“มัวยืนบื้ออะไรอยู่” เท่านั้น ชนิณถึงได้เดินเข้าไปหา ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้า มือทั้งสองยกขึ้นจับสายรัดเอวที่ผูกกันเป็นปมโดยไม่ต้องให้รัญญ์สั่งอีกครั้งราวกับรู้หน้าที่ขณะที่อีกฝ่ายจุดบุหรี่มวนใหม่ขึ้นสูบ รอดูการแสดงก่อนนอนอย่างเช่นทุกวัน ทว่าวันนี้แปลกออกไป ชนิณไม่เปลื้องผ้าอย่างรวดเร็วแล้วรีบจัดการให้ทุกอย่างเสร็จเช่นเคย ยื่นมือไปจับสายรัดเอวแล้วก็ค้างไว้อย่างนั้น สีหน้าดูครุ่นคิด ไม่สบตาจนรัญญ์สังเกตได้ถึงความผิดปกติ “มีอะไรอยากจะพูด” แน่นอนว่าเขามีสัญชาตญาณที่ดีจากการพบปะผู้คนหลายรูปแบบมาเกือบทั้งชีวิต อากัปกิริยาของชนิณ ดูก็รู้แล้วว่ามีเรื่องอยากจะต่อรองกับเขา “รีบพูดมาก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจไม่ให้นายพูด ส่วนฉันจะตกลงเงื่อนไขของนายหรือไม่ ไว้จะคิดดูอีกที” แล้วก็ดักคออย่างรู้ทัน ชนิณเงยหน้าขึ้นสบตา เห็นดวงตาเรียวจ้องมองตนอย่างเจ้าเล่ห์ก็รู้ว่ารัญญ์กำลังจะเล่นเกมกับเขา แต่ก่อนที่เ