บทที่3.

1574 Words
บทที่3.เมื่อใจคิดทำเลว แป้งร่ำหายไปไม่นาน เธอก็ยกถาดเดินออกมา “พี่นิทานด้วยกันไหมคะ ลูกค้าไม่มีเลย มาทานด้วยกันเถอะค่ะ”          ปราณแอบภาวนา ขอให้เธอผู้นั้นปฏิเสธ เขาต้องหาจังหวะถามถึงสิ่งที่เขาอยากรู้ หากเธอมาร่วมวงด้วย มันคงไม่สะดวก          “ขอบใจจ้ะ แต่ไม่ดีกว่า”          เสียงเธอปฏิเสธ ปราณถอนใจอย่างโล่งอก          เขาเดินไปรับถาดในมือแป้งร่ำมาถือไว้เอง “โต๊ะเดิมที่พี่นั่งนะ คุณ...” เขาขยักคำพูดไว้ เขายังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของคนที่สะดุดใจ          “พี่นิค่ะ” แป้งร่ำตอบ เธอยิ้มเหมือนรู้ทันความคิดของเขา          “คุณนิ เขาจะได้ไม่ต้องทำความสะอาดโต๊ะหลายโต๊ะ”          ปราณกล่าวต่อเขารีบเดินไปนั่ง เพื่อปิดบังแววตามีพิรุธของตนเอง          ถึงแป้งร่ำจะอายุน้อยกว่าปราณ หรือนิดา แต่เธอมีความเป็นผู้ใหญ่สูง เนื่องมาจากต้องรับผิดชอบตนเองตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้น ต่อให้ปราณเนียนแค่ไหนในการปกปิดพิรุธของเขา แป้งร่ำก็ยังจับสังเกตได้ เธอถอนใจแรงๆ รู้สึกเสียดายแทน ทั้งปราณ และนิดา          สองคนตรงหน้าเธอมีพันธะแล้วทั้งคู่          และเท่าที่เธอรู้จักกับปราณมา เขาไม่ใช่คนมักง่าย...          อะไรทำให้คนที่เธอเคารพ มีท่าทางล่อกแล่กแบบนี้ล่ะ          “ลินดาสบายดีไหมคะพี่?”          แป้งร่ำไม่ได้ถามเพราะอยากรู้ เธอแค่สะกิดให้ปราณรู้ตัว เขาไม่ใช่ผู้ชายที่มีอิสระมากพอที่จะหว่านเสน่ห์ใส่ผู้หญิงคนอื่น เพราะเขามีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้ว          ปราณถอนใจแรงๆ ตอนที่ตอบ “ไม่รู้ซิ น่าจะสบายดีนะ”          แป้งร่ำเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เธอไม่ได้ถามต่อเพราะรู้ว่าปราณอยากบอก เขาจะบอกเธอเอง พี่ชายร่วมโลกคนนี้มีความเป็นตัวเองสูง เขาปิดกั้นตัวเองอยู่ในโลกของเขา และหากไม่เปิดรับใคร ไม่มีทางที่ปราณจะเปิดเผยความคิดของเขาให้คนนอกรับรู้          “พี่กับลินดา ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วหน่ะ”          สถานะของเขาคือผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว แต่...นั่นแหละ เขากับภรรยามีบางอย่างเข้ากันไม่ได้ ลินดาขอออกไปใช้ชีวิตของหล่อนซึ่งเขาก็ไม่ปฏิเสธ เพียงแต่หล่อนยังไม่ยอมหย่า อาจจะเป็นเพราะว่า ปราณยังมีเงินพอให้หล่อนสูบได้ ตอนที่ลินดาเดือดร้อน          ปราณไม่ใช่คนใจแข็ง ยังไงเสียครั้งหนึ่ง เขาแน่ใจว่าตัวเอง ‘รัก’ ลินดา แม้ความรู้สึกเช่นนั้นจะหายไป หลังอยู่กินกันฉันท์สามี ภรรยา ความลับที่เขาไม่เคยปริปากพูด เขาจำต้องกล้ำกลืนความรู้สึกแบบนั้นไว้ในใจ เพียงเพราะคำว่า ‘สุภาพบุรุษ’ ค้ำคอ          แป้งร่ำไหวไหล่...เธอชินเสียแล้วกัความรักของคนสมัยนี้          คนตรงหน้าเธอเป็นคนหนักแน่น เธอเชื่อว่าเขาคงมีเหตุผลสำหรับการแยกกันอยู่ ก่อนจะเลิกรากับคนที่เขาเคยรัก          “ยัยแก่แดด”          ปราณพึมพำบ่น แป้งร่ำแก่เกินตัว ทั้งที่เธออายุน้อย แต่ทำท่าเหมือนเข้าใจโลกเสียเต็มประดา          “เปล่าเลยค่ะ แป้งแค่ชิน”          อาจะเป็นเพราะเธอผ่านอะไรมาเยอะ มารดาของเธอสอนให้มองโลกในแง่ของความจริง ซึ่งช่วยให้แป้งร่ำผ่านเล่ห์ลวงของคนในโลกใบนี้มาได้อย่างปลอดภัย เธอเลยทำใจให้ชิน แม้บางครั้งจะรู้สึกไม่เห็นด้วย          เหมือนเช่นความรู้สึก คันปากยิบๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้น ตอนที่เห็นพี่ชายร่วมโลก แอบมองพี่สาวร่วมหมู่บ้านนี่ไง          “แป้งควรมองโลกแบบกลางๆ บ้างนะ ไม่อย่างนั้น คนที่ลำบากคือแป้งเอง”          ปราณเตือนในฐานะพี่ชายที่หวังดีกับน้องสาว แป้งร่ำทำท่าเหมือนเข้าใจโลกเป็นอย่างดี แต่ความจริงแล้วเธออ่อนเดียงสามาก คนแบบนี้แหละที่น่าเป็นห่วง เพราะหากผิดหวังซักครั้ง...โลกทั้งใบของแป้งร่ำคงถล่มลงมาทันที          “แป้งกำลังพยายามอยู่ค่ะ”          สาวละอ่อนตอบพร้อมกับยิ้ม          “ไม่ได้มีแค่เรา ยังมีคนอีกมากที่อยู่ร่วมกันบนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ ทุกคนมีเหตุผลในการลงมือทำ แต่บางครั้งเหตุผลนั้น อาจจะไม่ตรงกับที่เราคิดไว้ ไม่ได้หมายความว่าเขาทำผิด ไม่มีใครตัดสินใจคนอื่นได้ ด้วยเหตุผลของตัวเอง”          แป้งร่ำเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง ปราณกำลังบอกอะไรเธอ หญิงสาวพยายามไม่ใส่ใจ เธอทานอาหารมื้อเช้าต่อ มีปราณนั่งกินเป็นเพื่อน          ปราณกัดกระพุ้งแก้ม เขาไม่มีจังหวะให้สืบเรื่องของหญิงผู้นั้นต่อเลย ชายหนุ่มรู้สึกกระวนกระวาย เขาเป็นเอามาก แค่เพียงเพราะอยากรู้สถานะของผู้หญิงคนนั้น          “พี่นิทำงานกับแป้งมาได้6เดือนแล้วค่ะ บ้านเธออยู่ที่นี่แหละ เธอกับสามีของเธอย้ายมาอยู่หมู่บ้านนี้5ปีแล้ว”          แป้งร่ำเปรยลอยๆ เธอจับสังเกตปราณได้ และเธอรู้ว่าสิ่งที่เธอพูด อาจทำให้ปราณผิดหวัง แต่เขาควรหยุดคิดตั้งแต่ตอนนี้ ต่อให้เขาแยกกันอยู่กับภรรยาของเขา สถานะของปราณก็คือคนที่มีภรรยาแล้ว          เธอมองเห็นประกายสายตาที่บ่งบอกความผิดหวังวูบหนึ่ง ก่อนจะถูกเกลื่อนด้วยแววตาว่างเปล่าเหมือนเคย แป้งร่ำยิ้มมุมปาก เธอทำสำเร็จในการสกัดความคิดที่อาจจะเลยเถิดในอนาคต แม้จะมั่นใจว่านิดาเป็นคนดี เธอไม่น่าจะไขว้เขว่ หากถูกปราณรุกเข้าจิงๆ แต่นั่นแหละ...อะไรก็เกิดขึ้นได้บนโลกใบนี้          คนที่เธอเชื่อมั่น อาจจะอยากแหกกฏบ้างก็ได้          ไม่มีใครรู้ความคิดของคนอื่นจริงหรอก ทุกคนแค่เดา มันอาจจะตรงหรือตรงกันข้ามก็ได้          “อืม...” ปราณครางรับ เขาหลุบเปลือกตาลง รีบฉวยแก้วกาแฟขึ้นจิบ          รู้สึกใจหายวูบ...          ก่อนเสียงหัวใจจะเต้นเป็นปกติได้ เขาก็ใช้เวลาทำใจอยู่พักนึง          น่าเสียดาย...          ปราณคิดแบบนั้นจริงๆ ช่วงจังหวะนั้น เขาชำเรืองมองไปที่หน้าเคาท์เตอร์ นิดาเงยหน้ามามองพอดี สายตาของคนทั้งคู่ประสานกันชั่วระยะหนึ่ง          เป็นนิดาที่เบือนหน้าหลบก่อน ปราณชักสายตากลับมา จังหวะหัวใจเขา เต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง...          เกิดอะไรขึ้นกับเขา กับผู้หญิงที่เพิ่งพบกันครั้งแรก          เขารู้ เขาประทับใจเธอ จนเกิดความรู้สึกดีๆ แต่เมื่อทราบสถานะของหล่อน สิ่งแรกที่เขาควรทำคือการ ‘ตัดใจ’ เขาไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงที่มีพันธะทางกฎหมายกับผู้ชายคนอื่น แต่ทำไมล่ะ ทำไมเขาถึงคิดว่า เขากับเธอ รู้สึกตรงกัน          ท่าทางเธอไม่ได้บอกแบบนั้น          แต่ปราณรับรู้ด้วยตัวเอง เขาไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง แววตาเศร้าของหญิงผู้นั้น ยืนยันว่าเขาไม่ได้เข้าใจผิด นิดาพยายามที่จะสงบใจ ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เธอปวดหัวอย่างหนัก แววตากับความหมายในสายตาคู่นั้น ทำให้เธอเริ่มกลัว...ผู้ชายคนนั้นไม่ได้พูดหรือเอ่ยอะไรออกมาซักคำ แต่ทำไมเธอถึงเข้าใจแบบนั้น เธอเข้าใจทุกความหมายที่เขาพยายามบอก          ความรู้สึกอัดอัดในใจผ่อนคลายลง          เธอรู้สึกว่าตัวเองมีค่า มีคนสนใจ แทนความแห้งแร้งที่เคยได้รับทุกวัน ความเย็นชาที่สามีมอบให้ ค่อยๆ จางหายไป หลังผู้ชายคนนั้นปรากฏตัว...แต่ มันคือความรู้สึกต้องห้าม          เธอไม่ควรคิดแบบนี้ หากเธอยงมีคำนำหน้าว่า...นาง          เมื่อขวัญกับแก้วเดินผ่านประตูหน้าร้านเข้ามา ก็ถึงช่วงเวลาเลิกงานของเธอ นิดาล้างแก้วกาแฟจนสะอาด เธอเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนจนแห้ง ก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุดกลับมาเป็นชุดเดิม          “พี่นิจะกลับเลยหรือคะ?”          ขวัญเอ่ยถาม ตอนที่เธอเดินผ่านหน้า          นิดายิ้มอ่อนๆ ให้ เธอพยักหน้าแทนคำตอบ          “พี่นินี่...หากไม่ยิ้มเลย เธอจะดูเหมือนผู้หญิงโคตรหยิ่งเลยนะ”          เสียงแก้ววิจารณ์เธอ ดังตามหลังมา ซึ่งนิดาได้แต่กดยิ้มมุมปาก เธอกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหน นิดาพยายามนึก คงเป็นตั้งแต่ผู้ชายคนนั้นก้าวเขามาในชีวิตเธอ ผู้ชายที่กลายมาเป็น ‘พ่อเลี้ยง’ ของเธอในปัจจุบันนั่นไง เขาเปลี่ยนให้เธอกลายเป็นแบบนี้ จากวันที่มีความสุขสดใส กลายเป็นวันที่หม่นมัว เธออยู่กับความหวาดกลัว ระแวงมาเกือบ10ปี          ผู้ชายคนนั้นอันตราย เธอพยายามบอกแม่...          แต่ผู้หญิงที่เป็นแม่เธอ...กลับไม่เคยฟัง          หญิงผู้นั้นเชื่อคำพูดจอมปลอมของผู้ชายคนนั้น มากกว่าคำพูดของเธอที่เป็นลูก          นับจากนั้นรอยยิ้มก็หายไปจากเธอ นิดาจำได้ดีกับความรู้สึกยินดี ในวันที่เธอก้าวเท้าออกมาจากบ้านหลังนั้น ขุมนรกที่เธอเกลียดที่สุด          หญิงสาวถอนใจแรงๆ เธอไม่ควรเก็บเรื่องน่ารังเกียจนั่นไว้ในใจ          เงาของชายผู้นั้นไม่มีวันกล้ำกลายเข้ามาในชีวิตของเธออีกต่อไป          หากเธอยังมีโล่กำบังที่ชื่อ...ชาญ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD