ชิงดีชิงเด่น (2)

1524 Words
 ชายร่างสูงซุกมือในกระเป๋ากางเกงเดินฉับ ๆ เชิดหน้าเหมือนนักเลงคุมปาจิงโกะ อยู่ในที่ประชุมทั้งวันเก๊กท่าจนเมื่อยขอผ่อนคลายบ้างจะเป็นไรไป แต่ถ้าเดินแบบนี้ให้คุณปู่เห็นเมื่อไหร่โดนเอ็ดหน้าชาแน่ ๆ เขาผ่านตู้โชว์กระจกใสขนาดใหญ่ที่เรียงรายเป็นแถวยาว ข้างในจัดแสดงชุดเกราะนักรบซามูไร ดาบคาตานะ อาวุธคู่กายนักรบสมัยโบราณและอื่น ๆ อีกมากมาย มีไฟสปอร์ตไลท์ดวงย่อมสาดส่องให้เห็นรายละเอียดของชิ้นงาน บรรยากาศคล้ายนิทรรศการซามูไรอย่างไงอย่างงั้น หลายครั้งที่ของสะสมเหล่านี้ถูกหยิบยืมไปจัดแสดงตามงานต่าง ๆ เจ้าของบ้านหาได้ขัดข้องอันใดไม่แต่...ต้องติดเครดิตตัวโต ๆ ว่า 'ขอบคุณตระกูลยามากูชิมา ณ ที่นี้' มันก็แค่งานอดิเรกของคนรวยเท่านั้น เดิมทีทางเดินตรงนี้โยเฮก็เคยมาไถสกู๊ตเตอร์เล่นกับยูตะเมื่อนานมาแล้วก่อนที่ตู้โชว์ของโบราณน่าขนลุกจะโผล่มาจนเกือบเต็มพื้นที่ "สวัสดีครับ ผมโยเฮครับ คุณปู่"  โยเฮทรุดนั่งคุกเข่าหน้าประตูเลื่อนบานใหญ่ที่วาดลวดลายสวยงามตามแบบฉบับญี่ปุ่นโบราณ "เข้ามาได้!" สิ้นคำอนุญาตประตูก็ถูกเลื่อนเปิดออก  ชายสูงวัยเจ้าของห้องนั่งคุกเข่าหลังตรง แววตามุ่งมั่นจริงจัง ใบหน้านิ่งแข็งไร้ความรู้สึก มีริ้วรอยตามวัยประปราย  ไว้ผมยาวและมัดรวบตึงไว้ที่ท้ายทอย บุคคลิกน่าเกรงขาม โซอิจิ ยามากูชิหรือที่คนนอกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า ‘พ่อใหญ่’ โยเฮประสานมือไว้เบื้องหน้าแล้วก้มคำนับช้าๆ ถูกต้องตามธรรมเนียมปฏิบัติทุกประการ "คุณปู่มีอะไรให้ผมรับใช้ สั่งการได้เลยครับ" "ขอบใจในน้ำใจของหลานมาก"  โซอิจิเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ยินดีครับคุณปู่"  เมื่อเยโฮเงยหน้าขึ้นมา ก็พบว่าในห้องไม่ได้มีแค่เขากับโซอิจิ หนึ่งในผู้ช่วยคนสนิทก็นั่งคุกเข่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกัน คาดว่าอยู่ในห้องนี้นานแล้ว เขาชื่อวาเซดะ สามจักรพรรดิอีกคนที่สนิทสนมกับโซอิจิมากที่สุด สามารถเข้านอกออกในคฤหาสน์หลังนี้ได้เหมือนเป็นคนในตระกูลอย่างไงอย่างงั้น หน้าที่หลักของวาเซดะคือรับคำสั่งจากโซอิจิไปหารือกับพรรคพวกแล้วนำข้อสรุปกลับมาแจ้งในภายหลัง ลิ่วล้อทั้งสามภายใต้ชื่อเรียกอันน่าเกรงขาม 'สามจักรพรรดิแห่งสมาพันธ์ ฯ อันทรงเกียรติ' "วันนี้มีเรื่องที่สมาพันธ์ด้วยครับ..."  หลานชายอ้าปากพูดไม่ทันจบประโยค "คุณวาเซดะเล่าให้ปู่ฟังหมดแล้วล่ะ" "เอ่อ...ครับ" "จะขานรับก็ขานคำเดียว ไม่ต้องมาลากเสียงนำ มันระคายหู สอนเท่าไหร่ก็ไม่จำ!"  คุณปู่ขึ้นเสียงใส่หลานชายต่อหน้าแขกพลางถลึงตาใส่ คนฟังสะดุ้งเฮือก ก้มหน้ามองต่ำด้วยความสำนึกผิดไม่กล้าแม้จะสบตา คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างวาเซดะฟังเองยังขนลุกฟู่ไปตาม ๆ กัน "ขอโทษที่เสียมารยาทครับ"  โยเฮยืดแผงอกขึ้น สูดหายใจลึกตั้งสติ "ตระกูลยามากูชิต้องไม่พูดอะไรไร้สาระ ต้องวาจาหนักแน่น เข้าใจมั้ย!" "เข้าใจครับ"  "ดีมาก ที่ปู่เรียกมาวันนี้ เพราะปู่เห็นว่าหลานมีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะรักษาเกียรติ เสียสละตัวเองเพื่อธุรกิจของตระกูล หลานต้องได้รับการตอบแทนที่ดี" "ขอบพระคุณในความกรุณาครับ"  คุณปู่จะให้อะไรเป็นรางวัล รถลีมูซีนคันใหม่กว่าของยูตะ ตำแหน่งรองประธานฯ หรือประธานสมาพันธ์เพราะโซอิจิมีอำนาจสั่งย้ายทุกตำแหน่งได้ตลอดหรือผ้าเช็ดหน้าปักดอกบ๊วยสีแดงเครื่องหมายแห่งตัวแทนประจำตระกูลที่โยเฮอยากได้หนักหนา "ปู่จะเพิ่มเงินเดือนให้หลานยี่สิบเปอร์เซ็นต์ มีผลหลังจากนี้เป็นต้นไป ถ้ายังรักษาผลงานไว้ได้จะปรับขึ้นให้อีกแน่นอน" "เป็นเรื่องน่ายินดีที่สุดครับ ขอบพระคุณครับคุณปู่"  โยเฮยิ้มกว้างด้วยความปลาบปลื้มใจ ก้มหลังคำนับอย่างนอบน้อมอีกครั้ง "ดี...ออกไปได้แล้วล่ะโยเฮ ปู่มีเรื่องจะหารือกับคุณวาเซดะ"  โยเฮคลานเข่าถอยหลังออกจากห้องอย่างมีมารยาท รอยยิ้มพิมพ์ใจยังคงสว่างไสวสมกับได้ฟังข่าวดีที่รอคอย! ทันทีที่ประตูปิดสนิท ชายหนุ่มกัดฟันแน่นจนสันกรามขึ้น หน้าแดงก่ำ กำหมัดจิกปลายเล็บบนฝ่ามือจนมือสั่น คล้ายว่าเยโฮหลานรักถูกสลับตัวกับอีกคนในโลกคู่ขนาน เชอะ! แค่เศษเงินเพียงไม่กี่เยนไม่ต้องการหรอก โซอิจิขึ้นชื่อเรื่องขี้เหนียวไม่มีทางปรับให้ใครเกิน 20% เป็นแน่ แล้วยังไงอีก…ผ้าเช็ดหน้าดอกบ๊วยสีแดงเหมือนตราจักรพรรดิน่ะแหละ ใครที่ได้ครอบครองก็มีสิทธิ์ขาดในการออกคำสั่งกับทุกคนในตระกูล ผ้าเช็ดหน้าจะสั่งทำขึ้นผืนต่อผืนเท่านั้น วิธีการพกคือจะพับแล้วเหน็บใส่กระเป๋าเสื้อโชว์ตราดอกบ๊วยสีแดง หนึ่งในคนที่ได้ครอบครองก็คือ ‘ยูตะหลานชายคนโต’ 'ทำไม! ทำไมต้องให้พี่คนเดียว ผมด้อยกว่าพี่ตรงไหน คุณปู่ไม่รักผมเหรอ ไม่มีใครรักผมเลยใช่มั้ย' โยเฮอยากตะโกนคำนี้ในห้องญี่ปุ่นแทบแย่ ยิ่งคิดก็ยิ่งเกิดข้อเปรียบเทียบ สองพี่น้องเกิดห่างกันแค่ 3 ปี โซอิจิเลี้ยงโยเฮมาตั้งแต่แบเบาะ ทว่าวันนี้กลับประเคนทุกสิ่งอย่างในอาณาจักรยามากูชิให้ยูตะเสียอย่างงั้น ส่วนเขาเป็นเพียงผู้คุมบัญชีธุรกิจปาจิงโกะและบาร์เท่านั้น “ชั้นจะทำลายแกให้สิ้นซาก แกต้องทรมานจนขาดใจตายแล้วชั้นจะได้ขึ้นมาแทนแกไง หึหึหึ”  โยเฮฉีกยิ้มชั่วร้าย เมื่อเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง สิ่งที่น่ารำคาญ น่าขยาดแขยง สกปรกแต่เป็นของรักของหวงของยูตะ 'ได้เห็นดีกันแน่!'   "วันนี้ประชุมอะไรกันก็ไม่รู้นั่งทั้งวันนั่งจนเมื่อยก้นเลย แวะซื้อทาโกยากิไปฝากคุณแม่ดีกว่า"  หนุ่มร่างเจ้าเนื้อบิดซ้ายบิดขวาไล่ความเมื่อยขบไปพลางขณะเดินอยู่บนถนนเลียบคลอง เขามีชื่อจริงว่า ‘ทาคาโอะ’ แต่ทุกคนก็ยังชอบเรียกชื่อเล่นมากกว่า  เปโกะอาศัยอยู่กับผู้เป็นมารดา บ้านที่อยู่เปิดเป็นร้านขายของชำในชุมชนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งไม่ไกลจากย่านธุรกิจของกรุงโตเกียว วันหนึ่งมีคนแนะนำให้มาทำงาน โดยบอกว่าเป็นงานง่าย เงินเดือนดี มีของอร่อยให้รับประทานตลอดเวลา ผู้ติดตามประธานสมาพันธ์เคนโด้ จะว่าผู้ช่วยก็ไม่เชิงเพราะผู้ช่วยที่แท้จริงมีอยู่แล้วถึงสามคนด้วยกัน จะว่าเป็นบอดีการ์ดยิ่งไม่ใช่เข้าไปใหญ่! เหตุผลคือ...เปโกะดูซื่อบื้อ หัวช้า เห็นแก่ของกิน ท่าทางควบคุมได้ง่าย หน้าที่ของเปโกะคือติดตามยูตะไปทุกหนแห่ง หากมีสิ่งผิดปกตินอกเหนือจากที่บอกไว้ให้รีบรายงานโดยทันที "เหมาทาโกยากิคุณลุงหมดเกลี้ยง จะกินกับคุณแม่ให้หน่ำใจเลย" ชายร่างอวบอั๋นยิ้มกว้างจนตาหยีเป็นเส้นเดียว แก้มชมพูเหมือนสีลูกพีช เดินผิวปากสบายใจขณะเดินข้ามสะพาน ทันใดนั้นเองเขาได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกล เสียงแหลมเล็กร้องอย่างตื่นกลัว  เปโกะหยุดยืนกลางทางพยายามเงี่ยหูฟังอีกรอบ จนมั่นใจว่ามันเป็นเสียงที่เขาเคยได้ยินเป็นประจำที่คฤหาสน์ยามากูชิ! จะเป็นไปได้ไงเล่า...จากคฤหาสน์หลังนั้นถึงคลองเล็ก ๆ สายนี้ มันห่างกันมากโขเลย เวลานี้เจ้านั่นควรอยู่กับยูตะที่ห้องมากกว่า แล้วมีใครพามันมาที่นี่ เปโกะหอบร่างต้วมเตี้ยม วิ่งลงสะพาน พยายามหาที่หลบ โชคเข้าข้างที่คืนนี้เป็นคืนเดือนคว่ำ บรรยากาศริมคลองมืดสลัวเพราะมีแสงไฟไม่มากเท่าไหร่  เขาเห็นกล่องกระดาษใบใหญ่สีน้ำตาลถูกปิดทับด้วยเทปกาว กล่องใบนั้นขยับเบา ๆ มีเสียงลอดออกมา ‘ต้องใช่แพนด้าจังแน่ ๆ’  ใครจับแพนด้าจังใส่กล่อง เปโกะเห็นเงาคนตะคุ่ม ๆ ห่างออกไป ร่างสูงชะลูดมองจากข้างหลังดูคล้ายกับยูตะแต่นั่นคือ โยเฮ! ไม่ได้การแล้ว! เขาจำต้องหาทางช่วยเจ้าแพนด้าจังออกมาให้ทันเวลา ก่อนที่คน ๆ นั้นจะรู้ตัวก่อน เวลาเดียวกัน "แพนด้าจัง แพนด้าจัง"  ยูตะยกมือป้องปากตะโกน หันซ้ายหันขวาเดินหามาสักพักใหญ่แล้ว เพราะเขาไม่เห็นมันเลยตั้งแต่กลับถึงบ้านทั้งที่ปกติแล้ว ตะโกนเรียกครั้งเดียวก็จะวิ่งมาหาพันแข้งพันขาต้อนรีบกลับบ้านเสมอ ทุกวัน ๆ ที่คฤหาสน์แห่งนี้ มีเพียงแพนด้าจังที่รอเขากลับบ้าน ยูตะเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดี…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD