bc

ลิขิตรักบรรพกาล : ภาตองค์ชายเก้ากับพระสนมบ้า

book_age4+
97
ติดตาม
1K
อ่าน
จบสุข
คู่ต่างขั้ว
คำสาป
กล้าหาญ
กษัตริย์
ดราม่า
ชายจีบหญิง
เทพนิยาย
like
intro-logo
คำนิยม

เมื่อบุรุษหนึ่งคืออดีตคู่บุพเพ เหวินฉางเทียนจวิน

อีกหนึ่งบุรุษคือคู่วาสนาที่แท้จริง จอมมารชินซาง

รักแท้เพียงหนึ่งเดียวมอบให้โฉมตรู เจียงอิ้งเยว่

รักเจ้าตราบสิ้นชีวาวาย จอมมารชินซางผู้พ่ายรัก

เฝ้ารอคอยให้นางหวนกลับมา มหาเทพเหวินฉาง

แม้นสิ้นแสงโลกหล้ายังคงเฝ้ารอคอย แม้ต้องรอชั่วนิรันดร์

สวรรค์ลิขิตให้เหวินฉางเทียนจวินอดีตคู่บุพเพที่ไร้สิ้นวาสนา ต้องพลัดพรากแต่พระองค์พยายามพันผูก

กำหนดให้จอมมารชินซางคู่วาสนาที่แท้จริง แต่ต้องพ่ายแพ้ให้แก่คู่บุพเพ รักจนหมดใจ พ่ายรักเจ็บร้าวทุกข์ระทม

สองบุรุษหนึ่งมหาเทพ หนึ่งจอมมาร มีรักที่ทุ่มเท ไร้สิ้นเงื่อนไขและกาลเวลา แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่ได้นางครอบครอง

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่ 1 บทนำ
เทือกเขาจันทรา  เทือกเขาสูงเสียดฟ้าตั้งอยู่ในดินแดนแห่งเทพเจ้า ซือไฮ่ปาฮวง เขาจันทราตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีศิลาสวรรค์ตั้งอยู่บนยอดเขา ภายในศิลาสวรรค์ใช้เป็นสถานที่เก็บแท่งหยกจันทรา สิ่งวิเศษล้ำค่าของสวรรค์ซึ่งเทพบิดรมอบให้สำหรับสร้างสรรพสิ่งในสามโลก ในขณะเดียวกันเป็นสิ่งวิเศษสำหรับทำลายล้างและกำจัดสิ่งที่เป็นภัยที่จะคุกคามทุกชีวิตในสามโลกเช่นเดียวกัน เทือกเขาจันทราจึงเป็นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์และเป็นเขตแดนต้องห้าม มีเพียงองค์เทียนจวินเท่านั้นที่จะเข้าเขตแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ นอกเหนือจากเทพจันทราซึ่งเป็นเทพบรรพกาล รวมไปถึงบรรดาศิษย์เอกของเทพเจ้าจันทราที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาดังกล่าว เขตแดนของเทพเจ้าจันทรา มีหน้าที่ควบคุมกาลเวลาของอดีต ปัจจุบันและอนาคต ตลอดจนถึงบุพเพสันนิวาสของเหล่าเทพเซียนทุกระดับจนไปถึงระดับสูงสุด สำหรับมนุษย์และปีศาจหมู่มารนั้นคู่บุพเพจะปรากฏขึ้นที่หินบรรพกาล กำหนดคู่วาสนาที่จะได้ครองคู่กันไปทุกชาติภพให้แก่กันและกัน เมื่อรายชื่อปรากฏขึ้นในหินบรรพกาลคราใด เทพจันทราจะทรงผูกด้ายแดงเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้มีวาสนาต่อกัน ในขณะที่ศิลาสวรรค์จะปรากฏคู่บุพเพของเหล่าเทพเซียนขึ้นอยู่บนศิลาที่มีวาสนาต่อกัน ดังนั้นทุกๆ หนึ่งแสนปี รายชื่อของเหล่าเทพเซียนที่มาจุติใหม่บนสรวงสวรรค์จะถูกกำหนดคู่บุพเพขึ้นมาโดยพลัน เมื่อนามปรากฏเทพจันทราจะเชื่อมต่อวาสนาให้พานพบด้วยหยกจันทราร้อยด้วยด้ายแดงแห่งรักผูกกับเนื้อคู่ที่มีวาสนาต่อกันให้แก่เหล่าเทพเซียน ณ.สรวงสวรรค์เก้าชั้นฟ้า และด้วยความบังเอิญหรือลิขิตแห่งสวรรค์ก็มิอาจล่วงรู้ได้ ครั้นหินบรรพกาลและศิลาสวรรค์เกิดปรากฏรายชื่อคู่บุพเพขึ้นมาพร้อมกันในวันเดียวกันเมื่อกาลเวลามาบรรจบครบหนึ่งแสนปี เป็นที่ฉงนสนเท่ห์ต่อเทพจันทราอย่างยิ่งยวดอยู่ในขณะนี้ พระเนตรสีฟ้าครามรับกับเกศาสีเงินยวง ขับโฉมพระพักตร์อันหล่อเหลาดั่งรูปสลักงดงามอย่างยิ่งยวด เทพเจ้าจันทราทรงอวตารถือกำเนิดมาจากดวงจันทร์ จึงทำให้พระองค์ทรงมีพระสิริโฉมสลักงดงามไม่มีที่ติ นอกจากจะมีลักษณะโดดเด่นตรงที่มีพระเกศาสีเงินยวงและพระเนตรสีฟ้าครามแล้ว ยังมีปานรูปร่างวงรีสีแดงเพลิงประทับอยู่ตรงกลางพระนลาฏ(หน้าผาก) อันเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถือกำเนิดมาจากดวงจันทราเอาไว้อีกด้วย แม้ว่าพระองค์จะมีอายุมากถึง 300,000 ปีแล้วก็ตาม และทรงมีพลังบำเพ็ญขั้นที่ 9 จึงทำให้คงไว้ด้วยรูปโฉมสลักงดงามอย่างยิ่งยวด เป็นหนึ่งในเทพบรรพกาลที่ยังคงหลงเหลืออยู่มิได้ดับขันธ์ดั่งเช่นเทพองค์อื่นๆ และยังทรงเป็นอดีตเทียนจวินพระองค์แรกที่เคยขึ้นปกครองซือไฮ่ปาฮวง ตลอดจนถึง 6 พิภพและ3โลก นอกจากเทพเจ้าจันทราจะอวตารมาเกิดจากดวงจันทร์แล้ว ยังมีมหาเทพเหวินฉาง ซึ่งเป็นเทียนจวินองค์ปัจจุบันเทพผู้เป็นใหญ่ ซึ่งปกครองทั้งสามโลกและซือไฮ่ปาฮวงอยู่ในขณะนี้ ก็อวตารมาจากดวงจันทร์เช่นกัน พระองค์ทรงมีปานรูปวงรีสีแดงเพลิงดั่งเช่นเทพเจ้าจันทรา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่กำเนิดมากจากดวงจันทร์ จะแตกต่างเพียงแค่เหวินฉางเทียนจวิน ทรงมีพระเกศาสีนิลดั่งเช่นนิลกาฬ และมีพระเนตรสีทองอร่ามหวานซึ้งดั่งน้ำผึ้งสวรรค์ ซึ่งทั่วทั้งซือไฮ่ปาฮวงตลอดจนถึง 6 พิภพและ 3โลก มีเหล่าเทพเซียนที่ดับขันธ์แล้วกลับคืนสู่ความว่างเปล่าและหวนคืนกลับมาจุติใหม่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตลอดนับหลายแสนปี จะมีเพียงเทพเจ้าเพียง 3 พระองค์ที่ยังคงยืนหยัดมิได้ดับขันธ์ดั่งเช่นเหล่าเทพองค์อื่นๆ นั่นก็คือเทพเจ้าจันทรา เทพเจ้าสงครามหรือองค์เทียนจวินนั่นเอง ซึ่งทั้งสองพระองค์อวตารมาจากดวงจันทร์และเทพเจ้าศาสตรา ซึ่งอวตารมาจากดอกบัวทิพย์ของพระพุทธองค์ ทั้ง 3พระองค์คือเทพบรรพกาลเป็นมหาเทพที่เหล่าเทพเซียนทั่วทุกพิภพ ต่างให้ความเคารพ ยำเกรงอย่างยิ่งยวด ทรงมีพลังเวทย์สูงส่งและสำเร็จญาณตบะขั้นที่ 9 ยกเว้นเทพศาสตราที่สำเร็จญาณตบะขั้นที่ 8 ทว่าในยามนี้พระเนตรสีฟ้าครามของเทพเจ้าจันทราทรงทอดพระเนตรไปยังศิลาสวรรค์ด้วยความแปลกพระทัยมิรู้วาย “หรือนี่คือลิขิตแห่งสวรรค์ของเทพบิดร จึงทำให้ศิลาสวรรค์และหินบรรพกาลกำหนดเนื้อคู่ออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันในวันนี้ รายชื่อมากมายเช่นนี้เห็นทีข้าคงจะจัดการให้แล้วเสร็จภายในจันทราเดียวมิได้เป็นแน่  อีกเพียงหนึ่งก้านธูปก็จะต้องไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ที่สวรรค์แดนประจิมเสียด้วย” เทพจันทรารับสั่งบ่นพึมพำ โดยมิทันสังเกตเห็นรายพระนามเทพชั้นสูงสุดของสวรรค์จู่ๆ ก็กำลังปรากฏขึ้นในศิลาสวรรค์อย่างเลือนราง ทั้งๆ ที่รายนามเทพเซียนองค์อื่นๆ ปรากฏขึ้นให้เห็นขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกันก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นครั้งแรกนับหลายแสนปีที่ผ่านมานับตั้งแต่สร้างสามโลก  “ต้าหลง!!!”เทพจันทรารับสั่งหาศิษย์เอกทางญาณทิพย์ เพียงครู่เทพหนุ่มหน้ามนนามว่าต้าหลง ปรากฏกายขึ้นมาโดยพลันภายในถ้ำศักดิสิทธิ์อันเป็นสถานที่เก็บรักษาศิลาสวรรค์และหินบรรพกาล “มหาเทพรับสั่งหากระหม่อมมีพระประสงค์สิ่งใดพ่ะย่ะค่ะ” ทันทีที่เซียนหนุ่มหน้ามนปรากฏกาย พระพักตร์ที่เต็มไปด้วยความเมตตาคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะร่ายเวทย์ขึ้นมาทันใด พร้อมด้ายแดงวาสนาและแผ่นหยกจันทรา ซึ่งเป็นสะเก็ดจากแท่งหยกจันทราขนาดใหญ่ที่อยู่ในศิลาสวรรค์นำมาผูกบุพเพวาสนาพร้อมกับด้ายแดงสำหรับเหล่าเทพเซียนบนสวรรค์ พลันปรากฏขึ้นอยู่บนโขดหินที่อยู่ใกล้ๆ ขนาดกองมหึมาเลยทีเดียว “ข้ามอบหมายงานนี้ให้เจ้าช่วยจัดการ”รับสั่งพร้อมปลายสายพระเนตรไปทางด้ายแดงวาสนาและแผ่นหยกจันทรา  เซียนหนุ่มหน้ามนมองตามสายพระเนตรของเทพเจ้าจันทรา ครั้นเห็นจำนวนด้ายแดงวาสนาและแผ่นหยกจันทรามีปริมาณมากมายถึงเพียงนั้นเล่นเอาเจ้าตัวอดที่จะแปลกใจไม่ได้ “เหตุใดครานี้คู่วาสนาจึงมากมายล้นเหลือยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ ปกติมิเคยเป็นเฉกเช่นนี้มาก่อนเลย”ต้าหลงอดไม่ได้ที่จะถามไถ่เมื่อปริมาณด้ายแดงวาสนาและแผ่นหยกจันทรา ผิดแปลกไปกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา “เป็นลิขิตแห่งสวรรค์ กาลเวลาเวียนมาบรรจบครบหนึ่งแสนปีในวันนี้หินบรรพกาลจู่ๆ ก็ปรากฏรายชื่อคู่บุพเพของเหล่ามนุษย์และปีศาจพร้อมกับศิลาสวรรค์ที่กำหนดคู่บุพเพของเหล่าเทพเซียน งานจึงมีมากอย่างที่เจ้าเห็นนี่แหละ แต่ข้าไม่สามารถอยู่จัดการในเวลานี้ได้”เทพจันทราอธิบายกลับไป “ถ้าเช่นนั้นมหาเทพจะให้กระหม่อมร่ายเวทย์จัดการกับคู่วาสนาทั้งหมดนี้เลยอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เซียนหนุ่มหน้ามนซึ่งเป็นศิษย์เอกถามกลับไปเพื่อให้แน่ใจ  “เป็นเช่นนั้น เพราะข้าต้องไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เกี่ยวกับสงครามระหว่างเผ่าปีศาจกับเผ่าสวรรค์ที่รบกันยืดเยื้อมายาวนานนับแสนปี เจ้าเป็นศิษย์คนโตจงสานต่อหน้าที่นี้ดั่งที่ข้าเคยสอนสั่ง จัดการผูกวาสนาให้กับเหล่ามนุษย์และปีศาจ ส่วนคู่บุพเพของเหล่าเทพเซียน หากแม้นผูกวาสนายังไม่แล้วเสร็จก็ไม่เป็นไร ข้าจะกลับมาจัดการเอง” “พ่ะย่ะค่ะมหาเทพ กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาจะจัดการตามที่สั่งให้เรียบร้อย”เซียนหนุ่มในระดับซางเซียนรับปากมหาเทพของตนอย่างแข็งขัน เทพจันทราส่งยิ้มละไมก่อนจะร่ายเวทย์เร้นพระวรกายเลือนหายลับทันที เทพหนุ่มหน้ามนยืนมองด้ายแดงวาสนาและแผ่นหยกจันทราตรงหน้าก่อนจะส่ายศีรษะไปมาติดๆ กัน “มากมายเช่นนี้จะจัดการให้แล้วเสร็จภายในจันทราเดียวได้หรือนี่”กล่าวพร้อมทรุดกายลงนั่งบนโขดหินกว้างที่มีพื้นที่มากพอจะสะสางงานตรงหน้านั้นได้ มือหนายกขึ้นประสานเข้าหากันก่อนจะเดินลมปราณเทพระดับที่ 9 ร่ายเวทย์เรียกคันฉ่องบุพเพให้ปรากฏตรงหน้าขึ้นมาทันที “พรึ่บ!”คันฉ่องบุพเพปรากฏขึ้นโดยพลัน เทพหนุ่มเริ่มร่ายเวทย์เรียกคู่วาสนาตามรายชื่อที่ปรากฏขึ้นในหินบรรพกาลทีละคู่ ก่อนจะร้อยด้ายแดงวาสนาให้กับทั้งสองฝ่ายพร้อมผายมือให้รายชื่อที่ผูกด้ายแดงวาสนาลงไปในคันฉ่องบุพเพ ภาพคู่วาสนาปรากฏขึ้นในคันฉ่องทันใดด้ายแดงวาสนาเริ่มแสดงอิทธิฤทธิ์ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลเพียงใดด้ายแดงวาสนาพลันลอยละลิ่วผ่านคันฉ่องบุพเพไปผูกติดปลายนิ้วก้อยของแต่ละฝ่ายเป็นแม่นมั่น เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน ด้ายแดงวาสนาเริ่มลดน้อยลงเมื่อเทพหนุ่มสามารถผูกคู่บุพเพของเหล่ามนุษย์และปีศาจได้จนหมดสิ้น เทพหนุ่มหยุดเดินลมปราณระดับเทพเซียนขั้นที่ 9 ทันที เพราะจะต้องเดินลมปราณระดับเทพปฐพีขั้นที่ 9 เพื่อผูกวาสนาให้กับเหล่าเทพเซียนก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตนฝึกเดินลมปราณพลังเทพปฐพีถึงเพียงขั้นที่ 8 เท่านั้น “นี่ข้าหลงลืมไปเสียสนิทว่าฝึกพลังลมปราณเทพปฐพีถึงแค่ระดับขั้นที่ 8 เท่านั้น จะผูกวาสนาให้แก่เหล่าเทพเซียนจะต้องได้ขั้นที่ 9 ของระดับเทพปฐพี จึงจะสามารถทำได้ แต่...”เทพหนุ่มชั่งใจอยู่ชั่วขณะก่อนจะตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ไม่เห็นจะเป็นไรเลยข้าก็ดินพลังลมปราณเทพปฐพีขั้นที่ 8 กับพลังลมปราณเทพสวรรค์ขั้นที่ 8 เข้าด้วยกันเสียก็สิ้นเรื่องไม่เห็นจะยากตรงไหน คิดชักช้าอยู่ได้”เทพหนุ่มบ่นงึมงำให้กับตัวเอง มือหนาประสานเข้าหากันอีกคราก่อนจะเดินพลังลมปราณเทพปฐพีกับลมปราณเทพสวรรค์ในระดับขั้นที่ 8 ประสานพลังเข้าหากันเพื่อผูกวาสนาให้แก่เทพเซียน นิ้วชี้เรียกรายชื่อจากศิลาสวรรค์ลอยละลิ่วให้มาหยุดอยู่ตรงหน้า จังหวะเดียวกันที่พระนามของเทพในยุคบรรพกาลพลันปรากฏขึ้นมาจนเห็นได้อย่างชัดเจนพร้อมคู่บุพเพ จึงหลุดลอยออกจากศิลาสวรรค์เป็นคู่แรกมาลอยอยู่ตรงหน้าเซียนหนุ่มทันใด ครั้นเห็นรายชื่อของคู่บุพเพที่กำลังปรากฏให้เห็นอยู่ในขณะนี้เทพหนุ่มต้าหลงเอ่ยออกมาโดยพลัน “ศิลาสวรรค์กำหนดคู่บุพเพให้กับเทียนจวินแล้วหรือนี่ แต่เหตุไฉน เนื้อคู่ของพระองค์จึงกลับกลายเป็นสตรีมนุษย์ไปได้เล่าแทนที่จะเป็นเทพสตรีชั้นสูงบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าด้วยกัน”เทพหนุ่มขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันด้วยความแปลกใจมิรู้วาย “เหวินฉาง เจียงอิ้งเยว่”เทพหนุ่มพึมพำชื่อคู่บุพเพของจอมเทพผู้ยิ่งใหญ่จากศิลาสวรรค์ด้วยความสงสัยระคนแปลกใจมิรู้วาย เหตุใดหนอเหวินฉางเทียนจวิน ซึ่งเป็นเทพบรรพกาลจึงมีคู่บุพเพเป็นสตรีมนุษย์ไปได้เล่าในรอบหลายแสนปีที่ผ่านมา มิเคยปรากฏเทพชั้นสูงมีคู่บุพเพสันนิวาสกับสตรีมนุษย์เกิดขึ้นแม้แต่น้อย “หรือนี่เป็นลิขิตของสวรรค์ให้กับสตรีมนุษย์ผู้นั้น หากเป็นเช่นนั้นจริงเจียงอิ้งเยว่ผู้นี้คงจะละสังขารจากเมืองมนุษย์แล้วจึงมาจุติใหม่บนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าเป็นแน่...ใช่!... มันน่าจะต้องเป็นเช่นนั้น แต่ถ้านางมาจุติบนสวรรค์ก็จะเป็นแค่เซียนน้อยธรรมดาหากมิใช่เทพสตรีระดับซางเสิ่นหรืออย่างน้อยก็ต้องระดับซางเซียนขึ้นไปไฉนเลยจะคู่ควร เหตุใดลิขิตสวรรค์จึงแปลกชอบกลนัก” เทพหนุ่มคิดเองเออเองก่อนจะรีบร่ายเวทย์ผสานลมปราณทั้งสองระดับเข้าหากันอย่างรวดเร็ว แผ่นหยกจันทราลอยละลิ่วมาลอยอยู่ตรงหน้า ปลายนิ้วส่งพลังสลักพระนามจอมเทพแห่งสรวงสวรรค์กับสตรีมนุษย์ลงบนแผ่นหยกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะผูกด้ายแดงวาสนาเข้ากับแผ่นหยกเอาไว้ด้วยกัน ทันใดนั้นเองพลังลมปราณเทพปฐพีกับเทพสวรรค์เกิดต่อต้านกันขึ้นมาทันใด ทำให้พลังย้อนกลับเข้าหาเทพหนุ่มหน้ามนอย่างรวดเร็วโดยมิทันได้ตั้งตัว “พรืดดดด!!!”เลือดกองใหญ่กระอักออกจากปากพร้อมกับบางสิ่งเกิดขึ้นทันที “เปรี้ยะ!”เสียงแตกหักดังลั่นขึ้นมาทันที หยกจันทราซึ่งผูกด้ายแดงวาสนาเอาไว้เรียบร้อย กลับแตกหักแบ่งครึ่งออกจากกันดั่งพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเป็นเหตุให้ด้ายแดงวาสนาที่ผูกติดไว้กับหยกขาดออกจากกันโดยพลัน ก่อนจะลอยละลิ่วหายเข้าไปในคันฉ่องบุพเพอย่างรวดเร็วและค่อยๆ เลือนหายไปต่อหน้าเทพหนุ่มหน้ามณ พร้อมกับพระนามขององค์เทียนจวินและคู่บุพเพเลือนหายไปโดยพลันจากศิลาสวรรค์ วาสนาสูญสิ้นไปในบัดดล “แย่แล้วข้าทำให้คู่บุพเพขององค์เทียนจวินสูญสิ้นวาสนาต่อกันเสียแล้ว...จะทำเช่นไรดีเล่า!หากมหาเทพทรงล่วงรู้ต้องเกิดเรื่องแน่ๆ เหตุใดต้องปรากฏเหตุการณ์เช่นนี้ด้วยนะ ข้าช่างไม่เอาไหนเสียเลยจริงๆ จะทำเช่นไรดีหนองานนี้”เทพหนุ่มนั่งมองคันฉ่องบุพเพด้วยความกลัดกลุ้มใจอย่างยิ่งยวด มิรู้จะแก้ไขเช่นไรดี วาสนาที่สวรรค์ลิขิตผูกไว้ปลายนิ้วก้อยข้างหนึ่งของมนุษย์จะมี "ด้ายแดง" ที่มองไม่เห็นผูกเชื่อมโยงกับปลายนิ้วก้อยของคู่วาสนาที่แท้จริงของผู้นั้นเอาไว้ ใครคนนั้น... แม้จะอยู่ห่างกันแสนไกลมากมายเพียงใดสักวันหนึ่งด้ายแดงจักนำพาทั้งสองมาพบกัน เพื่อรักกันไปชั่วชีวิต ทว่าวาสนาที่สวรรค์ลิขิตรักนี้ หากเกิดขึ้นกับเทพเซียนบนสรวงสวรรค์แล้วไซร้ เมื่อไร้สิ้นหยกจันทราและด้ายแดงผูกร้อยรัดวาสนาให้มาพานพบเพื่อได้รัก เคียงคู่กันไปชั่วชีวิตและทุกชาติภพ คู่วาสนาจะสามารถฝืนชะตาที่ลิขิตจากสวรรค์ได้กระนั้นหรอกหรือ แม้แต่โอกาสที่จะมาพานพบกันยังมิบังเกิด ภพชาตินี้ไร้สิ้นวาสนากันแล้วหรือไร วาสนาอันน้อยนิดก็มิได้ก่อเกิด ลิขิตสวรรค์นี้ช่างเลือดเย็นเสียนี่กระไร

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.4K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
38.9K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook