วันนี้ภวินเตรียมตัวพร้อมสำหรับการไปเปิดตัวของเขากับครอบครัวของหญิงสาว ทุกอย่างต้องทำเวลามันเร่งไปหมดเพราะเขาไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว ถ้าช้าไปแม้แต่วินาทีเดียวนั่นเท่ากับว่าเขาแต่จะเสียคนรักไปตลอดชีวิตซึ่งยอมไม่ได้เด็ดขาด
“คุณภวินครับเย็นนี้ทีนัดทานข้าวกับลูกค้าคอนเฟิร์มมั้ยครับ”
“ผมไม่ว่างแล้วอ่ะคุณริช จัดการให้หน่อยได้มั้ย”
“ได้ครับท่าน”
เขาโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของเจ้านาย รีบไปเคลียร์เรื่องนัดให้เรียบร้อยจะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง และวันนี้ดูเจ้านายอารมณ์ดีเป็นพิเศษคงมีเรื่องอะไรดีๆล่ะมั่ง
“สั่งทำแหวนให้หนูเล็กใหม่ดีกว่าเผื่อแต่งงานเร็วจะได้ทันใช้”
เขายิ้มออกมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์กดส่งข้อความไปหาร้านเครื่องเพชรร้านประจำที่ชอบสั่ง เขาขอแบบหรูหราที่สุดและเพชรเม็ดงามน้ำดีเม็ดใหญ่เท่าที่จะใส่ได้ แล้วให้ช่างออกแบบสร้อยกับตุ้มหูให้เข้าชุดกันด้วย
และเมื่อเรียบร้อยทุกอย่างเขาก็ขับรถออกจากบริษัทแล้วไปรับของฝากจากร้านขนมเจ้าดังเพื่อเอาไปฝากครอบครัวของหนูเล็ก ส่วนหญิงสาวนั้นรออยู่ที่บ้านแล้ว
“คุณภวินเค้าจะมาทานข้าวที่บ้านเราช่วงไหนลูก”
“เดี๋ยวคงมาแล้วค่ะพ่อ”
“แล้วเรากับเค้าเป็นยังไงบ้าง โอเคดีขึ้นมั้ยหนูโอเครึเปล่า เค้าบังคับขู่เข็ญอะไรมั้ย”
คุณพ่อเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง แต่เท่าที่เห็นดูเหมือนว่าคนที่โดนน่าจะเป็นภวินมากกว่า ลูกสาวของเขาเห็นแบบนี้เอาเรื่องเหมือนกันนะ ไม่ยอมคนและหาคนที่จะมากดเธอลงต่ำกว่ามันยากมากถ้าเธอโดนใครทำร้ายขึ้นมาจะมีวิธีทำให้พวกเขายอมแพ้ซึ่งเขาคิดว่าเรื่องนี้หนูเล็กคงคิดดีแล้วถึงได้ยอม
“ไม่นี่คะตอนนี้ถือว่าคลั่งรักเลยนะคะพ่อ ให้ทุกอย่างยอมทุกอย่างและที่มาวันนี้น่าจะมาคุยกับคุณพ่อเรื่องที่กำลังคบหากับหนูอยู่”
“เปิดตัวเหรอ…”
“ค่ะ”
เธอยิ้มออกมาก่อนจะหยิบแจกันไปวางบนโต๊ะอาหาร คุณพ่อพยักหน้าอย่างเข้าใจและสบายใจมากขึ้นที่ภวินดูจะรักลูกสาวเขาจริงๆและพร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่าง
“ก็ดีแล้วพ่อกลัวหนูไม่มีความสุข แล้วเพื่อนเราล่ะที่มาสารภาพรักตลอดไปไหนซะแล้วช่วงนี้ไม่เห็นเลยนะหรือว่าถอดใจแล้ว”
“มาหาที่บริษัทค่ะ เขาบอกว่าทำไมมีปัญหาไม่บอกเขาจะช่วยซื้อหุ้นเอง”
“เค้านิสัยดีมากเลยนะดูรักลูกมากเลยด้วย ถ้าตอนนั้นเกิดปัญหาแล้วพ่อคุยกับลูกสักนิด ตอนนี้คนที่ซื้อหุ้นอาจจะเป็นต้นรักและลูกอาจจะ…”
คนเป็นพ่อเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด ลูกควรจะได้มีความสุขกับผู้ชายที่เธอรักไม่ใช่กับคนที่เลือกไม่ได้แบบนี้ หนูเล็กเดินมานั่งลงตรงหน้าคุณพ่อก่อนจะกุมมือท่านไว้แน่น
“ไม่ต้องคิดมากนะคะพ่อ คุณภวินเค้าก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรค่ะเพอร์เฟคทุกอย่างด้วยซ้ำ หนูไม่ได้เสียใจหรอกที่ไม่สมหวังกับต้นรัก ถ้าเราเป็นเนื้อคู่กันจริงหนูกับเค้าคงสมหวังกันนานแล้วค่ะ และถ้าคุณภวินเค้าขอหนูแต่งงานจริงเรื่องนี้หนูจะบอกต้นรักด้วยตัวเองค่ะ”
เธอยิ้มให้คุณพ่อด้วยความจริงใจไม่ได้แสร้งยิ้ม ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันคุณภวินเขาก็ดูแลเธออย่างดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ และครอบครัวของเขาก็ต้อนรับเธอเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นเธอเลือกได้ไม่ยากว่าจะอยู่กับใคร บางทีสิ่งนี้อาจจะเป็นฟ้าลิขิตนำพาให้เราสองคนมาเจอกันก็ได้…
“จะทำอะไรก็รีบทำพ่อสงสารเพื่อนเรามากกว่า รอมาตลอดแต่สุดท้ายก็ไม่สมหวัง”
“ถือซะว่าเราสองคนไม่ใช่คู่กันค่ะ”
ภวินเดินทางมาถึงที่บ้านของหนูเล็กและได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากครอบครัวของเธอ เขาสามารถเข้ากับคุณพ่อคุณแม่ของเธอได้ดีมากเข้าขากันได้ดีที่สุดซึ่งเธอก็สบายใจได้เปลาะหนึ่ง
“อาหารอร่อยมากเลยครับผมขอมาฝากท้องบ่อยๆได้มั้ยครับ”
“ได้สิ.. ภวินอยากมาตอนไหนก็มาได้เสมอ”
“ขอบคุณนะครับคุณแม่ ผมสารภาพเลยว่าการเจอกันของผมกับหนูเล็กมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากแต่ผมยอมรับผิดทุกอย่างและจะรับผิดชอบทุกอย่างที่ทำลงไป”
เขายกมือขอโทษขอโผยยกใหญ่ที่ทำอะไรไม่ดีลงไปกับลูกสาวของพวกท่าน ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่อยากทำความรู้จักแต่พอโดนปฏิเสธมันก็อดไม่ได้ที่จะอยากเอาชนะ แต่พอรู้จักกันไปบอกตามตรงว่าเขาหลงเธอมากและกลัวเหลือเกินว่าจะหายไป
“ไม่ต้องคิดมากนะ พ่อกับแม่ไม่ว่าอะไรหรอกถ้าหนูเล็กโอเคพ่อก็ตามนั้นแหละ”
“แม่ก็ด้วย”
“ขอบคุณมากนะครับที่เข้าใจ หลังจากนี้ผมจะมาที่นี่บ่อยๆนะครับแล้วก็อาจจะพาพ่อกับแม่มาทานข้าวด้วยกันที่นี่ จะได้ทำความรู้จักกันไว้”
ทุกคนพยักหน้ายิ้มๆไม่ว่าอะไรถ้าเขาอยากจะรับผิดชอบและทำทุกอย่างให้มันถูกต้องก็ถือว่าเป็นโชคดีของหนูเล็กที่จะได้เขาเป็นสามี ตระกูลของภวินร่ำรวยและมีเงินทองมากพอที่จะดูแลลูกสาวของเขาและหลานที่กำลังจะเกิดมาในอนาคตได้ ถือว่าเป็นโชคดีมากกว่าโชคร้ายนะ
“ได้เลยพ่อต้อนรับเสมอ”
หลังจากที่ทานข้าวกันสักพักใหญ่ที่บ้านก็มีแขกมาใหม่และไม่ใช่คนใกล้คนไกลที่ไหนเขาคือต้นรักที่มาพร้อมกับช่อดอกไม้เหมือนเคย และวันนี้เขาจะมาเอาคำตอบจากหญิงสาวว่าจะรับรักเขาได้หรือยัง เขาพร้อมจะแต่งงานได้เลยถ้าเธอพร้อมรอแค่โอกาสจากเธอเท่านั้น
“คุณหนูคะคุณต้นรักมารอพบที่ห้องรับแขกค่ะ”
หนูเล็กเงียบไปทันทีก่อนจะหันไปมองหน้าคุณพ่ออย่างลำบากใจ ทำไมต้องมาตอนนี้ด้วยแล้วถ้ามาเจอกับพี่ภวินรับรองว่าเรื่องใหญ่แน่นอน
“ใครเหรอต้นรัก…”
ภวินมองหน้าคนรักอย่างสงสัย เธอหันไปมองชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
“เพื่อนค่ะ งั้นหนูไปหาต้นรักแป๊บเดียวพี่ภวินอยู่ที่นี่ทานข้าวไปก่อนนะคะ”
“ตามสบายค่ะพี่อยู่กับคุณพ่อคุณแม่เนี่ยแหละ ไหนๆเพื่อนก็มาไม่ชวนมาทานข้าวด้วยกันเหรอคะ”
ภวินเอ่ยออกมาเสียงสดใสแสดงความคิดเห็นอย่างสบายอารมณ์
“เขาคงไม่กินหรอกค่ะ”
“งั้นเหรอ… ตามสบายค่ะ”
ชายหนุ่มยิ้มออกมาไม่สงสัยอะไรอีกปล่อยให้หญิงสาวออกไปเจอเพื่อนแป๊บเดียวเดี๋ยวก็คงพามาทานข้าวด้วยกันแหละไม่งั้นก็คงคุยธุระแป๊บเดียว หนูเล็กรีบเดินออกไปจากตรงนั้นจะได้คุยธุระกับเพื่อนให้จบให้เขาเข้าใจว่าเรื่องระหว่างเราสองคนมันเป็นไปไม่ได้แล้ว…