คีย์ตะวันมองหน้าผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกเจ็บลึกกัดกินไปทั้งกล่องดวงใจ มันจุกทั้งที่ไม่ได้หกล้มหรือโดนต่อยเข้าที่ท้องน้อย เพียงแค่ฟังประโยคนั้นก็ทำเอาเธอจุกจนหาเสียงตัวเองมาแย้งไม่เจอ
“อย่าคิดทำอะไรแผลง ๆ อีก ฉันยอมเธอมาตลอดเพราะเธอเป็นหลานรักของปู่ฉัน แต่คีย์ตะวันเธอลืมอะไรไปหรือเปล่าตอนนี้ปู่ฉันไม่อยู่เข้าข้างเธอแล้วนะ”
คนฟังหน้าชาไปอีกครั้ง เพียงเพราะเธอไปเห็นเขาอยู่กับกิ๊กเก่าคนนั้นทำให้เขาโมโหเธอขนาดนี้ใช่หรือไม่
“คุณมีสักเสี้ยวความคิดที่จะเริ่มต้นใหม่กับฉัน สร้างครอบครัวอบอุ่นด้วยกันไหมคะ?”
เป็นคำถามที่เธอเองก็ไม่อยากได้ยินคำตอบเหมือนกัน
“ในหัวฉันมีแต่ตอนไหนจะได้หย่า”
“!!!”
คีย์ตะวันมองคนเดินห่างออกไปเรื่อย ๆ ด้วยหัวใจโทรมเลือดกลั่นหนอง เมื่อก่อนเธอคงลงไปกอดขาเขาแน่นไม่ยอมรับในสิ่งที่ได้ยินอย่างแน่นอน เธอเป็นนางร้ายในสายตาของผู้คนเพราะรักผู้ชายคนนี้มากเกินไป
“คีย์ตะวัน ฉันจะลองให้โอกาสแกอีกหนึ่งครั้ง” เจ๊เอมมี่นั่งไขว่ห้างมองสภาพของเด็กสาวตรงหน้าแล้วอยากจะยกมือกุมขมับ ทั้งถุงใต้ตาดำคล้ำเหมือนคนไม่ได้นอนมาหลายคืน ไหนจะหนังตาปรือ ๆ นั่นอีก ดูไม่ออกเลยว่าผ่านการร้องไห้มาหนักแค่ไหน “คีย์ตะวัน”
“คะเจ๊?” คนใจลอยเงยหน้าขึ้นมอง สายตาเต็มไปด้วยคำถาม
“นี่คืองานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของอังสุมาดาราดังเมืองคาล ภายในงานนี้จะมีบรรดานักลงทุนมากหน้าหลายตาแกควรแต่งตัวสวย ๆ ไปเดินให้คนอื่นมองเห็นแสงออร่าในตัวแก”
“งานเลี้ยงการกลับมาของใครนะคะ?”
“อังสุมานางเอกเมืองคาลที่ดัง ๆ นั่นไง ภายในงานต้องมีทั้งผู้จัดผู้กำกับนักเขียนนักข่าวอยู่ในงานเต็มไปหมด แต่งตัวสวย ๆ ให้เข้าตาพวกแมวมองเชื่อฉันหน้าตาแบบแกดังได้สบาย ๆ ทำตัวดี ๆ หน่อย”
“อังสุมาเหรอคะ?” ขอให้ไม่ใช่อังสุมาเดียวกันกับที่เธอคิดแล้วกัน
แต่เหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าข้างเธอเท่าไหร่ นอกจากคนตรงหน้าเป็นอังสุมาเดียวกันกับที่เธอคิด สามีที่เธอคิดว่าเขาไปคุยงานตามที่ได้แอบถามกับคุณเรียวมะก็ยังอยู่ที่งานเลี้ยงแห่งนี้เหมือนกัน
“อ้าว! คุณหนูคีย์ตะวัน”
คีย์ตะวันหันไปตามเสียงเรียกก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย คนตรงหน้าเธอคือนางแบบและนักแสดงชื่อดังอย่าง ‘มาตา’ เคยอยู่ในสังกัดเดียวกันกับเธอแต่ไม่ใช่ว่าจะถูกกันนะ เพราะเมื่อก่อนมีงานใหญ่เจ๊เอมมี่ก็จะดันหลังเธอออกหน้าตลอด แต่มาตาได้รับเพียงงานที่เธอปัดผ่าน
“มาตา” เรียกชื่อคนตรงหน้าเบา ๆ ไม่ได้อยากจะเสวนาด้วยเพราะอดีตคู่เรามันน่าจดจำที่ไหน “มางานนี้ด้วยเหรอ”
“ใคร ๆ ก็ต้องมาให้นางเอกเมืองคาลเห็นหน้า ถ้าอังสุมาอยากให้ใครไปเล่นเป็นนางรองตัวละครนั้นต้องถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก” มาตาเหลือบตาไปมองคนที่อยู่ในงานข้างกายมีผู้จัดการคอยประกบและบอกปัดพวกผู้กำกับหน้าใหม่ทั้งหลายที่เอาแต่ยื่นบทละครให้นางเอกสาวแถวหน้าได้ดู
คีย์ตะวันหันไปมองตามบ้าง ยิ่งเห็นความเพรียบพร้อมของผู้หญิงคนนั้นยิ่งตอกย้ำให้เธอรู้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ตั้งแต่แรก ผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ปฏิเสธพวกผู้กำกับที่คอยยื่นบทให้อย่างสุภาพ แต่พอไต้คุณปรากฏตัวอยู่ในระยะใกล้หล่อนก็เลือกที่จะเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาอย่างแนบเนียน หลายคนคิดว่าอังสุมาไปเป็นนางเอกเมืองคาลทำงานอยู่ที่ต่างประเทศ แต่มีแค่เธอที่รู้ว่านางเอกคนนั้นกลับมาไทยเกือบทุกเดือนแถมยังเอาแต่ตัวติดอยู่กับสามีเธอ
“เธอก็มาเพื่อเป้าหมายนี้ไม่ใช่เหรอ?” มาตากระตุกยิ้มเหยียด ปรายหางตามองคีย์ตะวันอีกครั้งก่อนจะเดินผ่านไปพร้อมกับผู้ช่วยของตัวเอง
ภาพชายหญิงสองคนเดินเคียงไหล่กันเข้าไปที่หน้าเวทีเรียกน้ำตาเม็ดใสของคีย์ตะวันได้เป็นอย่างดี ทั้งที่บอกตัวเองว่าให้เข้มแข็งแต่พอมาเจอจัง ๆ สุดท้ายแล้วก็ทำไม่ได้เหมือนปาก
“ขอบคุณที่มางานของอังนะคะ” หญิงสาวใบหน้าสะสวยสมกับเป็นนางเอกเบอร์ต้น ๆ ของประเทศเอ่ยขึ้นมายิ้ม ๆ
หลังจากเดินทำความรู้จักมารอบงานได้ยินเสียงคนซุบซิบกันว่าเธอกับไต้คุณเหมาะสมกันแค่นั้นก็ทำให้หัวใจดวงเล็กพองโตแล้ว
“ผมก็ต้องมาอยู่แล้ว”
“เลิกงานแล้วไปห้องอังนะคะ อังมีของขวัญพิเศษให้”
“ได้สิ แต่ตอนนี้ขอตัวไปคุยธุระก่อนนะครับ”
“ได้ค่ะ”
อังสุมามองตามร่างสูงสมส่วนเดินออกไปหัวใจหล่อนยังคงเต้นแรงทุกครั้งที่ได้เจอกับผู้ชายคนนี้ สองปีที่ต้องดั้นด้นไปอยู่ไกลเพราะหัวใจรับไม่ได้กับการแต่งงานของเขา แต่ตอนนี้เธอกลับมาแล้วกลับมาพร้อมทวงคนที่ ‘เคย’ เป็นของเธอคืนมา
อังสุมาเดินถือแก้วไวน์ในมือตรงมาหาผู้กำกับชื่อดัง เห็นว่าตอนนี้เขามีบทละครน่าสนใจในมือ ไม่แน่ที่มาร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้เพราะอยากร่วมงานกับเธอก็ได้
“สวัสดีค่ะคุณอีธาน” หญิงสาวเป็นคนเอ่ยทักทายก่อน เดินเข้าไปใกล้พร้อมกับคลี่ยิ้มส่งไปให้
“สวัสดีครับ” ผู้กำกับหนุ่มหล่อมากฝีมือค้อมหัวรับเบา ๆ ก่อนจะยื่นแก้วในมือไปชนกับแก้วที่ถูกยื่นมาตรงหน้าเขาตามมารยาท
“อังได้ยินว่าคุณกำลังหานักแสดงไปรับบทในละครที่คุณได้มาจากนักเขียนระดับตำนาน คิวอังยังว่างให้คุณอีธานได้เสมอนะคะ” เธออยากได้บทนี้และตั้งใจจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นมาเพราะบทนี้โดยเฉพาะ
บทละครในเรื่องเป็นเด็กสาวสู้ชีวิตกว่าจะร่ำรวยขึ้นมาได้ผ่านเหตุการณ์น่าสงสารมานับไม่ถ้วนแถมยังมาปิ๊งรักกับหนุ่มหล่อนักธุรกิจที่แสนจะคลั่งรัก ถ้าเธอได้รับบทนี้จะได้คะแนนสงสารจากแฟนคลับทำให้ทุกคนเอ็นดูเธอมากขึ้นอย่างแน่นอน
“แต่ผมกำลังหาคนธรรมดาแต่พิเศษมารับบทนี้ครับ คนดังแล้วไม่อยู่ในลิสต์รายชื่อนักแสดงนำของผม”
“คะ?” คำตอบของผู้กำกับหนุ่มทำเอารอยยิ้มสดใสของนางเอกสาวค่อย ๆ หุบลง
“ผมหานักแสดงที่เป็นนักแสดงจริง ๆ ครับ ไม่ใช่นักแสดงที่มีอาชีพเสริมเป็นนักประจบ”
“คุณอีธานด่าฉันอยู่หรือเปล่าคะ ขอโทษนะคะที่ความตั้งใจอันแรงกล้าของอังมันทำให้คุณผู้กำกับคิดไปแบบนั้น”
“ผมไม่ได้ด่าคุณนะครับ ใครจะกล้า” ผู้กำกับหนุ่มประดับยิ้มมุมปาก สายตาผ่าซากมองตรงไร้ความชื่นชมต่อหญิงสาวตรงหน้า ไม่รู้สิเขาอาจเป็นคนนิสัยไม่ดีประมาณว่าไม่รู้จักก็ปักใจไม่ชอบขี้หน้าไปแล้วแบบนั้นมั้ง จะบอกว่าไม่รู้จักก็ไม่ใช่นี่มันอดีตคนรักของลูกพี่ลูกน้องเขานี่นา แม้ไม่รู้ลึกแต่ก็รู้ตื้นมาเยอะเหมือนกัน
“อังมีฝีมือพอนะคะ ไม่ทำให้คุณผู้กำกับผิดหวังแน่นอน”
“ใครโดดน้ำในงานเลี้ยงคืนนี้ ผมจะให้บทนางเอกกับคนนั้นครับ” เขาตัดบทเพราะรู้ว่านางเอกเมืองคาลรักหน้าถือตาอย่างอังสุมาไม่กล้าแน่นอน
อังสุมาเหลือบตาไปมองสระน้ำด้านข้างบริเวณที่ตนเองยืนก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก สิ่งที่ผู้กำกับคิดเธอพอจะเข้าใจแล้วว่ายังไงก็ไม่ยอมยกบทนี้ให้เธอ คิดว่าเธอไม่กล้าโดดงั้นเหรอ หันไปมองคนในงานนับร้อยก่อนจะวกสายตามาหยุดอยู่ที่คนตรงหน้า เขากำลังมองเธอมาด้วยสายตาท้าทายอยู่ในที
“หวังว่าจะทำตามที่พูดนะคะ”
“แน่นอนครับ ถ้าคุณโดดลงไปคุณก็ได้บทนี้” ยังไงคนที่รักหน้าถือตาห่วงชื่อเสียงอย่างอังสุมาก็ไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่ เขาเดินกลับไปนั่งที่ม้านั่งข้างสระมองอังสุมาไม่ละสายตา
“ค่ะ” อังสุมาเดินมาวางแก้วไวน์ไว้ที่โต๊ะด้านข้างผู้กำกับหนุ่มเม้มริมฝีปากไว้แน่น ประมวลผลได้ผลเสียก่อนจะเดินกลับไปที่สระน้ำแห่งนั้น
ตู้ม!!