปี เช่นนี้แล้วจะสามารถช่วยเหลือเหวินฉางได้อย่างไรกันเล่าท่านผู้เฒ่า” เทพศาสตราไม่วายรับสั่งถาม “โอ๊ยยย! เจ้าจะลงไปจุติใหม่ทำไมกัน ข้าให้เวลาแค่นิดเดียวเพียงสองสามวันเท่านั้น ลงไปเกิดใหม่จะทันได้ทำอะไรได้เล่า ไปทั้งร่างเทพเซียนนี่แหละ นี่ก็เพิ่งจะรู้ว่าเจ้าโง่กว่าที่ข้าคิดเสียอีกนะ” เทพจันทรารับสั่งตอบกลับไปก่อนจะยกพระหัตถ์กุมขมับของพระองค์ด้วยทรงรู้สึกปวดพระเศียรกับความคิดของพระสหายสนิท “อ่ออย่างนั้นรึ! ถ้าเช่นนั้นก็ดี เอาเป็นว่าท่านก็ปลดพลังเวทให้ข้าใช้สักสองส่วนก็ได้ น่าจะสบายขึ้นมาหน่อย จะดีเสียยิ่งกว่าที่จะไม่มีพลังเวทคู่กายเลย” เทพศาตรารับสั่งพลางหันพระวรกายกลับไปทอดพระเนตรประตูม่านอาคมที่เทพจันทราเพิ่งร่ายเวทขยายออกเป็นวงกว้าง “ไม่ต้องมีดีที่สุดแล้ว ชักช้าจะไม่ทันการณ์ ลงไปได้แล้วเฟิ่งเหมี่ยน” เทพจันทรารับสั่งพร้อมยกพระบาทถีบพระวรกายของพระสหายทันทีโดยที่อีกฝ่ายมิทันได้ตั้งตัว “พลั่ก!” เทพศาสตราร่วงหล่นเข้าไปประตูม่านอาคมหายลับโดยพลันท่ามกลางสุรเสียงรับสั่งตะโกน “เยว่เทียน! ตาเฒ่าวิปลาส! เล่นถีบข้าลงมาไม่รู้เนื้อรู้ตัวแบบนี้ พลังเวทก็ไม่ให้ไปหากข้าดับขันธ์ลงไปกลางทางจะทำยังไง!!!” เทพจันทราทรงยืนส่งยิ้มละไม พระพักตร์นิ่งตีหน้าตายพลางยกพระหัตถ์โบกไปมาประหนึ่งกำลังหยอกเย้า “โชคดีสหายรัก ข้ามิเห็นต้องทำสิ่งใดแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเจ้าจะรู้สึกขอบคุณข้าต่างหากเล่าในการลงไปโลกมนุษย์ครั้งนี้ และข้าก็คือผู้มีพระคุณของเจ้าเชียวเลยนะ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ทำลงไปทั้งหมดก็เพื่อสหายรักของข้าทั้งสอง มิมีสิ่งอื่นใดแอบแฝงแม้แต่น้อย” ท่ามกลางสุรเสียงรำพึงรำพันของเทพจันทราปรากฏสุรเสียงของเทพศาสตราดังก้องอยู่ในม่านอาคม “ตาเฒ่าเยว่เทียน! ข้าจะฆ่าท่าน!!!” “แล้วเรื่องอะไรข้าจะอยู่ให้โง่!!!” เทพเจ้าหนุ่มรูปงามรับสั่งพร้อมตีสีพระพักตร์ไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะคลี่พระโอษฐ์ออกมาบางๆ เมื่อพระองค์เริ่มวางหมากตามลิขิตของสวรรค์ให้กับสองพระสหายสนิทอย่างล้ำลึกและมิมีผู้ใดล่วงรู้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม