กว่าจะได้กลับมาถึงบ้านก็เกือบเช้าหญิงสาวประคองร่างของตัวเองให้เดินกลับมาด้วยสภาพของเธอราวกับคนที่มีแต่ร่างกายไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆเพราะนั่งร้องไห้อยู่ในห้องวีวีไอพีอยู่หลายชั่วโมง มองจำนวนเงินหลายแสนที่ถูกโอนเข้ามาแล้วก็ยิ่งรังเกียจตัวเอง
“กลับมาแล้วเหรอลูก” หญิงวัยกลางคนเงยหน้ามองลูกสาวที่เดินเข้ามาในบ้านขณะที่เธอพึ่งตื่นมาเตรียมของเพื่อไปขายที่ตลาดตอนเช้า
“ค่ะแม่ นี่ทำอะไรอยู่คะ” น้ำอิงยิ้มให้แม่ของเธอเพื่อปกปิดร่องรอยฟกช้ำและความอัปยศในหัวใจ
“ทำไมกลับช้านักล่ะลูก หรือที่ทำงานมีปัญหา” น้ำอิงอยากจะร้องไห้ไปฟ้องแม่ว่ามีคนใจร้ายรังแกเธอ ดูถูกเธอว่าเธอทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ถึงแม้จะเป็นตามที่เขาพูดแต่น้ำอิงก็อยากให้มีใครสักคนปลอบขวัญปลอบใจ ทว่าเมื่อมองเห็นใบหน้าขาวซีดและร่างกายที่อ่อนโรยราแล้วยิ่งไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดที่จะทำให้ไม่สบายใจ
“พอดีแขกเอาแต่ใจนิดหน่อยน่ะค่ะแม่ กว่าจะกลับไปได้เล่นเอาเหงื่อตกฮ่าๆ ว่าแต่เเม่เถอะจะออกไปขายของเหรอคะ ทำไมไม่นอนพักผ่อนอย่างที่หมอสั่ง ทำงานหนักเป็นอะไรไปอีกหนูจะอยู่กับใครคะ” น้ำอิงเปลี่ยนเรื่องก่อนเดินเข้าไปช่วยแม่ของเธอจัดของเข้ารถเข็น
“หนูบอกแล้วไงว่าไม่ต้องทำแล้วให้อยู่เฉยๆหนูจะหาเงินเลี้ยงแม่เอง”
“ก็อยู่เฉยๆมันเบื่อ แล้วแม่จะปล่อยให้ลูกสาวออกไปทำงานงกๆออกจากบ้านเช้าตรู่กว่าจะกลับก็ดึกดื่นแบบนี้คนเดียวได้ยังไง”
“หนูบอกแล้วไงคะว่าไม่ต้องห่วงเรื่องนี้...แล้วนี่น้องไปไหนคะ”
“อยู่ในบ้าน ทำอะไรช่วยแม่เสร็จก็กลับเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวจะไปโรงเรียนละ เดี๋ยวเดินออกไปพร้อมแม่นี่แหละ”
“พ่อละคะ”
“อยู่ในบ้านนั่นแหละเมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วตอนนี้ยังหลับอยู่...” หญิงชราส่งยิ้มให้ลูกสาวที่มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
วันนี้กลับบ้านมาเกือบเช้าเลยสงสัยงานที่คลับคงเยอะ ทุกวันนี้ลูกสาวของเธอทำงานแทบนับเวลานอนได้ไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ ตั้งแต่เธอป่วยเข้าโรงพยาบาลครั้งนั้น เธอก็สังเกตเห็นว่าลูกสาวเอาแต่ทำงานไม่ยอมหยุดหย่อน จึงได้คิดไปต่างๆว่าตัวเองอาจเป็นภาระให้ลูกสาว วันนี้จึงได้ตื่นแต่เช้าลุกขึ้นมาทำกับข้าวออกไปขายที่ตลาด
“บอกแล้วไง ไม่ต้องๆเดี๋ยวแม่ทำเอง เราเข้าไปอาบน้ำอาบท่าเถอะไป กับข้าวแม่ทำไวให้ในครัวนะกินแล้วก็นอนซะ ดูซะผอมโซจนแทบดูไม่ได้แล้ว” นุชบอกลูกสาวของตนเสร็จทั้งสองคนก็ต้องหันไปทางห้องครัวพร้อมกันเพราะมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น
“พ่ออย่าทำผม!!!” น้ำอิงรีบวิ่งเข้าไปกอดน้องชายของเธอที่ถูกพ่อถีบจนล้มนอนกับพื้น ขณะนั่งทานข้าวอยู่
หนุ่มน้อยวัย 15 ปี ที่อยู่ในวัยกำลังสดใสกลับต้องมาพบเจอความรุนแรงของครอบครัว ทั้งยังต้องเป็นที่รองรับอารมณ์ของพ่อขี้เมาเวลาทำอะไรไม่ได้ดั่งใจอีกด้วย น้ำอิงรีบวิ่งเข้าไปเอาตัวบังน้องชายจากพ่อที่กำลังจะฟาดฝ่ามือลงไป
“พ่อ! อย่า!! หยุดเถอะนะหนูขอร้อง” เธอกอดน้องชายของตัวเองที่นั่งร้องไห้ทั้งๆที่ข้าวยังเต็มปากอยู่ด้วยความสงสารจับใจ
“ก็มันเกะกะขวางทางข้า ออกไปอีอิงอย่ามายุ่ง” ชายขี้เมาจะเข้าตีลูกสาวของตัวเองซ้ำแต่ทว่านุช ผู้เป็นแม่ได้เข้ามาขวางไว้จึงถูกทำร้ายแทนอีกครั้ง
“แม่!” น้ำอิงรีบลุกไปดูแม่ของเธอที่ล้มลงทันที ยังไม่หนำใจของคนใจร้ายเขายังจะเข้าไปทำร้ายภรรยาของเขาเพิ่มอีกที่กล้ามาขัดใจเขา
“พ่อ! พ่อหยุดๆอะนี่หนูให้พ่อหมดเลย แล้วเลิกตีน้องกับแม่เถอะนะ หนูขอร้อง....” น้ำอิงยื่นเงินสกปรกที่เธอหามาได้ให้พ่อไปจำนวนหนึ่งมันมากพอที่จะทำให้พ่อหายออกจากบ้านไปนานเป็นอาทิตย์ได้เพื่อไปกินนอนอยู่ที่บ่อน
“โอ้....ได้มาหลายหมื่นเลยนี่ เริ่มฉลาดขึ้นแล้วสินะลูกพ่อ...นี่ฉันบอกแกแล้วไงเห็นมั้ยว่าให้ทำตั้งแต่แรกก็ไม่เชื่อ กะอีแค่เปลืองตัวนิดๆหน่อยๆไม่เห็นเป็นอะไร นี่อะไรทนทำงานเสิร์ฟกิ๊กก๊อกอยู่ได้ วันละสามสี่ร้อยมันจะไปพอยาไส้อะไร ศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้หรอกนะลูกสาวคนสวยของพ่อ...ฮ่าๆ” ชายขี้เมาเอ่ยสอนลูกของตนเพื่อชี้ทางให้เขาสบายขึ้นโดยไม่สนใจความรู้สึกของลูกตัวเองเลย
คำพูดบีบหัวใจคนเป็นลูกออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำอิงได้แต่ยืนนิ่งกำมือแน่น รู้สึกราวกับว่าคำดูถูกเหยียบหยามที่เธอพึ่งได้รับจากชายที่พึ่งข่มเหงเธอยังไม่รุนแรง เสียดแทงหัวใจเท่าคำพูดของคนเป็นพ่อเธอเลยสักนิด เธอเกลียดเขาจริงๆ...
“น้ำอิง ไม่จริงใช่มั้ยลูก”
หลังจากที่ได้ยินนุชเอ่ยถามลูกสาว ก็จริงอย่างที่สามีของเธอว่า ปกติงานของลูกสาวเสร็จแค่ตี2ก็กลับแล้ว แต่นี้ลูกสาวเธออยู่ยันเช้า มันน่าแปลกจริงๆและหากลูกสาวคนเดียวที่เธอเฝ้าถนอมมาตลอดต้องไปเปลืองเรือนร่างหาเงินมาให้เธอเองก็คงทนไม่ได้เช่นกัน
“ไม่จริงหรอกค่ะแม่ หนูจะทำอะไรแบบนั้นไปทำไมละคะ” น้ำอิงยิ้มให้คนเป็นแม่ที่ทำสีหน้าโล่งใจ
“ดีแล้วพี่อิง อย่าทำแบบที่พ่อว่าเด็ดขาดเลยนะ พี่กับแม่ทนอีกนิดรอผมโตเรียนจบผมจะดูแลพี่กับแม่ให้สุขสบายเอง พี่อิงจะได้ไม่ต้องลำบากทำงานยันสว่างแบบนี้อีก”
“อื้ม พี่จะรอนะ” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยกับน้องชาย หญิงสาวโผเข้ากอดแม่กับน้องชายก่อนจะฝืนกลั้นน้ำตาเอาไว้สุดชีวิตไม่อยากจะปล่อยความอ่อนแอออกมาต่อหน้าบุคคลอันเป็นที่รักทั้งสองเมื่อคิดถึงความอัปยศที่เธอพึ่งกระทำลงไป
น้ำอิงได้แต่สะท้านในใจ คำพูดของพ่อไม่ผิดเลย...เงินนั่นเธอใช้ตัวแลกมา
“แม่ พรุ่งนี้หยุดขายของสักวันนะ หนูหาเงินมาได้แล้วหนูอยากพาแม่ไปรักษา”
“จะดีเหรอลูก เงินนั้นเก็บไว้ใช้ดีกว่ามั้ย”
“ไม่เป็นไรหรอกแม่ เงินหมดก็หาใหม่ได้แต่แม่เป็นอะไรไปหนูหาใหม่ไม่ได้ ไปรักษานะแม่นะ”
“จริงครับ เลิกเรียนผมจะไปนอนเฝ้าแม่เอง ให้พี่อิงไปทำงานไม่ต้องห่วงผมจะช่วยเต็มที่” อย่างน้อยชีวิตของเธอผู้ชายคนเดียวที่จริงใจกับเธอก็ยังมีหลงเหลืออยู่
“เก่งมากเด็กน้อยของพี่ ต่อไปนี้พี่ก็ฝากเราดูแลแม่แทนพี่ด้วยนะ” หญิงสาวลูบหัวของน้องชายเบาๆก่อนจะบอกให้เขากลับไปกินข้าวให้เสร็จจะได้ไม่สาย
“เชื่อมือผมได้เลย!!”
ทั้งสามคนหัวเราะขึ้นหลังจากที่ผ่านชะตากรรมสุดเวทนามาไม่นาน สักวันหากเธอพร้อม เธอจะพาแม่กับน้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่หันกลับมาสนใจเขาอีก ...แต่ติดที่แม่ของเธอยังคงห่วงพ่ออยู่ แม้จะถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าแม่ของเธอยังคงทนอยู่ดูแลเขา
น้ำอิงเองเธอก็ไม่เข้าใจแม่ของเธอเลยจริงๆทั้งที่พ่อของเธอร้ายขนาดนี้ แล้วทำไมแม่ของเธอถึงยังรักได้ลง
ถ้าเป็นเธอ....เธอจะไม่ยอมทนอยู่กับผู้ชายที่คอยทำร้ายเธออยู่ซ้ำๆทุกวันอยู่แบบนี้แน่
“แม่เจ็บมั้ยคะ” น้ำอิงจับขาแม่ของเธอที่ดูเหมือนว่ามันจะพลิกคงจะปวดมาก
“ไม่หรอก แม่ไม่เป็นอะไร”
“แม่คะ ทำไมแม่ต้องทนอยู่แบบนี่ละคะ ทั้งๆที่พ่อเค้าก็ไม่ได้ดูว่าจะรักแม่เลยซักนิดเลยนะ” ขณะที่ช่วยแม่จัดของเข้าที่หลังจากที่แม่กลับมาจากตลาด วันนี้น้ำอิงลางานหนึ่งวันเพราะยังคงทำใจไปทำงานที่นั่นไม่ได้แล้วยังถือโอกาสพาแม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วยเลย
“รักสิ พ่อเค้ารักแม่มากเลยล่ะ เพียงแค่ตอนนี้เค้ายังคงหลงผิดอยู่ก็เท่านั้น แต่แม่จะรอ...รอจนกว่าพ่อเค้าจะเห็นความรักของแม่ รอให้พ่อกลับมาเป็นคนดีคนเดิม ”
“หนูไม่เข้าใจ…ว่าทำไมแม่ต้องทนขนาดนี้ด้วย หนูสงสารแม่”
“ซักวันแล้วหนูจะเข้าใจแม่เอง ถ้าหนูมีคนที่หนูรักมากๆไม่ว่าเค้าจะดีหรือร้าย เราก็อยากจะอยู่เคียงข้างเค้า” หญิงวัยกลางคนลูบหัวลูกสาวของเธออย่างแผ่วเบาส่วนน้ำอิงเองได้แต่ส่ายหัวไปมา พร้อมกับคิดว่าถ้าเธอเจอผู้ชายแบบนั้นจริงๆเธอจะไม่ทนและหนีเขาไปให้ถึงที่สุด
หลังจากที่น้ำอิงได้ลางานหลายวันเพื่อพาแม่เข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาล แล้วทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีแม่ของเธอนอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นหมอให้รอดูอาการแทรกซ้อนอีกสักพัก ระหว่างนี้น้ำอิงก็ได้ให้น้องชายย้ายมานอนที่นี่ส่วนที่บ้านหลังเลิกงานเธอจะแวะไปดูให้ ส่วนพ่อได้เงินไปขนาดนั้นคงปล่อยเธอกับแม่และน้องไปสักพัก
“นี่นนท์พี่ฝากแม่ด้วยนะ พี่ต้องไปที่ทำงานก่อน”
“อ้าวไหนว่าลาไงพี่”
“เออหน่าพี่ต้องเข้าคุยกับเจ้านาย เฝ้าแม่ได้ใช่มั้ย”
น้ำอิงถูกรุ่นพี่ที่พึ่งกลับมาจากพักร้อนและรู้ข่าวว่าเธอขึ้นไปรับแขกวันนี้จึงได้เรียกตัวเธอเข้าไปพบด่วน
“ครับ พี่ไปเถอะดึกๆค่อยมาก็ได้” เด็กหนุ่มรับคำทำให้หญิงสาววางใจ
“ไว้พี่จะมาหาหลังเลิกงานนะ เดี๋ยวจะเข้าไปดูพ่อด้วย”
“ครับ ระวังตัวด้วยนะพี่”
“อืม ไปนะ”
เด็กหนุ่มพยักหนา น้ำอิงก็รีบเดินฉับๆออกจากหน้าห้องผ่าตัดเพื่อมาขึ้นรถเมล์เพื่อไปที่คลับทันที
อันที่จริงวันนี้เธอตั้งใจจะเข้าไปคุยกับผู้จัดการร้านเรื่องที่เธอขอย้ายกลับลงมาอยู่ข้างล่างเพราะวันก่อนมันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ หวังว่ารุ่นพี่ของเธอจะเข้าใจแล้วย้ายเธอกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม จากเท่าที่รู้มาคนที่เคยขึ้นไปพบแขกวีไอพีจะไม่มีสิทธิ์ลงมาข้างล่างอีก
“น้ำอิงพี่ต้องขอโทษจริงๆนะ ถ้าวันนั้นพี่อยู่ด้วยหนูคงไม่ต้องขึ้นไป เห้ออุตส่าห์รับปากป้านุชไว้แล้วแท้ๆแต่ก็ทำไม่ได้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ หนูเข้าใจพี่อย่าไปดุพี่แพนด้าเลยนะคะ พี่เขาก็คงลำบาใจเหมือนกัน”
“หนูเนี่ยแม่พระจริงๆว่าแต่ หนูไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
“ไม่ค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี อีกอย่างแขกคนนั้นเขาไม่ได้ทำอะไร...แค่นั่งดื่มกับหนู” น้ำอิงโกหกออกไปคำโตเพราะไม่อยากให้รุ่นพี่เป็นห่วง
เพราะต่อให้เธอไม่พอใจอยากจะฟ้องว่าถูกแขกรังแกยังไงคงหนีไม่พ้นการประจานตัวเองอยู่ดีว่าสุดท้ายก็ยอมเพราะเขาให้เงินเธอเยอะมาก
“โชคดีมากเลยรู้มั้ยที่ไม่มีคนรู้เรื่องนี้ เอาเป็นว่าพี่จะให้เราลงมาทำข้างล่างเหมือนเดิมได้เป็นกรณีพิเศษก็แล้วกันนะ”
“จริงเหรอคะ ขอบคุณมากนะคะ”
“อืมว่าแต่...ป้านุชเป็นยังไงบ้าง เห็นว่าผ่าตัด” รุ่นพี่ที่เป็นทั้งพี่สาขาทั้งรุ่นพี่รหัสก็ได้ถามไถ่ขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีค่ะหมอให้นอนรอดูอากาศอีกหน่อยตอนนี้มีเจ้านนท์เฝ้าอยู่”
“อ๋อ อืมดีแล้วหละ พี่ดีใจด้วยนะ แล้วป้านุชรักษาตัวเสร็จ หนูนี่ยังจะทำงานกับพี่อยู่รึเปล่า”
“ทำสิคะ พี่อุตส่าห์กรุณาให้งานอิง อีกอย่างหลังจากผ่าตัดแม่เสร็จอิงอยากเก็บเงินเรียนต่อด้วยค่ะ”
“ดีเลยงั้น กลับมาทำงานที่เดิมได้เลยนะไม่ต้องรอย้าย เรื่องอื่นพี่จัดการเอง”
“ค่ะ งั้นหนูขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
“เห้ย ยังจะทำงานอีกเร๊อะ ลาแล้วนี่...พักสักหน่อยก็ได้พี่ไม่ไล่ออกหรอก”
“ได้ไงละคะ วันนี้อิงตั้งใจจะมาทำงานเลยนะคะ เห็นพี่ใจดีอิงก็ไม่อยากให้เสียเวลา” รอยยิ้มหวานถูกส่งให้รุ่นพี่
“อ้อเอาแบบนั้นก็ได้ งั้นก็ไปทำงานได้แล้ว ทำให้ตายกันไปข้างเลยนะแม่คนขยัน”
น้ำอิงเดินกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดก่อนจะกลับออกมาทำหน้าที่อย่างที่เคยทำก่อนหน้านี้อย่างขยันขันแข็ง ทุกอย่างเป็นปกติดีสุขดีอย่างที่ควรจะเป็นตั้งแต่แรก
เมื่อถึงเวลาที่คลับปิดหญิงสาวก็ได้เดินกลับเข้าบ้าน ทุกวันๆเธอต้องเปลี่ยนชุดทำงานให้ดูรัดกุมและมิดชิดที่สุดเพื่อความปลอดภัยของตัวเองจากพวกคนขี้เมาที่อาจจะเจอระหว่างทางกลับบ้าน