“ฉันขอห้าแสนได้ไหมคะ”
“ว่าไงนะ...เหอะ อัพค่าตัวจริงๆด้วยสินะ” ศิลาแค่นหัวเราะออกมาอย่างดูถูก หญิงสาวแม้จะปวดใจแต่ต่อให้เธออยากจะหนีเขาคงไม่ยอมสู้ให้เขาจ่ายในราคาที่สมควรเสียดีกว่า บางทีเธออาจะมีสิทธิ์รอดเพราะราคาสูงมาก...เขาไม่ยอม
“ได้...” ร่างสูงหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะกดโอนเงินเข้าบัญชีของหญิงสาวทันที ปกติแล้วหากมีงานแบบนี้มาทางคลับอนุญาตให้พนักงานให้บัญชีส่วนตัวกับลูกค้าได้เพื่อโอนทิปส่วนที่พวกเธอจะได้รับเต็มๆจากแขกเมื่อแขกประทับใจ
ไม่นานนักเสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ของหญิงสาวก็ดังขึ้น น้ำอิงมองไปที่โทรศัพท์ของแขกหนุ่มก่อนจะเห็นสลิปชื่อบัญชีของตัวเองขึ้นหรา เขาจ่ายให้เธอห้าแสนจริงๆด้วย
“...”
“เอาล่ะต่อไปเธอก็เป็นของฉันแล้ว งั้นตอนนี้บอกมาพ่อฉันอยู่ไหน”
น้ำอิงมองเขาด้วยความงุนงง คิดว่าวันนี้เขาเพียงอยากจะมาความสุขทางกายเท่านั้นไม่ใช่เหรอเขามาถามทำถามอะไร เธอไม่เข้าใจ
“ฉันจะไปรู้ได้ไงคะ โอ๊ย!” ข้อมือเล็กๆถูกเขาบีบแน่น
“เลิกตอแหลได้แล้ว เงินก็ได้ไปแล้วบอกมากเอาไอ้แก่นั่นไปซ่อนไว้ไหน”
“ฉันไม่รู้ อื้อ ฉันไม่รู้จริงๆ” เนินอกสวยถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหนา ความเปียกแฉะบังคับด้วยลิ้นร้อนที่ตวัดเกี่ยวก่อนจะขบอย่างแรงจนเธอเจ็บแปลบ
“ขอร้องล่ะ อื้อ ฉันไม่รู้จริงๆ” หญิงสาวปล่อยน้ำตาที่กลั้นมานานให้ไหลออกมาเมื่อร่างกายของเธอตอนนี้กลายเป็นของเล่นสำหรับเขา
“คิดว่าฉันเสียเงินห้าแสนให้คนอย่างเธอทำไมกันน้ำอิง ฉันไม่ได้โง่หากเธอฉลาดขึ้นอีกหน่อยเห็นแก่เงินให้น้อยลงเธอคงไม่ตกอยู่ในสภาพนี้”
น้ำอิงสะอึกพูดไม่ออก ก็จริงสองครั้งที่เธอเห็นแก่เงินเพราะแค่ทราบว่าได้เงินมากก็ยอมทำตามทุกอย่างกระทั่งหลอกตัวเองว่าตัวเองมีทางรอด หาทางรับมือได้ แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้
แกร็ก! ขณะที่หญิงสาวยังคงไม่ยอมเขาเสียงบางอย่างดังขึ้นข้างหู น้ำอิงตัวสั่นไปมองพบว่าเป็นกระบอกปืนเงาวับกำลังจ่ออยู่ที่หัวของเธอ ราวกับเห็นความตายอยู่ตรงหน้าหญิงสาวร้องไห้อ้อนวอนเขา
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ฉันตะ ตายไม่ได้ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆว่าคุณหมายถึงใคร ฉันไม่รู้จักพ่อของคุณจริงๆ อะ โอ๊ย!..” เสียงเล็กๆสั่น น่าสงสารขอร้องร้อนวอนอสูรร้ายอย่างเขา น้ำตาไหลอาบสองแก้มด้วยความกลัว ผิวเริ่มแดงเสมอกันเจ็บร้าวราวกับเขาอยากจะบีบเธอให้เธอแหลกคามือไปเลยตอนนี้ เสียงอ่อนหวานของหญิงสาวทำให้เขานึกถึงใบหน้าและเสียงกรีดร้องของคนเป็นแม่เมื่อรู้ว่าพ่อของเขาหนีไป
“ทำไมจะตายไม่ได้! ชีวิตของเธอจะมีค่าเท่าไหร่ ฉันให้ห้าแสนมันก็มากพอที่คนอย่างเธอยอมทำได้ทุกอย่างไม่ใช่หรือ” เขาก้มลงกระซิบข้างหูของหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าความโกรธจัดทำเขาเกือบจะควบคุมสติไม่อยู่ ทั้งยังใบหน้างามและเรือนร่างอรชรกำลังนอนอวดรอเขา
ติ่งๆๆๆ เสียงโทรศัพท์ของน้ำอิงดังขึ้น ศิลารัตน์ขมวดคิ้วมองหาว่าเสียงดังมาจากตรงไหน ก่อนสายตาคมจะไปสะดุดแสบวาบที่ถูกชุดของหญิงสาวทับอยู่ เขาหยิบโทรศัพท์เก่าๆออกมาพบว่าเป็นแจ้งเตือนจากโรงพยาบาล ทว่าสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มสนใจกลับไม่ใช่เรื่องข้อความแต่กลับเป็นรูปใครบางคนที่หญิงสาวตั้งเอาไว้บนหน้าจอต่างหาก ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกหน้าสมเพชเกือบจะเชื่อแล้วว่าเธอไม่รู้จักพ่อของเขาหากไม่เห็นว่าหญิงสาวตั้งรูปของตัวเขาเองเป็นวอลเปเปอร์โทรศัพท์ คิดไปว่าเป้าหมายที่แท้จริงของน้ำอิงคือเขา
“อย่ายุ่งนะนั่นมัน นั่นของฉัน!”
“เหอะ! เธอนี่มัน...ชั่วช้าสารเลว ที่เข้ามาหาพ่อฉันก็เพื่อแบบนี้เองนะเหรอ.... ยอมพลีกายให้ไอ้แก่นั่นเพียงเพื่ออยากจับฉันอย่างนั้นสิ อื้มอยากได้ผัวรวยๆนักใช่มั้ย...ได้สิฉันคิดว่าจะให้ทานสักครั้ง...”
คำพูดชั่วช้าที่ออกจากปากของคนที่หญิงสาวแอบหลงรัก เป็นชายในฝัน มาตลอดทำเอาเธอจุกในอกพูดไม่ออก อยู่ๆเขาก็เดินเข้ามาด่าทอด้วยคำหยาบคายหลายสิบคำ ทั้งยังจะรังแกเธอด้วยแรงของบุรุษที่ยากจะต่อกลอนอีก เขามันไอ้คนชั่วช้าสารเลว
“คนสารเลว...”
“ปากเก่ง”
ไร้เรี่ยวแรงขัดขืนจึงถูกเขากระชากเพนตี้น้อยออกจากร่างในคราวเดียวจนตะเข็บบาดผิวเลือดซิบ เขาขึ้นคร่อมนั่งทับเธอเอาไวก่อนจะไม่ปล่อยมือสองข้างของเธอให้เป็นอิสระ เขาใช้เนคไทของตัวเองพันธนาการเธอเอาไว้ก่อนจะจัดการ ชิมผลพวงจากเงินห้าแสนที่เขาเสียไปในทันทีอยากรู้ว่ามันจะหวานสมราคาหรือคาวจนอยากจะอ้วก
ไม่อยากจะยอมรับ แต่รสชาติของเงินนั้นมันหอมหวานจริงๆตอนที่เขาโอนเงินเข้ามาในบัญชีของเธอราวได้เห็นโอกาสที่จะต่อชีวิตของแม่เธอได้อีกครั้ง
‘คุณแม่ของคุณต้องได้รับการผ่าตัดเนื้องอกสมองครับ อาการปวดหัวจึงจะมีโอกาสหายขาด หากปล่อยไว้ก็อาจจะมีอาการจะแย่ลง และเส้นเลือดที่อยู่รอบๆเนื้องอกก็มีโอกาสตีบหรือโป่งพองได้ ต้องประเมินตามนัด ลองกลับไปคิดดูเรื่องการผ่าตัดนะครับ’
คำพูดของหมอที่ติดค้างอยู่ในสมองก็แล่นขึ้นมาอีกรอบ เหตุผลที่เธอต้องมาอยู่ที่นี่ นั่นคือเหตุผลที่เธอรับงานทำแทบจะครบเวลา24ชม.ของคนปกติ เพียงเพราะอยากรักษาแม่ที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล
“เดี๋ยวค่ะ..” น้ำอิงเอ่ยเสียงสั่นหยุดชายหนุ่มที่กำลังยุ่งอยู่กับเนินอกของเธออย่างหิวกระหาย เขาชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง
“...ฉันยอมแล้ว ฉันยอมทุกอย่าง”
“หึ…ฉันจะให้เธอได้ลิ้มลองของสูง รสชาติของฉันก็ดีไม่แพ้พ่อของฉันหรอกนะ โสเภณีชั้นต่ำ”
แต่ละคำเสียดแทงหัวใจของหญิงสาวผู้โชคร้ายที่ถูกชะตาเล่นตลก เขาลุกขึ้นปล่อยให้เธอเป็นอิสระก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปชำระร่างกาย หญิงสาวเองก็คงต้องทำเช่นกัน เมื่อน้ำอิงจัดการตัวเองเสร็จเธอได้กลับมาหาเขาที่นั่งรออยู่บนเตียงแล้ว
ท่าทางเทพบุตรหนุ่มที่จิบไวน์ราคาแพงมองเธอกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ใบหน้าคมเข้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะคงกระดกแอลกอฮอล์เข้าไปไม่น้อยเช่นกันตอนที่นั่งรอหญิงสาวจัดการตัวเองเสร็จ
“มานี่” คำพูดแกมบังคับเอ่ยขึ้น ร่างบอบบางในชุดคลุมอาบน้ำเดินก้าวเข้าไปหา ก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้างๆแขกหนุ่ม
“ฉะ ฉันต้องทำอะไรบ้างคะ”
ชายหนุ่มมองหน้าเธอด้วยสีหน้าเป็นคำถาม “ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่” เขาว่าพลางถอดชุดคลุมของตัวเองออก
เป็นครั้งแรกที่น้ำอิงได้เห็นร่างกายของบุรุษเพศผู้ด้วยตาของตัวเองชัดๆ ร่างกำยำสมชายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและไรขนน้อยๆที่ขึ้นตามแผงอก ทำเอาหญิงสาวมือไม้สั่นยิ่งกว่าเดิมไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน เธอจึงเริ่มจากจัดการตัวเอง
น้ำอิงถอดผ้าคลุมของเธอออกบ้างแล้วปีนกลับขึ้นเตียงไปนั่งด้วยท่าคุกเข่าต่อหน้าเขา มือเล็กลูบไล้ไปทั่วบริเวณแผงอกเรื่อยมาจนมาหยุดที่หน้าท้องก่อนจะชะงักไปครู่หนึ่ง มังกรที่หลับใหลเมื่อครู่เริ่มผงาดชูชันขึ้นมา หญิงสาวสูบหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะกลั้นใจกำแท่งเอ็นร้อนฉ่า จับรูดไปมาอย่างเบามือแต่มีจังหวะ ด้วยสัญชาตญาณเมื่อเนื้อด้านนอกเปิดหัวมังกรสีแดงฉ่ำโผล่ออกมาสู่โลกภายนอก ดวงหน้างามกล้ำกลืนมองดูแล้วก้มลงจัดการสิ่งนั้นด้วยริมฝีปากงามในคราวเดียว
“อ้า...” ศิลาเปล่งเสียงครางกระเส่าออกมาเบาๆเมื่อริมฝีปากอุ่นครอบลงบนเอ็นร้อนของเขาด้วยท่วงท่าที่เชื่องช้า
หญิงสาวจับแก่นกายเพศของบุรุษตรงหน้ารูดขึ้นลงด้วยปากที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำชายและน้ำสีใสแห่งความต้องการ หญิงสาวสกัดความเอียงอายเริ่มเป็นทำงานให้เหมือนมือโปรมากขึ้น น้ำอิงเริ่มจะใช้ปากคล่องขึ้น เสียงน้ำกระฉอกบนแท่งเอ็นที่ถูกเสียดสีด้วยกระพุ้งแก้มจนดวงหน้าหวาดบิดเบี้ยว เคล้าเสียงครวญครางไม่เป็นศัพท์ของชายหนุ่มผู้ถูกปรนนิบัติอย่างต่อเนื่องด้วยหญิงสาวตรงหน้าที่ถูกซื้อมาด้วยเงินก้อนใหญ่
“อ้า...น้ำอิง เธอมันนางมารร้าย อืมมมม ผ่านงานมาเยอะสินะคล่องเชียว ” ศิลาปลดปล่อยห้วงอารมณ์ วาบหวามวางมาดชายผู้เยือกเย็นสะท้านกับความอ่อนนุ่มที่กำลังครอบอยู่บนความเป็นชายของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้
ห้วงสติที่เคยลืมเลือนผุดเข้ามาในหัวชายหนุ่มอีกครั้ง ความรักในวัยเยาว์ที่เคยมีถูกเขาหลอมละลายไปกับความเคียดแค้น ทำไมต้องเป็นเธอคนนี้ที่เข้ามาทำลายชีวิตครอบครัวของเขา ผู้หญิงคนแรกที่เขาตกหลุมรัก...
...สิบห้าปีก่อน
‘นี่พี่ เป็นอะไร หลงกับพ่อแม่เหรอ’ เสียงของเด็กสาวเอ่ยทัก เด็กหนุ่มลูกครึ่งที่พึ่งย้ายมาอยู่ที่ไทยได้ไม่ถึงเดือน เขาได้ออกมาเที่ยวสวนสัตว์กับที่บ้านก่อนที่จะหลงทางเพราะมัวจะสนใจกรงสิงโตจนพลัดหลงแยกจากพ่อแม่ ชายหนุ่มที่ไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศนี้ รวมทั้งผู้คนที่เดินไปมาไม่มีใครพูดกับเขารู้เรื่องสักคน เว้นแต่เด็กน้อยคนหนึ่งที่เดินเข้ามาทักเขาด้วยเสียงอันไพเราะก่อนจะพาเขาไปส่งถึงมือพ่อกับแม่ด้วยความปลอดภัยจนเธออดเข้าไปดูการแสดงของแมวน้ำ
เสียงหวานที่เขาจำไม่เคยลืม...
จนวันนี้ 15ปีผ่านไปเขายังจำเธอคนนั้นได้ไม่เคยลืม... คนที่เป็นประทับใจแรกและคนที่เป็นคนทำลายครอบครัวของเขาทำไมถึงเป็นคนคนเดียวกันได้
ชายหนุ่มมองวงหน้าขาวเนียนที่แดงก่ำเพราะกำลังตั้งใจปรนนิบัติความใคร่อยู่ตรงหน้า ความเกลียดชังสุมอยู่ในอกเริ่มประทุอย่างช้าๆ ภาพตรงหน้าจะเป็นอย่างไรเมื่อนึกได้ว่าหญิงสาวนอนกับพ่อของเขา เขาอยากจะลืมเรื่องบ้าๆนี้แต่อีกใจก็อยากจะทำให้มันเสร็จ
เมื่อภาพที่เห็นเธอกอดกับพ่อของเขาเข้าโรงแรม ภาพที่แม่เสียใจจนเส้นเลือดในสมองแตก ภาพที่เขาเห็นพ่อเดินออกจากบ้านไปอย่างไม่แยแส ทุกอย่างมันวิ่งเข้ามากระจุกอยู่ในอกทั้งหมด ทำให้เขาเริ่มอยากจะบีบร่างเล็กๆของหญิงสาวตรงหน้านี้ให้แหลกคามือไปเลยในวันนี้
ทว่าความเกลียดชังที่ว่านั้นกลับไม่เป็นผล เพราะร่างกายมันตอบสนอง...ไม่นานนักเขาก็หลั่งน้ำใคร่สีขาวขึ้นออกมา หญิงสาวที่ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร จะคายหรือกลืน
สติบอกว่า “น้ำอิงเธอต้องมีชีวิตรอด” เธอจึงได้กลืนสิ่งนั้นเข้าไปราวกับว่ามันเป็นของกินที่รสชาติพิศวงกลิ่นคาวคละคลุ้งทำเธอเกือบจะอ้วกออกมา
“ฉันต้องทำอะไรอีกคะ” น้ำอิงเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยเสียงสั่น หวาดกลัว
ศิลากัดกรามแน่น แม้การบริการเมื่อครู่จะประทับใจเขาอยู่หน่อยๆแต่มันก็ไม่ได้ช่วยดับความแค้นในใจของเขาได้เลยสักนิด
“พอแค่นี้แหละ ฉันไม่อยากกินผู้หญิงที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อเงินแบบเธออีกแล้ว อยากจะอ้วก”
พูดจบชายหนุ่มก็ลุกจากเตียงก่อนจะเดินข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ ปล่อยคนตัวเล็กที่นั่งงุนงงกับสิ่งที่เขาทำ ก่อนหน้านี้เขาบังคับเธอแทบตายอยากจะมีอะไรกับเธอให้ได้ ตอนนี้กลับบอกจะพอแค่นี้
ไม่นานนักศิลารัตน์เดินออกมาจากห้องน้ำ เขาจับใบหน้าสวยขึ้นมองเขาแล้วยิ้มเยาะออกมาอย่างดูถูก
“ฉันขอเตือนเธอเอาไว้ อย่าได้คิดจะมายุ่งกับพ่อฉันอีก คราวต่อไปคนที่เธอจะต้องไปบำเรออาจเป็นลูกน้องฉันแทน...”
เมื่อเสียงประตูปิดลงน้ำอิงปล่อยโฮ กรีดร้องในใจเจ็บจนหัวใจปวดหนึบ เกลียดคำพูดเขาที่ดูถูกเธอ รังเกียจที่เขาข่มเหงเธอ และขยะแขยงตัวเองที่ยอมเขาเพียงเพราะอยากได้เงิน ตอนนี้ก็กลายเป็นผู้หญิงแบบที่เขาพูดไว้ไม่มีผิด น่ารังเกียจจนเถียงเขาไม่ออกสักคำ
“ชาตินี้ขออย่าให้ได้พบได้เจอกันอีกเลย... ขอบคุณที่ฉันยังมีชีวิตอยู่”