bc

เกิดใหม่เป็นเถ้าแก่เหลาสุรา mpreg

book_age18+
174
FOLLOW
1K
READ
HE
time-travel
blue collar
sweet
rejected
like
intro-logo
Blurb

เป็นบาร์เทนเดอร์ที่กำลังรุ่งเรืองอยู่ดีๆ ต้องมาตายเพราะดื่มเหล้าจนน็อค ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองมาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ แต่งตัวโบราณกันชะมัด นี่มันอะไรกันเนี่ย...

แล้วมาเกิดเป็นเกอ.. ว่าแต่เกอเนี่ยมันคืออะไรกันนะ ไม่เข้าใจจริงๆ เลย

chap-preview
Free preview
เกิดใหม่ครั้งที่ 1
เกิดใหม่เป็นเถ้าแก่เหลาสุรา เกิดใหม่ครั้งที่ 1 เสียงเจี๊ยวจ๊าวของพนักงานที่กำลังช่วยกันจัดร้านเพื่อเตรียมเปิดต้อนรับลูกค้าดังขึ้นอย่างสนุกสนาน ร้าน Mao-nae-non เป็นบาร์กึ่งผับที่มีลูกค้าแน่นขนัดทุกคืนเนื่องจากฝีมือชงเหล้าและหน้าตาที่หล่อเหลาของบาร์เทนเดอร์มือทองที่มีชื่อว่าหลิน แม้จะเป็นชื่อที่ฟังในครั้งแรกแล้วขมวดคิ้วสงสัยว่าคนที่ดูชื่อหน่อมแน้มแบบนี้น่ะหรอเป็นบาร์เทนเดอร์มือทองของร้าน ลูกค้าหน้าใหม่ทุกคนที่เข้ามาในร้าน Mao-nae-non ก็มีสงสัยบ้าง แต่พอได้ลิ้มรสแอลกอฮอล์ที่หลินเป็นคนชงให้ก็ต้องเอ่ยชมออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่ารสชาติอร่อยแบบที่ร้านอื่นไม่สามารถทำให้ได้แน่นอน ขอแรงได้แรง ขอเข้มก็ได้เข้มแบบที่ทำให้ล้มนอนดูดาวได้ภายในแก้วเดียว “พี่หลินหวัดดีค้าบ” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยทักเมื่อหลินเปิดประตูเดินเข้าไปในร้าน “เออหวัดดี จัดร้านเสร็จกันยัง วันนี้มีปาร์ตี้วันเกิดเจ๊มุ่ยต่อนะเว้ยอย่าลืม” หลินตอบรุ่นน้องที่เดินเข้ามาทัก ก่อนจะหันไปคุยกับรุ่นน้องอีกหลายคนที่กำลังช่วยกันจัดร้านอยู่ “จะเสร็จแล้วพี่ ทันเปิดร้านแน่นอน” “เออๆ เอาให้ดีนะพวกมึง แล้ววันนี้อย่าโดนลูกค้ามอมจนเมาล่ะ ไม่งั้นอดแดกเหล้าที่กูชงแน่” “โห ไม่มีทางพี่หลิน เดี๋ยวพวกผมรีบล้างคอรอเลย” “เออ กูจะรอดู” หลินว่าแบบนั้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องส่วนตัวของตัวเอง เนื่องจากเขาเป็นตัวทำเงินเจ๊มุ่ยเจ้าของร้านเลยทำห้องส่วนตัวไว้ให้เขา ภายในห้องก็ไม่ได้มีอะไรมาก มีโต๊ะตัวใหญ่ ทีวี และโซฟานุ่มๆ ให้หลินได้มาพักผ่อนก่อนเริ่มงานและหลังเลิกงานงาน ร่างโปร่งนอนยืดขาบนโซฟาก่อนจะแอบงีบหลับสักหน่อย ช่วงนี้เขาโดนลูกค้าซื้อดื่มให้จนแทบจะคลานกลับบ้านทุกวันแล้ว วันนี้ก็ต้องดื่มอีกเนื่องจากวันเกิดเจ้าของร้าน เห็นทีว่าเดี๋ยวต้องลาหยุดขอพักตับพักไตสักอาทิตย์แล้ว “เพิ่งอายุยี่สิบหกเอง กูจะเป็นโรคตับแข็งตายก่อนไหมไอ้ห่า” หลินว่าอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหลับไป ไม่นานเด็กในร้านก็เดินเข้ามาเรียกเนื่องจากลูกค้าประจำมาแล้ว หลินจะต้องเข้าไปเอาใจสักหน่อยเพราะลูกค้าคนนี้ค่อนข้างมือหนักเวลาให้ทิป “ผมเอาเป็นวิสกี้แบบนี้ทสองแก้วครับ” หนุ่มหน้าใสที่เป็นลูกค้าประจำเอ่ยสั่งทันทีที่หลินเดินเข้าไปในบาร์น้ำ หลินยิ้มเอาใจก่อนจะรีบเทวิสกี้ลงแก้วให้สองที่ตามลูกค้าสั่ง “ของผมแก้วหนึ่ง อีกแก้วของคุณหลินครับ” ลูกค้าดันเอาแก้ววิสกี้มาให้หลินที่แอบทำหน้าพะอืดพะอมเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปยิ้มกว้างแล้วรับเอาแก้ววิสกี้มากรอกใส่ปากจนแล้วทำหน้าเบ้ ไอ้ที่กินไปเมื่อคืนยังอยู่ในท้องอยู่เลย หลินรู้สึกคลื่นไส้แทบจะอ้วกออกมาแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้เพราะต้องทำงานต่อ และเขาก็โดนลูกค้าขาประจำซื้อดื่มให้จนแทบจะยืนอยู่บนพื้นต่อไปไม่ไหว เขารับแก้วสุดท้ายมาไว้ก่อนจะโบกมือส่งลูกค้าขาประจำที่ค่อยๆ เดินออกจากร้านไป หลินเก็บเอาทิปทั้งหมดที่ได้มาวันนี้เข้ากระเป๋าถึงแม้ว่าแบงก์สีเทาจะหลายใบแต่ตอนนี้เขาว่าเขาดื่มอะไรลงไปอีกไม่ได้แน่นอน ดื่มสุดท้ายที่ลูกค้าซื้อให้จึงยื่นให้กับเด็กเสิร์ฟคนหนึ่งแทน “โหย วอดก้าเลยหรอวะพี่” “เออ แดกๆ ไปกูไม่ไหวแล้ว” หลินทำหน้าพะอืดพะอม “ไหวไหมพี่ หน้าพี่ซีดมากเลยตอนนี้” “ไหวๆ น่าจะชงเหล้าให้พวกมึงได้ฉลองวันเกิดเจ๊มุ่ยได้อยู่” “โอเคๆ งั้นผมไม่กวนแล้วนะครับ” หลินพยักหน้าให้รุ่นน้องก่อนจะเดินกลับมาทำเครื่องดื่มที่ต้องเตรียมไว้ให้ทุกคนปาร์ตี้ในคืนนี้ เขากะว่าจะทำเป็นค็อกเทลเบาๆ เพราะว่าพรุ่งนี้ทุกคนยังต้องมาทำงานอยู่ จะมอมให้เมากันไปเลยก็กลัวว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีคนมาทำงานแล้วเจ๊มุ่ยจะอาละวาดเอา “สวัสดีค่าอีกพวกเด็กเปรต” เจ๊มุ่ยที่เพิ่งจัดการบัญชีเสร็จเดินลงมาทักทายลูกน้อง “หวัดดีค้าบเจ๊/หวัดดีค่าพี่มุ่ย” เจ๊มุ่ยพยักหน้าให้กับลูกน้องก่อนจะเดินมาหาหลิน “อีหลิน ทำไมหน้ามึงซีดเบอร์นั้น” “เวียนหัวนิดหน่อยเจ๊ ลูกค้ามอมเหล้าแรงมาหลายวันแล้ว” “คุณมีนน่ะหรอลูกค้าที่ว่า” “เออดิเจ๊ ไอ้เหี้ยเหล้าแพงขนาดไหนก็ไม่บ่น เบิ้ลสองๆ จนผมจะอ้วกรดหน้าเขาอยู่แล้ว” “แต่เขาก็ให้ทิปดีไม่ใช่หรอ” “ก็ดีอ่ะ วันนี้ก็ได้สีเทามาหลายใบ แต่ร่างกายผมไม่ไหวแล้วเจ๊ ขอลางานได้ไหมสักอาทิตย์ให้ผมได้พักร่างกายหน่อย” “เออๆ งั้นพรุ่งนี้มึงก็พักไปเลย ค่อยมาทำงานอาทิตย์หน้า มึงเป็นบ่อเงินบ่อทองของกู กูก็ต้องดูแลให้ดีที่สุดดิ” “ขอบคุณครับเจ๊” หลินหันไปยกมือไหว้ของคุณเจ๊มุ่ยก่อนจะหันกลับมายกโหลเครื่องดื่มที่ชงเสร็จแล้วไปให้เจ๊มุ่ย แต่ยังไม่ทันได้วางโหลค็อกเทลดีเลยหลินก็ตัวโงนเงนประคองร่างกายไม่อยู่ ล้มลงในบาร์น้ำท่ามกลางเสียงตกใจและร้องเสียงดังของเจ๊มุ่ย “ว้ายอีหลิน!!!!!” หลินเห็นภาพเลือนรางว่าเจ๊มุ่ยรีบวิ่งอ้อมเข้ามาหาเขา แต่เจ๊มุ่ยยังไม่ทันจะวิ่งถึงตัวเขาด้วยซ้ำ ภาพก็ตัดไปเป็นสีดำ.. แล้วเขาก็มองไม่เห็นอะไรอีกเลย..... “อาหลิน” “....” “อาหลินลูกพ่อ” “....” “อาหลิน!!!!” “เห้ย!!!” หลินตกใจสะดุ้งขึ้นมา เมื่อลืมตาขึ้นเขารู้สึกราวกับว่าโลกมันหมุนไปพักหนึ่งก่อนที่เขาจะสบัดหัวน้อยๆ เพื่อเรียกสติ หลินหันไปมองคนที่ร้องเรียกชื่อของเขา ก่อนจะพบว่าเป็นพ่อของเขาที่ดูใส่ชุดแปลกๆ เหมือนคนจีนยุคโบราณยังไงยังงั้น “ป๊าใส่ชุดบ้าอะไรเนี่ย” “ไอ้หยา เจ้าล้มจนสมองมันกระทบกระเทือนเพี้ยนไปแล้วหรือ” “หา.. อะไรนะ” “ไม่ได้การๆ ข้าต้องไปตามท่านหมอมาแล้ว” แล้วพ่อของหลินก็เดินออกไปทันที ทิ้งให้หลินทำหน้างง หลินที่เหมือนสติยังไม่กลับเข้าสมองได้แต่มองไปรอบๆ อย่างไม่เข้าใจว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ห้องนี้น่าจะเป็นห้องนอนเพราะเขานอนอยู่บนเตียงที่ปูด้วยผ้าผืนบางๆ แต่มองดูการตกแต่งที่แสนโบราณนี่แล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ไม่นานพ่อของหลินก็เดินเข้ามาพร้อมกับคนที่น่าจะเป็นหมอ “ท่านหมอช่วยลูกข้าด้วย เมื่อวานเขาล้มอยู่หน้าจวน กว่าข้าจะไปเจอเขาก็นอนแน่นิ่งไปแล้ว ฟื้นขึ้นมาพูดจาก็ไม่รู้เรื่อง" เดี๋ยวตาแก่ ใครกันแน่ที่พูดไม่รู้เรื่อง หลินขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆ อ้าปากเพื่อพูดออกมาแต่ก็รู้สึกเหมือนจะไม่สามารถเปล่งเสียงได้ จนคนที่พ่อของหลินเรียกว่าหมอค่อยๆ เดินเข้ามาหาหลินแล้วจับตรงนั้นตรงนี้เพื่อตรวจอาการ หลินก็พยายามดิ้นหนีเนื่องจากไม่ชอบให้ใครมาแตะตัว “เดี๋ยวก่อนลุง มาแตะตัวคนอื่นสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้ได้ยังไง” “ข้ามาตรวจร่างกายเจ้าตามที่พ่อเจ้าไปเรียกข้ามาอย่างไรเล่า” “ผมไม่ได้เป็นอะไรจะมาตรวจทำไม” “ไอหยา.. แล้วลูกชายข้าจะเป็นอะไรมากไหมท่านหมอ” พ่อของหลินทำหน้าตาตื่นก่อนจะเดินเข้ามาใกล้อย่างเป็นห่วง “ข้าว่าอาจจะเป็นเพราะลูกชายท่านหัวกระทบกระเทือนเลยพูดจาไม่รู้ความ เอาเป็นว่าเดี๋ยวข้าเขียนเทียบยาให้ แล้วท่านไปซื้อยามาต้มให้เขาดื่มเสีย ไม่กี่วันก็น่าจะดีขึ้น” “ได้ขอรับ” พ่อของหลินและคุณหมอพูดคุยกันถึงเรื่องยาก่อนจะเดินออกไปจากห้อง หลินที่ยังไม่เข้าใจอะไรสักอย่างค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไปช้าๆ ตาเรียวมองของตกแต่งภายในบ้านก็ต้องรู้สึกงงมากขึ้นไปอีก “กูมาอยู่ที่ไหนวะเนี่ย ทำไมมันแปลกหูแปลกตาไปหมด” หลินตาโตก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอกบ้าน แต่ก็ต้องตาโตกว่าเดิมและอ้าปากค้างเมื่อวิ่งออกมาแล้วเจอกับผู้คนที่แต่งตัวด้วยชุดจีนโบราณ บางคนก็แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่สวยงามหรูหรา บางคนก็เสื้อผ้าเก่าๆ ขาดๆ “นี่มันอะไรวะเนี่ยยยยยยย” หลินตะโกนออกไปเสียงดัง ไม่นานพ่อก็วิ่งเข้ามากอดหลินไว้ก่อนจะเอ่ยปลอบให้หลินใจเย็นๆ แต่หลินที่เหมือนกำลังสติหลุดได้แต่ดีดดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของพ่อ จนชาวบ้านที่อยู่โดยรอบได้แต่มองมาด้วยความสนใจก่อนจะหันไปนินทากัน “ใจเย็นๆ อาหลินของพ่อ” “เย็นเหี้ยไรล่ะป๊า นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!” ว้ายตายแล้ว เกอผู้นี้ตะคอกใส่บิดางั้นรึ ถ้าเป็นลูกชายข้าเห็นทีว่าต้องตบปากจนกว่าจะมีเลือดไหล แย่มาก บิดาก็แก่จนปานนั้น เสียงนินทาของผู้คนที่อยู่โดยรอบทำให้หลินรู้สึกงง ร่างบางทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นก่อนจะเอามือมาขยี้ผมตัวเอง “ไอ้เหี้ยยยยย ผมกูยาวขนาดนี้ได้ไงเนี่ยยย” “อาหลิน ใจเย็นๆ ก่อน” “เหี้ยยยยย ลายดอกส้นตีนอะไรบนข้อมือกูเนี่ย” “ฮึก...อาหลินลูกพ่อ” เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นของคนเป็นพ่อก็ทำให้เหมือนหลินจะได้สติ ร่างบางกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะหยุดดิ้นแล้วมองหน้าพ่อตัวเอง มือบางค่อยๆ ยกขึ้นเช็ดน้ำตาของพ่อออก ก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดฟอดใหญ่ “เข้าบ้านกันเถอะป๊า หนูมีเรื่องอยากคุยกับป๊าเยอะแยะเลย” สองพ่อลูกเดินประคองกันเข้าบ้านไป เหล่าจีนมุงทั้งหลายเลยแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตของตัวเองต่อเพราะไม่มีอะไรให้ดูแล้ว เมื่อหลินได้มีโอกาสมานั่งตั้งสติเรื่องราวหลายๆ อย่างก็พุ่งเข้ามาในหัวจนหลินรู้สึกเบลอ เขามีนามว่าซุยหลิน เป็นบุตรเพียงชายคนเดียวของเถ้าแก่ซุยเจียงที่ทำอาชีพเปิดร้านสุราและเขายังเป็นเกออีกด้วย “เกอเหี้ยไรวะ กูมีจู๋นะ กูจะท้องได้ไง” ซุยหลินลูบไปที่หน้าท้องตัวเองก่อนจะบ่นพึมพำราวกับคนเสียสติ เถ้าแก่ซุยเห็นว่าลูกชายมีท่าทีไม่ดีจึงรีบวิ่งเข้าไปในครัว เพื่อต้มยาที่เพิ่งได้มาจากใบเทียบยาใบนั้น ท่านหมอรับประกันว่าไม่นานซุยหลินก็จะต้องกลับมาเป็นปกติแน่นอน ร่างบางมองลายดอกเหมยที่ข้อมือตัวเองอย่างเหม่อลอย จนไม่รู้ว่านั่งเหม่อมานานแค่ไหนแล้ว เถ้าแก่ซุยค่อยๆ เดินถือถ้วยยาเข้ามาหา กลิ่นเหม็นเขียวนั่นทำเอาซุยหลินเบ้หน้า “นี่ยา เจ้าดื่มสักหน่อยเถิดอาหลิน” เถ้าแก่ซุยยื่นถ้วยยาให้ซุยหลิน “ไม่เอาอ่ะพ่อ มันเหม็นเขียว” “เห็นอย่างไรเจ้าก็ต้องดื่ม มันจะช่วยให้สติของเจ้ากลับคืนมา” เถ้าแก่ซุยไม่ยอมให้ลูกชายปฏิเสธ ชายชรายกเอาถ้วยยาเข้าไปจ่อปากซุยหลินก่อนจะบังคับให้ดื่มเข้าไป ร่างบางสู้แรงไม่ไหวจึงจำใจยอมกลืนยาเหม็นเขียวนั่นลงคออย่างเลี่ยงไม่ได้ “แหยะ โคตรเหม็นเขียวเลย” ซุยหลินแลบลิ้นออกมา “กิริยาไม่งาม” เถ้าแก่ซุยตีมือของซุยหลินที่กำลังขูดลิ้นของตัวเองอยู่ “พ่ออ่ะ” “ไอหยาๆๆๆ” เถ้าแก่ซุยส่ายหน้าก่อนจะเดินหนีออกไปที่อื่น ทิ้งให้ซุยหลินนั่งอยู่คนเดียว เมื่อได้มีโอกาสอยู่คนเดียวซุยหลินก็พยายามเค้นความทรงจำในสองของร่างนี้ ก่อนจะได้ความมาว่าตอนนี้เหลาสุราของเถ้าแก่ซุยมีปัญหาเนื่องจากมีคู่แข่งมาเปิดร้านที่ซอยข้างๆ แล้วด้วยความที่เถ้าแก่ซุยนั้นเป็นเพียงชายแก่ธรรมดาที่ต่อให้มีรสมือในการหมักเหล้าที่ดีเท่าไหร่ก็สู้การค้าของคู่แข่งไม่ได้ จะให้บุตรชายที่มีเพียงคนเดียวไปช่วยดูแลร้านแต่บุตรชายที่ว่าก็เป็นเพียงเกอตัวน้อยๆ เท่านั้น คืนวันที่ซุยหลินต้องสลบนอนอยู่ที่หน้าจวนนั้นเกิดจากร่างบางเพิ่งเดินทางกลับมาจากการไปเก็บสมุนไพรบนเขา ว่าจะเอาสมุนไพรที่เก็บมาได้มาปรึกษากับบิดาว่าจะลองเปลี่ยนวิธีหมักเหล้าให้ดูมีอะไรที่น่าแปลกใจดีหรือไม่ แต่ก็โดนอันธพาลที่ร้านคู่แข่งจ้างมากระทืบเถ้าแก่ซุยที่กำลังพยายามจะปืนเข้าจวนเสียก่อน ซุยหลินที่รู้สึกตกใจจึงตะโกนออกไปเสี่ยงดัง เป้าหมายจึงกลายมาเป็นซุยหลินแทน ร่างบางโดนฟาดเข้าที่หัวอย่างจังก่อนจะสลบไป ทีแรกพวกมันคิดจะเอาซุยหลินที่เป็นเกอไปร่วมกันข่มขืน แต่ว่ามีชาวบ้านเดินผ่านมาเสียก่อนพวกมันจึงต้องรีบหนีไป ซุยหลินที่โดนฟาดหัวนั้นนอนสลบไม่ได้สติ ลมหายใจค่อยๆ เบาลงจนทำให้ถึงแก่ชีวิต แม้ว่าการที่ตัวเองตายจากร่างก่อนแล้วมาโผล่ในร่างนี้จะทำเอาไอ้หลินเกิดอาการไม่เข้าใจเล็กน้อย แต่ทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่เขาต้องทำคือใช้ชีวิตเดินหน้ากันต่อไป เขาจะใช้ชีวิตแทนซุยหลินคนก่อนเอง “เดี๋ยวต่อไปนี้ผมจะดูแลร้านและพ่อของคุณเอง ไม่ต้องห่วงนะครับ” ซุยหลินพูดพลางใช้มือวางที่หน้าอกราวกับอยากจะสื่อสารกับเจ้าของร่างเดิม เถ้าแก่ซุยที่เดินเข้ามาเจอลูกชายทำท่าทางแปลกๆ อีกก็ได้แต่ส่ายหัว “อ..เอ่อ.. ท่านพ่อ” “ว่าไง” เถ้าแก่ซุยหันไปมองซุยหลิน “แล้วเหลาสุราละขอรับ วันนี้ไม่เปิดหรือ” “ก็ต้องมาดูแลเจ้า พ่อก็เลยไม่ได้เปิด แต่ก็คงไม่ได้กลับไปเปิดอีกแล้วแหละ” เถ้าแก่ซุยเสียงเบาในประโยคสุดท้ายก่อนจะก้มหน้ามองพื้น “มันแย่มากเลยหรือขอรับ” “ไม่มีลูกค้าเข้ามาซื้อเหล้าหลายวันแล้ว สงสัยเหล้าของพ่อมันยังไม่ดีพอ อีกทั้งพ่อเองก็แก่ตัวมาก คงถึงเวลาที่จะต้องหยุดพักแล้ว” ซุยหลินกัดปากตัวเองอย่างลังเลว่าจะพูดออกไปดีไหม “งั้น.. ท่านพ่อให้ข้าเข้าไปช่วยดีหรือไม่” “เกออย่างเจ้าจะไปช่วยอะไรพ่อได้ อยู่จวนไปแบบนี้ก็ดีแล้ว สักวันคงมีคนมาสู่ขอเจ้าไปเป็นภรรยา” “แหยะ..ไม่เอาอ่ะ ขนลุกตาย” ซุยหลินทำท่าขนลุก “ท่านพ่อลองให้ข้าเข้าไปช่วยดูแลร้านเถิด หากว่าข้าไม่สามารถทำมันได้ ข้าจะยอมให้ท่านพ่อปิดเหลาสุรา และข้าจะออกเรือนแต่งงานทันที ค่าสินสอดคงจะช่วยให้ท่านพ่อได้อยู่กินไปอีกหลายปีอย่างไม่ลำบาก” “อยู่ที่จวนเย็บปักผ้าทำความสะอาดจวนก็ดีอยู่แล้ว เป็นเกอไยจะต้องมาทำงานที่เหลาสุรา” “ได้สิขอรับ ก็นั่นมันเป็นเหลาสุราของท่านพ่อ ท่านกับท่านแม่ช่วยกันสร้างมันขึ้นมา ข้าจะปล่อยให้มันพังลงไปได้อย่างไร” “แต่ว่า..” “ท่านพ่อเชื่อใจข้านะขอรับ ข้าสัญญาว่าร้านของเราจะกลับมายิ่งใหญ่และรุ่งเรืองอีกครั้งแน่นอน ให้ข้าทำมันนะขอรับ” “อาหลินเอ๊ย.. ลูกพ่อ” เถ้าแก่ซุยเดินเข้ามาโอบกอดซุยหลินก่อนจะร้องไห้ออกมา ชายชรารักเหลาสุรามาก ด้วยความที่คอยดูแลราวกับว่าเติบโตมาพร้อมกับมัน การที่ต้องมาปิดมันลงด้วยมือตัวเองเถ้าแก่ซุยก็ทำใจได้ยาก เขายืนกอดกับบุตรชายอยู่นานก่อนจะคลายกอดแล้วมองซุยหลินด้วยสายตาจริงจัง “เช่นนั้นพ่อจะให้เจ้าดูแลร้านสองเดือน ถ้าหากว่ามันไม่ดีขึ้นพ่อจะปิดร้านแล้วขายที่ตรงนั้นออกเสีย” “ขอรับ ข้าจะพยายาม” ซุยหลินยิ้มหวานก่อนจะสวมกอดเถ้าแก่ซุยอีกครั้ง ตอนที่หลินตายก็ไม่ได้มีโอกาสไปเอ่ยลาพ่อของตัวเองเลย การที่ยังได้มีโอกาสกลับอยู่กับพ่ออีกครั้งหลินจึงอยากจะทำมันให้ดีที่สุด เมื่อก่อนจวนตระกูลซุยรุ่งเรืองมีทรัพย์สินและจวนหลังใหญ่ มีคนใช้อยู่มากมาย แต่ก็ต้องให้คนใช้ออกจากจวนไปเนื่องจากแบกรับค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนไม่ไหว เหลาสุราที่เคยมีลูกค้าเดินเข้ามานั่งดื่มมากมาย จนพากันแย่งที่นั่งภายในร้านตอนนี้ก็กลายเป็นร้านที่ไม่มีใครเดินผ่านด้วยซ้ำ ซุยหลินมั่นใจในฝีมือการเป็นบาร์เทนเดอร์จากชีวิตที่แล้ว เขามั่นใจว่าเขาจะต้องทำให้เหลาสุรากลับมารุ่งเรืองอีกครั้งให้จนได้ แต่ก่อนอื่นก็ต้องไปดูคู่แข่งก่อนว่าเขาทำงานกันอย่างไร เพื่อที่จะได้วางแผนตอกกลับไปเสียบ้าง ให้มันได้รู้ว่าเขาและเถ้าแก่ซุยจะไม่ยอมอีกต่อไป ซุยหลินทำหน้ามุ่งมั่นแต่เถ้าแก่ซุยกลับเห็นเป็นว่าลูกชายทำหน้าพิลึก ชายชราส่ายหัวก่อนจะเดินกลับเข้าครัวไปต้มยาถ้วยใหม่มาให้ซุยหลินได้ดื่มอีกครั้ง เผื่อว่าจะช่วยให้อาการเพี้ยนหายไปเร็วๆ “ท่านพ่อ ข้าไม่ดื่มแล้ว” “ดื่มมันลงไป ท่านหมอบอกว่าเจ้าจะหายเร็วขึ้นถ้าดื่มบ่อยๆ” “อันเก่ายังเหม็นเขียวอยู่ที่คออยู่เลย ไม่เอาว้อย” Talk. แหะๆ เปิดตัวน้องหลินค่า หวังว่านักอ่านทุกท่านจะถูกใจกัน #เกิดใหม่เป็นเถ้าแก่เหลาสุรา

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

เป็นแฟนผมนี่มันไม่ดียังไงครับเฮีย

read
2.8K
bc

งูบ้านนี้สายพันธุ์เหมียว (Luna V.)

read
1K
bc

Heroine (ที่นี่ไม่มี นางเอก)

read
13.9K
bc

เป็นได้แค่เพื่อน(รัก)

read
7.4K
bc

คุณอาของหนู...น่ารักกว่าใคร

read
7.4K
bc

ผีเสื้อสมุทรจะเลี้ยงลูก

read
1K
bc

เมื่อปีศาจมาสิงสู่ [omegaverse]

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook