3
หน้าที่ของเมีย
มหาโจรยกเท้าเขี่ยที่ปลายเท้าของกอพเยียสามที ครั้นนางไม่ยอมตื่นเขาจึงออกแรงเตะเบาๆ ลงไปยังที่เดิม คนหลับถึงกับลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ
"มะ...มีอะไร" นางละล่ำละลักถามออกมาด้วยความหวาดผวา
"เป็นเมียข้า ต้องนอนตื่นก่อนพระอาทิตย์ขึ้น กอพเยียเจ้าจะนอนกินป่าหรือยังไง ออกไปเตรียมอาหารเช้าแล้วสายๆ ค่อยเอาเสื้อผ้าของข้าไปซักที่ลำธาร" สั่งการเสร็จไฟมารก็อ้าปากหาวหวอดเดินออกจากห้อง แล้วโหนเถาวัลย์ลงจากตัวบ้านไป ปล่อยให้คนเป็นเมียมองตามออกไปด้วยสายตาละห้อย
"อูย..." เสียงครางดังขึ้นเมื่อนางยันกายลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ด้านล่างของตนเองปวดแปลบขึ้นมา
"ไอ้คนชั่วไฟมาร ข้าขอสาปแช่งเจ้าให้ตายไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเลย" นางพนมมือขึ้นพร้อมกับเอ่ยวาจาสาปส่งมหาโจรที่ฉกชิงความสาวของตนเองไป ถ้ามีหนทางหนีออกไปได้นางจะไม่รั้งรอเลยทีเดียว ก่อนจะเคลื่อนร่างอันแสนจะบอบช้ำเดินออกนอกห้องนอนไป หยุดยืนนิ่งอยู่กับที่เมื่อไม่รู้จะลงจากบ้านไม้แห่งนี้ไปได้อย่างไร
"หัวหน้า! เมียของหัวหน้าลงจากบ้านไม่ได้" ขินเอ่ยล้อแล้วหันไปสะกิดไฟมารให้มองดูที่ด้านบนของบ้านไม้ มหาโจรหันหน้าไปมองยังทิศที่ขินชี้ให้ดู มุมปากที่เต็มไปด้วยหนวดรกรุงรังกระตุกขึ้นอย่างขันๆ เมื่อมองดูคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียกำลังยืนหน้าง้ำอยู่ในชุดเสื้อผ้าของเขา ที่แสนจะมอซอและใหญ่เกินตัว
"จับเถาวัลย์แล้วโยนตัวลงมา!" มหาโจรตะโกนขึ้นไปบอกเมียของตนเอง
กอพเยียได้แต่ยืนนิ่งมองดูควันไฟที่ลอยล่องไปมาจากการหุงหาอาหาร และกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณรังโจร ที่มีลูกสมุนของไฟมารยืนพูดคุยกันอยู่เป็นกลุ่มๆ ซ้ำไปกว่านั้นทุกคนกำลังหันมาให้ความสนใจต่อตัวนาง จากเสียงตะโกนลั่นของไฟมารเมื่อครู่
"สงสัยเมียหัวหน้าจะโหนเถาวัลย์ไม่เป็นว่ะพวกเรา" เสียงสมุนคนหนึ่งทักขึ้น ตามมาด้วยเสียง วี้ดวิ้ว จากสมุนคนอื่นๆ ดังตามมาล้อเลียนพร้อมๆ กับเสียงหัวเราะกันอย่างครื้นเครง ไฟมารจึงต้องเดินไปกระตุกเส้นเถาวัลย์เส้นหนึ่งให้นางจับเอาไว้
"เจ้าจับเถาวัลย์เอาไว้ให้แน่นกอพเยีย" มหาโจรเอ่ยสั่ง กอพเยียจึงรีบจับเถาวัลย์เส้นใหญ่ตรงหน้าของตนเองทันที
"โอ๊ะ!" นางร้องขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อไฟมารกระตุกเถาวัลย์อีกเส้นหนึ่ง เถาวัลย์ที่อยู่ในมือของนางก็เคลื่อนตัวลงข้างล่างด้วยความรวดเร็วในทันที มันเป็นกลไกชนิดหนึ่งนี่เองนางเพิ่งเข้าใจ
"อ๊ะ!" เป็นอันต้องตกใจอีกรอบ เมื่อเท้าแตะพื้นดินมหาโจรก็รวบเอวบางของนางเข้าแนบอก แล้วกดปากหนาแนบกับเรียวปากอิ่มของนางต่อหน้าลูกสมุนทั้งหมด
วี้ดวิ้ว
เสียงผิวปากดังกันระงมไปทั่วบริเวณ เมื่อเห็นหัวหน้าของตนเองจูบปากเมียต่อหน้าทุกคนแบบนี้ ดูบรรดาสมุนทั้งหลายจะรู้สึกถูกอกถูกใจเป็นอย่างยิ่ง
"ท่าน..." กอพเยียอยากจะเอาอะไรมาฟาดหัวของไฟมารให้แตกดับลงไปตรงหน้า นางถูกกระทำย่ำยีศักดิ์ศรีจนแทบไม่เหลืออะไรเลยในตอนนี้
"ไปที่ครัว แล้วช่วยเขาหุงหากับข้าว" ไฟมารบุ้ยหน้าไปอีกด้านที่มีควันโขมงลอยออกมา
กอพเยียรีบสะบัดหน้าเดินหนีไปด้วยความอับอาย เดินผ่านสมุนโจรคนไหนเป็นอันต้องได้รับสายตาล้อเลียนกลับมาแทบทุกคน
"คุณหนู!" ผกาโผเข้าสวมกอดเจ้านายของตนเองด้วยความดีใจ ก่อนจะถอยออกห่างด้วยรู้สึกถึงกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ที่โชยออกมาจากตัวของกอพเยีย
"ข้ารู้ว่ามันเหม็น" นางกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเศร้าซึม ทั้งสองต่างมองดูชุดที่อีกฝ่ายสวมใส่ ซึ่งดูแล้วมันเป็นชุดของพวกโจรอย่างแน่นอน กอพเยียมองดูร่องรอยเขียวจ้ำบนลำคอของผกา ก็เกิดอาการนึกสงสารทั้งนางและตนเองขึ้นมาครามครัน
"จะอ้อยอิ่งไปถึงไหน ข้าวน่ะหุงแล้วหรือยัง" เสียงของสมุนโจรตัวใหญ่หน้าตาดุดันน่ากลัว ผู้ซึ่งมีหน้าที่ดูแลอาหารประจำกองโจรแห่งนี้ตะโกนถามทั้งคู่
"กำลังจะหุงแล้วจ้ะพี่เสือ" ผการีบเอากระบอกไม้ไผ่ไปจ่อยังเตาฟืนแล้วเป่าลมก่อไฟ ส่วนกอพเยียได้แต่ยืนเก้ๆ กังๆ เพราะว่านางเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ งานในครัวจึงไม่เคยได้แตะต้องสักครั้งเดียว
"แล้วเจ้าล่ะ ชื่ออะไร" เพราะว่าไม่ได้ออกไปปล้นเมื่อคืน สมุนโจรผู้นี้จึงไม่รู้ว่ากอพเยียคือเมียของหัวหน้าตนเอง
"ข้าชื่อ กอพเยีย"
"กอพเยีย ช่างตั้งมาได้ชื่อแปลกประหลาด" เสือส่ายหัวไปมา ก่อนจะหันไปให้ความสนใจการปรุงอาหารในหม้อดินของตนเองต่อ
"อดทนไว้คุณหนู เราจะต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้" ผกากระซิบบอก กอพเยียเบาๆ เจ้าสาวผู้อาภัพถึงกับน้ำตาซึม หากนางไม่คิดถึงบิดามารดาป่านนี้คงได้หยิบมีดในนี้สักเล่ม ออกมาปลิดชีพตนเองให้หายไปจากความอัปยศนี้
"กอพเยีย เจ้ามาหั่นผักนี่เร็ว" พ่อครัวใหญ่แห่งชุมโจรสั่งคนที่ยืนนิ่งอยู่กับที่
"เอ่อ พี่เสือ คุณหนูของข้านางทำครัวไม่เป็นให้ข้าทำแทนเถอะ"
"ทำไม่เป็นก็ต้องฝึก! ไม่มีข้อยกเว้น" เสียงทรงพลังของไฟมารโพล่งขึ้น ขณะที่เจ้าตัวยืนพิงบานประตูไม้ไผ่เก่าๆ อยู่ ทั้งสามคนจึงหยุดแล้วหันมามองเป็นสายตาเดียวกัน
"หัวหน้ามีอะไรหรือเปล่าถึงได้เข้ามาในครัว" เสือหันไปถามไฟมาร
"เสือ แกดูเมียข้าให้ดีๆ นะ สอนให้ทำกับข้าวให้เป็น เกิดเป็นลูกคุณหนูอยู่สุขสบายคงไม่เคยต้องลงมือเข้าครัว จริงไหมกอพเยีย" มหาโจรหันหน้าไปมองเมียของตนเองด้วยแววตาดูหมิ่น
"เมียของหัวหน้าอย่างนั้นหรือ?" เสือออกอาการสงสัยเล็กน้อย
"เออ เมียข้านี่แหละ ได้มาเมื่อคืนนี้สดๆ ร้อนๆ" มหาโจรตอบพร้อมกับกวาดสายตามองรูปร่างของนางอย่างถือสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ เดินเข้ามาหานางในห้องครัวอย่างช้าๆ กอพเยียถึงกับกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ ไฟมารทำราวกับนางเป็นสิ่งของที่หาเก็บได้ตามป่าเขา
"กอพเยียหากเจ้าทำกับข้าวเสร็จแล้ว ก็อย่าลืมเอาเสื้อผ้าไปซักบน ลำธารโน่นนะ"
"อืม" นางตอบแบบส่งๆ ไม่อยากมองหน้าไฟมารเลยในตอนนี้ แค่คิดถึงเรื่องที่เขาทำต่อตนเองเมื่อคืนนี้แล้ว นางก็รู้สึกเคียดแค้นและขยะแขยงเหลือเกิน
"อ๊ะ!" นางร้องด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ ฝ่ามือหนาอันแสนจะสกปรกของไฟมารก็ยื่นมาดันปลายคางมนของนางให้เงยขึ้น
"เมียข้าสวยหรือเปล่าเสือ" ไฟมารจ้องตานางแต่ปากถามลูกน้อง
"สวยมาก หัวหน้าตาถึงจริงๆ" เสือหัวเราะออกมาเบาๆ
"ว่าที่เจ้าสาวของบ้านไหนก็ไม่รู้ว่ะ ป่านนี้เจ้าบ่าวคงโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปแล้ว" พูดจบไฟมารก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
กอพเยียสะบัดใบหน้างามออกจากฝ่ามือของไฟมารด้วยความโกรธ ผกาเห็นท่าไม่ดีจึงรีบตรงเข้าไปสวมกอดกอพเยียเอาไว้ ลูบต้นแขนของนางเบาๆ เพื่อปลอบโยน
"ใจเย็นๆ ค่ะคุณหนู"
"ผกา..." กอพเยียมีสีหน้าคล้ายคนกำลังจะร้องไห้ ที่ไฟมารเอาเรื่องคอขาดบาดตายของนางมาล้อเล่น ราวกับมันเป็นเรื่องน่าขบขันสิ้นดี
"ข้าไปล่ะ"
"ครับหัวหน้า เอ้าพวกเจ้ามาลงมือทำกับข้าวกันได้แล้ว" ทั้งสองรีบกุลีกุจอไปช่วยเสือทำกับข้าว กอพเยียจำต้องละวางความเป็นหญิงผู้สูงศักดิ์เอาไว้แล้วยอมเป็นลูกมือของสมุนโจรผู้นี้
เมื่อกับข้าวเสร็จบรรดาสมุนโจรราวห้าสิบกว่าคนจะมารวมกันอยู่ตรงกลางชุมโจรแห่งนี้ พร้อมกับถือจานมารับอาหารที่มีเสือเป็นผู้ตักให้ กอพเยียสังเกตเห็นหญิงสาววัยรุ่นอีกสองคนที่แอบมุมอยู่ที่บ้านไม้หลังหนึ่ง และด้วยความสงสัยนางจึงอาศัยจังหวะที่ทุกคนไม่ได้สนใจนาง ย่องเงียบเข้าไปหาพวกนางทั้งสองคน
"โอ๊ะ!" นางรีบเอามืออุดปากตัวเองเอาไว้เมื่อเหลือบเข้าไปเห็นว่าพวกนางถูกจับล่ามโซ่เอาไว้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นหน้าตาของพวกนางยังเต็มไปด้วยบาดแผลรอยเขียวจ้ำเต็มไปหมด
"มองอะไร" หนึ่งในนั้นเอ่ยปากถามนางด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
"พวกเจ้าเป็นอะไรมากไหม" กอพเยียเอ่ยปากถามด้วยความเวทนา
"จะเป็นอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเจ้า ไป๊! ไปให้พ้นหน้าข้า" นางคนเดิมตะคอกกอพเยีย จนนางต้องเดินกลับไปยังบริเวณที่เสือตักข้าวอยู่ข้างๆ กับผกา ติดค้างอยู่ในใจว่าพวกนางเป็นใคร แล้วทำไมต้องถูกล่ามโซ่เยี่ยงสัตว์ป่าเอาไว้แบบนั้น
"คุณหนูไปไหนมาคะ" ผกากระซิบถามเบาๆ
"ข้าไปดูผู้หญิงสองคนที่ถูกล่ามโซ่เอาไว้ตรงโน้น"
"พวกเจ้าทั้งสองคนเอาจานมาใส่ข้าวเร็ว" ไม่ทันที่จะได้คุยกันต่อเสือก็ตะโกนบอกพวกนาง
"จ้ะพี่เสือ" ผการีบนำจานข้าวสองใบไปรับข้าวจากหม้อของเสือก่อนนำมาให้คุณหนูของตนเอง
ข้าวต้มใส่เนื้อเค็มกับผักหน้าตาเละๆ แลดูไม่น่ากินนอนกองอยู่บนจาน แต่มันกลับทำให้คนที่ไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยนับจากเมื่อคืนอย่าง กอพเยีย ลอบกลืนน้ำลายด้วยความหิวได้ นางมือสั่นเล็กน้อยยามที่ต้องเอื้อมมือออกไปจับช้อนตักข้าวใส่ปาก แค่คำแรกที่ลิ้นรับรส ความรู้สึกของนางบอกว่า...อร่อย ของที่หน้าตาไม่น่าจะกินได้แบบนี้ ทำไมมันถึงได้ถูกปากนางนัก
"อร่อยใช่ไหมคุณหนู" ผกาถามพร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นนายสาวตักข้าวเข้าปากหลายคำติดๆ กัน
"ใช่ อร่อย ไม่คิดว่าคนหน้าโหดแบบนั้นจะทำกับข้าวอร่อย" นางมองข้าวในจานกับใบหน้าที่ทะมึนแลดูน่ากลัวของคนทำ คนที่บนศีรษะไร้เส้นผม หนวดเคราหร็อมแหร็มเต็มกรอบหน้า และความสูงที่เกือบสองเมตรของเสือ ทำให้นางนึกถึงยักษ์ร้ายในหนังสือเทพนิยายที่เคยอ่าน
"ผกาเจ้าเป็นไงบ้าง ข้าได้ยินมาว่าเจ้าจะต้องเป็น...เมียโจรทั้งหมดนี่" คำถามของกอพเยียทำให้ผกาถึงกับน้ำตาตก เงยหน้าขึ้นมองคุณหนูของตนเองด้วยความเสียใจ เมื่อคืนนี้นางได้รับรู้ความจริงที่แสนจะป่าเถื่อนนี้แล้ว
"ใช่ค่ะ...คุณหนู" ผกาตอบเสียงขื่นใจ ความหวังเดียวของนางก็คือการพาคุณหนูของตนเองหลบหนีไปจากที่นี่
"ข้าไม่รู้จะช่วยเจ้าได้ยังไงผกา" กอพเยียยื่นนิ้วเรียวไปปาดคราบน้ำตาให้ผกาด้วยความสงสาร ขนาดตัวนางเองยังเอาไม่รอด แล้วจะเอาอะไรไปช่วยเหลือใครได้