ตอนที่ : 5 เมียโจร 4

1626 Words
"มาสิ!" "ฮือ...ฮึก...ฮือ" แล้วจู่ๆ คนที่นั่งเงียบก็สะอื้นไห้ออกมาด้วยความผวากลัว ค่อยๆ คลานเข้าไปหาเขาบนที่นอนอย่างช้าๆ แลดูคล้ายกวางน้อยที่กำลังสั่นกลัวพรานล่าเหยื่อ "ไฟมาร ปล่อยข้าเถอะ ข้าไม่ไหวแล้ว" นางเอ่ยขอทั้งน้ำตาเมื่อคลานมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา "จุๆ...เมียข้า...ไหวสิ เจ้าต้องไหว" เขาส่ายหน้าไปมาก่อนจะดึงร่างงามด้านหน้าให้ขึ้นไปอยู่บนหนังเสือด้วยกัน มหาโจรโน้มหน้าลงจูบซอกคอเนียนของนางอย่างอุกอาจ "ฟุดฟิด...หืม" ไฟมารรีบเงยหน้าขึ้นจากซอกคอของกอพเยียด้วยความแปลกใจ หยุดนิ่งมองหน้านางอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงไปตรงซอกคออีกหนหนึ่ง คราวนี้รีบเงยขึ้นเมื่อแน่ใจในสิ่งที่ได้รับว่ามาจากตัวของนาง "ตอนแรกตัวเจ้าห้อมหอม แต่ตอนนี้ทำไมมันถึงได้เหม็นเน่าเพียงนี้ กอพเยีย" ไฟมารเอ่ยออกมาอย่างไม่เข้าใจ เพียงแค่ซุกซอกคอของนางก็ได้กลิ่นเหม็นอับจนแทบอยากจะอาเจียนเสียแล้ว "มะ...ไม่ใช่ตัวข้าสักหน่อย เสื้อของท่านต่างหาก" นางแย้งออกมาเบาๆ "เสื้อของข้า? มันเหม็นขนาดนี้เลยรึ" ไฟมารทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะยกแขนเสื้อของตนเองขึ้นดม แล้วเป็นอันต้องเบือนหน้าหนีในทันที นับจากการออกปล้นครั้งก่อนเมื่อเจ็ดวันที่แล้วก็ยังไม่ได้ซักเสื้อผ้าทั้งหมดนี่เลย ใช่จริงๆ "เอาเป็นว่า พรุ่งนี้เจ้าเอาเสื้อผ้าของข้าทั้งหมดไปซักก็แล้วกัน" คนหมดอารมณ์เอ่ยออกมาอย่างเสียดาย ทิ้งตัวลงนอนแล้วหันหลังให้นางท่ามกลางเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของกอพเยีย 'นี่ข้ารอดเพราะเสื้อเน่าๆ ตัวนี้หรือนี่' กอพเยียรอด ทว่าผกากลับกำลังตกอยู่ในช่วงโหดร้ายที่สุดในชีวิตของนาง เมื่อเหล่าลูกสมุนทั้งหมดเกือบห้าสิบคนกำลังจับไม้สั้นไม้ยาว เพื่อที่จะได้นางเป็นเมียคนแรก เสียงสะอื้นไห้ของผกาที่นั่งอยู่ท่ามกลางลูกสมุนโจร ไม่ได้ทำให้พวกมันรู้สึกเห็นอกเห็นใจแต่อย่างใด "ข้าได้ไม้ยาวโว้ย" หนึ่งในสมุนโจรร้องขึ้นด้วยความดีใจ ชูไม้ยาวในมือขึ้นสูงให้เพื่อนๆ ดู "ไอ้ขิน มึงนี่โชคดีชะมัดเลย" เพื่อนโจรทั้งหมดทิ้งไม้สั้นในมือลงพื้นด้วยความเสียดาย ก่อนที่จะพากันแยกย้ายไปพักตามบ้านแต่ละหลังของตนเอง "ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า เจ้าชื่ออะไร" ขิน สมุนโจรในวัยสามสิบปีเอ่ยถามขึ้นด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย "ฮื้อ...ฮะ...ฮึก" ผกาได้แต่สะอื้นไห้อย่างชอกช้ำ "ข้าถามว่าเจ้าชื่ออะไร" ขินเริ่มขึ้นเสียงเมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่ร้องไห้ "ผกา ฮึก...ฮือ...ข้าชื่อผกา" นางตอบไปร้องไห้ไปพลาง "ไป ไปบ้านข้า" มันดึงข้อมือของนางให้ลุกเดินตามไปยังบ้านไม้หลังหนึ่ง มีเพียงบ้านไม้ของไฟมารเพียงหลังเดียวที่อยู่บนต้นไม้ ส่วนบรรดาลูกสมุนทั้งหมดจะมีบ้านอยู่บนพื้นดินกันทุกคน อาการอิดออดของนางทำให้ขินต้องกระชากลากถูอยู่เป็นระยะ กระทั่งมาถึงบ้านของตนเอง และทันทีที่บานประตูไม้เปิดออก ผกาก็มองเห็นอนาคตแสนขมของตนเองรออยู่ "เจ้าเคยมีผัวมาก่อนหรือยัง" คำถามของขินทำให้นางส่ายหน้าไปมาด้วยความกลัว "ไม่เคยอย่างนั้นหรือ ทำไมไอ้ขินมันโชคดีอย่างนี้วะ รู้หรือเปล่าว่าเจ้าจะต้องเป็นเมียโจรที่นี่ทั้งหมดห้าสิบกว่าคนนะผกา" ผกาถึงกับอ้าปากค้างเข่าทรุดลงยังพื้นบ้านอย่างหมดเรี่ยวแรง ทำให้ขินหัวเราะออกมาอย่างขำๆ ในอาการของนาง "แรกๆ ทุกคนก็เป็นอย่างเจ้านี่แหละ อีกหน่อยก็จะชินเอง" "ไม่จริง..." นางคล้ายคนที่วิญญาณออกจากร่างไป พึมพำออกมาคล้ายคนละเมอ "จริงแท้แน่นอน" ร่างอวบของผกาถูกรวบเข้าสู่แผงอกหนาของขิน ก่อนจะถูกฉกจูบแรกไปอย่างง่ายดาย ริมฝีปากบางถูกดูดดึงด้วยแรงจูบแสนหยาบคาย แควก!!! เสียงเสื้อผ้าที่ผกาสวมใส่ถูกกระชากออกจากกัน จนมันขาดออกเป็นทางยาว ผกาถึงกับหน้าซีดเผือดลงด้วยความตกใจ ก่อนที่ร่างอวบของนางจะถูกผลักให้ล้มลงไปยังที่นอน แล้วทั้งร่างก็ถูกขินกระโจนเข้าใส่อย่างเต็มกำลัง รสจูบอันแสนจะหยาบโลนของสมุนโจรทำให้น้ำตาของผการ่วงกราว ริมฝีปากบางแตกปริออกจนเลือดไหลเป็นทาง ขินลุกขึ้นแล้วถอดเสื้อออกจากลำตัวพร้อมกับกางเกงขายาว "เจ้าเนียนไปทั้งตัวเลยนะเมียจ๋า" สมุนโจรทำท่าห่อปากจนน่าขยะแขยง "ไม่!!!" เพราะว่าไม่ได้พานพบสตรีงามมานานนัก ขินจึงรู้สึกกลัดมันจนยั้งไม่อยู่ ปกติมีแต่หญิงสาวชาวบ้านที่ได้มาจากการปล้น ไม่คิดว่าคราวนี้จะได้สาวใช้ในเมืองที่มีผิวกายเนียนมือถึงเพียงนี้ มันแทะเล็มทุกพื้นที่บนเนื้อตัวของผกา ตั้งแต่ด้านบนจนจรดปลายเท้า เจ้าสัตว์เลื้อยคลานตัวใหญ่กำลังชูคอออกล่าเหยื่อ ทำให้ผกาถึงกับเหงื่อตกเมื่อมันฉกวูบไปตามต้นขาเนียนของนาง สองมือผลักหน้าอกของ ขินออกห่างตัว ทว่าเปล่าประโยชน์เมื่อมันกระชากเศษผ้าที่ติดรั้งอยู่บนทรวงงามออก คราวนี้ลมหายใจของสมุนโจรถึงกับติดขัด เต้าอวบอิ่มสองข้างที่ลอยชูเด่นอยู่เบื้องหน้า ทำให้มันครางฮือออกมาด้วยความหื่นกระหาย ตรงเข้าขย้ำสองทรวงอย่างแรง "โอ๊ย!" นางเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่คนที่กำลังมัวเมากับสองเต้าไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร ขยำขยี้นวลเนื้อต่ออย่างลุ่มหลง ปลายลิ้นหนาสากแตะลากไซ้ไปมารอบฐานทรวง ก่อนจะวกขึ้นไปดูดดุน ขบเม้มหนักบ้างเบาบ้าง "อื้อ!" ผกาดิ้นพล่านไม่รู้ว่ามันเจ็บหรือซ่านกันแน่ จิกกรงเล็บลงยังหัวไหล่ของอีกฝ่ายจนเต็มแรง ขินเลื่อนฝ่ามือสากลาดลู่ลงยังด้านข้างสู่สะโพกงามงอนสมวัยสาว ก่อนจะเคล้นมันจนสุดแรงมือ "อ๊ะ!" จู่ๆ มือที่เคล้นสะโพกกลมก็ฉกวูบไปยังต้นขาด้านใน แล้วเคล้นเนื้อนวลสาวของนางเล่นอย่างหนักหน่วง "นุ่มมือมาก" ขินยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนจะจับงูตัวใหญ่ของตนเองถูไถเล่นกับเนินเนื้อสาวของนาง ร่างของผกาจึงกระตุกเป็นระยะ บิดกายหนีเร่าไปมา "อา...