บทที่4.รักต้องห้าม
ระยะทางจากร้านกาแฟหน้าหมู่บ้านถึงบ้านของเธอนั้นไม่ไกลเท่าไหร่ นิดาเลยใช้วิธีเดิน เพื่อเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ได้ขยับแข็งขาเลย หากอยู่กับบ้านทำแค่งานบ้านทุกๆ วัน
หญิงสาวคิดอะไรเรื่อยเปื่อย พยายามที่สุดที่จะไม่เหลือบมองบ้านฝั่งตรงข้าม ตอนที่เดินมาถึง
เธอไขกุญแจเปิดรั้วหน้าบ้าน เธอคงทำเสียงดัง จนคนในบ้านหลังนั้นได้ยิน เธอเห็นผู้ชายคนนั้นชะเง้อมอง เขาผลุบกลับเข้าไปด้านใน นิดาจึงถอนใจด้วยความโล่งอก
หลังเปิดหน้าต่างให้สายลมด้านนอกพัดเข้ามาด้านใน เพื่อระบายอากาศร้อนอบอ้าวออกไปบ้าง นิดาเริ่มทำงานบ้านตามความเคยชิน เธอเดินเลยขึ้นไปชั้นบนหิ้วตระกร้าเสื้อผ้าของสามีลงมาซัก
แดดตอนบ่ายแรงกำลังดี หากเธอซักขึ้นราวตอนนี้ ตากผ้าไม่นานเท่าไหร่ ผ้าก็คงจะแห้ง หลังจับผ้าใช้แล้วทั้งของตัวเองและสามียัดลงเครื่องซักผ้า เธอกดปุ่มให้เครื่องทำงาน เดินกลับเข้ามาด้านใน และเริ่มลงมือทำความสะอาดบ้าน นิดากำลังทำงานเพลินๆ เธอต้องสะดุ้งเพราะตกใจ
เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้เธอผวา!!
อุ้งมือเธอชื้นเหงื่อ กลัวเหลือเกิน เพราะหากคนที่มาเยี่ยมคือคนที่เธอเกลียด มันจะทำให้เธอขวัญผวาไปอีกหลายวัน
เพราะเธอไม่มีญาติ มีแม่กับบิดาเลี้ยงเท่านั้นที่จะแวะมา
ชาญเองก็มีแค่มารดา ซึ่งท่านละทางโลก ปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในชนบทนั่นเอง
นิดาสูดลมหายใจลึกๆ เธอรวบรวมความกล้า ชะเง้อมองไปที่ประตูรั้ว
ใครบางคนยืนอยู่ตรงนั้น และไม่ใช่แม่หรือพ่อเลี้ยงของเธอ
ดังนั้นเมื่อเธอเดินฝ่าเปลวแดดออกมาเปิดประตูรั้ว
ปราณจึงมองเห็นสีหน้าซีดเซียวของเธอ
“คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”
เสียงของเขาทำให้เธอใจชื้นขึ้น เขาห่วงเธอจริงๆ ดูได้จากแววตาร้อนรนนั่น
“ปะ เปล่าค่ะ แค่ร้อนแดด” นิดารีบปฏิเสธ เธอไม่ชอบให้คนอื่นมายุ่มย่ามกับตัวเอง
“อ้อ ครับ...ผมคงมารบกวน แต่...ผมอยากเอานี่มาให้คุณดู”
ตั้งแต่เช้าจรดบ่าย ปราณอยู่แต่ในห้องมืด เขาล้างภาพที่ถ่ายเก็บไว้ และชอบที่สุดกับรูปที่แอบถ่ายสาวบ้านตรงข้าม ตอนที่หล่อนเผลอตัว
ทั้งแสง และบรรยากาศ ทำให้ภาพแผ่นเดียวดูละมุน
เขานั่งมองภาพถ่ายของเธอเกือบ1ชั่วโมง
มองแล้วก็ถอนใจ เมื่อเขามีสิทธิ์แค่มองเท่านั้น
นิดาปรายตามอง เธอเอื้อมมือออกไปรับเมื่อคนตรงหน้าส่งภาพถ่ายขนาดหนึ่งฝ่ามือมาให้
“ขอบคุณค่ะ” เธอขอบคุณเขาเบาๆ กำลังจะเดินกลับเข้าไปด้านใน ถุงพลาสติกใสก้นถุงมีผลไม้สีแดง2-3ลูก ถูกจับยัดใส่มือเธอ
นิดาสะดุ้ง สัมผัสนั่นทำให้หัวใจเธอทำงานหนัก อุ้งมือของเขาร้อนผ่าว กระแสบางอย่างไหลลามเข้ามาวิ่งวนอยู่ในหัวใจ
เธอรีบชักมือกับ รู้สึกถึงผิวหน้าที่ร้อนวูบแข่งกับแสงอาทิตย์
“ยัยแป้งให้มา ผมเก็บไว้คงเน่าเปล่า เลยคิดว่าผู้หญิงอย่างคุณน่าจะชอบ”
เสียงแหบๆ นั่นบอกเธอแบบนั้น
นิดาพยายามไม่มอง เธอพึมพำขอบคุณเขาซ้ำ
ปราณอมยิ้ม เขาทันได้เห็นริ้วแก้มแดงๆ ที่ทำให้หน้าซีดๆ ดูดีขึ้น ชายหนุ่มยอมถอยหลังกลับ เขาเดินเข้ามาในอาณาเขตบ้านตัวเอง พร้อมกับยิ้มที่ค้างอยู่บนเรียวปากสีเข้ม
เขาเริ่มทำผิดแล้วใช่ไหม?
ปราณถามตัวเองเช่นนั้น
เขาพยายามวอแวกับผู้หญิงมีเจ้าของ หัวใจไม่รักดีสั่งให้เขาทำแบบนั้น
นิดายกมือปาดน้ำตา น้ำร้อนนั่นไหลออกมาจากดวงตาของเธอ ความอบอุ่นครั้งแรกจากคนแปลกหน้า สัมผัสนั่นทำให้ความอึดอัดที่เธอเก็บกดไว้ค่อยๆ จางหายไป ผู้ชายคนนั้นกำลังมีอิทธิพลกับเธอ นิดาพยายามห้ามความสนใจที่เกิดขึ้นไว้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ความหมาย หากผู้ชายคนนั้นยังพยายามเข้าใกล้เธออยู่แบบนี้
หญิงสาวทรุดตัวลงไปนั่ง เธอยกมือกอดเข่า ซบใบหน้ากับหัวเข่า ปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาเงียบๆ หัวไหล่เธอสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้น
เธอจะทำยังไงดีกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น
เมื่อทั้งเขาและเธอ ไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนี้
และหากมันเป็น ‘ความรัก’ มันก็คือรักต้องห้ามที่ไม่สามารถแตะต้องได้
ปราณนั่งมองภาพถ่ายที่เขาชอบ แม้เจ้าของภาพจะไม่ใคร่พอใจตอนที่เขาถือวิสาสะแอบเก็บภาพนี้ไว้ เขานำภาพต้นฉบับไปมอบให้หล่อนแล้ว แต่ก็แอบทำภาพนี้ขึ้นมา และขยายใหญ่กว่าเก่า เขาชอบมองสีหน้าของเธอผู้นั้น แววตาเธอเปล่งแสงแข่งกับแสงพระอาทิตย์ รอยยิ้มของเธอทำให้ความงามของดอกไม้ดูด้อยค่า บรรยากาศแบบนั้น หากมีเขารวมอยู่ด้วย มันคงเป็นความสุขที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
รู้แค่ว่า...มันดูละมุนละไม และอิ่มเอิบอยู่ในใจ
ปราณมองเลยไปที่บ้านฝั่งตรงข้าม เขาเห็นราวตากผ้าเต็มไปด้วยผ้าที่ซักตากขึ้นราว ลมพัดใส่จนผ้าเปียกชื้นเริ่มแห้ง ชายหนุ่มถอนใจ เขาทำอะไรไม่ได้เลย นับตั้งแต่รู้จักผู้หญิงบ้านตรงข้าม ที่ปราณชอบทำ คือการนั่งนิ่งๆ และสอดส่ายสายตามองหาเธอ เขาหวังว่าเธอจะเดินผ่านมาให้เขาเห็นบ้าง
แต่ดูเหมือนว่าหล่อนจะรู้ตัว
ปราณนับครั้งที่เขาเห็นเธอผ่านมาในสายตา
เสียงถอนใจแรงๆ ดังออกจากช่องจมูก เขาอยากหัวเราะตัวเอง เขากลายเป็นนักถ้ำมองไปแล้วหรือ
ชายหนุ่มถอนใจซ้ำ ทรงตัวลุกขึ้นยืน เขาควรทำงานเสียบ้าง
ก่อนที่จะอดตาย เพราะมัวแต่นั่งมองคนบ้านตรงข้าม
ปราณเดินขึ้นไปชั้นบน เขามีงานรออยู่อีกเป็นกระบุง หากเขาไม่เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ งานพวกนั้นจะทับเขาจนหายใจไม่ออก ไม่มีผู้จ้างวานคนไหนพอใจหรอก หากเขาจะได้งานช้ากว่ากำหนด เขาวางขวดน้ำสะอาดไว้บนโต๊ะ หากลงมือทำงานเมื่อไหร่ เขาไม่มีกะใจจะขยับตัวทำอะไรเลย ปราณได้แต่หวังว่า ผู้หญิงบ้านตรงข้ามจะไม่ทำลายสมาธิของเขา
ชายหนุ่มรูดม่านสีทึบๆ ปล่อยให้แสงแดดยามบ่ายส่องลอดเข้ามาและ...เปิดช่องสำหรับการแอบมอง...
ปราณนั่งลงหลังคอมพิวเตอร์ เขาเปิดไฟล์ภาพขึ้นมาและลงเมื่อตกแต่งสี เขาจมอยู่กับงานนานร่วมชั่วโมง งานชิ้นแรกใกล้เสร็จ แต่รู้สึกหิวน้ำขึ้นมาเสียก่อน เขาเอื้อมมือหยิบขวด สายตาดันไพร่มองออกไปด้านนอก ที่บริเวณสวนหน้าบ้านฝั่งตรงข้าม ตรงนั้นไม่มีแดด และที่เก้าอี้ไม้มีผู้หญิงคนหนึ่ง นั่งอ่านหนังสืออยู่
ชายหนุ่มแค่นยิ้ม...วันนี้งานที่ควรเสร็จ คงไม่เสร็จแล้วล่ะ
ปราณฉวยแก้วรินน้ำในขวดใส่ เขาดื่มน้ำแก้กระหาย และลุกขึ้นยืนช้าๆ เขาเดินเลยไปยืนหลบที่หลังผ้าม่าน ทอดสายตามองบ้านตรงข้าม จุดที่มีผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่ ชายหนุ่มฉวยกล้องถ่ายรูปมาถือไว้ เขายกกล้องขึ้นแนบหน้า มองหล่อนผ่านเลนส์ที่ขยายจนเหมือนตัวเองยืนอยู่ตรงหน้าหล่อน
นิดากำลังอ่านหนังสือนวนิยาย หน้าปกมีผู้หญิงกับเด็ก เป็นภาพวาดด้วยลายเส้น แต่งด้วยสีอ่อนๆ ปราณกัดริมฝีปากล่าง เขามองแพขนตาที่เรียงเป็นระเบียบด้วยสายตาที่อ่อนโยนลง ผิวหน้าของนิดาเนียนเรียบ เขาเดาอายุหล่อนคร่าวๆ นิดาไม่น่าจะมีอายุเกิน30ปี ท่าทางของเธอดูเด็กมาก แต่ลักษณะภายนอกกลับดูเคร่งขรึม หรืออาจจะเป็นเพราะหล่อนเป็นคนเงียบๆ ก็ได้ เท่าที่สัมผัส เธอแทบจะไม่พูดกับใครก่อน ยกเว้นเมื่อมีคำถาม
ปราณมองเลยไปที่มือ ที่จับหนังสืออยู่ ปลายเล็บกลมมน ถูกตัดแต่งอย่างดี เธอไม่ไว้เล็บยาวเหมือนผู้หญิงสมัยนี้ ปลายเล็บของหล่อนถูกตัดสั้น และทำความสะอาดเสียจนน่ามอง
ชายหนุ่มพยายามตัดใจ เขาเสียเวลามากเกินไป สำหรับการแอบมอง ‘เมีย’ คนอื่น เป็นการเสียมารยาทหากหล่อนรู้ตัว ปราณพยายามชักสายตากลับ แต่มันไม่ง่ายเลย เขายังยืนมองเธออยู่แบบนั้นจนกระทั่ง...
นิดายกมือตบต้นคอ เธอก้มหน้าอ่านหนังสือเล่มนี้เกือบ2ชั่วโมง กระดูกต้นคอเริ่มปวด เพราะเธออยู่ท่านี้นานเกินไป หญิงสาวตัดสินใจ พักการอ่าน เธอใช้ที่คั้นที่ทำจากไม้เนื้ออ่อน สอดไว้ระหว่างหน้าที่อ่านค้างไว้ ก่อนจะปิดงับหนังสือลง เธอสอดมือขึ้นขยำที่ต้นคอ เอียงคอไปมา เพื่อยืดเส้นที่ค้างอยู่ท่าเดิมให้คลายความตึง และเธอดันทะลึ่ง มองเลยไปยังบ้านตรงข้าม นิดาปรามตัวเองในใจ