ตอนที่ : 4 เมียโจร 3

1469 Words
เรียวขาเสลาทั้งสองข้างถูกจับพาดไหล่หนาเอาไว้มั่น สะโพกงอนถูกยกตัวขึ้นสูงระดับที่พอต่อความปรารถนา ไฟมารจับจอมพญามารตบแปะซอกขาด้านในแรงๆ สามทีเป็นการเตือนนางว่าจะได้เวลาเข้าไปทำความรู้จักอย่างสนิทชิดเชื้อกับเนินหญ้าแสนหวานอีกครั้งแล้ว กอพเยียเบือนใบหน้าหนีไปด้านข้าง ไม่อยากมองดูคนที่ข่มเหงตนเองอีกต่อไป ทำใจแล้วว่านางคงไม่อาจหลุดพ้นจากรสสวาทอันแสนป่าเถื่อนนี้ได้ ก่อนจะสะดุ้งด้วยความเจ็บเมื่อจอมพญามารกำลังคืบคลานเข้าไปภายในเนินหญ้าแสนชื้นฉ่ำของตนเอง อาการเจ็บแปลบเข้ามาเล่นงาน ยามถูกรุกรานหนที่สอง นางนิ่วหน้าบิดกายเร่าด้วยความเจ็บ และผวาตัวเฮือกด้วยความตกใจเมื่อถูกกระชากแรงเข้าออก ด้วยความรุนแรงอย่างโหดร้ายทารุณ "โอ๊ย! ข้าไม่ไหว...แล้ว" ไฟมารจับต้นขานวลทั้งสองข้างแยกกว้างออกจากกัน โถมแรงเข้าใส่อย่างไม่ยั้ง ซ้ำยังต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง กระทั่งแรงระรัวเร็วขึ้น แรงขึ้น ผลัดเป็นซอยแรงถี่ยิบ แล้วสะดุดกึกกักอยู่เป็นระยะ ก่อนจะกระแทกแรงสุดท้ายโจนจ้วงเข้าใส่สุดแรงเกิด "โอ้ววว!" ใบหน้าสากที่แหงนหน้าขึ้นจนสุดกู่ คำรามออกมาจนดังกึกก้องลั่นไปทั่วบริเวณ ปลดปล่อยสายธารโลกีย์พุ่งส่ายใส่ทุ่งหญ้างามกระเซ็นซ่านจนชุ่มฉ่ำอย่างถ้วนทั่ว "เฮ! เฮ! เฮ!" "ไอ้พวกนี้นี่" ไฟมารแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ยามได้ทรุดกายลงตรงอกอวบสล้างอย่างหมดเรี่ยวแรง หอบหายใจระส่ำอยู่บนกายเปลือยของนาง ที่แทบจะกลืนลมหายใจเป็นหนึ่งเดียว "เก่งมากเมียข้า" เอ่ยชมเสร็จก็พลิกกายเปลือยของนางให้เกยทับอยู่ด้านบนของตนเอง กลับกลายเป็นว่ากอพเยียจำต้องซุกหน้าตรงอกหนาบึกบึนของไฟมารแทน เผียะ! "อ๊ะ!" อีกแล้ว กอพเยียครวญอยู่ข้างใน ทำไมไฟมารถึงชอบตบสะโพกของนางเล่นอยู่ร่ำไป แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะล่วงรู้ความคิดของนาง "ข้าชอบ...มันเต็มไม้เต็มมือดี" ไม่ว่าเปล่ามหาโจรยังขยำแก้มก้นของนางทั้งสองข้างเล่นอย่างชอบอกชอบใจ กอพเยียทำได้เพียงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธและอดสู กว่าไฟมารจะปล่อยมือจากร่างงามของกอพเยียได้ ก็เล่นเอานางหอบเหนื่อยล้าและอ่อนแรงไป เนื่องจากถูกจับจูบลูบคลำ ราวกับว่าตัวนางเป็นของเล่นชิ้นโปรดของเขา จูบแล้วจูบเล่าจนกว่าไฟมารจะพึงพอใจจึงยอมปล่อยนางให้เป็นอิสระ คนที่ถูกรักจนร่างกายอ่อนเพลียจึงทำได้เพียงนอนระทวยแรงอยู่บนหนังเสือ ขณะที่ไฟมารลุกขึ้นแต่งตัวแล้วลงจากบ้านไม้ไป ร่างอันแสนจะบอบช้ำจากการถูกรุกรานนานนับชั่วโมง นอนแน่นิ่งอยู่กับที่อย่างหมดแรง ด้านนอกเริ่มจะไร้แสงพระอาทิตย์ในยามพลบค่ำ ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้แลดูน่ากลัว ทั้งลึกลับและวังเวง มีเพียงเสียงจักจั่นเรไรเป็นเหมือนดั่งเพื่อนข้างกาย เสียงหัวเราะของบรรดาลูกสมุนของไฟมารดังขึ้นเป็นระยะรบกวนใจนาง กอพเยียลุกจากที่นอนแล้วตรงไปยังกองชุดเจ้าสาวที่ขาดวิ่น มองไม่เห็นหนทางที่จะกลับไปสวมใส่มันได้อีก นางก้มลงมองหว่างขาของตนเองที่บัดนี้ มีร่องรอยแดงปื้นจากความบอบช้ำ แลเห็นรอยเลือดแห้งเกรอะกรังติดอยู่รอบๆ ต้นขา เห็นแล้วก็ทำให้รู้สึกเจ็บร้าวในใจ ไฟมารป่าเถื่อนยิ่งกว่าสัตว์ป่าเสียอีก เจ้าของร่างงามค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นบ้านแล้วร่ำไห้ออกมาปิ่มใจจะขาด ว่าที่เจ้าสาวผู้สูงศักดิ์ได้กลายมาเป็นเมียโจรต่ำช้าไปเสียแล้ว "ฮึก...ฮือ...ฮึก" เสียงร่ำไห้ดังอยู่นานนับชั่วโมง นางไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับตนเอง มีเพียงเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นอับของไฟมารแขวนเอาไว้เพียงไม่กี่ตัว แค่เห็นก็รู้สึกสะอิดสะเอียนเต็มที มองไม่เห็นอะไรที่นางจะนำมาสวมใส่ได้ "แกรก" เสียงเปิดประตูไม้ทำให้กอพเยียเงยหน้าขึ้นมอง เห็นไฟมารแสยะยิ้มเดินเข้ามาพร้อมกับจานเนื้อย่างที่อยู่ในมือ "ข้ารู้ว่าเจ้าเหนื่อยวันนี้คงลงไปกินข้าวข้างล่างไม่ได้ นี่ข้าเอามาให้" มหาโจรสำรวจดูคนที่กำลังกอดชุดเจ้าสาวสีขาวแน่น เหมือนนางพยายามเอามันมาปิดบังทรวดทรงของตนเองเอาไว้ให้มากที่สุด ทว่าไม่อาจบังมิดได้ "เจ้าไม่มีเสื้อใส่สินะ" พูดจบร่างสูงก็เดินตรงไปยังไม้ไผ่ลำหนึ่งที่พาดอยู่มุมห้อง กระตุกเสื้อผ้าเนื้อหยาบของตนเองออกมา แล้วโยนให้นาง "ใส่ซะ" กลิ่นเหม็นอับโชยออกมาทำให้นางเบือนหน้าหนีด้วยความรังเกียจ กิริยาแบบนั้นทำให้ไฟมารหน้าตึงขึ้นในทันที ตรงเข้าหานางแล้วกระชากเส้นผมให้ลงต่ำ "โอ๊ย!" "อย่าริมาทำท่าทางรังเกียจผัวตัวเองอย่างนี้นะ...กอพเยีย" ไฟมารกดเสียงต่ำข่ม หยิบชุดของตนเองจัดการสวมใส่ให้นางอย่างลวกๆ กอพเยียรู้สึกขยะแขยงจนแทบจะขย้อนออกมา ได้แต่กัดฟันตนเองเอาไว้แน่นด้วยความรังเกียจ "ชินๆ กับกลิ่นของข้าซะ เพราะว่าเจ้าต้องอยู่กับมันตลอดชีวิต" คนได้ยินถึงกับตาเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ นางจะต้องอยู่กับไฟมารไปชั่วชีวิตอย่างนั้นหรือ ความจริงข้อนี้ทำให้น้ำตาของนางทะลักทลายลงมาอีกรอบ "เจ้าน้ำตาอีกแล้วกอพเยีย กินซะ!" ไฟมารสั่งเสียงเหี้ยม เลื่อนจานเนื้อย่างไปยังด้านหน้าของนาง จากนั้นก็เดินกลับไปทิ้งตัวลงนอนบนหนังเสือ มองดูรอยเลือดสีแดงจางๆ ที่กลมกลืนไปกับลายของหนังเสืออย่างภาคภูมิใจ กอพเยียจำใจหยิบเนื้อย่างซึ่งนางเองก็ไม่รู้ว่ามันคือเนื้ออะไร นำเข้าปากอย่างขมขื่น กระทั่งเนื้อย่างหมดไปครึ่งจานนางจึงหยุดกิน "กินน้อย คืนนี้จะไหวหรือเปล่า" ไฟมารเปรยขึ้นเบาๆ วางแผนการเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่า คืนนี้ต้องได้เผด็จศึกเมียของตนเองอีกรอบอย่างแน่นอน "ไม่...ข้าไม่ไหวแล้ว" กอพเยียถึงกับผวาเมื่อได้ยิน "เป็นเมียข้า มันต้องอึด จำไม่ได้หรือกอพเยีย" ไฟมารยกท่อนแขนขึ้นกอดอกอย่างสบายใจ ไม่ได้เดือดร้อนต่อท่าทีร้อนรนของนาง "น้ำอยู่ตรงนั้น" เขาชี้นิ้วไปยังต้นเสาที่แขวนกระบอกไม้ไผ่เอาไว้สามอัน กอพเยียยันกายลุกขึ้นเดินตรงไปหยิบมาดื่มหนึ่งกระบอก รสชาติของน้ำที่มีรสหวานปนฝาดทำให้คนดื่มรู้สึกประหลาดใจ "น้ำจากตาน้ำบนภูเขาที่สูงที่สุดในละแวกนี้ รสชาติดีอย่าบอกใครเชียว" คำตอบจากคนที่นอนอยู่ทำให้นางคลายข้อสงสัย นำกระบอกไม้ไผ่แขวนเอาไว้ที่เดิม ก่อนจะฉุกคิดถึงสาวใช้ของตนเองขึ้นมาได้ "ผกาล่ะ" "ผกาไหน" คิ้วดกเข้มเลิกขึ้นสูงเป็นคำถาม "สาวใช้ที่นั่งรถม้ามากับข้า นางเป็นยังไงบ้าง" "พวกข้างล่างกำลังจับไม้สั้นไม้ยาวกันอยู่ว่าคืนนี้ใครจะได้นางเป็นเมีย" คำตอบของมหาโจรทำให้กอพเยียถึงกับอ้าปากค้าง "ทะ...ท่านว่า นางจะต้องเป็นเมียของพวกข้างล่าง" "ใช่ เจ้ามีปัญหาอะไรกอพเยีย เจ้าเป็นเมียของข้า สาวใช้ของเจ้าก็เป็นเมียของสมุนข้า มันก็เป็นเรื่องธรรมดาจะตายไป" คำพูดแสนจะปกติของเขา ทำให้กอพเยียกำหมัดแน่นรู้ดีว่าถึงร้องขอก็เปล่าประโยชน์ ขนาดตัวนางเองยังไม่รอดแล้วผกามีหรือจะเหลือ "มานี่มา มานอนข้างๆ ข้าได้แล้ว" ไฟมารตบหนังเสือเป็นการเชิญชวนนาง "ไม่...ข้ายังไม่ได้อาบน้ำ" ด้วยความกลัวนางจึงรีบพูดออกไป "ไม่เป็นไร...ข้าไม่ถือ" แววตาหื่นกระหายนั่น บ่งบอกความต้องการได้อย่างชัดเจน คราวนี้กอพเยียได้แต่นิ่งอึ้ง กลิ่นตัวของไฟมารยังติดเต็มร่างกายของนางจากการขืนใจก่อนหน้า นี่เขายังจะข่มเหงนางในสภาพนี้อีก ช่างต่ำทรามเสียจริง "มาเร็วๆ อย่าปล่อยให้ผัวรอนานสิ กอพเยีย" "..." นางเงียบทำหน้าคล้ายคนอยากจะร้องไห้ออกมา ไฟมารจึงตะคอกลั่นออกมาอีกรอบ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD