เสียงเอ็ดอึงในช่วงยามห้ายนั้นทำเอาคนที่กำลังอ่านและบันทึกถึงการเจริญเติบโตของ’ ดอกม่วงน้ำค้าง’ ที่นางเพิ่งปลูกมันลงดินได้ราวสิบแปดวันถึงกับขมวดคิ้วนั้นจากนั้นจึงปิดตำราและสมุดจดบันทึกลงจากนั้นค่อยลุกขึ้นไปเปิดประตูเรือนเพราะเสียงเอะอะนั้นดังใกล้เข้ามาที่หน้าเรือนนี้ใกล้ขึ้นทุกที “ท่านแม่ทัพระวังขั้นบันไดขอรับ” เสียงของเหวินลู่เด็กสาวจำได้ ก่อนจะเป็นเสียงของท่านพ่อบ้านใหญ่ร้องสั่งเหล่าสาวใช้ให้เร่งไปเคี่ยวน้ำแกงสร่างเมากับเรียกหาน้ำอุ่นและผ้าสะอาดฟังดูวุ่นวายราวกับจวนแห่งนี้กำลังเกิดเพลิงไหม้ใหญ่ก็มิปาน ...ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก... “อนุซูขอรับ...อนุซู...เปิดประตูเรือนด้วยขอรับ” คราวนี้เป็นเสียงของเหลินลู่ชัดเจน ซึ่งซูผิงหลัวไม่รอช้าเร่งไปเปิดประตูแล้วภาพกายใหญ่โตราวหมียักษ์ที่มีเหลินลู่ประคองด้านขวาและจุงเก๋อประคองด้านซ้ายกับกลิ่นสุรารุนแรงไม่ต้องบอกด้วยคำพูดสาวน้อยก็ทราบทันทีว่าท่านแ