ตอนที่ 5 ปล่อยเพื่อจับ
THE KING GROUP เป็นบริษัทชื่อดังและมีมูลค่าทางตลาดโลกนับเป็นกลุ่มตระกูลที่มีชื่อเสียงและมีบริษัทลูกไม่ต่ำกว่าสิบห้าประเทศครอบคลุมไปถึงการท่าเรือ โรงเรียน โรงแรม โรงพยาบาล เกาะ สายการบิน และในเครือการบันเทิง ธุรกิจที่เป็นการลงทุนใหญ่ ๆ มันมีชื่อบริษัทเดอะคิงส์กรุ๊ปถือหุ้นด้วยเสมอ
ต้นกำเนิดอยู่ที่อาณาจักรแผ่นดินใหญ่อย่างจีน ถือหุ้นสูงสุดคือตระกูล ‘หวัง’ และอีกหลายตระกูลที่ยอมภักดีต่อตระกูลหวัง ผู้กุมบังเ**ยนสูงสุดตอนนี้ก็คือ ‘นายใหญ่ หวัง หลินเจีย’ บิดาของ ‘หวัง ไต้คุณ’ นายใหญ่ดูแลบริษัทในเครือทั้งหมดอยู่ที่ประเทศจีน และได้ส่งบุตรชายคนโตมาดูแลที่ประเทศไทยเพราะตนเองได้แต่งงานกับหญิงไทย และอีกฝ่ายก็มีธุรกิจเหมือนกัน มารดาของไต้คุณก็เป็นทายาทตระกูลดังเหมือนกัน เพราะฉะนั้นไต้คุณเรียกได้ว่าเกิดมาบนกองเงินกองทองไม่เกินจริง
“ฉันไม่มีนโยบายลดดอกแถมต้นทำไมรายชื่อลูกหนี้ถึงเพิ่มมากขึ้น?” ละสายตาจากหนังสือปึกหนามองหน้าเลขาของตัวเองอย่างต้องการคำตอบ
“บริษัทปล่อยเงินกู้ของเราเครดิตดีครับ คนที่มากู้ผมเช็กมาแล้วว่าถ้าไม่ได้คืนเราก็มีในสิ่งที่ได้คืนมาอยู่แล้วเลยให้กู้ครับ” เรียวมะตอบอย่างฉะฉานสมกับที่ทำงานกับไต้คุณมาตั้งแต่เด็ก เรียกว่าร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกันเลยก็ได้
“ถ้าไม่มีจ่ายจริง ๆ รู้ไหมว่าฉันไม่รับขัดดอกลูกสาวหรืออะไรทำนองนั้น นายรู้ใช่ไหมว่าควรทำแบบไหน”
“ครับ ส่งไปขายแรงงาน”
“ดี”
เมื่อได้คำตอบที่พอใจเขาจึงก้มหน้าก้มตาเคลียร์เอกสารต่อ งานเยอะจนแฟ้มหนา ๆ กระจัดกระจายไปจนถึงโต๊ะเลขาบ้างหรือว่าโต๊ะนั่งพักผ่อนของเขา แม้จะเยอะแค่ไหนมันก็ยังถูกวางไว้เป็นระเบียบอย่างดี
“มิสเตอร์ยอร์ชิต้องการนัดทานข้าวกับนายน้อยครับ”
“ที่มีลูกสาวเป็นนางแบบเมืองคาลใช่ไหม?”
“ครับ”
“แกล้ง ๆ ปฏิเสธเหยื่อไปก่อนเรียวมะ คนมีพร้อมแบบเราอย่าไปดิ้นตามเกมใครสิ”
“เข้าใจแล้วครับ วันนี้วันเกิดคุณคีย์นะครับ”
“นายไม่พูดฉันคงลืมไปแล้ว ไปจัดการเหมือนทุกปีนั่นแหละ”
“ให้ผมไปซื้อให้เหรอครับ?”
“ก็แน่สิ หรือคิดว่าฉันจะลงทุนไปซื้อของให้คนที่ไม่อยากแต่งงานด้วย สองปีก็กล้ำกลืนพอทนฉันว่ามันได้เวลาแยกย้ายกันแล้วด้วยซ้ำ แต่ต้องทนและอดทน!”
“เข้าใจแล้วครับ”
หลังจากเลขาเดินออกไปจากห้องเขาจึงได้มีเวลาขบคิดว่าควรทำยังไงให้คีย์ตะวันหย่ากับเขาดี
ใบหน้าสวยเบ้หน้าชำเลืองมองเข่าตัวเองที่ยังไม่หายดีเท่าไหร่ หล่อนนั่งอยู่ตรงนี้มาเป็นเวลาสามชั่วโมงแล้วฟังไม่ผิดหรอก นั่งทับขาตัวเองอยู่หน้าบ้านของใครคนหนึ่งมาเป็นเวลาสามชั่วโมงแล้วจริง ๆ
“เข้ามาเถอะ”
เสียงนั่นทำให้คนที่กำลังน้ำตาคลอเบ้าเพราะความปวดหนึบที่เข่าต้องคลี่ยิ้มออกมานิด ๆ ยันตัวขึ้นมาด้วยความยากลำบากเท้าหล่อนชาไปหมดแล้วจริง ๆ
เดินเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเมื่อสามปีก่อนคือคนที่รักและเอ็นดูหล่อนมากคนหนึ่ง แต่เพราะนิสัยของตัวเองทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ที่บุคคลตรงหน้ายื่นให้ จนกลายเป็นความไม่ชอบขี้หน้าทั้งที่เติบโตมาด้วยกัน
“ขอบคุณที่ให้คีย์เข้ามานะคะเจ๊เอม” เอมมี่คือนักปั้นมือทอง ไม่ว่าจะเป็นดารา เซเลบ หรือนางแบบ มีเด็กในสังกัดที่โด่งดังจนติดอันดับต้น ๆ ของประเทศเป็นที่รู้จักกลายเป็นซุปตาร์ ฯ ไปแล้วหลายคน
ถ้าตอนนั้นเธอไม่บ้าผู้ชายจนหนีไปแต่งงาน หนึ่งในนั้นที่โด่งดังก็คงเป็นเธอเอง เธอทำผิดต่อความไว้เนื้อเชื่อใจของเจ๊เอมมี่จนไม่น่าให้อภัย คุกเข่าสามชั่วโมงก็ยังน้อยไป
“มีอะไรล่ะ” เจ๊เอมมี่มองเด็กสาวที่เคยปั้นมาด้วยกัน ตั้งแต่ตัวเองเป็นนักปั้นมือใหม่คาดหวังและตั้งใจผลักดันลูกคุณหนูคนนี้ทุกอย่าง จนลืมไปว่านางมาทำเล่น ๆ ที่บ้านก็ร่ำรวยอยู่แล้ว
“คีย์อยากกลับมารับงานค่ะ”
“ว่างสินะ”
เธอเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น มันไม่ใช่การพูดประชดแต่อย่างใดเพราะอดีตที่เคยทำไว้เธอปฏิเสธความหวังดีไปแต่งงานกับผู้ชายที่รวยและเคยพูดตอกหน้าเจ๊เอมมี่ว่าไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยก็มีเงินใช้ไปจนตาย
“ว่าไง ทำแก้เบื่อใช่ไหม” เอมมี่จ้องไม่หลบเหมือนกัน ครั้งหนึ่งเธอเคยเสียความรู้สึกกับเด็กคนนี้ไปมากเพราะมีเงินและถือว่าอาชีพที่หล่อนพยายามปั้นไม่ทำก็ไม่ขัดสน แล้วตอนนี้ต้องการอะไรจากเธอล่ะ
“ไม่ใช่นะคะ”
“จะบอกว่าเธอลำบาก?”
ในอินสตาแกรมของคีย์ตะวันถ่ายรูปอัปโซเชียลกินหรูอยู่สบาย ไปท่องเที่ยวไม่เคยขาด มีบางครั้งถ่ายรูปติดมือบ้าง แผ่นหลังผู้ชายเบลอ ๆ บ้าง ดูก็รู้ว่าต้องเป็นผู้ลากมากดีไม่แพ้หญิงสาว จะให้เขาคิดยังไงล่ะ
“คีย์อยากหาเงินด้วยตัวเองค่ะ อยากยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง”
“ตั้งเป้าไว้เท่าไหร่ล่ะ”
ดวงตากลมช้อนขึ้นมองคนตั้งคำถาม หล่อนเป็นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีระดับเคยฟาดหน้าญาติผู้ใหญ่ด้วยถ้อยคำร้าย ๆ มาแล้ว เพราะคิดว่าตัวเองก็เป็นคนใหญ่คนโตเป็นภรรยาของคนมีอันจะกินระดับหนึ่งไม่ยอมให้ใครมาดูถูกอย่างแน่นอน
แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ในคืนนั้น เธอเหมือนเริ่มเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เริ่มถามตัวเองบ่อยขึ้นว่าที่เป็นอยู่คือความสุขจริง ๆ หรือเปล่า
“คีย์...ไม่มีที่พึ่งไหนแล้ว” ประโยคหลังมันแสนแผ่วเบาและเป็นจังหวะที่เธอผินหน้าหนี เด็กสาวอวดดีในการใช้ชีวิตในวันนั้น ตอนนี้กำลังกลับมาอ้อนวอนคนที่ตัวเองเคยปฏิเสธความหวังดีไป
“มีงานหนึ่ง”
“จริงเหรอคะ?”
“ถ่ายเสื้อผ้าแบรนด์ธรรมดาทั่วไปที่พึ่งเปิดใหม่ เขาอยากได้นางแบบของสังกัดเรา”
ฟันธงว่าคุณหนูอย่างคีย์ตะวันต้องปฏิเสธตั้งแต่ฟังจบอย่างแน่นอน
“คีย์จะทำค่ะ”
“คีย์แกลำบากอะไรถึงขนาดนั้นหรือมีปัญหากับพ่ออีกแล้วเลยต้องการประชด”
เจ๊เอมมี่โพล่งออกมาอย่างเหลืออด ยอมรับว่ายังแสบ ๆ คัน ๆ กับแผลเดิมที่คีย์ตะวันทำไว้ แต่เขาก็เคยได้รับการช่วยเหลือจากหญิงสาวมาตลอดจนมีชื่อเสียงโด่งดัง แม้ตอนนั้นคีย์ตะวันจะไม่รับไมตรีจากตน แต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองนั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธคนที่คอยทุ่มเงินช่วยเหลือตัวเองมาตลอด วงการนี้ไม่ใช่ใครอยากเป็นก็เป็นได้ แรกเริ่มก็เงินคีย์ตะวันที่คอยหยิบยื่นมาช่วยในเรื่องต่าง ๆ
“ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้คีย์ยังไม่เคยลองทำงานจริง ๆ จัง ๆ แค่อยากโตเป็นผู้ใหญ่หาเงินเองค่ะ”
เลือกที่จะโกหกคำโตแค่เห็นว่าสายตาเจ๊เอมมี่วูบไหวก็อุ่นใจมากขึ้นแล้ว
“อือ บอกเลยว่าไม่มีรถไปรับไปส่งนะ ไปเองแล้วก็ไม่มีคนดูแลให้เหมือนเมื่อก่อนแล้วด้วย สรุปก็คือต้องทำเองทุกอย่าง”
“ได้ค่ะ คีย์ขอบคุณเจ๊นะคะ” หญิงสาวกระพุ่มมือไว้อย่างไม่คิดอะไร แต่คนที่รู้ว่าคีย์ตะวันหยิ่งในศักดิ์ศรีแค่ไหนเริ่มนั่งไม่ติด
ตลอดระยะเวลาสองปีกว่าที่คีย์ตะวันออกไปจากสังกัดของตัวเอง หล่อนก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่ยังติดตามอินสตราแกรมของเจ้าตัวไว้อยู่จึงรู้ว่าชีวิตสองปีมานี้ดีแบบไม่มีอะไรต้องอธิบายซ้ำ แล้ววันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
หลังจากที่ได้งานแรกหญิงสาวก็มาปล่อยนกปล่อยปลา รอดตายมาได้เหมือนได้เกิดใหม่จริง ๆ ความกลัวในคืนนั้นยังเป็นภาพจำไม่หาย เหมือนกับที่กดโทรออกจนเจ็บท้องนิ้วแต่ปลายสายกลับไม่ให้ความสนใจเลย
จากนี้ไปเธอตัดสินใจแล้วว่าจะวางศักดิ์ศรีจอมปลอมที่ตัวเองตั้งไว้ลง แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่สักที พ่อก็ไม่เอาผัวก็ไม่ไยดีชีวิตของคีย์ตะวันจะเป็นไปในรูปแบบไหนเธอยังไม่รู้เลย แม้การอยู่กับเขาจะทะเลาะกันมีเรื่องให้เจ็บใจทุกวันแต่เงินใช้นั้นไม่ขาดมือ แต่ก่อนหลงระเริงกับเม็ดเงินมหาศาลบันดาลมาได้ทุกอย่าง
แต่ทำไมตอนนี้ใช้เงินเขาแล้วกลับบ้านเขาไปก็เจอแต่สายตาดูถูกดูหมิ่นใจมันกระตุกสั่นไหว หรือหน้าเธอบางกว่าเมื่อก่อน สองปีที่ได้อยู่ใกล้ชิดหลงเขาหัวปักหัวปำจนมองข้ามสายตาเหล่านั้นไป
คีย์ตะวันแกรักตัวเองก่อนไหม ขนาดแกยังไม่รักตัวเองแล้วใครจะมารักแกได้