บทนำ
“เราชอบเธอนะหนูเล็ก เป็นแฟนกันนะ”
ต้นรักเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนของเธอยื่นช่อดอกไม้ให้พร้อมกับสารภาพรักและขอโอกาสที่จะได้ดูแลเธอ หญิงเล็กรับช่อดอกไม้ก่อนจะมองอย่างลังเล นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกด้วยที่เขามาสารภาพรักและเธอก็เห็นในความตั้งใจของเขามาตลอด แต่ว่าเธอยังไม่พร้อมสำหรับการมีใครในตอนนี้ เธอชอบชีวิตอิสระอยู่กับเพื่อนไม่ต้องคิดอะไรมันมีความสุขมากในเวลานี้
“ขอโทษนะต้นรักเรายังไม่พร้อมอ่ะ”
“ไม่เป็นไรแต่ว่าถ้ารอบหน้าเราขอโอกาสอีกครั้ง หนูเล็กช่วยรับรักเราได้มั้ย”
หญิงสาวมองชายหนุ่มอย่างคิดไม่ตก เอาจริงเขาก็ไม่ได้แย่อะไรหรอกนิสัยสีด้วยถ้าได้คนนี้มาดูแลเธอคงมีความสุขมาก
“ก็ได้ฉันจะลองคิดดู…”
“จริงนะสัญญาแล้วนะ”
“ไม่ได้สัญญาสักหน่อย แต่บอกว่าได้เฉยๆ”
เธอเอ่ยออกมาก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ต้นรักมองตามเธอไปจนลับสายตาก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ถ้าเขาสารภาพรักกับเธอครั้งหน้ามันจะต้องสำเร็จและความพยายามของเขาที่มีต่อเธอมาตลอดในตอนนี้หนูเล็กมองเห็นมันแล้ว
และเมื่อมาถึงในบ้านเธอก็วางช่อดอกไม้ให้คุณแม่ที่ตอนนี้กำลังจัดแจกันอยู่ ท่านมองช่อดอกไม้นั้นก่อนจะเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มกว้าง
“มาอีกแล้วเหรอ”
“ค่ะแม่ จริงๆต้นรักเค้าด็ดีนะคะแต่ว่าหนูเล็กก็ไม่ได้รู้สึกอยากรักอ่ะ หรือเพราะว่าเป็นเพื่อนกันมานานล่ะมั่ง”
“คงงั้นแหละ เป็นเพื่อนกันมานานมากจะให้เปลี่ยนความรู้สึกมันคงยาก หนูก็ค่อยๆดูไปถ้าไม่รักไม่ชอบก็ไม่ต้องรับรักหรอก หนูเองนั่นแหละที่จะไม่มีความสุข”
หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยรับฟังคำแนะนำของคุณแม่อย่างตั้งใจ เธอก็คิดแบบนั้นแหละแล้วจะไม่ฝืนความรู้สึกของตัวเองด้วย
“ค่ะแม่ งั้นหนูไปแต่งตัวก่อนนะคะวันนี้นัดเพื่อนไปเที่ยวกัน”
“จ้ะ ไม่ไปช่วยงานพ่อบ้างล่ะเราก็เรียนจบมาสักพักแล้วนะ พ่อดูเหนื่อยคงอยากให้หนูไปดูแลธุรกิจต่อ”
หญิงสาวเงียบไปอย่างไม่รู้จะให้คำตอบยังไงดี เธอยังไม่อยากทำงานยังอยากสนุกอยู่กับเพื่อนอยู่เลย เอาจริงก็ถือว่าเป็นเด็กเกเรมากเลยนะแต่ทำไงได้ก็เธอสบายมาตลอดไม่เคยทำงานให้ลำบาก ขอเวลาอีกหน่อยแล้วกันแล้วจะทำใจไปช่วยท่านทำงานบ้าง
“ยังไม่พร้อมค่ะขอเวลาอีกนิดหนึ่ง”
“ขอเวลาอีกแล้ว… เฮ้อ!”
ทางด้านของคุณดาพงศ์เขาเอาเอกสารมาเสนอบริษัทไพบูลย์นิภัคเพื่อขอให้เขาซื้อหุ้นบริษัทเพื่อต่อชีวิตของสุขสิริกุล เขาถูกเพื่อนหักหลังแถมยังถอนหุ้นออกไปหมดจนตอนนี้เงินทุนหมุนเวียนไม่พอและอาจจะถึงขั้นล้มละลายได้ถ้าเกิดว่าเขาหาเงินมาทดแทนไม่ได้
“นี่เอกสารครับ คุณช่วยบอกท่านประธานให้พิจารณาหน่อยนะครับ นี่เป็นความหวังเดียวของบริษัทเราเลยนะครับ คนเป็นร้อยชีวิตช่วยผมด้วยนะครับ”
“ผมจะเอาเอกสารนี้ไปให้ท่านประธานนะแต่ไม่รับปากว่าจะช่วยได้”
ผู้ช่วยของท่านประธานหรือคุณริชเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงลำบากใจมาก ท่านประธานเป็นประเภทที่ไม่ชอบลงทุนกับบริษัทอื่นซะด้วยโดยเฉพาะบริษัทที่มีปัญหามันยากที่จะฟื้นกิจการกลับมา และเท่าที่สืบดูเหมือนว่าจะมีปัญหาเพราะถูกเพื่อนโกงแล้วก็ถอนหุ้นออกไปจึงทำให้มีเงินหมุนเวียนไม่พอ แต่บริษัทก็ไปได้ดีนะเพียงแต่ว่าเพิ่งมาสะดุดเพราะความไว้ใจเนี่ยแหละ
“ขอบคุณนะครับคุณริช แต่คุณช่วยคุยให้แค่นี้ก็ดีมากแล้วครับ”
คุณดาพงศ์ยิ้มออกมาอย่างมีความหวังก่อนจะนั่งลุ้นว่าท่านประธานจะให้คำตอบยังไง ผู้ช่วยของภวินเดินเข้ามาข้างในห้องของท่านประธานก่อนจะยื่นเอกสารสำคัญไปให้เขา ชายหนุ่มเห็นก็วางลงตามเดิมก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
“ไม่เอาอ่ะไม่ชอบลงทุนกับกิจการที่มีปัญหา เอาคืนไปเถอะ”
“ท่านจะไม่อ่านหน่อยเหรอครับ”
“ไม่เอาอ่ะ เอาคืนไป”
ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงเด็ดขาดก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทันที และคุณริชก็มาบอกข่าวร้ายกับคุณดาพงศ์ เขาเดินคอตกถือเอกสารกลับบริษัทไปด้วยความผิดหวัง ไม่รู้ว่าจะเอายังไงต่อดีกับเรื่องนี้ ถ้าบริษัทไปต่อไม่ได้และเขาล้มละลายขึ้นมาลูกสาวกับภรรยาจะอยู่ยังไง
ช่วงค่ำหนูเล็กนั่งดื่มชิวๆกับแก๊งเพื่อนในร้านสุดหรูและอีกโต๊ะภวินก็นั่งดื่มกับเพื่อนเช่นกัน เขากวาดสายตาไปโดยรอบอย่างเบื่อหน่ายเพราะช่วงนี้ชีวิตไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นเลย
“นั่นใครอ่ะ”
เขาเห็นสาวสวยคนหนึ่งก็รู้สึกถูกใจเพราะว่าสวยและมีเสน่ห์มาก ทุกอิริยาบถของเธอทำให้เขาอยากจะรู้จักมากขึ้น
“ทำไมสนใจเหรอ…”
“อืม ใครล่ะ”
“รู้สึกว่าจะชื่อหนูเล็กมั่งเพื่อนของแฟนฉันเองแหละ โสดนะไม่มีแฟน”
“งั้นเหรอ… เอาเบอร์มาให้หน่อยฉันอยากคุยกับเธอ”
เขายกไวน์ขึ้นดื่มก่อนจะมองหญิงสาวอย่างไม่วางตา เพื่อนของเขาที่เป็นเจ้าของร้านมองไปทางนั้นก่อนจะส่ายหน้าทันที
“ไม่มีเบอร์อ่ะแล้วเคยขอให้คนอื่นแล้วแต่ว่าไม่ได้เธอไม่ให้ แกอยากได้ก็ไปขอเองแล้วกันระดับคุณภวินเจ้าของโรมแรมที่มีสาขาทั่วประเทศร่ำรวยขนาดนี้คงไม่ถูกปฏิเสธหรอก”
เขายิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย และมันคือความจริงที่คนอย่างเขาอยากได้ใครแล้วก็ต้องได้ไม่เคยมีใครปฏิเสธ และผู้หญิงคนนี้ก็คงเหมือนคนอื่นทั่วไปที่ชอบคนร่ำรวยแบบเขา
“ได้… ฉันไปขอเอง”
เขาถือแก้วไวน์เดินตามเธอออกไปเพราะดูเหมือนว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ใช้เวลารอเธออยู่สักพักก็เดินออกมา เขาขยับออกไปยืนขวางเธอไว้ก่อนจะมองจ้องหน้าอย่างไม่บิดบัง
“มีอะไรรึเปล่าคะ…”
“ผมภวิน.. พอดีว่าสนใจคุณก็เลยอยากจะทำความรู้จัก”
“แต่ฉันไม่อยากรู้จักคุณค่ะ”
เธอเอ่ยออกมาตามตรงแล้วก็ไม่สนใจด้วยว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหน ก็คนมันไม่ได้ชอบและไม่ได้สนใจก็เลยคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะสานสัมพันธ์ ชายหนุ่มอึ้งไปทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เจอผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเลยแล้วเธอเป็นใครถึงกล้ามาหักหน้าเขาแบบนี้
“แต่ผมอยากรู้จักคุณไง… ขอเบอร์ติดต่อหน่อยสิ”
“ไม่ให้แล้วก็ไม่อยากรู้จัก ขอตัวนะคะ”
เธอเอ่ยออกมาด้วยความรำคาญก่อนจะเดินผ่านเขาไปอย่างไม่ใยดี ภวินพ่นลมหายใจออกมาอย่างระบายอารมณ์รู้สึกว่าตัวเองเสียหน้ามากก็วันนี้แหละ แบล็คที่ได้ยินก็เดินเข้ามาหาเพื่อนทันทีก่อนจะตบบ่าอย่างปลอบใจ
“แกตัดใจเถอะฉันบอกแล้วไงว่ายาก”
เขามองตามเธอไปด้วยสายตาที่เดาความรู้สึกไม่ออก เราไม่สนใจว่าเธอจะอยากรู้จักเขาหรือไม่แต่ถ้าเขาจะอยากรู้จักเธอยังไงก็ต้องสำเร็จและเขาจะทำให้เธอปฏิเสธไม่ได้
“แกดูไว้นะไอ้แบล็ค ฉันจะเอายัยนี่มาเป็นเมียให้ได้เลยคอยดู!”