เรื่องราวของพี่น้อง ตระกูล จิราวิวัฒน์ ที่เป็นแฝด 7 คน ชีวิตของแต่ละคนจะถุกถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวในแต่ละตอน รวมไปถึงเรื่องราวความรักที่ไม่มีใครสามารถมากำหนดกฏเกณฑ์ได้นอกจากตัวของคนๆนั้นเอง 7 Day Lover The Series 1.ร้อยรักอคิรา 2.มนตราพุธิเวส 3.ดวงเนตรพฤกษา 4.เล่ห์กันยาสัตคุณ 5.ดวงพิกุลสุกัลป์ 6.นิลตะวันจันทรัฐ 7.วายุภัฏอนันตญา ตระกูล จิราวิวัตฒ์ ตระกูลที่ร่ำรวย ติด 1ใน3 ของประเทศ ตระกูลที่ทำจิวเวอร์รี่เครื่องเพชรเครื่องพลอยส่งออกต่างประเทศโดยมี ศาน จิราวิวัตฒ์ เป็นหัวเรือใหญ่และ หลังจากที่ภรรยาตาย เขาก็เลี้ยงลูก แฝด 7 คนของเขามาโดยลำพังและไม่คิดจะแต่งงานใหม่เหตุผลคือเขาอยากเลี้ยงลูกๆให้เติบโตมาด้วยมือของเขาเอง แฝด 7 คน หญิง 1 ชาย 6 ต่างคนต่างนิสัยไม่เหมือนกัน ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตก็ไม่เหมือนกัน จันทรัฐ หรือ จันทร์ ทหารหนุ่มลูกชายคนโตของบ้าน ผู้เปี่ยมไปด้วยความเก่ง ไม่ว่าจะยิงปืนหรือศิลปะป้องกันตัวแขนงไหนเขาก็ได้หมด ชอบความผาดโผน และชอบเดินป่าเป็นที่สุด เพราะเขาคือทหารผู้ปกป้องแผ่นดินชายแดนนั่นเอง อาคิราหรือ อังคาฐ= ชายหนุ่มผู้เย็นชานักแข่งมอเตอร์ไซค์ผู้มีสนามเป็นของตัวเอง ปากร้าย ใจร้อน แต่ถ้าได้รักใครแล้วไม่มีวันปล่อยมือเด็ดขาดแม้จะโดนห้ามเขาก็พร้อมจะวางตำแหน่งลูกชายมหาเศรษฐีเพื่อหญิงสาวที่รัก พุธิเวส หรือ พุธ= รองประธาน บริษัทของตระกูล รักความสะอาดและความเป็นระเบียบเป็นที่สุด ไม่ชอบอะไรที่สกปรก จนบางครั้งพี่น้องก็เซ็งให้กับความเป๊ะของเขา พฤกษาหรือ พฤก= เจ้าของสายการบิน Sewen แอร์ไลน์ นิสัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น รักใครรักจริง สามารถเป็นที่ปรึกษาให้น้องๆได้ เวลาคิดจะทำอะไร จะไม่รีรอเลย ศัตคุณหรือศุกร์= สัตวแพทย์หนุ่มผู้มีแต่ความเมตตา รักสัตว์เป็นที่สุด ถึงขั้นเอางูเข้ามาเลี้ยงในบ้านจนพี่น้องต่างพากันขับไล่เขาออกไปนอนนอกบ้านกันเลย สุกัลป์หรือเสาร์= นักร้องหนุ่มเสียงดี ดีกรีเป็นถึงสมาชิกวง k nine ของเกาหลี นิสัยหลงตัวเองเป็นที่สุดอาจจะดูขรึมขี้เก็กและเจ้าชู้สุดๆ แต่เวลาอยู่กับพี่น้องจะเด็กมากปัญญาอ่อนสุดๆไปเลย อานันตญาหรือ อาทิตย์ =สาวสวย 1 เดียวในบ้าน เป็นเจ้าของ ร้านพรีเวดดิ้ง เป็นคนที่พี่ๆทั้ง 6 กลัวที่สุดและยังหวงมากที่สุดอีกด้วยเช่นกัน เธอเป็นคนเข้มงวดกับพี่น้อง แต่เป็นคนอ่อนโยน มีเสน่ห์เรียกว่าใครได้คุยเป็นต้องหลงกันทุกราย
ท่านแม่ทัพซ่งฉีหลินแต่งบุตรสาวอนุตระกูลพ่อค้า! คนทั่วทั้งเมืองหลวงได้แต่ส่ายหน้าด้วยความเสียดาย ไม่เหมาะสมทั้งฐานะและชาติตระกูล... ทำอย่างไรได้เล่า ยามออกศึกครานั้นคหบดีเนี่ยหรานเป็นผู้สนับสนุนเสบียงในยามที่กองทัพขาดแคลน ใครจะนึกว่าเขาจะตั้งเงื่อนไข บีบบังคับให้แม่ทัพซ่งแต่งงานกับลูกสาวตัวเอง แถมยังเป็นแค่ลูกอนุอีก! เนี่ยซวงผู้เป็นเจ้าแม่ย่านธุรกิจแค่หลับไป ตื่นขึ้นมาก็กลายเป็นเจ้าสาวของแม่ทัพซ่ง เพ้ย! ใครไปทำอะไรให้นายกัน ทำไมต้องมองฉันด้วยสายตาอย่างนั้น!
เธอ...วชิราภรณ์ไม่ได้แสนดีอย่างนางเอกทั่วๆ ไป พร้อมที่จะร้ายกับคนที่ร้ายกับเธอและแม่ผู้ให้กำเนิด เขา...ธัญญ์ ร้ายกับเธอเพียงผู้เดียว!! เพราะเธอคือผู้หญิงแพศยาสำหรับในสายตาของเขา เมื่ออีกคนหนึ่งรักหมดใจ แต่อีกคนกับเกลียดสุดกำลัง
เธอคือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวซึ่งเป็นหมอที่เก่งทางด้านโรคหัวใจอาศัยและทำงานอยู่ที่เมกา มีเหตุให้ต้องกลับมาไทยอีกครั้ง เพื่อมาดูแลบริหารโรงพยาบาลที่เป็นของครอบครัว แต่เธอกลับปฏิเสธการบริหาร เธออยากเป็นหมอในโรงพยาบาลแทน เพราะเธอจะได้แก้แค้นผู้ชายคนนึงที่เคยหลอกเธอไว้ เรื่องราวในชีวิตของหมอจะเป็นยังไงต่อ มาอ่านกันเลยค่ะ เรื่องนี้เป็นภาคต่อรุ่นลูกจากเรื่อง หมอตัวแสบกับหมอมาเฟีย ใครอยากอ่านภาคแรกตามไปที่เพจ novel by adtree นะคะ
อูโก้...ผู้ชายที่พกความโหดร้าย เลวทรามมาเต็มพิกัด อูโก้ทำเลวไว้กับหนูแคทเยอะ เล่มนี้จะยกโทษให้ง่ายๆได้อย่างไร งานนี้นายอูโก้พบเจอกับคำว่ากระอักเลือด หนองแน่นในอก เจ็บปวดหัวใจไม่แพ้ที่ทำไว้กับหนูแคทเลย
ฝานจิ่วเยว่ หรือ อี้ฟาน นักศึกษาสาวผู้คลั่งไคล้เกมออนไลน์ เธอใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมส่วนใหญ่ ไปกับการเล่นเกมเสมือนจริงที่เรียกว่า ‘ท่องนภาแห่งห้วงฝัน’ แต่อยู่ดี ๆ ทำไมถึงกลายเป็น ภรรยา ของบอสในเกมไปได้กันล่ะเนี่ย!!!
รอยอาญา...เป็นนิยายเรื่องที่สามของธัญญรัตน์ (กันเกรา) ค่ะ ตั้งแต่ค้นพบแล้วว่าชอบงานเขียน เมื่อเริ่มลงมือเขียนก็มีอุปสรรคตามติดมาเช่น การกำหนดตัวละคร ตลอดจนเสื้อผ้า หน้าผม ว่าจะให้ออกมาแบบไหน ปวดหัวเหมือนกันค่ะ อุปสรรคอีกอย่างของการเขียนก็คือ ที่เกิดการขัดแย้งในใจว่า พ่อของระพีพรรณช่างร้ายเหลือ จะให้นายดำกลับมาแก้แค้นคืนยังไงจึงจะสาสม และจะต้องดำเนินออกมาในรูปไหน ที่จะไม่ให้โครงเรื่องไปซ้ำเรื่องอื่น และในเมื่อนายดำทำเรื่องไว้ซะมากมายกับเพลงขนาดนี้ จะลงเอยกันได้ยังไง จะทำยังไงให้ท่านผู้อ่านเชื่อโดยไม่รู้สึกขัดแย้ง เดือดร้อนต้องไปตามถามเพื่อน ๆ และคนใกล้ตัวหลายต่อหลายท่าน ถึงไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แต่ก็มองเห็นตอนจบของเรื่องนี้แล้ว เกือบครึ่งปีสำหรับการสรรสร้างผลงานชิ้นนี้ ให้ออกมาสู่สายตาท่านผู้อ่าน ขอขอบคุณทุก ๆ ความร่วมมือจากหลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ตัว บรรณาธิการ ตลอดจนเพื่อนพ้อง เพื่อนนักเขียน และที่สำคัญยิ่งขอขอบคุณ คุณ ๆ ผู้ท่านที่เป็นแรงใจให้ด้วยดีเสมอมา “ฉันกำลังท้องค่ะ” “เธอท้อง! แล้วมาบอกฉันทำไม ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย” “ที่ฉันมาบอกคุณ ก็เพราะว่า เด็กในท้องของฉัน คือลูกของคุณ” “เธอว่าอะไรนะ ลูกเธอจะมาเป็นลูกฉันได้ยังไง เธอเอาอะไรมาพูด” “คุณหมายความว่ายังไง คุณรู้อยู่แก่ใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างฉันกับคุณ” “เรื่องระหว่างฉันกับเธอเหรอ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นล่ะระพีพรรณ เท่าที่ฉันรู้ก็คือ เราไม่เคยมีอะไรกันเลย แล้วเธอจะมาบอกว่าท้องกับฉันได้ยังไง เธอมีหลักฐาน หรือพยานหรือเปล่า จู่ๆ จะมากล่าวหาฉันแบบนี้ มันจะไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ” “คุณกำลังจะบอกฉันว่าคุณไม่เคยมีอะไรกับฉันอย่างนั้นเหรอคุณดำ” “มันไม่เกี่ยวกับคำตอบของฉัน ว่าจะใช่หรือไม่ใช่หรอกนะ มันสำคัญอยู่ที่ว่าเธอมีหลักฐานอะไรที่จู่ๆ จะมาบอกว่าฉันเป็นพ่อของลูกเธอต่างหาก” “คุณเป็นคนบอกฉันเองว่าคุณอัดวีดีโอเอาไว้ แล้วคุณยังจะมาถามจากฉันเหรอ” “วีดีโอ เหรอ ฮ่าๆ เธอนี่ช่างไม่สมกับเป็นนักเรียนนอกเลยนะ ขโมยที่ไหน มันจะทำหลักฐานเอาไว้มัดตัวเอง เธอไม่รู้เหรอ ว่าฉันยกเมฆเธอ มันไม่มีวีดีโออะไรทั้งนั้นล่ะ” “คุณหลอกฉันเหรอ” “ฉันไม่เรียกว่าหลอก แต่เรียกว่าฉันฉลาดกว่าเธอ หมดเรื่องหรือยังฉันจะได้ไป”
ซินเอ๋อร์สายลับจอมโก๊ะผู้ได้รับการถ่ายทอดวิชาแมวเก้าชีวิตรับพนันจากญาติผู้พี่เข้าไปสืบเรื่องบุรุษผู้สวมหน้ากาก เมื่อได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงกลับได้รู้ว่าเขาคือท่านอ๋องอสูรที่ร่ำลือกันว่าผู้ใดได้เห็นใบหน้าจริงแล้วจะต้องถูกฆ่าอย่างทารุณ นางหนีออกจากคฤหาสน์ของเขามาได้...แต่ท่านอ๋องมิได้คิดจะปล่อยนางไป!
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาจะเป็นรักแรกและรักเดียวของฉัน ฉันรักเขาตั้งแต่รักเป็น 'มีน' สำหรับผมแล้วผมรู้ตัวมาตลอดว่าเธอรักผม แต่ผมมันก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง ที่พอมีใครมาให้รัก ผมก็รัก 'เต้ย' *****ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะจ้ะ***** มินรญาดิ้นรนขัดขืนจนภพธรได้เหงื่อ ปากบางบวมเจ่อ เมื่อถูกบดจูบซ้ำๆอย่างไม่ปรานี จากคนร่างสูงที่มีกำลังเหนือกว่า มือแกร่งล็อคท้ายทอยไว้ข้างหนึ่ง อีกข้างกดบีบช่วงกรามอย่างแรงจนคนถูกบีบเจ็บจนน้ำตาซึม "หนีทำไม ดิ้นทำไม ชอบนี่ก็เคยจูบอยู่บ่อยๆแล้วจะดิ้นให้เจ็บตัวทำไม"ภพธรเอ่ยเสียงกร้าวเมื่อถอนปากออก มินรญาหอบหนักเมื่อเป็นอิสระ ร่างบางรีบหายใจเข้าปอดแรงๆ "ปล่อย!"มือบางผลักอกภพธร มินรญารู้ว่าธีรเทพต้องแอบดูอยู่แถวนี้ แต่เขาเป็นคนฉลาดเขาจะต้องดูจนเข้าใจเรื่องราวทุกอย่าง มีเพียงภพธรเท่านั้นที่โมโหจนไม่ทันระวังตัว "ไม่ปล่อย! ทำไมจะรีบไปหาใครล่ะ ไอ้หน้าเข้มนั่นหรือว่าพี่ธี!"ภพธรถามเสียงดัง ในตาแดงก่ำ"ระวังคำพูดบ้างนะคุณภพธร ที่นี่บ้านของคุณนะ และคนก็อยู่เต็มบ้าน "มินรญายังคงรักษาระยะห่าง พูดอ้อมๆเพื่อให้ภพธรได้สติ"ทำไมกลัวใครมาเห็น ก็บ้านผมไงจะทำอะไรตรงไหนก็ได้ จะจับจะจูบตรงไหนก็บ้านผม อยากมาถึงที่เอง" เพียะ! สิ้นเสียงใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรง ที่มินรญาตบลงมาบนซีกหน้านั้นเต็มแรง "ปล่อย!"มินรญากัดฟันเน้นคำพูดตัวเองอีกครั้ง เมื่อเริ่มหมดความอดทนกับความหยาบคายของคนตรงหน้า "ตบหน้าใช่ไหม คืนนี้ตบ คืนนี้เล่นตัว รู้ไหมผู้หญิงที่ตบหน้าไอ้เต้ยคนสุดท้ายน่ะเป็นไง"ภพธรขู่ "ไม่รู้! และก็ไม่อยากรู้ด้วย อย่ามายุ่งกับฉัน! ขอร้องต่างคนต่างอยู่เถอะ"มินรญาขอร้องเสียงสั่น เธอเริ่มกลัวกับอารมณ์ของเขา เริ่มกลัวคำพูดที่ภพธรเริ่มจะหลุดออกมา "ก็ได้ ตั้งใจไว้แบบนั้นตั้งแต่คืนที่ทิ้งไว้..." "หยุดนะ!"มินรญารีบขัดก่อนที่ภพธรจะพูดมากว่านี้ "ทำไมจะพูด! มีอะไรก็ตั้งใจไว้แบบนั้น ตั้งใจจะฟันแล้วทิ้ง แล้วไงทนไม่ไหวหรือติดใจล่ะถึงได้ตามมาถึงที่นี่" เพียะ! ฝ่ามือหนักๆฝาดซ้ำลงบนซีกหน้าหล่อเหลาอีกครั้ง ภพธรหน้าหัน อนงค์นางที่แอบดูอยู่ขนลุกเมื่อสัมผัสถึงรังสีอันตรายที่กำลังแผ่รอบๆตัวมินรญา "ได้..."ภพธรขานรับสั้นๆ ปลายลิ้นสัมผัสถึงรสเลือดที่มุมปาก ริมฝีปากหนาบดขยี้ลงบนกลีบปากอิ่มที่บวมเจ่ออย่างแรง จนมินรญารับรู้รสเลือดเช่นกัน เมื่อฟันคมๆกระแทกลงมา จูบของคนทั้งสองไม่ได้เกิดจากอารมณ์พิศวาสแต่อย่างใด ภพธรต้องการลงโทษให้อีกคนได้จำว่าอย่ามาท้าทายเขา ร่างสูงจูบอย่างหนักจูบนานจนมินรญาทรุดลงกับพื้น
เพราะคำว่า "พี่น้อง" จึงทำให้เกิดเป็นกำแพงหนา ที่กั้นระหว่างเธอกับเขาไว้ ต่างคนต่างมีใจกันโดยที่ไม่รู้ตัว เรื่องราวความรักจะจบอย่างไร √ บิวตี้ √ เธอสวย แสบ แซ่บ พูดตรงๆ ขี้เล่น กล้าได้กล้าเสีย ไม่ชอบให้ใครดูถูก หมัดเด็ดคือการอ่อย ขี้อ้อน พูดมากพูดเยอะ ชอบแต่งตัว รักสวยรักงามเอาจริงเอาจังกับการรักษาคนไข้ เป็นคุณหมอคนเก่ง ที่ใครๆก็ยอมรับ √ไทเกอร์√ มาเฟียหนุ่ม เย็นชา โหด เถื่อน เลวในสายตาของทุกคน แต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เขาอ่อนโยนมาตลอด