เกิดใหม่เป็นเถ้าแก่เหลาสุรา
เกิดใหม่ครั้งที่ 5
ยามเว่ยในวันถัดมาสองพ่อลูกตระกูลซุยเดินทางไปดูความเรียบร้อยของเหลาสุราที่กำลังทำการแก้ไขปรับปรุง ซุยหลินเดินเข้าไปดูภายในก่อนจะพยักหน้าและยิ้มออกมาอย่างถูกใจ ด้านข้างที่อยากให้เปิดเพื่อรับลมตอนนี้ก็มีประตูใบใหญ่สองบานเปิดรับลมอยู่ สภาพอากาศดีกว่าที่เข้ามาครั้งแรกมากนัก
“ท่านพ่อ ข้าว่ามุมนี้วางโต๊ะตัวใหญ่ไว้เป็นบาร์เหล้าก็น่าจะดี” ซุยหลินเดินวนไปวนมาเพื่อวางแบบร้านในหัว
“บาร์เหล้างั้นหรือ?” เถ้าแก่ซุยเลือกที่จะนั่งลงบนเก้าอี้เนื่องจากถ้ายืนนานๆ จะรู้สึกเมื่อย
“ก็แบบว่า ข้ายืนชงเหล้าให้ลูกค้าตรงนี้ไงขอรับท่านพ่อ แบบนี้ๆ” ซุยหลินทำท่าทางเขย่าแก้วผสมเหล้าให้เถ้าแก่ซุยดู
“เจ้าเป็นเกอ.. จะมายืนชงเหล้าแบบนี้ได้อย่างไรกัน”
“เป็นเกอแล้วทำไมหรือท่านพ่อ เป็นเกอแล้วข้าไม่สามารถทำงานช่วยท่านได้เลยหรือ” ซุยหลินเท้าเอว
“มันดูไม่งาม..” เถ้าแก่ซุยเห็นว่าลูกชายเริ่มจะแสดงท่าทีราวกับแมวที่กำลังพองขนเลยค่อยๆ พูดให้ซุยหลินใจเย็นลง
“งามหรือไม่งามข้าไม่สนขอรับ ข้าสนแค่ว่าข้ามีความสามารถช่วยท่านพ่อประคองเหลาสุราของเราให้อยู่รอดได้หรือไม่เท่านั้น”
“แต่ชาวบ้านจะนินทาว่าเจ้าทำตัวไม่งาม”
“ท่านพ่อ” ซุยหลินเดินเข้าไปกอดขาเถ้าแก่ซุย “ข้าไม่กลัวเลยว่าใครจะพูดจาถึงข้าว่าอย่างไร สิ่งที่ข้ากลัวและกังวลมากที่สุดคือเหลาสุราของท่านพ่อจะต้องปิดตัวลง เนื่องจากข้าไม่สามารถช่วยอะไรท่านได้เลย”
“ก็พ่อไม่มีปัญญาที่จะดูแลมันเอง ก็คงต้องปล่อยให้มันปิดตัวไป”
“ท่านพ่ออย่าพูดเช่นนั้นสิขอรับ เชื่อใจข้า ข้าจะทำให้มันได้กลับมารุ่งเรืองอย่างที่ท่านและท่านแม่เคยทำมาแน่นอน เฝินจิ่วของท่านก็รสชาติดีเลิศปานนั้น ไหนจะเหล้าที่ข้าลงทุนหมักด้วยตัวเองอีก ข้ารับรองเลยว่าลูกค้าจะต้องกลับเข้ามาที่ร้านเราอย่างเนืองแน่นแน่นอน” ซุยหลินซบหน้าลงที่หน้าขาเถ้าแก่ซุย
“งั้นพ่อก็เชื่อใจเจ้า” เถ้าแก่ซุยลูบหัวซุยหลินเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา “แล้วอีกนานไหมเหลาสุราของข้าจึงจะได้เปิดอีกครั้ง” เถ้าแก่ซุยหันไปตะโกนถามช่างไม้
“อีกราวสิบวันเสร็จขอรับ ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ต้องจัดการดูความเรียบร้อยก่อน” ช่างไม้ตอบกลับมา
“ข้าขอไปสั่งงานช่างไม้เพิ่มก่อนนะขอรับท่านพ่อ อยากสั่งบาร์เหล้ากับโต๊ะของลูกค้าเพิ่มอีกเล็กน้อย”
เมื่อเถ้าแก่ซุยพยักหน้าอนุญาตซุยหลินก็ลุกไปสั่งงานกับช่างไม้ทันที เนื่องจากอยากได้บาร์เหล้าและโต๊ะลูกค้าแบบใหม่ๆ ที่ไม่ต้องหันหน้าชนกันอย่างเดียวแล้ว ทำเป็นโต๊ะยาวมีเก้าอี้วางเป็นแถวให้ลูกค้าที่อยากมาดื่มคนเดียวนั่งใครนั่งมัน เมื่อคุยกับช่างไม้เรื่องโต๊ะพร้อมทั้งจ่ายห้าเหรียญเงินที่เป็นค่าแรงงวดสุดท้ายให้กับช่าง พร้อมทั้งจ่ายค่าบาร์เหล้าและโต๊ะเก้าอีดที่สั่งทำเพิ่มเติมเรียบร้อยแล้วซุยหลินก็ชวนเถ้าแก่ซุยเดินทางกลับจวน
“อีกราวสิบวันเหลาสุราก็จะถึงคราวเปิดใหม่แล้ว เจ้าสองคนต้องไปช่วยงานข้าด้วยนะ” ซุยหลินที่กำลังค่อยๆ เทถั่วลิสงลงในกระทะอยู่พูดขึ้น
“ข้าสองคนต้องช่วยนายน้อยอยู่แล้วขอรับ” เจียงเฉิงพูด
“ถูกต้องขอรับ ข้าสองคนก็ต้องช่วยท่านอยู่แล้ว”
ซุยหลินยิ้มให้กับสองพี่น้องเจียงก่อนจะหันมาใส่ใจกับกระทะที่กำลังคั่วถั่วลิสงอยู่ เมื่อวันก่อนเขาไปตลาดมา ได้ถั่วมาเยอะแยะหลายชนิดก็เลยคิดว่าจะสอนสองพี่น้องเจียงทำกับแกล้มเสียหน่อย
โดยหน้าที่ในวันนี้ก็คือให้เจียงสุ่ยเป็นคนใช้ไม่พายคนถั่วไม่ให้ไหม้ติดกระทะ ส่วนเจียงเฉิงเมื่อมองซุยหลินที่ค่อยๆ ตเทถั่วลงไปในกระทะอย่างเข้าใจแล้วก็อาสามาทำหน้าที่ตรงนี้แทน
“ข้าจะทำซอสออกมาสามอย่าง จะมีซอสน้ำตาลและงาขาว ซอสพริก และซอสน้ำผึ้ง เมื่อเราคั่วถั่วพวกนี้เสร็จหมดแล้วจะต้องพักมันไว้จนเย็นสนิท เสร็จแล้วข้าจะสอนวิธีทำซอสกับเจ้าสองคนอีกที”
“ได้เลยขอรับนายน้อย”
ทั้งสามคนช่วยกันคั่วจนถั่วทั้งสามอย่างที่ได้มาราวหกสิบจินหมดลงก่อนจะนำมันออกมาจากกระทะ ค่อยๆ ตบให้มันกระจายตัวกันเพื่อระบายความร้อนก่อนจะมาเริ่มทำน้ำซอสกันต่อ
“เดี๋ยวอาสุ่ยจะเป็นคนเคี่ยวน้ำตาลนะ เอาหม้อใหญ่เลย แล้วเดี๋ยวเราค่อยเอามาเทเพื่อแยกกันผสมเป็นรสชาติต่างๆ ทีหลัง”
“ได้ขอรับนายน้อย”
เจียงสุ่ยเทน้ำเปล่าลงกระทะ ยืนรอจนน้ำเดือดก่อนจะเทน้ำตาลลงไปกระสอบใหญ่ เมื่อน้ำตาลละลายแล้วก็ใช้ไม้พายคนจนน้ำตาลเริ่มข้นหนืด เมื่อได้ที่แล้วซุยหลินก็ให้ยกออกมาแบ่งเทใส่ถังจำนวนสามใบ
ซุยหลินยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะใส่งาขาว พริกป่น และน้ำผึ้งลงไปในถังสามใบแยกกันตามลำดับ ทั้งสามคนแบ่งถังกันคนละใบก่อนที่จะคนให้ส่วนผสมเข้ากันอย่างเร็วที่สุด
“ของใครเข้ากันดีแล้วก็ไปเอาถั่วลงมาเคลือบได้เลยนะ ตามที่แบ่งไว้สามกองเลย”
“ขอรับนายน้อย” สองพี่น้องเจียงขานรับพร้อมกัน
“แล้วถ้าเคลือบซอสกับถั่วเสร็จแล้วตักออกเรียงกันไว้เหมือนเดิมนะ เอาผ้าที่ข้าซื้อมาใหม่นั่นมารอง อย่างให้ถั่วติดกันเป็นก้อน”
“ได้ขอรับ”
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยสามนายและบ่าวก็ยืนดูผลงานตัวเองด้วยรอยยิ้ม
“รอให้แห้งแล้วเดี๋ยวเอาไปให้ผู้ใหญ่ชิมกัน รับรองว่าจะต้องอร่อยถูกใจแน่นอน” ซุยหลินตบมือแปะๆ
“ไม่น่าเชื่อว่าข้าจะทำมันออกมาได้” เจียงเฉิงพูดออกมาเบาๆ
“เจ้าสองคนเก่งอยู่แล้ว” ซุยหลินโอบสองพี่น้องเจียงเข้ามาใกล้ก่อนจะโยกตัวไปมา “เดี๋ยวเย็นนี้เราไปซื้อปลากันนะ ข้าอยากได้ปลาตัวเล็กๆ มาตากแห้งแล้วก็ทอดกรอบ เอามาเคลือบซอสแบบนี้ก็อร่อยเหมือนกัน”
“ช่างแปลกใหม่ยิ่งนักขอรับ ปกติข้าเคยเห็นแค่คลุกกับเกลือธรรมดา” เจียงสุ่ยพูด
“ข้ารับรองได้เลยว่าถั่วที่ข้าทำขึ้นมานี้จะถูกใจคนที่ได้ลองชิมทุกคน”
เมื่อทำถั่วเคลือบซอสเสร็จแล้วซุยหลินก็พาสองพี่น้องเจียงเข้าไปก่อกวนแม่บ้านเจียงในครัวกันต่อ ซุยหลินนั่งบนโต๊ะขาเตี้ยตัวใหญ่หยิบเอาขนมซ่าวปิ่งเข้าปากอย่างไม่ขาดมือ
“ซ่าวปิ่งของแม่บ้านเจียงอร่อยนัก ข้าชอบที่สุด”
“นายน้อยชมเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”
“ไม่เลยๆ มันอร่อยจิงๆ ไส้เผือกก็อร่อย ไส้ถั่วก็อร่อย ข้าท้องตึงหมดแล้วเนี่ย” ซุยหลินทิ้งตัวนอนลงบนโต๊ะไม้
“กินแล้วนอนไม่งามขอรับ” เจียงเฉิงสะกิดขาซุยหลิน
“ข้าหาได้อยากสวยงามไม่ ข้าเมื่อย ข้าอยากบิดขี้เกียจ อ๊ากกก..” ท่าทางบิดขี้เกียจของซุยหลินทำเอาเจียงหลินอ้าปากอย่างตกใจ
“นายน้อยขอรับ..”
“ฮ่าๆๆๆๆ หน้าตาเจ้าตลกยิ่งนักอาเฉิงเอ๋ย”
ซุยหลินหัวเราะเสียงดังให้กับใบหน้าของเจียงเฉิงที่ตอนนี้ดูตลกเป็นที่สุด เมื่อแกล้งเจียงเฉิงจนพอใจแล้วซุยหลินก็ขยับขึ้นมานั่งตามเดิม
“วันนี้ท่านแม่บ้านจะไปตลาดอีกหรือไม่ขอรับ” ซุยหลินถาม
“วันนี้ไม่ไปแล้วเจ้าค่ะนายน้อย ทำไมหรือเจ้าคะ”
“ข้าอยากได้ปลาตัวเล็กๆ มาตากแดดแล้วทอดเคลือบซอสน่ะ”
“ถ้านายน้อยอยากได้ปลาต้องไปตลาดเช้าเจ้าค่ะ ยามเหม่าข้าออกไปตลาดทุกเช้า”
“โห.. เช้ามาก ข้าจะตื่นได้หรือ” ซุยหลินเบ้หน้า
“งั้นให้ข้าเข้าไปปลุกก็ได้ขอรับ” เจียงเฉิงอาสา
“อืมมม งั้นก็ฝากเจ้าด้วยนะอาเฉิง”
“ได้เลยขอรับ”
“แล้วถั่วที่ว่าจะลงมือทำวันนี้เสร็จแล้วหรือเจ้าคะ” แม่บ้านเจียงถาม
“เสร็จแล้ว เหลือก็แค่ให้พวกท่านได้ลองชิม นี่ก็น่าจะได้เวลาแล้ว เราไปดูถั่วกันดีกว่าอาสุ่ยอาเฉิง”
เมื่อหัวหน้าแก๊งเดินนำออกไปแล้วมีหรือที่ลูกน้องจะไม่เดินตาม เพียงไม่นานเกอทั้งสามก็เดินกลับเข้ามาพร้อมถือถ้วยในมือคนละใบ ซุยหลินเดินเข้ามาเรียกให้แม่บ้านเจียงไปที่ห้องเล่นหมากรุกด้วยกันเพื่อที่ทุกคนจะได้ชิมพร้อมกันทีเดียว
ถ้วยของถั่วหน้าตาแปลกประหลาดวางอยู่บนโต๊ะตัวใหญ่ทำเอาเถ้าแก่ซุย พ่อบ้านและแม่บ้านเจียงทำหน้าตาประหลาด
“นี่คือถั่วสิลง เม็ดมะมม่วง และเกาลัดที่พวกข้าเคลือบซอสออกมาสามรสชาติได้แก่ รสน้ำตาลและงา รสพริก และรสน้ำผึ้ง พวกท่านหยิบชิมได้เลย ข้ามั่นใจแน่นอนว่าท่านจะต้องชอบ” ซุยหลินอธิบายออกมายาวๆ
“น้ำพั้นช์อะไรนั่นพ่อก็ดื่มมาแล้ว ถั่วพวกนี้คงไม่ระคายท้องพ่อเสียเท่าไหร่หรอก ใช่หรือไม่” เถ้าแก่ซุยว่าพลางหยิบเอาเม็ดมะม่วงรสน้ำผึ้งเข้าปากไปก่อนจะตาโตแล้วหยิบอีกสองรสที่เหลือชิมบ้าง “โอ้.. นี่มัน.. มันเข้ากันเป็นอย่างมาก เจ้าลองดู” เถ้าแก่ซุยพยักหน้าให้พ่อบ้านและแม่บ้านเจียง
“รสพริกนี่..เผ็ดๆ หวานๆ อร่อยยิ่งนักขอรับนายน้อย”
“ใช่เจ้าค่ะ รสน้ำตาลและงานี่ก็ดีเยี่ยมไม่ต่างกัน”
“ยามที่เราเปิดเหลาสุราอีกครั้งมันจะต้องยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองแน่นอนท่านพ่อ” ซุยหลินมองเถ้าแก่ซุยก่อนจะยิ้มกว้าง
“อืม.. พ่อก็หวังให้มันเป็นเช่นนั้น”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ยามเหม่าข้าจะออกไปตลาดกับแม่บ้านเจียงนะท่านพ่อ”
“เจ้า? ยามเหม่างั้นหรือ?”
“ท่านพ่อไม่ต้องทำหน้าเช่นนั้นก็ได้ขอรับ ข้าตื่นเช้าได้เพียงแค่ไม่ยอมตื่นเท่านั้น แต่ข้าตื่นยามเหม่าได้จริงๆ นะ” ซุยหลินพยักหน้ารัวๆ
“พ่อจะรอดูว่าเจ้าจะตื่นยามเหม่าได้จริงๆ หรือเปล่า ฝากเจ้าด้วยนะอาเฉิง” เถ้าแก่ซุยหันไปพูดกับเจียงเฉิง
“ใช่สิ ข้ามันไม่มีทางตื่นเช้าได้หรอกถ้าอาเฉิงไม่เข้าไปปลุก” ซุยหลินทำปากเบ้
เถ้าแก่ซุยส่ายหน้าอย่างอ่อนใจก่อนจะหยิบถั่วเคลือบเข้าปากอย่างไม่สนใจว่าซุยหลินจะทำท่าทางแง่งอนขนาดไหน เนื่องจากรู้อยู่ว่าเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น
“นายน้อยขอรับ..”
“.....”
“ยามเหม่าแล้วนะขอรับนายน้อย”
“.....”
“นายน้อยไม่อยากไปซื้อปลามาเคลือบซอสหรือขอรับ”
“ฮื่อ.. ข้าตื่นแล้ว”
เป็นเจียงเฉิงที่เข้ามาปลุกซุยหลินดั่งเช่นทุกวันเพียงแค่วันนี้เข้ามาปลุกในยามเหม่าที่เช้ากว่าปกติ แม้ว่าซุยหลินจะอยากนอนต่อสักแค่ไหนก็ต้องยอมลุกออกจากเตียงเพราะว่าวันนี้ต้องไปซื้อปลามาทำคลุกซอสให้ได้
“ท่านจะให้ข้าเข้าไปช่วยล้างหน้าดีหรือไม่ขอรับ” เจียงเฉิงที่เห็นว่าเช้านี้ซุยหลินดูไม่มีสติเหมือนเช่นทุกวันถามขึ้น เนื่องจากกลัวว่าซุยหลินจะล้มจนเจ็บตัวได้
“ไม่ต้อง อ่า.. เดี๋ยวข้าล้างหน้าก็ดีขึ้นแล้ว เจ้าก็ทำอย่างทุกวันและ”
“ได้ขอรับ”
ซุยหลินเดินอย่างตุบปัดตุบเป๋เข้าไปในห้องน้ำ ยืนเรียกสติอยู่หน้าอ่างน้ำก่อนจะเริ่มทำความสะอาดตัวเองในตอนเช้า วันนี้เขามีเป้าหมายที่จะต้องไปเลือกซื้อปลามาทำกับแกล้มเพิ่ม เขาจะไม่ยอมทิ้งแผนเพียงเพราะไม่อยากตื่นเช้าเด็ดขาด
เถ้าแก่ซุยตาโตทันทีเมื่อเห็นซุยหลินเดินออกมาจากห้องนอน
“ท่านพ่อทำหน้าประหลาด” ซุยหลินขมวดคิ้ว
เถ้าแก่ซุยเลยสะบัดหน้าเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนสีหน้า “พ่อไม่คิดว่าเจ้าจะตื่นได้”
“อะถ่อว.. จิ๊บๆ ขอรับท่านพ่อ”
ยักคิ้วให้กับเถ้าแก่ซุยก่อนจะเดินตัวปลิวออกมาหน้าจวนที่มีเจียงสุ่ย เจียงเฉิงและแม่บ้านเจียงยืนรออยู่ ซุยหลินพยักหน้าทักทายตอนเช้าแก่สามแม่ลูก ก่อนที่ทั้งสี่คนจะเดินเป็นกลุ่มกันไปที่ตลาดเช้า
สภาพตลาดที่มีคนเดินอยู่ขวักไขว่เต็มไปหมดทำเอาซุยหลินตาโตเนื่องจากไม่เคยมาตลาดเช้ามาก่อน ถ้ารู้ว่าตลาดเช้ามีของน่าสนใจมากมายขนาดนี้เขายอมเป็นคนตื่นเช้าแล้วก็ได้
“ร้านที่ขายปลาจะอยู่มุมทางโน้น นายน้อยจะให้ข้าไปด้วยหรือว่าเราจะแยกกันตรงนี้ดีเจ้าคะ”
“ท่านแม่บ้านกับอาเฉิงแยกไปซื้อของที่ต้องซื้อเถอะ เดี๋ยวข้ากับอาสุ่ยเดินไปซื้อปลาเอง”
“ได้เจ้าค่ะ เสร็จแล้วเราจะมารอกันที่ตรงนี้นะเจ้าคะ แล้วกลับจวนพร้อมกัน” แม่บ้านเจียงชี้ไปที่มุมของถนน
“ได้เลย งั้นไว้เจอกันนะ”
ซุยหลินพยักหน้ารับก่อนจะเดินแยกไปอีกทางโดยมีเจียงสุ่ยเดินตามเป็นเงา เมื่อเจออาหารที่ดูแล้วน่าสนใจซุยหลินก็เดินพุ่งเข้าใส่เลยทันที
“อันนี้อะไรหรือท่านป้า”
“หมาฮัวเจ้าค่ะคุณชาย”
“น่าอร่อย เอามาให้ข้าสี่ชิ้น”
“ได้เจ้าค่ะ”
เมื่อได้หมาฮัวมาแล้วก็ยื่นให้เจียงสุ่ยเป็นคนถือก่อนจะเดินเข้าร้านที่ของของกินอีกหลายร้าน จนเจียงสุ่ยมีของที่ต้องหอบหิ้วอยู่เต็มมือ
“นายน้อยขอรับ ข้าไม่มีมือจะถือแล้ว” เจียงสุ่ยบ่น
ซุยหลินหันหลังกลับไปมองก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อตัวที่ใหญ่โตของเจียงสุ่ยเต็มไปด้วยของกินที่พยายามถือไว้ “ข้าขอโทษ แบบว่ามันมีแต่ของที่น่าอร่อยนี่นา”
“เราต้องซื้อปลานะขอรับ ข้าว่าเราไปที่ร้านปลากันดีกว่า”
“ก็ได้ๆ ไว้เดี๋ยวอย่างอื่นที่ข้าอยากลองชิมเราค่อยมากันอีกทีวันหลัง”
“ได้เลยขอรับนายน้อย”
ซุยหลินเดินนำเจียงสุ่ยไปที่ร้านปลาที่อยู่ใกล้ที่สุด มองหาพ่อค้าไม่นานชายร่างอ้วนพุงพลุ้ยก็เดินเข้ามาหา
“คุณชายอยากได้ปลาแบบไหนหรือขอรับ”
“ขออยากได้ตัวเล็กๆ น่ะ ที่ร้านของท่านมีไหม”
“มีขอรับ ข้ามีปลากะตักขอรับ อยู่ทางนี้ ท่านมาดูก่อนได้”
ซุยหลินเดินไปทางที่พ่อค้าบอกก่อนจะเจอกับปลากะตักตัวเล็กตัวน้อยกองอยู่เต็มไปหมด
“ทำไมมันเหลือเยอะกว่าปลาชนิดอื่นเล่า” ซุยหลินมองถังใส่ปลาที่บางถังก็เกือบหมดแล้ว มีเพียงปลากะตักที่ยังเหลืออยู่เกือบเต็มถัง
“เนื่องด้วยมันเป็นปลาตัวเล็กน่ะขอรับ ทำอาหารยาก ชาวบ้านเลยไม่ค่อยนิยมกันเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าจะราคาถูกแต่ก็ทำอาหารไม่อร่อยเพราะเนื้อน้อย ข้าลากอวนขึ้นมาได้ปลาพวกนี้ทุกวันก็เลยต้องเอามาขาย”
“อืม.. ก็ดีเลย เอาเป็นว่าข้าเหมาทั้งหมดเลยนะ เอาไปส่งที่จวนตระกูลซุยให้ข้าด้วยได้หรือไม่”
“ได้เลยขอรับนายน้อย” พ่อค้าก้มหัวขอบคุณซุยหลินรัวๆ
“แล้วก็ถ้าวันไหนเจ้ามีปลานี่อีกก็เอาไปส่งข้าที่จวนได้ ข้ารับทุกวัน”
“ด้วยความยินดีขอรับนายน้อย”
ซุยหลินยิ้มกว้างหยิบเงินจ่ายให้พ่อค้าปลาก่อนจะเดินกลับไปที่จุดนัดพบกับแม่บ้านเจียง
“ซื้อไปเยอะขนาดนั้นเราจะรักษามันอย่างไรขอรับนายน้อย ปลามันอาจจะเน่าได้” เจียงสุ่ยถาม
“ก็ตากแห้งไง เหมือนปลาตากแห้งทั่วไปนั่นแหละ”
“แล้วมันไม่เยอะเกินไปหรือขอรับ”
“ข้ามั่นใจว่าปลาเคลือบซอสของเราต้องขายดีแน่นอน ก็เลยต้องมีตุนไว้เยอะหน่อยยิ่งดี เดี๋ยวก่อนเปิดร้านข้าก็ต้องไปซื้อถั่วพวกนั้นมาตุนไว้เช่นกัน”
“แต่ว่า.." เจียงสุ่ยทำท่าจะพูดแย้งแต่ก็เลือกที่จะเงียบไป "หากนายน้อยว่าแบบนั้นข้าก็ยินดีลงมือช่วยขอรับ”
“ดีมาก เรารีบไปรอท่านแม่บ้านกันเถอะ ข้าอยากกลับจวนไปลองชิมขนมที่ซื้อมาเต็มทีแล้ว”
เมื่อกลับถึงจวนซุยหลินก็มานั่งกินขนมที่ซื้อมาอยู่ในศาลาสระบัวหลังจวนกับสองพี่น้องเจียงอย่างเอร็ดอร่อย บรรยากาศดีมีลมเย็นๆ พัดเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้ไม่รู้สึกร้อน จนซุยหลินรู้สึกเจริญอาหารเป็นอย่างยิ่ง
“หมาฮัวอันนี้อร่อยมาก ข้าชอบยิ่งนัก เดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปตลาดเช้ากันอีกนะ”
“ได้เลยขอรับนายน้อย” เจียงเฉิงพูดทั้งๆ ที่ยังมีเสี่ยวหลงเปาอยู่เต็มปาก
“กินไปให้หมดปากก่อนค่อยพูด เจ้าเคยบอกให้ข้ารักษากิริยาให้เรียบร้อยสมกับเป็นเกอ แต่ดูเจ้าตอนนี้สิ”
เจียงเฉิงกลืนเสี่ยวหลงเปาลงไปจนหมดก่อนจะเม้มปากอย่างเขินอาย “ก็มันอร่อยนี่ขอรับ”
“ถ้าอร่อยเดี๋ยวพรุ่งนี้เราไปกันอีก ข้าจะซื้อให้พวกเจ้ากินจนเบื่อกันไปเลย”
“ข้าเกรงใจขอรับ ไม่เอาดีกว่านายน้อย”
“นั่นสิขอรับ แค่นี้พวกข้าก็พอใจแล้ว” เจียวสุ่ยกับเจียงเฉิงส่ายหน้าเล็กน้อย
“ไม่ได้ๆ พวกเจ้ามาทำงานที่จวนข้าแบบไม่มีเงินเดือนสักทองแดงเดียวเลยด้วยซ้ำ หากเรื่องไหนที่ข้าดูแลพวกเจ้าได้ข้าก็เต็มใจทำ”
“นายน้อยของพวกเราช่างเป็นคนดีเหลือเกิน”
สองพี่น้องเจียงนั่งกอดขาซุยหลินพลางน้ำตาคลอ ทำเอาร่างบางได้แต่ส่ายหน้าให้กับความบ่อน้ำตาตื้นของสองพี่น้องเจียงอย่างรู้สึกเอ็นดู ซุยหลินปล่อยให้ทั้งคู่กอดขาร้องไห้กระซิกๆ ต่อไปแต่ตัวเองหยิบเอาเสี่ยวหลงเปากัดเข้าปากไปคำใหญ่
“ก็ข้ารับปากไปแล้วนี่นาว่าจะเลี้ยงดูทุกคนในจวนนี้เป็นอย่างดี”
Talk. เอาน้องหลินมาเสิร์ฟความน่ารักให้เหล่าหม่ามี๊ได้ชมกันก่อน
เชิงอรรถ
^ ซ่าวปิ่ง - ขนมเปี๊ยะทอด
^ หมาฮั่ว - แป้งที่ปั่นเป็นเกลียวๆ ทอดด้วยน้ำมัน
^ เสี่ยวหลงเปา -ซาลาเปาที่มีน้ำซุปและเนื้อสัตว์อยู่ข้างใน