ตอนที่ : 1 เจ้าสาวกอพเยีย
1
เจ้าสาวกอพเยีย
รถม้าเคลื่อนตัวผ่านสองข้างทางที่เต็มไปด้วยร่มเงาของต้นไม้น้อยใหญ่ เดินทางข้ามเนินเขามาได้เพียงไม่กี่ลูก สตรีที่นั่งอยู่ภายในก็เกิดรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เจ้าสาวที่อยู่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์มีผ้าลูกไม้สีขาวบางคลุมใบหน้าอันงดงามเอาไว้ นางกำลังรู้สึกหดหู่จิตใจที่ต้องจากบ้านเกิดมาไกล น้ำตาก็เริ่มจะไหลซึมออกมาด้วยความคิดถึงบิดามารดา กอพเยียเป็นบุตรสาวขุนนางใหญ่แห่งเมืองสาริกา ได้รับการเลี้ยงดูทะนุถนอมมาอย่างดีราวกับไข่ในหิน ไม่เคยสักครั้งที่นางจะต้องเดินทางออกจากคฤหาสน์ไปไหนไกล
กระทั่งในวันนี้ที่ต้องออกเรือนไปอยู่ยังบ้านของว่าที่สามีในเมืองถัดไป การแต่งงานโดยการคลุมถุงชน นับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปกติของผู้คนในเมืองนี้ กอพเยียจึงไม่เคยได้เห็นหน้าของว่าที่เจ้าบ่าวของตนเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว ได้แต่ทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีของเมืองที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือ การเดินทางไปเข้าพิธีแต่งงานที่บ้านของเจ้าบ่าวโดยมีแม่สื่อเป็นผู้นำทาง
"คุณหนูคะ อย่าร้องไห้เลย ไปอยู่กับสามีรูปหล่อแห่งเมืองอินทร์คาเชียวนะคะ" สาวใช้คนสนิทนามว่าผกาเอ่ยปลอบโยนนายสาว
"เจ้าไม่ใช่ข้า จะมาเข้าใจอะไรล่ะผกา" นางยกผ้าเช็ดหน้าที่ปักลายดอกไม้อันงดงามขึ้นซับน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา
"ท่านนาคินทร์น่ะหล่อมากนะคะ แถมยังเก่งอีกต่างหาก" ผกาทำหน้าเพ้อฝันจนนายสาวต้องตีเผียะที่ต้นแขนเข้าให้
"ทำอย่างกับเคยเห็น" นางแขวะผกาเข้าให้ ที่พูดอย่างกับเคยพบเห็นหน้าของท่านนาคินทร์แห่งเมืองอินทร์คาว่าที่สามีของนางมาก่อน
"แหะ แหะ ก็ฟังพวกแม่สื่อข้างนอกเขาคุยกันน่ะค่ะ ท่านนาคินทร์มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วทุกทิศเลยก็ว่าได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฝีมือสู้รบ เป็นขุนนางที่มีผลงานดี แถมยังมีหน้าตา...โอ๊ะ!" ผการ้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ รถม้าที่พวกนางนั่งก็หยุดกึก! ลงอย่างกะทันหัน ทำให้นางและกอพเยียเซร่างไปด้านหน้าแล้วย้ายไปด้านหลังจนหัวแทบทิ่มหน้าแทบคะมำกันไปคนละข้าง
"เกิดอะไรขึ้น!" สีหน้าตื่นตระหนกของกอพเยียทำให้ผการีบแหวกผ้ากั้นออกไปดูข้างนอกทันที ภาพที่นางเห็นก็คือบุรุษแปลกหน้าในชุดสีดำมีผ้าสีเดียวกันปกปิดใบหน้าบนหลังม้าหลายสิบคน มีอาวุธครบมือกำลังยืนเรียงรายอยู่รอบๆ บริเวณรถม้าที่พวกนางนั่งอยู่
"คุณหนู! พวกโจรค่ะ ทำไงดีคะ"
"หา! โจร" กอพเยียถึงกับออกอาการกลัวจนตัวสั่น ครั้นได้ยินเสียงอาวุธกระทบกันดังอยู่ด้านนอก ก็ยิ่งทำให้เกิดอาการผวามากขึ้นกว่าเดิม
"คุณหนูคะ ทำไงดีๆ" ผกาตรงเข้าสวมกอดนายสาวเอาไว้แน่นด้วยความตื่นกลัว ดูจากจำนวนหลายสิบคนของพวกมันแล้ว ครั้นให้พวกนางออกจากรถม้าแล้ววิ่งหนีไป ไม่มีทางที่จะทำให้หนีรอดกันได้เลย ทั้งสองจึงทำได้เพียงนั่งตัวสั่นกอดกันแน่นอยู่บนรถม้า
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นเป็นระยะๆ เหงื่อบนหน้าผากมนของกอพเยียก็ผุดขึ้นเต็มบริเวณ ตัวสั่นราวกับลูกนกผวากอดรัดผกาเอาไว้แน่นมากขึ้นกว่าเดิม จนแทบจะหายใจไม่ออกด้วยกันทั้งคู่
อ๊าก!!!
กระทั่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดสุดท้ายจบสิ้นทุกอย่างก็เงียบสงบลง ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักของใครบางคนเดินตรงมายังรถม้าที่ทั้งคู่นั่งอยู่ ปลายดาบแหลมค่อยๆ ถูกยื่นเข้ามาภายในตัวรถม้า
"ว้าย/ว้าย!" สองนายบ่าวสาวร้องลั่นเมื่อปลายดาบนั่นตวัดตัดผ้ากั้นขาดออกจากกันเป็นสองส่วน แล้วกระชากผกาให้ลงจากรถม้าจนไปล้มขลุกๆ อยู่ที่พื้น
เจ้าของร่างสูงใหญ่ราวสองเมตรภายใต้ผ้าสีดำคลุมใบหน้า จ้องมองดูหญิงสาวที่อยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ นัยน์ตาคมดุกวาดมองดูรูปร่างที่แสนจะอรชรบอบบางแต่ได้ส่วนสัด ก่อนจะตวัดปลายดาบเปิดผ้าคลุมหน้าของคนที่ก้มงุดด้วยความกลัวออก
"อ๊ะ!" กอพเยียร้องด้วยความตกใจเมื่อผ้าคลุมไม่อยู่บนใบหน้าของตนเอง เผลอตัวเงยหน้าขึ้นสบสายตาของจอมโจรเพียงแวบเดียวก็ก้มหน้าลงเช่นดังเดิม ทว่าความงามที่จอมโจรได้เห็นนั้นมันช่างงดงามราวดวงจันทร์คืนเดือนเพ็ญ ดวงตาเรียวรีคมทว่าหวานจับจิต ปากอิ่มเอิบน่าบดขยี้จุมพิตใส่
"หึ หึ หึ" เสียงทุ้มลึกในคอดังขึ้นอย่างพึงพอใจเมื่อได้ยลโฉมสาวงามตรงหน้า ก่อนจะหันไปประกาศกร้าวให้ลูกสมุนนับสามสิบชีวิตได้รับรู้กันถ้วนหน้า
"ข้าจะมีเมียแล้วโว้ย!" ความงดงามแบบไร้ที่ติทำให้มหาโจรตัดสินใจในแค่เสี้ยวอึดใจเดียว ที่จะเอานางมาทำเมีย
"เฮๆๆๆ" เสียงเฮของบรรดาสมุนทั้งหลายดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ทำให้กอพเยียถึงกับใจหล่นวูบไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม ก่อนที่ร่างทั้งร่างของนางจะถูกลากออกมาจากรถม้า มหาโจรตวัดร่างงามขึ้นแบกเอาไว้บนบ่าของตนเอง ตรงดิ่งไปวางพาดลงบนหลังม้าที่ยืนนิ่งอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ แล้วขึ้นคร่อมตาม จากนั้นก็ควบม้าตะบึงเข้าป่าใหญ่ เป้าหมายคือชุมโจร
ร่างของกอพเยียที่ถูกวางพาดบนหลังม้าถูกกระชากคอเสื้อขึ้นให้นั่งอยู่ด้านหน้าของไฟมาร ด้วยความตกใจทำให้นางไม่สามารถเปล่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือออกมาได้ ทำได้เพียงหลับตานิ่งถูกอ้อมแขนของมหาโจรรวบรัดจนแน่นอึดอัดท่ามกลางความเร็วของฝีเท้าม้า
"คุณหนู!" ผการ้องเรียกคุณหนูของตนเองที่เห็นเพียงแผ่นหลังไวๆ เข้าไปภายในป่าใหญ่
"เฮ้ย! นังนี่หน้าตาดีนี่นา เอาไปทำเมียดีไหมพวกเรา" ลูกสมุนโจรคนหนึ่งที่ตัวสูงเกือบสองเมตร หน้าตาแลดูหล่อเหลาร้องบอกเพื่อนๆ ของมัน
"ดีไอ้ขิน ข้าจะได้เปลี่ยนบรรยากาศจากอีนางสองคนนั่นบ้าง เบื่อจะตายอยู่แล้ว" พูดจบพวกมันก็พากันหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ
ทว่าเสียงหัวเราะของพวกมันกลับบาดลึกเข้าไปในใจของผกา นางพยายามจะวิ่งหนี แต่ทว่าพวกโจรก็ล้อมวงเอาไว้ วิ่งไปทางไหน ก็จะถูกมือของพวกมันแต่ละคนจับล้วงเนื้อตัวของนางเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็นหน้าอก ที่ถูกจับบ่อยเป็นที่สุด และแก้มก้นที่ถูกตีอย่างหลายต่อหลายเผียะ ท้ายที่สุดนางจึงเลือกนั่งอยู่กับที่ร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัว
"แค่นี้ทำเป็นกลัวไปได้ จะไปเป็นเมียโจรทั้งชุมได้ยังไง" คนที่ชื่อขินเดินตรงไปแล้วอุ้มนางขึ้นแบกบนบ่าพากลับไปยังชุมโจร ที่เหลือจึงได้ชิงทรัพย์จากคนตายทั้งหมด แล้วควบม้าตามหลังของไฟมารและขินไป
2
เมียโจร
บ้านไม้ที่สร้างบนต้นไม้สามต้นในป่าใหญ่เป็นเงาดำทะมึนอยู่ตรงหน้า กอพเยียเห็นแล้วถึงกับหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว เถาวัลย์เส้นใหญ่ที่ห้อยระโยงระยางลงมาระพื้นส่งให้ชุมโจรแห่งนี้เต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว กอพเยียเกิดตัวสั่นราวลูกนกตัวน้อยที่พลัดตกลงไปในแม่น้ำสายใหญ่ในทันที
"ไม่ต้องกลัว เป็นเมียข้าไม่น่ากลัวสักนิด" ไฟมารแค่นหัวเราะหึในลำคอ แล้วดึงร่างของนางขึ้นพาดบ่าตรงขึ้นไปด้านบนของบ้านไม้ จะว่าขึ้นไปแบบไหนดี กอพเยียได้แต่งุนงงที่อีกฝ่ายจับเถาวัลย์เส้นหนึ่ง แล้วโยนตัวเองขึ้นไปบนบ้านที่อยู่บนต้นไม้อีกที โดยที่ยังมีนางอยู่บนบ่า
ตุบ! ร่างทั้งสองลอยหวือมาหยุดอยู่ตรงแผ่นไม้ด้านบน มือหนาก็ปล่อยเถาวัลย์เส้นใหญ่ไปสั่นไกวอยู่ที่เดิมของมัน กอพเยียเข้าใจแล้วว่าบ้านต้นไม้หลังนี้มันไม่มีบันได
ไฟมารกระตุกผ้าคลุมหน้าของตนเองออก กอพเยียถึงกับเข่าอ่อนลงดื้อๆ ทรุดตัวลงไปนั่งที่พื้นด้วยความกลัว ดวงตาคมดุแลดูน่ากลัวใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้ม น่าขยะแขยงยิ่งนัก
"ทำท่ารังเกียจผัวตัวเองตั้งแต่วันแรกเลยนะคนสวย" ไฟมารใช้ฝ่ามือดันใบหน้างามของนางขึ้นอย่างหยาบคาย ก่อนจะกระแทกริมฝีปากเข้าใส่อย่างจาบจ้วง ลิ้นหนาตรงเข้ารุกรานอย่างหยาบโลน โจนจ้วงอย่างไม่ปรานี กอพเยียเจ็บจนน้ำตาเล็ดก่อนจะไหลลงอาบสองแก้ม แรงจูบที่แสนจะป่าเถื่อนทำให้ริมฝีปากอิ่มของนางบวมเจ่อขึ้นทันตาเห็น