อย่าดิ้นสิผกา โอ๊ะ!" ขินสะดุดคำพูดของตนเองเมื่อความไหลลื่นจากกายนาง ทำให้งูตัวใหญ่แข็งขืนตื่นตัวขึ้นมาเต็มกำลัง ยิ่งเขาถอยออกห่างนางก็ยิ่งเด้งกายตามติดตามสัญชาตญาณอารมณ์ใคร่ ทำให้ขินครางกระเส่าออกมาเป็นระยะ มือหนาจับท่อนขาข้างหนึ่งของนางยกขึ้นแล้วชื่นชมดอกไม้ช่องามเบื้องล่างเต็มสองตา และแล้วขินก็เคลื่อนใบหน้าสากลงสู่ด้านล่าง ปลายลิ้นแทรกซอนไปตามหลืบเร้นที่แสนจะน่าค้นหาของผกา "อา..." เพียงแค่ปลายลิ้นแตะลงยังกลีบงาม นางก็ดิ้นเร่ากำเส้นผมของขินเอาไว้แน่น กระนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ยอมหยุดการลิ้มชิมของหวานตรงหน้า ปาดป่ายลัดเลาะหาจนเจอบ่อน้ำหวานแสนถูกใจ ก่อนจะดูดกลืนเข้าสู่อุ้งปากทั้งหมดภายในเวลาชั่วพริบตา กดสะโพกของนางเอาไว้แน่นไม่ให้แอ่นกายมากไปกว่านี้ ท้ายที่สุดก็มาหยุดอยู่ตรงเกสรสาวแสนอิ่ม ไล้ปลายลิ้นไปมาอย่างระรัวเร็ว "อื้อ! ขะ...ข้าไม่ไหว..." ผกาครางออกมาคล้ายคนใกล้ตาย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางไม่ไหวอะไรกันแน่ รู้แค่ว่ามันทนต่อไปไม่ไหว อยากจะปลดปล่อยความทรมานนี้ "ข้าเองก็...ไม่ไหวเหมือนกัน" ขินเงยหน้าขึ้นจากเกสรงามแล้วจับท่อนขาของนางวางพาดบนไหล่หนาของตนเอง จ้องมองดูน้ำหวานที่ยังคงเอ่อไหลออกมาอยู่ตรงปากอ่าว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สามที ก่อนจะจับเจ้างูตัวใหญ่ยัดเข้าใส่ปากอ่าวอย่างรวดเร็ว "อ๊ะ โอ๊ย! เจ็บไม่เอา" นางร้องด้วยความเจ็บ เมื่อเจ้างูตัวใหญ่ล่วงล้ำเข้าสู่กายนางอย่างฉับพลัน มันทำลายเส้นพรหมจรรย์และสร้างความเจ็บปวดเจียนตายให้ "โอ๊ะ!" นางสะดุ้งเมื่อขินออกแรงกระแทกในจังหวะสุดท้ายเข้าสู่ภายในจนมิดลำตัว ลมหายใจที่อีกคนกำลังเจ็บปวดและอีกคนกำลังฮึกเหิมใจ ช่างฟังดูแตกต่างกันเหลือเกิน น้ำตาของผกาไหลนองหน้าเมื่อรู้แล้วว่าได้สูญเสียสิ่งที่หวงแหนมาชั่วชีวิตให้แก่สมุนโจรใจต่ำช้าผู้นี้ "อ๊าย!" เสียงลากยาวดังขึ้น เมื่อเจ้างูตัวใหญ่ค่อยๆ ถอนตัวออกมา ก่อนจะกระแทกกลับเข้าไปใหม่อีกรอบ "อ๊ะ!" คราวนี้แรงกระแทกที่รุนแรงและยาวนานเริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขินสบถถ้อยคำหยาบคายออกมาเป็นระลอก ยามกลั้นอารมณ์หวามไม่ไหว นางกลับได้แต่นอนเกร็งกายนิ่งด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่ว กระทั่งแรงกระแทกครั้งสุดท้ายผ่านเข้ามา ร่างของทั้งคู่ก็กระตุกทรุดฮวบลงไป พ่นน้ำคาวรดหลั่งดอกไม้งามชุ่มไปทั่วทั้งช่อ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD