11

1145 Words
“ไม่มีปัญหาสี่โมงก็สี่โมง” “ขอบคุณค่ะ ดิฉันขอตัวนะคะจะได้ไปบอกบัวเรื่องนี้” ราตรีขอตัวทันควัน ไม่อยากจะอยู่ในห้องนี้นานๆ เธอกลัวว่าจะตายก่อนกำหนด “เดี๋ยว ไปเรียกบัวมาที่นี่ดีกว่า ฉันจะเป็นคนบอกเขาเอง ห้านาทีนะบัวต้องมาหาฉันที่นี่ภายในห้านาที ไม่งั้นเตรียมย้ายก้นออกไปจากที่นี่ได้เลย” ผู้จัดการแผนกรีบเดินออกไปจากห้องรับรองทันที ห้านาที โอ้ยอยากจะบ้า ราตรีพูดร่ำๆ ในใจ ตั้งแต่เธอได้รับตำแหน่งผู้จัดการแผนกครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เธอมีอาการปวดหัวจนแทบจะระเบิด ตกอยู่ในสภาวะกดดัน ราตรีรีบวิ่งตามหาร่างของบัวบุษยาทันที เหมือนสวรรค์จะเห็นใจเธอเมื่อเห็นร่างของลูกน้องสาวเดินออกมาจากห้องเต้นแอโรบิคที่อยู่ชั้นเดียวกับห้องรับรองพอดี “บัวมานี่ มากับพี่เร็วๆ” ราตรีไม่เสียเวลาลากจูงร่างของบัวบุษยาไปที่ห้องรับรองอย่างรวดเร็ว หญิงสาวที่ถูกลากจูงสงสัยกับท่าทางและสีหน้าของราตรียิ่งนัก ดูรีบร้อนเหมือนมีเรื่องคอขาดบาดตาย “มีอะไรคะพี่หน่อง” “คุณแอนโตนิโอต้องการพบตัวบัวด่วนเลย ตอนนี้เขารออยู่ทีห้องวีไอพี” บัวบุษยาหยุดเดินทันทีเมื่อได้ยินชื่อของบุคคลที่ต้องการพบเธอ ไม่...เธอไม่ขอพบหน้าเขาเด็ดขาด “ไม่ค่ะ บัวไม่อยากพบหน้าเขา บัวไม่ไป” เธอฝืนร่างตัวเองจาการกึ่งลากกึ่งจูงของราตรี “บัวต้องไปนะ ถ้าบัวไม่ไปพี่จะโดนไล่ออก พี่ไม่อยากถูกไล่ออกนะบัว ภาระพี่ก็มีไหนจะลูก ไหนจะค่าผ่อนบ้านอีก บัวต้องเข้าไปนะ พี่ขอร้อง” เธอยอมบอกเหตุผลให้บัวบุษยาได้รับฟัง คนที่ได้รับฟังถึงกับอึ้งกับคำขู่ที่ได้ยิน “พี่หน่องไม่ได้บอกเขาเรื่องเหตุผลเหรอคะ” “บอกแล้ว แต่เขาไม่ฟังเลย เอาเป็นว่าบัวเข้าไปพูดกับคุณแอนโตนิโอเองดีกว่านะ ไปสิจะครบห้านาทีแล้ว เร็ว” ผู้จัดการแผนกเร่งพร้อมกับลากจูงร่างของบัวบุษยาไปที่ห้องรับรองได้ทันเวลา เธอคิดว่าให้ทั้งสองตกลงกันเองดีกว่า เธอมีหน้าที่พาบัวบุษยามาที่ห้องรับรองตามคำขู่ของแอนโตนิโอเท่านั้น หากทำได้ถือว่างานสำเร็จรอดตัวไปอย่างหวุดหวิด “เข้าไปสิ เข้าไปเลย” ราตรีพยักหน้าให้บัวบุษยาเข้าไปในห้อง เทรนเนอร์สาวแสนสวยทำท่าทางลังเลเล็กน้อยหันมามองหน้าราตรี ก่อนจะตัดสินใจยกมือขึ้นเคาะประตูห้องรับรอง เปิดประตูเข้าไปด้วยหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ คนที่นั่งรออยู่ในห้องมองคนที่เข้ามาใหม่ด้วยสายตาดั่งราชสีห์ที่จ้องกวางน้อยเหยื่อแสนโอชะ คนที่ถูกมองอยากจะวิ่งหนีออกไปจากห้อง เธอไม่อยากอยู่ตามลำพังกับผู้ชายคนนี้เลย กลัว...เธอกลัวว่าจะเสียเปรียบเขาอีก “คุณแอนโตนิโอมีธุระอะไรกับดิฉันค่ะ ถึงเรียกดิฉันมาพบที่นี่” บัวบายาพูดเป็นพิธีรีตองจนคนที่ฟังอยู่รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา “ทำไมไม่เรียกฉันว่านีโอ” เขาถามกวางน้อยที่ยืนตัวสั่นก้มตรงหน้า “ดิฉันคิดว่าเราไม่ได้สนิทสนมอะไรกันมากถึงขนาดเรียกชื่อเล่นค่ะ” “ฮึ...ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะในลำคอเกิดขึ้นตามด้วยเสียงหัวเราะที่ระเบิดออกมาดังลั่นห้อง บัวบุษยางงกับการกระทำของเขายิ่งนัก มีเรื่องอะไรขำนักหนานะถึงได้หัวเราะออกมาดังขนาดนี้ หรือว่าเธอจะพูดอะไรที่ติดตลกออกไป “คุณหัวเราะอะไร” ความสงสัยที่มีมากหญิงสาวจึงถามออกไป “ก็หัวเราะเธอไง พูดออกมาได้ว่าไม่ได้สนิทสนมกัน ฮึ” แอนโตนิโอทำเสียงขึ้นจมูกคล้ายกับว่าไม่พอใจ “ก็คุณกับดิฉันไม่ได้สนิทสนมกันจริงๆ นี่ค่ะ” “คนที่ไม่สนิทอย่างฉัน ยังได้จูบ ได้ลูบ ได้คลำ แถมด้วยจับนม ยังมีอีกนะยังได้ดูดนมจากเต้าด้วย นี่ขนาดไม่สนิทนะยังทำได้ขนาดนี้เลย อยากรู้นักว่าถ้าสนิทจะทะลวงไปถึงขนาดไหน” น้ำเสียงของเขานั้นประชดประชันเต็มที่ บัวบุษยาถึงกับหน้าซีดหลังจากได้ยินคำกระทบกระเทียบ ไม่คิดว่าเขาจะนำเหตุการณ์เมื่อวานมาพูดกระทบกระเทียบเธอแบบนี้ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย เอาเปรียบผู้หญิงแล้วยังจะมาพูดเล่นสนุกปากอีก น่าเกลียดที่สุด “คุณมันทุเรศที่สุด” บัวบุษยาไม่รู้ว่าจะสรรหาคำใดมาว่ากล่าวชายหนุ่มสุดกวนคนนี้ดี ได้แต่พูดคำนี้เท่านั้น “ทุเรศเหรอ แต่คนที่เธอบอกว่าทุเรศคือคนที่ทำให้เธอทั้งดิ้นทั้งครางได้ก็แล้วกัน” เขาสวนกลับชนิดที่ว่าหญิงสาวหน้าหงายพูดไม่ออก มือนุ่มกำเข้าหากันแน่นอยากจะเข้าไปทำร้ายชาชยหนุ่มตรงหน้าให้สาสมกับสิ่งที่ทำไว้กับตน บัวบุษยารู้ว่าทำในสิ่งที่เธอคิดไม่ เขาต้องเอาคืนเธอกลับมาแน่นอน เทรนเนอร์สาวจึงเลือกที่จะเงียบไม่ต่อล้อต่อเถียง ถึงอย่างไรก็ไม่มีวันชนะเขาได้อยู่แล้ว “คุณแอนโตนิโอมีธุระอะไรค่ะ รีบๆ พูดมาดิฉันจะไปทำงานต่อ” บัวบุษยาวกมาจุดเริ่มต้นที่เดินเข้ามาในห้องนี้ “ผู้จัดการของเธอบอกว่า เธอปฏิเสธที่จะไปเป็นเทรนเนอร์ให้ฉัน ทำไมล่ะหรือว่ากลัว” เขาถามจี้ใจดำของเธอยิ่งนัก ใช่ เธอกลัว...กลัวว่าเขาจะทำแบบเมื่อวานอีก กลัวร่างกายจะโอนอ่อนตามมือและปากที่ร่ายเวทมนต์ใส่เธอ กลัวหัวใจของตัวเองอีกด้วย นี่แหละที่ทำให้เทรนเนอร์สาวไม่อยากทำงานร่วมกับเขา “ดิฉันไม่ได้กลัวค่ะ เพียงแต่ว่าเวลามันไม่ตรงกัน ถ้าจะให้ดิฉันเลื่อนเวลาไปเป็นเทรนเนอร์ให้กับคุณเป็นเวลาหลังเลิกงาน กว่าจะถึงคอนโดของคุณก็หนึ่งทุ่มแล้ว กว่าดิฉันจะทำงานเสร็จกว่าจะกลับบ้านก็คงดึก อีกอย่างดิฉันก็มีแม่ที่จะต้องดูแลด้วยค่ะ นี่คือเหตุผลที่แท้จริงที่ดิฉันไม่สามารถไปเป็นเทรนเนอร์ให้กับคุณได้ค่ะ” บัวบุษยาบอกเหตุผลให้เขาฟัง หวังเหลือเกินว่าเหตุผลนี้จะทะลุเข้าไปในส่วนในของสมอง เขาจะได้เข้าใจความจำเป็นของเธอ แต่ดูท่ามันแค่เข้าไปในหูของเขาเท่านั้นประมาณว่าเข้าหูซ้ายทะลุหู
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD