บทที่2.

1582 Words
บทที่2.จุดเริ่มต้นของความเลวร้าย “อย่าดีกว่าค่ะ” นิดาตัดสินใจปฏิเสธ เธอขยับตัวเตรียมเดินหนี ปราณขยับตาม เขาหันข้างให้แสงสีส้มๆ นิดาเลยมองเห็นหน้าเขาถนัดขึ้น ชายตรงหน้าไม่ได้หล่อเหลาเหมือนที่เธอคิดไว้ หน้าตาเขาธรรมดา ผู้ชายผิวขาวตาตี่ จมูกโด่งเป็นสัน รวมๆ แล้วก็ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ลักษณะของเขาดูปลอดภัย แววตาของเขาใส่ซื่อ “คุณรังเกียจผมเหรอครับ?” หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ เธอขยับถอยห่างเขาตอนที่ตอบ “ฉันทำงานที่นั่นค่ะ ได้เวลาทำงานแล้วด้วย” คนตรงหน้าพยักหน้ารับ เขายิ้มเก้อๆ นิดาขยับเดิน มีคนแปลกหน้าเดินตามมาด้วย “พี่นิมาแล้ว” เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องเอ่ยทัก นิดายิ้มตอบเธอเดินเลี่ยงไปอีกทาง เพราะต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดฟอร์มของทางร้าน เมื่อเดินออกมาอีกครั้ง...ผู้ชายคนนั้นก็นั่งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะริมกระจก เธอเดินไปประจำที่ ได้ยินเสียงเพื่อนร่วมงานคุยกันเบาๆ “ผู้ชายคนนั้นเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ใช่ไหมขวัญ?” “อืม...โสดหรือเปล่าไม่รู้ รู้แค่ว่าอยู่คนเดียว” เธอไม่ได้ตั้งใจฟังหรอกแต่เพราะตรงที่เธอยืนอยู่ อยู่ในรัศมีที่ได้ยินพอดี หญิงสาวผ่อนลมหายใจยาวๆ เธอก้มมองนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเอง เธอเป็นคนมีพันธะแล้ว ต่อให้สะดุดใจคนตรงหน้า มันก็ไร้ประโยชน์ แหวนแต่งงานที่แสดงฐานะ เธอเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว นิดาชำเรืองมองผู้ชายคนนั้นบ่อยๆ เขานั่งเฉยๆ กอดอกนิ่งๆ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ รอบตัวเขาดูสงบเรียบร้อย เหมือนกับว่าในร้านกาแฟแห่งนี้ มีแค่เขา...กับเธอเท่านั้น นิดาพยายามไม่จินตาการตามความคิดตัวเอง มันต้องไม่เกิดขึ้นกับเธอ ความโสมมเช่นนั้น ต้องไม่ใช่เธอที่เป็นคนกระทำ เธอเกลียดคนที่ไม่มีศีลธรรม เกลียดทุกคนที่ประพฤติผิด ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ...แต่แล้วทำไมล่ะ ทำไมเธอถึงผุดคิดถึงเรื่องที่เธอเกลียดขึ้นมาได้ คงไม่ใช่เพราะ ผู้ชายคนนั้นใช่ไหม? “พี่นิคะ” นิดาสะดุ้ง! เธอหันมายิ้มให้เพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง “วันนี้แก้วกับขวัญต้องไปเรียนเร็วกว่าเก่า พี่แป้งก็ยังไม่มา พี่นิอยู่คนเดียวไหวไหมคะ?” สองสาวเพื่อนร่วมงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ สองคนนี่จะมาแต่เช้าเพื่อเตรียมของไว้ให้ แต่จะกลับไปก่อนเพื่อไปเรียน จะมาอีกครั้งก็ตอนบ่ายๆ หรือไม่ก็เย็นเลย “ไหวซิ ไม่ค่อยมีลูกค้าหรอก อีกประเดี๋ยวแป้งคงมา” นิดาตอบให้สองสาวสบายใจ เธอไม่ได้ลำบาก หากจะอยู่คนเดียวช่วงสั้นๆ “แก้วไปก่อนนะคะพี่นิ ขวัญไปเถอะ เดี๋ยวสาย” แก้วบอกกับเธอแล้วก็ยิ้มตาหยี เสียงแก้วร้องเรียกเพื่อนที่กำลังติดพันกับการทำงาน “ไปก่อนแก้ว ขวัญรอบดเมล็ดกาแฟเสร็จเดี๋ยวตามไป” “ขวัญไปเถอะ พี่ทำต่อเอง” นิดาวางงานในมือ เดินไปจัดการงานที่ขวัญทำค้างไว้แทน พอสองสาวหายลับไปจากประตู ทั้งร้านก็เหลือแค่เธอ กับลูกค้าคนเดียว ซึ่งคือ...ผู้ชายคนนั้น นั่นเอง... ตึก ตึก... เสียงหัวใจของเธอเต้นแรงเป็นจังหวะเดียวกันของเสียงฝีเท้า ใครบางคนกำลังเดินตรงมาหาเธอ นิดาพยายามสำรวมท่าทาง เธอตื่นตกใจแบบนี้ไม่ได้ เขาก็แค่...ผู้ชาย ผู้ชายที่เธอไม่รู้จัก ไม่ว่าจะชื่อ หรืออะไรก็ตาม “ผมชื่อปราณนะครับ” นิดากัดริมฝีปากล่าง เธอพยายามทำเหมือนไม่ได้ยิน แต่เสียงแหบๆ นั่นกำลังสั่นประสาทเธอ          “ผมคิดว่า ผมกับคุณน่าจะอยู่ใกล้กัน” เสียงเขาพูดต่อ          เธอฉวยโหลแก้วมาใส่ผงกาแฟที่บดเป็นผงๆ เรียบร้อย พยายามที่จะกำจัดสายตาอยู่แค่มือตัวเอง แต่คนตรงหน้าดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ ไม่ว่าเธอจะฟังหรือไม่ เขาก็ยังพูดต่อ          “ผมเพิ่งย้ายมาเมื่อวันก่อน ยังไม่รู้จักใครเลย เราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้นะ”          หญิงสาวเงยหน้ามอง เธอถอนใจแรงๆ สีหน้าแสดงความเบื่อ แบบที่ไม่คิดจะปิดบัง          “ค่ะ”          “ผมอยู่บ้านตรงหัวมุม บ้านที่มีต้นมะม่วงใหญ่ๆ นั่นแหละครับ”          ปราณคิดว่าเขาจำชุดที่หล่อนสวมเมื่อตอนเช้าได้ เขาแน่ใจว่าเห็นชุดนั่นแขวนอยู่บนราว ในบ้านหลังตรงข้ามกับบ้านของเขา          “ค่ะ” นิดาพยักหน้ารับ เธอรีบเก็บอาการสะดุ้งแทบไม่ทัน          บ้านของเขาอยู่ตรงข้ามบ้านของเธอ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้          “ผมเป็นช่างภาพ หากคุณมีงานที่จะให้ผมช่วยได้ ผมเต็มใจนะครับ”          นิดาถึงบ้างอ้อ เธอลดตามองกล้องถ่ายรูปที่คล้องอยู่บนคอเขา เพราะอาชีพเขานี่เอง เขาเลยมีอุปกรณ์เช่นนี้ติดตัวไว้เสมอ          “ผมไม่ได้คิดจะเอารูปของคุณไปขายหรอกครับ สบายใจได้ มันน่าจะเป็นความเคยชิน ผมเห็นว่ามันสวย...เลยเผลอยกกล้องขึ้นเก็บภาพไว้”          ปราณอธิบายให้ฟัง เขามองคนตรงหน้ายิ้มๆ แววตาของหล่อนเศร้าจนเขาใจหาย แต่เมื่อเช้า ตอนที่เธอก้มลงมองดอกไม้ คงเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยยืนยัน คนตรงหน้ายิ้มสวย แววตาของหล่อนสดใส ทุกครั้ง ยามที่เธอเผลอตัว          “ถ้าคุณไม่สบายใจ จะให้ผมลบทิ้งก็ได้นะครับ”          ถึงเขาจะชอบรูปที่ถ่ายไว้มากเท่าไหร่ แต่หากเจ้าของภาพไม่พอใจ ปราณก็ไม่คิดจะละเมิดความต้องการของเธอ          “ช่างเถอะค่ะ”          นิดากล่าวตัดบท พอดีกับแป้งร่ำเดินผ่านประตูเข้ามาพอดี          “อ้าว...พี่ปราณ ไหนว่าจะย้ายมาสิ้นเดือนไงคะ?”          นิดาเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เธอมองชายตรงหน้ากับเจ้าของร้านกาแฟสลับกัน เสียงทักทายนั่น ทำให้เธอได้รู้มุมส่วนตัวอีกอย่างหนึ่งของคนตรงหน้า          “พอดี...พี่หาคนไปแทนได้หน่ะ เลยอาศัยช่วงว่างๆ ย้ายมาเลยดีกว่า”          “น่าเสียดาย ออสเตรียเลยนะพี่”          “ไม่ใช่ครั้งแรกที่พี่ได้ไปนี่นาแป้ง” เสียงชายคนนั้นแย้ง          แป้งร่ำหัวเราะร่วน เธอยกมือขึ้นตีต้นแขนปราณเบาๆ “แป้งรู้ค่า พี่ชายคนนี้ของแป้งกำลังเนื้อหอม”          ปราณไม่ได้มีดีแค่ฝีมือ แต่งานที่เขารับผิดชอบทุกงาน ชายหนุ่มทุมเทเต็มที่ ผลงานเข้าตาลูกค้าทุกครั้ง มันทำให้เขางานชุกแทบไม่มีเวลาว่าง          “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”          “ว่าแต่...ให้ใครไปแทนพี่คะ อย่าบอกนะว่านายไทม์!!”          แป้งร่ำถามเสียงหลง ทั้งสองคนคุยกันเหมือนไม่มีนิดารวมอยู่ด้วย          “อืม...ใช่นายไทม์นั่นแหละ”          “เหอะ!! งานนี้พี่ปราณเสียชื่อแน่ ให้ใครไปก็ได้ แต่ทำไมต้องเป็นนายนั่น”          แป้งร่ำเดินห่างออกมา เธอบ่นพึมพำ เมื่อคนที่เอ่ยถึง คือคู่ปรับที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานาน          “ไทม์เขาก็มีฝีมือนะแป้ง”          ปราณเดินไปหันหลังพิงพนักเคาท์เตอร์ที่นิดากำลังทำงานอยู่ เขาท้าวแขนวางบนพื้น เอียงตัวพิงเคาท์เตอร์ไว้ ขณะที่คุยกับแป้งร่ำ          ชายหนุ่มบอกไม่ถูก เขารู้แค่ว่า...เขาสนใจผู้หญิงตรงหน้า แม้หล่อนจะไม่ยินดีที่จะพูดคุยกับเขาเลย...          “ขี้มือค่ะ หมอนั่นไม่เก่งเท่าพี่ปราณหรอก”          แป้งร่ำเถียง “พี่กินอะไรมาหรือยังคะ เพิ่งย้ายมาเมื่อวานเย็นไม่ใช่เหรอ?”          “ยังเลย...ออกมาเดินสำรวจหมู่บ้าน เลยเตลิดมาที่ร้านเราเลย”          ปราณตอบเขาชำเรืองมองคนที่เงียบมาตลอด จนสะดุดเข้ากับแหวนบนนิ้วของเธอ          เขาใจหายวูบ!!          หัวใจที่เต้นแรงลดความเร็วลงแบบฮวบฮาบ          เขาพยายามคิดในแง่ดี...หล่อนอาจจะสวมเพราะมันเป็นแฟชั่น คนไทยไม่นิยมสวมแหวนแต่งงานหรอก          แต่...          “แป้งได้ข่าวมา พี่ชาญได้เลื่อนขั้นอีกแล้ว พี่นิจะเลี้ยงอะไรแป้งดีคะ?”          ชาญคือใคร? คนชื่อชาญเกี่ยวข้องอะไรกับเธอล่ะ?          “เหรอคะ?”          สีหน้านิดาเหลอหลา เธอไม่รู้ซักนิด ข่าวดีที่สามีควรบอกเธอคนแรก แต่เธอกลับรู้จากคนนอก          “อ้าว! แป้งคิดว่าพี่นิรู้แล้วเสียอีก ว้าแย่จัง!! พี่ชาญอาจจะเก็บไว้เซอร์ไพรส์พี่นิก็ได้ค่ะ”          นิดารู้เต็มอก ชาญไม่ใช่คนแบบนั้น เขาอาจจะมีเหตุผลสำคัญที่ยังไม่บอกเธอเรื่องนี้          เธอไม่ได้แก้ตัวให้สามี ทำเพียงแค่ยิ้มรับ          “พี่ปราณทานมื้อเช้ากับแป้งนะคะ แม่ทำข้าวต้มใส่โถมาให้ แป้งทานคนเดียวไม่หมดหรอก”          แป้งร่ำอยู่กับมารดา และมารดาของเธอเป็นคนแก่ที่ไม่เคยอยู่เฉย สุขภาพของท่านจึงยังแข็งแรง...          ปราณพยักหน้ารับ “เอาดิ กำลังหิวพอดี กาแฟอย่างเดียวไม่อยู่ท้องหรอก” และมีอีกอย่างที่เขาต้องสืบเอาจากแป้งร่ำ ผู้ชายชื่อชาญ เกี่ยวข้องยังไงกับผู้หญิงที่ทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD