หนึ่งสัปดาห์ก่อน
เฮือก!!!
เสียงหอบหายใจถี่ ๆ ดังขึ้นจากร่างบาง มินตราเบิกตาขึ้นมองเพดานสีขาว แล้วพลิกตัวจากอกของแฟนหนุ่มลุกขึ้นนั่ง ลมถูกพ่นออกจากริมฝีปากครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่แสงสีขาวที่ผ่านลอดม่านบ่งบอกว่าสิ่งที่เห็นคือความฝัน
เงาดำสนิทของคนสามคนที่ทาบทับร่างเธอมันชวนให้หายใจไม่ออกสักนิด
ร่างเล็กขดตัวอยู่ในเสื้อยืดสีขาว เหลือบมองไปข้างกายกลับเห็นดวงตาสีน้ำตาลเข้ม กำลังลืมตามองเธอแบบไม่อาจจะคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไร สายตางัวเงียทำให้เธอจำเป็นต้องยิ้มให้เขาก่อนเม้มปากแน่น แล้วเสยผมที่ปรกชื้นเหงื่อออกจากใบหน้า
“ที่รักฝันร้ายเหรอครับ”
“เปล่าค่ะ วันนี้ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ กวินนอนต่ออีกหน่อยสิคะเดี๋ยวมินจะลุกแล้ว มีอะไรในตู้เย็นไหม เดี๋ยวมินทำข้าวเที่ยงไว้ให้นะ”
มินตราทำท่าจะลุกแต่ยังไม่ทันได้หยัดกาย ท่อนแขนของกวินก็ตวัดรั้งเธอเอาไว้
“ไม่ต้องหรอกครับ ว่าแต่ที่รักฝันว่าอะไรเหรอ บอกหน่อยสิ” คนขี้อ้อนขยับกายกอดเอวแฟนสาวไว้แน่น แต่มินตรากลับรู้สึกว่ามันแน่นจนหายใจไม่ออก เหมือนกับกลัวว่าเธอกำลังจะหายไป ลมหายใจร้อนของกวินที่แทรกผ่านเนื้อผ้ารุนแรงจนมินตรารู้สึกร้อนผ่าวทั่วหน้าท้อง ก่อนดวงตาสีน้ำตาลเข้มจะเหลือบขึ้นมองเธอ คล้ายบังคับให้เธอบอกและออดอ้อนด้วยริมฝีปากยื่น ๆ นั่น
น่ารักจัง
มินตรากดริมฝีปากกลั้นยิ้ม ยกมือแตะใบหน้าหล่อก่อนจะก้มลงไปจูบเขาเบา ๆ ที่ข้างแก้ม
กวินยังเป็นแบบนี้เสมอตั้งแต่วันแรกที่เจอ ความสุภาพและช่างอ้อนของเขา ทำให้เธอตกหลุมรักจนกระทั่งเธอใจอ่อน ยอมตกลงเป็นแฟนเขาในที่สุด
ทั้งที่คิดว่าจะไม่มีความรักกับใคร
แต่กวิน
อาทิตย์
และ...ขุนพล ผู้ชายสามคนนี้กำลังพังทลายทุกอย่างจนหมด
มินตรารู้สึกหายใจไม่ออก ความเห็นแก่ตัวและความรู้สึกผิดปนความระแวงทำให้เธอรู้สึกใจเต้นแรงไปหมด เธอพ่นลมหายใจออกพลางยิ้มแล้วตอบกลับแฟนหนุ่ม
“ไม่มีอะไรจริง ๆ ค่ะ”
“หรือฝันว่าแฟนจับได้ว่ามีชู้...”
รอยยิ้มสบายตาของกวินที่เธอเคยหลงใหลกลายเป็นน้ำผึ้งอาบยาพิษในพริบตา มินตราเบิกตากว้างรู้สึกถึงไรเส้นขนอ่อนที่ลุกชัน หัวใจเธอเต้นเร็วจนรู้สึกว่ามันกำลังจะดิ้นออกมาจากอก
ไวกว่าความคิดเพียงแค่ขยับตัวหนี ร่างสูงก็กระตุกคนที่เพิ่งนั่งให้หล่นลงกระแทกเตียง ก่อนจะพลิกร่างคร่อมเธอไว้ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มสบกับดวงตากลมโตสีดำสนิท แล้วตรึงมันไว้แน่น เอื้อมมือประสานนิ้วให้แนบสนิท
ชายหนุ่มรู้สึกถึงความหวาดหวั่นในสายตาของแฟนสาว เขากระตุกยิ้มร้ายกาจ เพียงไม่นานน้ำเสียงไม่พอใจก็เอ่ยขึ้น
“พูดอะไรเนี่ยกวิน มินจะเอาเวลาที่ไหนไปมีชู้คะ เมื่อคืนก็อยู่กับกวินทั้งคืนไม่ใช่เหรอ” มินตราแสร้งหัวเราะ “ขี้แกล้งใหญ่แล้วนะ”
“ไม่รู้เหรอถึงในฝันผมก็ไม่ให้อภัยหรอกนะ”
“ถึงเป็นแค่ความฝันมินก็ไม่กล้านอกใจกวินหรอก เพราะแบบนั้นก็ปล่อยได้แล้วค่ะ วันนี้มินมีติวดึกคงไม่ได้มาหานะ”
กวินแค่นยิ้มกับประโยคนั้น ในขณะที่ดวงตาตรึงอยู่บนดวงตากลมโต หากแต่ร่างสูงกลับเลื่อนลงและลากฝ่ามือเล็กลงมาแนบใบหน้า พลางหยุดที่กึ่งกลางตัว พ่นลมหายใจร้อนโลมเลียรอบพื้นที่อ่อนหวาน ก่อนจูบหนัก ๆ จะแนบผ่านเนื้อผ้าบาง
“ผมไม่ว่างตามไปเฝ้า ที่รักก็อย่าเจ้าชู้มากนะครับ เพราะถ้าผมต้องลงโทษที่รัก ตรงนี้ของที่รักมันจะช้ำเอา”
“กะ...กวิน...อึกอื้ออออ อย่านะคะ”
ลากเรียวลิ้นผ่านรอยแยกลงไปอย่างเย้ายวน ความอ่อนหวานทวีเป็นความร้อนแรงอย่างช้า ๆ ร่างกายของเธอร้อนขึ้นจนในที่สุดก็ถูกละเลงจนสั่นกระตุกไปทั้งร่าง ปล่อยความหวานให้คนอยากลงโทษ อ้าปากปล่อยน้ำหวานหยดลงจากเรียวลิ้นลงไปบนผิวนุ่มอีกครั้ง
“เข้าใจไหมครับที่รัก”
กวินยิ้มพลางเช็ดคราบเปื้อนที่ริมฝีปาก
ความเร่าร้อนยังอบอวลอยู่บนผิวกาย หญิงสาวก้มเลียเศษขนมปังที่ติดปลายนิ้ว แล้วกดส่งสติกเกอร์บอกรักให้กับคนที่ผ่านบทรักในยามเช้ามาด้วยกันพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม
เขายังคงออดอ้อนเธอไม่ขาดและดูเหมือนจะงอแงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อพยายามเรียกตัวเธอให้กลับไปหา
ใบหน้าสวยซ่อนใต้หลังกรอบแว่นที่เลนส์หนากว่าปกติ เธอรวบผมเป็นดังโงะหลวม ๆ สวมเสื้อนักศึกษาตัวโคร่ง และกระโปรงพลีตยาวเลยเข่าไปเพียงหนึ่งคืบ ไม่ทำให้เป็นที่สนใจมากนัก อาศัยผู้คนในมหาวิทยาลัยที่เดินขวักไขว่ซ่อนตัวเข้าไปท่ามกลางผู้คนมากมาย
ริมฝีปากซีดที่ถูกเช็ดลิปสติกออกเม้มแน่นเมื่อเจอผู้ชายคนหนึ่งที่คุ้นหน้า
เธออาจจะเคยนอนกับเขา...หรือดื่มด้วยกัน
กลุ่มผู้ชายเหล่านั้นหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะพากันกอดคอเดินผ่านหน้ามินตราไป เขาเหลือบตามามองเธอเพียงเสี้ยววิ เท่านั้นก็ทำให้หญิงสาวหัวใจเต้นรัวราวกับคนที่อยู่ในอาการตื่นตกใจและอะดรีนาลินหลั่งด้วยความสนุก เธอชอบมันจนริมฝีปากเผยอขึ้น หากแต่สีหน้ายังเรียบเฉย ไม่นานเขาก็หันกลับและผ่านเธอไป
หญิงสาวก้มดมน้ำหอมตัวเอง ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อมันเป็นคนละกลิ่นกับที่เธอใช้ในเวลากลางคืน
งั้นก็ไม่ได้จำได้สินะ
วินาทีนั้นหญิงสาวกลับรู้สึกดีที่จำนวนผู้ชายเหล่านั้นมากจนเธอไม่อาจจะจำได้ทั้งหมด หากแต่มันปนเปมากับความรู้สึกผิดที่โจมตีเข้ามาในจิตใจ
เพียงไม่นานก็จางหายไป
“ยืนทำอะไรอยู่ตรงนี้น่ะ”
“อ๊ะ!”
น้ำเสียงที่คุ้นเคยทำให้มินตราหันกลับไปมอง ก่อนจะพบร่างสูงที่กำลังมองเธออยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะจับจ้องเธออยู่นานแล้ว
“อาทิตย์มาแล้วเหรอ มินกำลังจะขึ้นไปจองโต๊ะเลย” ริมฝีปากบางยิ้มอ่อนหวาน เมื่อฝ่ามืออุ่นแตะลงบนแผ่นหลัง
อาทิตย์ตีสีหน้าเรียบเฉยแม้จะมองตามผู้ชายคนนั้นไป ความขุ่นมัวในใจกัดกินจนดวงตาสีดำสนิทเข้มขึ้น “รู้จักกันเหรอ”
“ไม่นี่จะไปรู้จักได้ยังไง”
“แต่มองอยู่นานเลยนะ”
“อย่าบอกนะว่านี่หึงน่ะ อาทิตย์หึงมินเหรอ”
เขาไม่ได้ตอบแต่ปรายตามองเธอแล้วเดินนำหน้าเข้าไปในห้องสมุด ก่อนจะใช้บัตรนักศึกษาแตะเพื่อผ่านเข้าไป ทำเอาหญิงสาวส่ายหัวดิกวิ่งตามไปแตะศอกเขา แล้วลูบแขนแกร่งอย่างแผ่วเบา ก่อนจะยื่นมือเข้าไปในฝ่ามือใหญ่ อุณหภูมิเย็นเฉียบถูกความอบอุ่นของร่างสูงใหญ่ค่อย ๆ โอบอุ้มช้า ๆ มินตรารู้สึกเหมือนได้ที่พักพิงของตัวเองกลับมาอีกครั้ง เมื่ออาทิตย์ลดฝีเท้าลง และเธอเอนศีรษะไปซบกับต้นแขนเขา
“ทำไมเดี๋ยวนี้นายขี้หึงจัง ตอนเด็ก ๆ ไม่เห็นรู้เลยว่าอาทิตย์ตัวจิ๋วโตมาจะขี้หึงแบบนี้”
ปลายนิ้วเล็กจิ้มจมูกเขาเบา ๆ
“แล้วคิดว่าโตมาจะเป็นคนแบบไหนล่ะ” เขาเลิกคิ้วสูงถามกลับ จูงมือหญิงสาวลัดเลาะเข้าไปในช่องระหว่างชั้นหนังสือ
“ก็เนิร์ด ๆ แบบนี้แหละ” เธอแลบลิ้นให้เขาอย่างน่ารัก
“ฉันก็ไม่เคยคิดว่าเธอจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน”
“สวยใช่ไหม”
“สวยสิ”
เพื่อนสาวในวัยเด็กที่เคยวิ่งเล่นด้วยกัน กลับมาเจอกันอีกครั้งในมหาวิทยาลัย เขาเห็นเธอกำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่กับชั้นหนังสือสูง ก่อนจะมีโอกาสเข้าไปช่วยและได้พบกันอีกครั้ง ไม่คิดว่าจะกลายเป็นแฟนเขาและเพื่อนของเขาไปพร้อมกัน ทั้งยังนอนกับคนไม่เลือกหน้าอีก
ดวงตาที่ดำมืดมีแต่บทลงโทษที่นึกไม่ถึง
รักหรือเกลียดเขาเองก็ไม่แน่ใจ
แก้มใสยามขยับยิ้มดึงดูดสายตาและความสนใจจากเขาได้เสมอ หากแต่ความขุ่นมัวทำให้เขาเริ่มขยับเข้าใกล้เธอทุกที ดวงตากลมโตใต้กรอบแว่นจ้องมองเขาอย่างซุกซน ฝ่ามือที่จับเขาไว้กระตุกเข้ามาหาตนเองช้า ๆ มินตราเป็นอย่างนี้เสมอ เธอเหมือนกับแม่เหล็กที่ดึงดูดทุกคนที่อยู่ใกล้ ดวงตานั้นพาให้ทุกคนดิ่งลงเหวเพื่อเข้าไปในวังวน สีหน้าใสซื่อแต่กำลังเล่นเกมอย่างหนักหน่วง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ใช้ความพยายามใด ๆ เลย
“สวยจนน่ากลัวเลย” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นขณะที่ลดช่องว่างระหว่างเขาและเธอให้น้อยลง
มินตราหัวเราะเบา ๆ ขณะเงยหน้ามองร่างสูงที่ก้มต่ำลงมาเรื่อย ๆ ฝ่ามือที่โอบรอบเอวเธอกระชับขึ้นทุกที กลิ่นมินต์อ่อน ๆ โชยมาพร้อมลมหายใจของอาทิตย์ มันทั้งอบอุ่นและหอมหวานจนเธอยอมเผยอริมฝีปากรับจุมพิตจากเขา