ลงโทษเด็กดื้อ

2084 Words
ลู่จื่อยืนอึ้งได้ไม่เกินชั่วอึดใจก็ต้องรีบวิ่งออกจากกระโจมแล้วยังไม่ลืมหันไปสั่งให้พวกทหารที่ยืนเฝ้ากระโจมเขยิบตัวห่างออกมาอีกด้วย เซี่ยอีอิ่งที่ถูกพบเห็นในสภาพที่เปลือยกายก็แสดงอาการต่อต้านคนหน้าหนานั้นในทันที แม้ริมฝีปากจะถูกล่วงล้ำดูดดึงขบเม้มอย่างเอาแต่ใจ แต่กำปั้นน้อย ๆ ของนางก็ไม่ได้นิ่งเฉย รีบประท้วงทุบตีไล่คนที่โผล่เข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทันที “อื้อ! อ่อยอ๊ะ! (ปล่อยนะ)” แต่มีหรือที่คนหน้าหนาอย่างเช่นหวังอ๋องจะใส่ใจ เขาเป็นแม่ทัพผู้เกรียงไกร ไปสถานที่แห่งใดล้วนมีสตรีถวายร่างกายปรนนิบัติอยู่เสมอ เพียงแต่เพราะเป็นคนเลือกมากจึงไม่ค่อยแนบชิดกับผู้ใดจนเกินพอดี ลิ้นร้อนพยายามไล่ต้อนกวาดกลืนน้ำหวานในโพรงปากอิ่มจนหนำใจ จากนั้นถึงได้ผละริมฝีปากหยักสวยออก นัยน์ตาสีนิลจดจ้องมองแก้มที่แดงระเรื่อของสาวใช้อุ่นเตียงด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ “เจ้าไข้ลดแล้วสินะ ตอนนี้พร้อมปรนนิบัติข้าหรือยัง” เสียงทุ้มพูดกระซิบ “ขะ ข้ายังเวียนศีรษะอยู่เจ้าค่ะ” ยามนี้เซี่ยอีอิ่งต้องรู้จักเอาตัวรอด หากพูดปดได้ก็ต้องทำ หวังหย่วนเหอมุ่นคิ้ว จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือช้อนปลายคางของเซี่ยอีอิ่งขึ้น โฉมงามเม้มริมฝีปากแน่น สายตาหลุกหลิกไปมา การโกหกของนางนั้นยังห่างชั้นเชิงกับเขามากนัก “เจ้าปวดหัวจริง ๆ หรือว่าไม่อยากปรนนิบัติข้ากันแน่” แรงบีบที่คางนั้นค่อย ๆ แรงขึ้นจนองค์หญิงห้านิ่วหน้า “ทะ ท่านแม่ทัพเจ้าคะ ข้าเจ็บ” เซี่ยอีอิ่งอ้อนวอน ท่าทีที่แข็งกระด้างอ่อนลงทันทีที่ถูกความเจ็บเล่นงานที่ปลายคางนั้น หวังหย่วนเหอผ่อนแรง เขาลดมือข้างนั้นลงแล้วใช้มันลูบไล้ไปที่เรือนกายขาวเนียนด้วยท่าทางคุกคาม สองเต้าเต่งตึงถูกฝ่ามือแข็งแรงกอบกุมเคล้นคลึงจนเกิดความร้อนวูบวาบที่กึ่งกลางกายสตรี ยอดปทุมถันแข็งเป็นตุ่มไตคล้ายกับว่าพร้อมตั้งรับบุรุษจอมโหดผู้นี้ “เจ้ามีอารมณ์แล้ว…” เพียงแม่ทัพโฉดเอ่ยคำเช่นนี้ออกมา สตรีก็รู้สึกกระดากอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี นางผินใบหน้างามออกข่มอาการที่น่าอับอายนั้นแต่เขาก็ยิ่งเคล้นคลึงสองเต้าอวบอิ่มด้วยความมันเขี้ยว ไม่นานนักยอดปทุมถันก็ถูกลิ้นร้อนชิมรส เนื้อตัวองค์หญิงห้าสั่นสะท้านราวกับยืนตากฝนอยู่ท่ามกลางแดดร้อนที่แผดเผา “อือ...” เสียงครางหลุดออกมา แม้ว่าโฉมงามจะพยายามสะกดกลั้นเพียงใดก็ไม่อาจห้ามความเสียวซ่านนี้ได้เลย “เป็นเมียข้า เป็นคนของข้าไม่ดีหรืออย่างไรกัน ข้าสามารถทำให้เจ้าได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา แค่นี้ยังไม่เพียงพออีกหรือ” หวังหย่วนเหอคล้ายคนที่หลงใหลในร่างกายของเซี่ยอีอิ่ง เขารู้สึกรักและชอบคนในอ้อมกอดนี้อย่างไม่มีเหตุผล แต่สตรีที่ได้ฟังกลับเกิดอาการต่อต้าน นางรู้สึกเกลียดเขาขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ “ท่านข่มเหงและบังคับข้าตามอำเภอใจ ข้าจะไม่ยอมเป็นเมียท่านอย่างเด็ดขาด” เพียงสตรีเอ่ยถ้อยคำนี้ แววตาของบุรุษองอาจก็มืดครึ้มลง เขาไม่เคยเกิดโทสะกับสตรีมากเท่านี้มาก่อน แต่นางก็ทำให้เขาต้องพลั้งมืออยู่ร่ำไป “เจ้าจำคำพูดนี้เอาไว้ให้ดี ไม่อยากเป็นเมียข้าหรือ” หวังหย่วนเหอเงยหน้าขึ้นสบตากับเซี่ยอีอิ่ง เขาเห็นความอยากเอาชนะในแววตานั้นก็ยกยิ้มที่มุมปากขึ้นมา “ดี! ข้าก็จะให้เจ้าไปเป็นคนรับใช้จริง ๆ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องโดนข้าครอบครองทุกค่ำคืนอยู่ดี” แม่ทัพใหญ่อุ้มสตรีออกมาจากอ่างอาบน้ำแล้วก้าวเท้าหมายจะพานางออกจากกระโจมไปทั้งอย่างนั้นแต่เซี่ยอีอิ่งร้องเสียงหลงออกมาเสียก่อน “ขะ ข้าเปลือยอยู่นะเจ้าคะ!” ใบหน้าโฉมสะคราญแดงก่ำด้วยความเขินอายปนโกรธเคือง แต่มีหรือหวังอ๋องจะสนใจ “จะโป๊จะเปลือยก็เรื่องของเจ้าสิ เจ้าไม่ใช่เมียข้าเสียหน่อย เหตุใดจะต้องสนใจความรู้สึกกันด้วย” หวังหย่วนเหอพูดหยั่งเชิง แววตาของบุรุษแสดงว่ามีอำนาจเหนือกว่า จนองค์หญิงผู้ตกอับมาเป็นเชลยให้แม่ทัพชั่วช้าผู้นี้ ต้องรีบกลืนน้ำลายลงคอทันที “ขะ ข้าขอโทษเจ้าค่ะ” สุดท้ายเซี่ยอีอิ่งก็ต้องอ่อนข้อให้คนโหดร้ายผู้นี้ นางยอมให้เขาเห็นเรือนร่างได้เพียงผู้เดียวแม้ว่าจะไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรก็ตาม หวังหย่วนเหอหลุดยิ้มออกมาแต่ก็พยายามกลั้นเอาไว้ “ถ้าอยากให้ข้าหายโกรธและไม่ทรมานเจ้า ก็ต้อง...” คนตัวโตคิดเรื่องพิเรนทร์ เรื่องที่ทำให้สตรีขายหน้าได้ เขาล้วนทำอยู่เสมอ ครู่ต่อมาสตรีโฉมสะคราญก็ถูกพาตัวกลับมาที่กระโจมของท่านแม่ทัพใหญ่ด้วยสภาพสวมเสื้อผ้ามิดชิด เตียงนอนที่เคยยับยู่ยี่กับบริเวณห้องที่เหมือนสนามรบบัดนี้ถูกเก็บกวาดจนเรียบร้อยดีแล้ว อาหารช่วงเที่ยงถูกยกขึ้นโต๊ะอาหารโดยฝีมือของลู่จื่อที่อาสาแบกรับหน้าที่เข้าครัวแทนองค์หญิง กลิ่นหอมโชยออกมาจากกับข้าวที่แม้จะดูธรรมดาแต่มีหน้าตาน่ากินไม่น้อย “เจ้าไม่ต้องทำหน้าตาเยี่ยงนั้น กลัวว่าข้าจะกินเจ้าโดยไม่ให้กินอาหารหรืออย่างไรกัน” เพราะว่าจดจำคำพูดของหมอหลวงได้ หวังอ๋องจึงยอมให้องค์หญิงจากแคว้นฮวาเป๋ยกินอาหารให้อิ่มท้องและไม่คิดใช้งานสตรีหนักจนเกินพอดีเนื่องจากสุขภาพร่างกายของนางยังไม่แข็งแรงดีนัก เซี่ยอีอิ่งลอบสบสายตากับลู่จื่อที่ยืนตัวลีบอยู่ไม่ไกล “ข้ายังไม่หิวเจ้าค่ะ” เพราะกลัวว่าจะต้องรับศึกหนักอีกนางจึงเลี่ยงไม่ทำตามคำสั่งของแม่ทัพใหญ่ หวังหย่วนเหอกัดกรามแน่น เพราะเขามีนิสัยเอาแต่ใจแล้วก็มีความอดทนต่ำเป็นทุนเดิม ในเมื่อพูดดี ๆ กันไม่ได้เขาก็ต้องใช้วิธีบังคับขู่เข็ญตามเดิม “ถ้าเจ้าไม่นั่งกินข้าวดี ๆ ข้าจะอุ่นเตียงกับนางแทนเสียตอนนี้” เพราะรู้ว่าองค์หญิงห้ารักบ่าวรับใช้โดยเฉพาะนางกำนัลผู้นี้มาก เมื่อลู่จื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตัวสั่นด้วยความกลัวทันที เซี่ยอีอิ่งรีบกระแทกตัวลงนั่งโดยไม่พูดไม่จา ไม่รู้เหตุใดเหมือนกันที่โฉมสะคราญรู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่หวังอ๋องพูดออกมา กับข้าวหลายอย่างโดยเฉพาะเนื้อสัตว์ถูกคีบใส่จานของสตรีจนล้นชาม หวังหย่วนเหออารมณ์ดีขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ “เจ้าพูดง่ายเช่นนี้แต่แรกข้าก็ไม่ต้องให้นางมาอุ่นเตียงแทนให้” ร่างสูงนั่งเท้ามือมองร่างบางกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยเพราะเมื่อคืนนี้แทบไม่มีอาหารตกถึงท้องนางเลยสักนิดเดียว “ค่อย ๆ กินเถิด ข้าไม่อยากมีอะไรกับลูกหมู” คนปากร้ายพูดจาเหน็บแนม จากนั้นเขาก็โบกมือให้ลู่จื่อรินสุราให้ นางกำนัลเดินตัวลีบรีบมาปรนนิบัติทันที แม้ว่าใจจะสงสารที่เห็นว่าองค์หญิงถูกหยามเกียรติแต่ก็รู้สึกสงสารตนเองเช่นกันที่ถูกหวังอ๋องเอามาเป็นเครื่องต่อรองใช้กลั่นแกล้งผู้เป็นเจ้านาย “แค่ก ๆ” เพียงเซี่ยอีอิ่งได้ยินคำด่าทอ นางก็วางตะเกียบลงแล้วคว้าสุราที่ลู่จื่อเพิ่งรินใส่จอกให้หวังอ๋องเสร็จยกขึ้นดื่มเพื่อย้อมใจ และทันทีที่ดื่มสุราเสร็จ ใครบางคนก็ตวาดออกมาเสียงดังเพราะไม่เคยถูกคนแย่งและทำเสียมารยาทเช่นนี้มาก่อน แม่ทัพหนุ่มจึงเกิดโทสะคว้าข้อมือของโฉมสะคราญไว้แล้วลุกขึ้นยืนกระชากร่างบางมาแบกขึ้นพาดบ่ากว้าง ลู่จื่อตกใจจะเข้ามาช่วยเหลือแต่กลับถูกสายตาคมตวัดมองพร้อมกับกระซิบเสียงลอดไรฟันว่า “รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” สิ้นคำนั้นนางกำนัลก็ตกใจมือไม้สั่นวิ่งหนีหางจุกตูดออกไปจากกระโจมทันที “ช่วยข้าด้วย! ปล่อยนะ ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้” เพียงสุราแรงจอกเดียวเซี่ยอีอิ่งก็เกิดอาการเมาทันทีเพราะนางไม่เคยลิ้มรสสุราแรงมาก่อน ทั้งร่างของหญิงสาวถูกโยนลงบนเตียงกว้างที่นุ่มนิ่มและเต็มไปด้วยหมอนและผ้าห่มจำนวนมากกว่าปกติ “เจ้าท้าทายข้ามากเกินไปแล้วอีอี” หวังหย่วนเหอปลดสายคาดเอวของตนเองออกแล้วก็โถมตัวขึ้นมาทับร่างบอบบางที่นอนแผ่หราไม่มีสติทันที “นะ หนักนะ...” เซี่ยอีอิ่งปรือตามองบุรุษหล่อเหลาที่นอนคร่อมทับตัวนางอยู่ด้วยอาการกึ่งหัวเราะกึ่งร้องไห้ แต่หวังหย่วนเหอไม่สนใจเขารีบปลดสายคาดเอวของนางออกด้วยมือเดียวแล้วสอดมือเข้ากอบกุมทรวงอกที่ไร้แม้แต่เอี๊ยมบดบังความเต่งตึงนี้เอาไว้ ความเสียดเสียวแล่นไปทั่วร่างโฉมสะคราญเมื่อนางถูกรุกเร้าด้วยความรุนแรง ริมฝีปากหยักสวยครอบครองถันสีอ่อนนั้นด้วยความหื่นกระหาย เมื่อเขาดูดเลียจนพอใจก็เคลื่อนจมูกโด่งสวยไล่ขึ้นมาขบเม้มที่ซอกคอขาวเนียนเพื่อทิ้งร่องรอยของตนเองเอาไว้เพิ่มเติม เนื่องจากร่องรอยเมื่อคืนนี้ถูกหมอหลวงรักษาจนเกือบหายดีแล้ว “อย่ากัดนะ!” เซี่ยอีอิ่งรีบใช้มือดันศีรษะของหวังหย่วนเหอออกไปแต่เขาก็ไม่ยินยอม สองแขนที่เป็นอุปสรรคต่อบุรุษก็ถูกรวบกดไว้เหนือศีรษะเมื่อไร้ปราการป้องกัน ริมฝีปากหยักสวยก็ลากไล้ไปทั่วลำคอและเคลื่อนต่ำลงมาที่สองเต้าอิ่มสวยอีกรอบ เสียงร้องครางขององค์หญิงห้าดังเล็ดลอดออกมา แต่โชคดีที่ทุกคนรู้ความเคลื่อนไหวด้านในจึงรักษาระยะห่างเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวแต่ก็ยังคอยอารักขาอยู่ไม่ห่าง “ข้าจะกัด กัดให้เจ้ารู้สึกเจ็บ จะได้ไม่มาท้าทายข้าอีก” ราวกับว่านางชอบทำให้เขาขุ่นเคืองใจอยู่เสมอจึงต้องหาทางกำราบให้อยู่หมัด “อะ อะอา” เซี่ยอีอิ่งแทบไม่ทันตั้งตัวเมื่อบัดนี้สองมือถูกปล่อยให้เป็นอิสระแต่สองเรียวขากลับถูกยกสูงขึ้นแล้วเจ้าแท่งร้อนก็ขยี้เกสรดอกไม้งามฝ่าความคับแน่นเข้ามาโดยไม่รั้งรอให้นางได้เตรียมใจ “อาาาาาา แน่นนัก” แม่ทัพใหญ่ครางเสียงดังด้วยความชอบใจ เขาขยับสะโพกส่ายร่อนทันทีจนคนที่ตั้งรับแทบจมหายลงไปกับเตียงนอน แรงตอกนั้นย้ำอย่างลึกซึ้งเคี่ยวกรำเสียจนนางรู้สึกแสบที่กึ่งกลางกายสตรี แต่เพราะความชำนาญของเขาเลยทำให้ครู่ต่อมาต้องเป็นนางที่ลุกขึ้นมาขย่มข่มขี่เขาแทน “อะอา อ้า อื้อ ข้าไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว” เซี่ยอีอิ่งรู้สึกเหมือนได้ปลดล็อกความต้องการที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน บัดนี้สะโพกกลมกลึงถูกฝ่ามือบุรุษขย้ำที่อยู่ด้านข้างแล้วก็คอยบังคับให้นางขยับเขยื้อนไปมา ความเสียดเสียวพุ่งทะยานจนถึงขีดสุดแล้วร่างสาวก็กระตุกเกร็งครางเสียงดังสนั่นจนคนภายนอกต้องตกใจ “อะอา ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง” คำที่นางใช้เรียกบุรุษยิ่งใหญ่ผู้นั้นทำให้ผู้คนที่อยู่ด้านนอกหวั่นเกรง ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้นว่าชินอ๋องผู้นี้มีนิสัยไม่ปกติ และไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อตำแหน่งนอกจากคำว่าแม่ทัพใหญ่ แต่ไม่นานนักคนที่ถูกนารีขย่มก็กระตุกเกร็งรีดเชื้อพันธุ์ออกมาอย่างไม่รู้สึกน้อยหน้า เขารีบพลิกตัวขึ้นมาคร่อมนางอีกครั้งแล้วส่งเจ้าแท่งร้อนบดขยี้อีกพักหนึ่งจึงได้ถอดถอนมันออก “เจ้าควรเรียกข้าว่านายท่าน เข้าใจหรือไม่” คราวนี้หวังหย่วนเหอไม่เรียกคนดื้อดึงว่าเมียรักอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อนางอยากเป็นคนรับใช้ เขาก็จะให้นางเป็นจนสาแก่ใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD