ตลอดเวลาภวินนั่งคุยกับเพื่อนแต่สายตามองหญิงสาวตลอดและคอยเอาอกเอาใจสารพัดจนเพื่อนๆมองอย่างเหลือเชื่อไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะกลายเป็นแมวเชื่องๆกับผู้หญิงเพียงคนเดียว
“หนูหนาวค่ะ”
“ใส่เสื้อพี่มั้ยเดี๋ยวถอดให้”
เขาถอดชุดคลุมข้างนอกออกแล้วเอามาสวมให้หญิงสาวจะได้ไม่บ่นหนาว เธอกอดเสื้อของชายหนุ่มเพื่อหาไออุ่นก่อนจะกอดเอวเขาไว้หลวมๆ ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเพื่อนสนิทซึ่งมีแต่คำถามเต็มไปหมดแต่ยังไม่มีใครกล้าถามเพราะว่าเกรงใจหญิงสาวข้างกาย
“ไปห้องน้ำดีกว่า เพียวเร่ไปห้องน้ำกัน”
“อืม ไปสิ”
สองสาวจับมือกันเดินออกไปห้องน้ำ คล้อยหลังทั้งสองคนออกไปเพื่อนของภวินก็เอ่ยถามด้วยความใคร่รู้
“เล่ามาเดี๋ยวนี้แกใช้วิธีอะไรถึงได้เอาชนะใจหนูเล็กได้”
“นั่นดิฉันจีบตั้งนานยังไม่ได้เลย”
ภวินยกเหล้าขึ้นดื่มก่อนจะวางแก้วลงแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่ทำหน้าทำตาอยากรู้จนตัวสั่น เขาหลุดขำออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
“ก็ใช้เล่ห์กลนิดหน่อยบอกไม่ได้นะ”
“เหยด! ใช้ได้วะแกเนี่ย”
“เออ… มันประกาศวันนั้นว่าจะทำให้น้องหนูเล็กเป็นของมันให้ได้ ใครจะคิดว่ามันทำได้จริงล่ะ”
ทุกคนยิ้มออกมาก่อนจะยกนิ้วให้ชายหนุ่ม เผลอๆถ้าพวกมันรู้ว่าเขาใช้วิธีไหนได้หนูเล็กมาคงไม่พ้นโดนด่าว่าเลวทรามต่ำช้าแน่นอน
“ไม่ต้องชมๆ”
เขายิ้มออกมาอย่างภูมิใจก่อนจะชวนเพื่อนดื่มต่อโดยใช้เวลาไม่นานหนูเล็กและเพียวเร่ก็เข้ามาในห้องนั่งคุยกับคนอื่นๆต่อ เธอรู้สึกเริ่มร้อนก็เลยถอดเสื้อคลุมออกและเพียวเร่เพิ่งสังเกตนาฬิกาที่เพื่อนใส่ มันเป็นแบรนด์ดังตัวหายากและสีพิเศษอีกด้วย
“นาฬิกาที่เราดูด้วยกันใช่มั้ย ไหนแกบอกว่าแพงไปไงทำไมถึงซื้อ อร๊ายยย สวยมาก”
เพียวเร่ดึงข้อมือเพื่อนมาดูด้วยความอิจฉา เธอเหลือบสายตามองภวินเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
“ไม่ได้ซื้อเองนี่คุณภวินเค้าซื้อให้ต่างหาก”
“ห๊ะ! พี่ภวินเนี่ยนะ”
“อื้ม นาฬิกาเรือนนี้แล้วก็ไม่ใช่แค่นั้นนะยังมีรถอีกด้วยถอยมาได้ไม่นานเองใช่มั้ยคะ”
ภวินที่กำลังดื่มน้ำถึงกับสำลักเมื่ออยู่ๆหญิงสาวก็มาอวดคนอื่นๆ
“แค่กๆ”
“โหยยยยย ป๋าภวินสายเปย์วะ”
“เกิดมาเพิ่งเคยเห็นมันเปย์สาวหนักมากขนาดนี้ นาฬิกาเรือนนั้นไม่ต่ำกว่าสิบล้านสุดมาก”
“นับถือครับอาจารย์”
ทุกคนมองเขาอย่างทึ่งสุดๆ ภวินถึงกับทำหน้าไม่ถูกรู้สึกว่าถูกเพื่อนแซวหนักมาก เขากุมขมับเล็กน้อยก่อนจะเหลือบสายตามองหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังโม้สนุกอยู่กับเพื่อน
“อิจฉามากแกนี่โชคดีสุดๆ”
หลังจากที่ใช้เวลาอยู่ที่ร้านนานพอสมควรทั้งสองคนก็พากันเดินทางกลับมาที่บ้าน หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดนอนโดยที่ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังไดร์ผมให้เธออยู่
“ผมแห้งช้ามากเลย”
“ก็มันยาวนี่คะเลยแห้งช้า ว่าแต่ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่ยังไม่เคยเจอครอบครัวของคุณเลยค่ะ”
“หมายถึงพ่อกับแม่พี่เหรอ”
เขาเอ่ยถามก่อนจะหวีผมให้เธอแผ่วเบา หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยเธอไม่เคยเห็นพ่อกับแม่เขามาหาที่นี่เลยเห็นบอกว่าอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ก็เลยคิดว่ามีอะไรกันรึเปล่า
“ค่ะ ไม่เห็นพี่ไปหาเลย”
“ว่าจะไปพรุ่งนี้แหละ ไปด้วยกันมั้ยล่ะ”
เขาเอ่ยชวนหญิงสาวให้ไปเจอคุณพ่อกับคุณแม่ด้วยกัน พวกท่านใจดีจะตายและถ้าเจอหนูเล็กน่าจะชอบได้ไม่ยากด้วยบุคลิกลักษณะนิสัยแบบนี้คุณแม่ของเขาชอบมาก
“จะดีเหรอคะ…”
“ไม่เห็นเป็นไรนี่ไปด้วยกันสิ พ่อกับแม่พี่ใจดีนะ”
“งั้นเหรอคะ… งั้นไปค่ะ”
“อืม พรุ่งนี้เช้าเลยนะไปอยู่กับท่านนานๆหน่อยโทรมาบ่นเหงาแล้ว แต่งตัวสวยๆนะแม่พี่ชอบคนสวย”
เขายิ้มออกมาก่อนจะเก็บของไว้ในลิ้นชักจากนั้นก็อุ้มหญิงสาวไปนอนลงบนเตียงนอน วันนี้เหนื่อยมากเพราะออกไปเที่ยวด้วยกันนานหลายชั่วโมง คงต้องพักผ่อนก่อนแล้วพรุ่งนี้เช้าจะได้ตื่นมาไปเยี่ยมที่บ้านของเขา
เช้าวันต่อมา….
หนูเล็กในชุดเดรสบาร์บี้น่ารักสมวัยเดินเคียงข้างชายหนุ่มไปพร้อมกับของฝากคุณพ่อคุณแม่ของภวิน เธอตื่นเต้นมากที่จะได้เจอครอบครัวของเขาและลุ้นมากว่าพวกท่านจะชอบเธอมั้ย และเมื่อมาถึงเธอก็ยกมือไหว้ทักทายทุกคนที่เจอรวมถึงแม่บ้านทั้งหลายซึ่งเธอไหว้หมด
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีค่ะแฟนคุณภวินเหรอคะน่ารักเชียวนะคะ”
“ครับป้า แล้วนี่พ่อกับแม่ไปไหนหมด ผมโทรบอกแล้วนะว่าจะมาหา”
เขามองหาคุณพ่อกับคุณแม่แต่เหมือนจะได้ยินเสียงคุยกันมาจากในห้องรับแขกก็เลยคิดว่าคงจะอยู่ที่นั่นแหละ
“ในห้องรับแขกค่ะคุณภวิน เชิญเลยค่ะเดี๋ยวป้าเอาของว่างไปให้”
เขาพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะควงแขนหญิงคนรักพากันเดินเข้าไปในห้องรับแขกและเมื่อมาถึงหนูเล็กก็มองทุกคนก่อนจะยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับพ่อ แม่”
“เจ้าภวินหายหน้าหายตาเลยนะแล้วนี่พาใครมาด้วยล่ะน่ารักเชียว”
“สวัสดีค่ะ หนูเล็กค่ะ”
“สวัสดีจ้ะหนูเล็กน่ารักน่าชังเชียวมานี่สิมานั่งตรงนี้กับแม่”
ท่านผายมือเชิญให้เธอไปนั่งใกล้ๆ หนูเล็กเหลือบสายตามองชายหนุ่มอย่างขอความเห็นเขาพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงโอเค เธอยิ้มให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนก่อนจะขยับเข้าไปนั่งลงใกล้ๆ
“เป็นอะไรกับลูกชายแม่เหรอ…”
“เอ่อ คือว่า…”
เธออ้ำอึ้งไม่กล้าตอบอะไรเพราะตอนนี้เขาก็ไม่ได้ให้สถานะอะไรกับเธอด้วยซ้ำ อยู่ด้วยกันแบบนี้แบบไร้สถานะเธอจึงไม่กล้าบอกใครต่อใครว่าเราสองคนอยู่ด้วยกันแบบไหน หญิงสาวเหลือบสายตามองชายหนุ่มแต่เขาก็ไม่ตอบอะไรแทนเธอ
“เป็นเพื่อนกันค่ะ”
“งั้นเหรอ…”
คุณแม่หันไปมองลูกชายอย่างขอคำตอบ เธอมั่นใจว่าไม่ใช่แค่เพื่อนแน่นอนเพราะสายตาที่ลูกชายมองมันไม่ใช่แค่เพื่อนแน่ คุณแม่หันไปมองหญิงสาวก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
“หนูกินอะไรมาหรือยังจ๊ะ”
“ยังเลยค่ะหิ้วหิว”
คุณแม่ยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะลุกขึ้นพาหญิงสาวไปกินข้าวเช้าในห้องอาหาร คุณพ่อและลูกชายตัวดีเดินตามมาติดๆทั้งสี่คนรับประทานอาหารร่วมกันทำความรู้จักกันมากยิ่งขึ้น เมื่อรับประทานอาหารเรียบร้อยหนูเล็กก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำส่วนคนอื่นๆเดินทางมานั่งเล่นที่ห้องรับแขกตามเดิม
“ตกลงมันยังไงเด็กคนนี้เป็นใครไม่ใช่เพื่อนแน่นอน”
“เพื่อนอะไรจะเด็กขนาดนั้นครับแม่ ก็คบกันนั่นแหละว่าแต่แม่ชอบมั้ยครับ”
“น่ารักดีคุยด้วยแล้วสบายใจ แม่ชอบคนนี้นะดีกว่าคนที่ไปเรียนต่างประเทศเป็นไหนๆ ว่าแต่แกเลิกกับแม่คนนั้นแล้วใช่มั้ยแม่ไม่โอเคเลยนะไม่ชอบมาก”
คุณแม่เอ่ยออกมาอย่างอารมณ์เสียเมื่อนึกไปถึงแฟนคนก่อนของลูกชาย นิสัยแย่มากไม่ได้เรื่องมาที่นี่แต่เจ้ากี้เจ้าการทุกอย่างจนเธอรำคาญ
“ยังไม่ได้เลิกเลยครับแม่”
“อะไรนะ! นี่แกยังคบอีกเหรอแล้วหนูเล็กล่ะถ้ารู้จะทำยังไง แกนี่นะเดี๋ยวเสียคนดีๆไปก็เป็นเรื่องหรอก”
คุณแม่บ่นออกมาทันที คนนี้ดีกว่าคนก่อนเป็นไหนๆถ้าไม่เลือกก็โง่เต็มทีแล้ว
“ใจเย็นสิครับแม่ ผมจับได้นานแล้วว่าเธอคบนายแบบอยู่ที่นู้นแต่ยังไม่มีโอกาสได้คุยเลย ยังไงก็เลิกแน่นอนครับมาถึงขนาดนี้แล้ว อีกอย่างผมรักหนูเล็กคนเดียวครับแม่ไม่ต้องห่วง”
“ก็รีบเคลียร์เดี๋ยวมีปัญหาตามมาจะยุ่งเอา”
“ครับแม่… ไม่ต้องห่วงนะผมจัดการได้แน่นอน”